ยุทธการที่ 5 เผด็จศึกปลาแซลมอน
บรืน!!! รถเบ็นซ์สปอร์ตสีดำมันแปลบราคาเหยียบสิบล้านพุ่งฉิวราวจรวดติดไอพ่นออกจากคฤหาสถ์หลังใหญ่พร้อมกับเสียงตะโกนของหญิงสาว
ลุงชิดจ๋าาาาาา เปิดประตูให้บีด้วยนะจ๊ะ เสียงแปดหลอดที่ตะโกนออกไปหาลุงยามเฝ้าประตูบ้านที่ห่างออกไปเกือบ 500 เมตร เป็นเรื่องปกติของคนบ้านนี้ ไม่ต้องกลัวว่าจะรบกวนใครเพราะเนื้อที่บ้านของเธอน่ะ 5 ไร่เชียวนะ รับรองยังไงก็ไม่ได้ยิน (มั้ง) ^^
ที่ทำงานของเธอตั้งตระหง่านท้าลมท้าฝนอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร จราจรที่แสนจะติดขัดต้องหลบให้กับรถของสาวน้อยไปเป็นแถบๆ ลีลาขับรถปัดซ้ายป่ายขวา ปาดหน้าปาดหลังของเธอไม่เป็น 2 รองใคร จนทุกคนแขยงว่าตัวเองจะเกิดอุบัติเหตุต้องหลบให้เธอไปอย่างง่ายดาย ทุกคนคุ้นชินกับรถคันนี้เป็นอย่างดี ด้วยว่าวรรณวิภาออกเวลานี้เป็นประจำ นอกจากนี้รถคันนี้หายากตามท้องถนนทั่วไป แล้วยังลีลาการขับรถชนิดนักแข่งฟอร์มูล่าวันยังอายน่ะ ใครจำไม่ได้ก็คงสมองฟั่นเฟือนชัวร์ๆ หญิงสาวเข้าจอดรถในที่จอดรถประจำของเธอซึ่งแม้แต่บอสเชษฐพงศ์ยังไม่กล้าแหยม แม้ว่าเธอจะลาป่วย ลากิจ มาหรือไม่มา มีธุระอย่างไร แม้ว่าที่จอดรถจะเต็มขนาดไหน ที่จอดรถนี้จะถูกเว้นว่างไว้ให้เธอเสมอ
วันนี้หญิงสาวอยู่ในแซ็กชุดสีชมพูอ่อนๆ เครื่องประดับเป็นหินสีชมพูหรือโรสคอว์ทที่นำโชคเรื่องความรักถูกหยิบขึ้นมาใส่บนลำคอขาวระหง ใบหน้าของเธอถูกตกแต่งอย่างปรานีตด้วยโทนสีชมพูเช่นกัน จนเรียกว่าลบมาดนางยักษ์ของที่ทำงานได้อย่างหมดจดทีเดียว ตามปกติการเข้ามาของวรรณวิภาจะหยุดทุกการเคลื่อนไหวของสำนักพิมพ์ หากแต่วันนี้ได้มีบางสิ่งแปลกออกไป
ชัยยศและนเรศสองคู่หูตัวแสบ ลูกสมุนคนสนิทของเจ๊บีถึงกับตะลึงอ้าปากค้าง ยังไม่นับพนักงานในแผนก และตลอดทางที่เธอเดินขึ้นมากว่าร้อยชีวิต ที่ได้แต่อึ้งกับอึ้ง
สวัดดีจ้ะ ทุกๆคน วรรณวิภาโปรยยิ้มส่งเสียงหวาน จนคนในสำนักพิมพ์อย่างจะกลั้นใจตายไปซะเดี๋ยวนั้นมากกว่าจะยืนรับรอยยิ้มที่สวยงามแต่แฝงไว้ซึ่งฝันร้ายที่จะตามมาทีหลังเช่นนั้น
ทำไมทำท่าอย่างนั้นกันล่ะจ๊ะ นี่บีเองไงล่ะ หญิงสาวเอียงหัวเล็กน้อยเพื่อให้แลดูคิขุอาโนเนะ แต่สำหรับทุกคนแล้วมันแลดูสยองมากกว่า
สะ
สะ
สวัสดีครับเจ๊ อรุณสวัสดิ์ เสียงตะกุกตะกักด้วยความงุนงงของนเรศกล่าวทักทายวรรณวิภาเหมือนเสียงของหัวหน้าห้องสั่งนักเรียนยืนตรงเคารพอาจารย์ประจำวิชา เพราะสิ้นเสียงของเขา พนักงานทุกคนก็กล่าวทักทายเธอพร้อมกัน
สวัสดีจ้ะ อรุณสวัสดิ์เช่นกัน
เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้นะครับ รอซักครู่ นเรศพูดตามปกติที่เขาจะต้องเป็นคนไปเอาน้ำมาให้บีดื่มทันทีที่มาถึงสำนักงานทุกเช้า ในขณะที่ชัยยศเดินเข้ามาจะมาช่วยถือสัมภาระของเจ้าหล่อน
อุ้ย! ไม่เป็นไรค่ะ บีเกรงใจ เดี๋ยวบีไปเอาเองได้ค่ะ หญิงสาวพูดพลางยิ้มให้สองหนุ่ม ก่อนจะเดินนวยนาดเข้าห้องของเธอไป
เจ๊เป็นอะไรไป? ชัยยศถามขึ้นจนได้ หลังจากที่ทั้งสำนักพิมพ์ตกอยู่ในความเงียบอันน่าสะพรึงกลัวเป็นเวลานาน ราวกับว่าคนทั้งสำนักพิมพ์ไม่ได้อยู่ ณ ที่นั้น
ตามรถพยาบาลเลยมั้ย! เสียงหนึ่งเสนอความเห็นขึ้นมาอย่างมั่นใจว่าถ้าวรรณวิภาไม่ป่วยจนเป็นบ้าก็เขาเองนี่แหละที่บ้าเอง
หรือว่าเจ๊อกหัก? อีกเสียงหนึ่งเสนอความเห็น
ฟันผุ?
