บ้านมิตรภาพ ออนทัวร์ ครั้งที่ 4
ฮิฮิ สวัสดีค่ะ หนูยีค่า
ครั้งนี้รับหน้าที่เป็นผู้พิมพ์บันทึกการเดินทาง การไปเที่ยวของบ้านมิตรภาพครั้งที่ 4 นี้เองค่ะ..
ส่วนครั้งที่ 1 และ 2 เจ๊โอเป็นคนเล่าเรื่องค่ะ หาอ่านได้ที่ลิงค์
(ขอต๊ะลิงค์ไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวหามาให้ทีหลัง) ส่วนครั้งที่ 3 ไม่ต้องหานะคะ เพราะว่าไม่ได้เขียนไว้
ก่อนอื่นขอทบทวนการไปเที่ยวครั้งก่อนๆนิดนึงนะคะ
ครั้งแรกไปเที่ยวที่สวนดอกไม้บ้านพี่นัท(เปียร์รุส) แถวๆโคราช ไป-เช้าเย็นกลับ ลูกทัวร์ 4 คน(ไม่รวมเจ้าของไร่)
ครั้งที่2ก็ยังไปเที่ยวที่สวนดอกไม้พี่นัทอยู่ดี ทีนี้กำหนดโปแกรม 2 วันกะ 1 คืนแต่กลายเป็น 3 วัน 2 คืน ลูกทัวร์ 8คน
ครั้งที่3ก็ยังไปเที่ยวที่สวนดอกไม้พี่นัทอยู่ดี(ไปอีกแระ) โปแกรมกี่วันอันนี้หนูยีจำมะได้ค่ะ เพราะไม่ได้ไปด้วย ลูกทัวร์ 3 คน
แน่นอนว่า
ตัวตั้งตัวตีหรือหัวหน้าทัวร์ทุกครั้งของพวกเราก็คือ คุณพยาบาลสาวแสนสวยแสนน่ารัก เจ๊โอพยาบาลเกเรค่ะ ส่วนครั้งที่ 4 นี้ ถ้าใครทายว่าก็ยังไปเที่ยวสวนดอกไม้อยู่ ก็ต้องบอกว่าทายผิดนะคะ
แต่จะไปไหน..หนูยีจะเล่าให้อ่านกันมุมมองแบบหนูยีละค่ะ หุ หุ หุ
...
การเดินทางเริ่มขึ้นในวันที่ 26 พ.ค. นี้ หลังจากหนูยีมาสมทบกับพวกเจ๊ๆ ด้วยมาดใหม่
เสื้อยืดสีเขียวทึบๆกับกางเกงยีน
.. มาดใหม่จริงๆนะคะ เที่ยวครั้งนี้ไม่มีเอี๊ยมเลยสักตัว หรือว่าเสื้อสีกระแทกตาก็ไม่มี พี่นัทยังทักหนูยีเลยว่า มาดใหม่จริงๆ หุ หุ หุ
ยิ่งเจ๊โอเห็นผมทรงใหม่หนูยีก็วิ่งเข้ามาแล้วเอาหน้ามาเทียบกันบอกว่า
นี่ใครเห็นต้องบอกว่า พี่สาวน้องสาวแน่ๆ รุ่นเดียวกันค่ะ เจ๊โอหนูยี กระชากวัยสุดฤทธิ์ 555
แล้วก็ขึ้นรถออกเดินทางโดยมีสมาชิกทั้งหมดคือ เจ๊โอ พยาบาลเกเร(หัวหน้าทัวร์ค่ะ) พี่นัท เปียร์รุส ลุง SONG982 และก็หนูยี Yee Bee โดยที่หมายของการทัวร์ครั้งนี้คือ บ้านไร่ราชบุรี บ้านของลุงSONG982 ค่า
เห็นว่าเปลี่ยนที่หมายกันสดๆร้อนๆ เพราะก่อนหน้านี้ไม่ใช่โปรแกรมนี้นะคะ
ตอนแรกเห็นว่าจะไปพัทยาไปหาผู้เสียหายคนหนึ่ง(ไม่ขอออกนามตอนนี้) จู่ๆ ไม่รู้เกิดไรขึ้นหรือใครเป็นคนต้นคิด (ให้หนูยีเดาสงสัยเป็นลุงแหงๆเลยค่ะ) เปลี่ยนแผนการเดินทางไปเฉยเลย
.
ส่วนเจ๊โอก็บ่นค่ะ บ่นว่า เสียดายๆ ไม่ได้ไปศรีราชา เจ๊อยากเจอณัฐกรๆๆ หน้าตาเจ๊บอกว่าอยากเจอสุดๆๆ
เจ๊โอ พี่บอลไม่ได้อยู่ศรีราชาแล้วค่ะ
ย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพแล้ว บอกไปแบบนั้นหนูยีเลยโดนใช้ให้โทรเรียกพี่บอลออกมา ไปเที่ยวกัน(แบบกะทันหันแบบนี้ละ)
ฮัลโหล เสียงพี่บอลหรือพี่ณัฐกร(ใบชา กล้าอ่อน)
โหล พี่บอลหรอค่ะ หนูยีนะ วันนี้ว่างเปล่า
อ๋อจ๊ะ วันนี้หรอ
ว่างสิทำไมหรอ
งั้นดีเลย ไปกินกุ้งกันค่ะ กินกุ้งกินปูที่มหาชัย
ใช่มะ คำหลังนี้หันไปถามคำยืนยันสถานที่กะเจ๊ๆในรถ
เดี๋ยวไปรับนะพี่บอล ไปรอที่
.. (บอกไม่ถูกแฮะ) เลยยื่นโทรศัพท์ไปให้ลุงบอกสถานที่แทน
ฮัลโหล..คร้าบ
SONG982ครับ พอลุงบอกชื่อไปนะ เหมือนหนูยีจะรู้เลยว่าพี่บอลต้องอึ้งแน่ๆ จู่ๆมาคุยกะนายปะ ฉะ ดะ ที