หกล้มหัวฟาดพื้น?
หรือไม่ก็กำลังวางแผนฆ่าคนปากมากกับขี้สงสัยอยู่ก็ได้นะ เสียงเย็นๆทว่าคมกริบ เฉือนใจคนดังขึ้นเบื้องหลังของคนพูดให้ใจหายหล่นไปที่ตาตุ่มแล้วกลับขึ้นมาใหม่และไหลลงไปที่ตาตุ่มอีก 2 รอบ
เสียงสนทนาของเหล่าสมุนดังลอดเข้าไปถึงในห้องทำงานของเธอจนได้ จนวรรณวิภาตัดสินใจออกมาหักกระดูกเจ้าพวกนี้เป็นของเล่นแก้เซ็งระหว่างรอเวลานัดของเธอ
ร่างทุกร่างนิ่งสนิทเหมือนถูกน้ำยาสต๊าฟไว้ไม่ให้ขยับไปไหน ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ เหมือนกับคนที่เจอหมีให้แกล้งตายแล้วหมีจะไม่สนใจจะใช้กับวรรณวิภาได้
ไม่มีอะไรจะทำกันใช่มั้ย หา!!!!!!
สิ้นเสียงตะโกนจนผนังร่วงกราวของบีวรรณวิภาแล้ว ภาพสำนักงานที่วุ่นวายได้กลับมาตามเดิม เหล่าคนที่จับกลุ่มนินทาเหมือนไม่มีงานทำเกิดงานยุ่งขึ้นมาทันที พากันวิ่งปรู๊ตกลับที่นั่งของตัวเองทันที แต่ยังมิวายเหลือบมองดูผู้โชคร้ายที่หนีไม่ทัน
บีถอนหายใจหนักๆครั้งหนึ่ง ทั้งๆที่เธออุตส่าห์พยายามสะกดจิตตัวเองมาจากบ้านว่าวันนี้จะเป็นสาวเรียบร้อยเพื่อไปพบกับพิเชษฐชัยหรือคุณนัทวันนี้ แต่แล้วไอ้พวกนี้ก็มาทำเสียเส้นหมด หนอย!
ทำไม! ชั้นพูดดีๆพวกแกไม่ชอบรึไง ชอบให้ด่านักใช่มั้ย หรือต้องใช้กำลัง! บีตวาดเสียงเขียวอี๋จนผู้โชคร้ายอย่างนเรศและชัยยศที่หนีไปไหนไม่ได้ เพราะที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับห้องวรรณวิภาพอดีตัวสั่นงันงก ราวกับลูกนกตกน้ำ
ปะ ป่าวครับเจ๊ ผมเพียงแต่แปลกใจและเป็นห่วงเจ๊เท่านั้นเอง ชัยยศเอ่ยเสียงสั่น เรื่องปกติประจำวันที่เขาจะต้องเจอประจำวันก็ไม่ทำให้เขาชินซักที แรงกดดันมหาศาลของบีพุ่งมาที่ตัวเขาทุกครั้งจนเขาแทบขาดใจ
อ๋อเหรอ! ชั้น ไม่ เป็น ไร เลย ซัก นิด วรรณวิภาย้ำชัดทีละคำ ตาลุกวาบ นอกจากอารมณ์อยากฆ่าคนมันประทุขึ้น ดท่านั้นเอ๊ง! ไสหัวไปให้พ้น!!!!!
ชัยยศและนเรศวิ่งไปหลบมุมโต๊ะของพวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองวรรณวิภา ได้แต่โทษกันไปมาว่าใครเป็นคนเปิดประเด็นนี้ขึ้น
ชั้นจะออกไปข้างนอก บอกบอสด้วยวันนี้ชั้นลา บีบอกเสียงทรงอำนาจก่อนจะเดินตัวปลิวออกไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
(ต่อ)
จากคุณ :
คิกคิก
- [
30 พ.ค. 47 01:12:17
A:203.113.40.7 X:
]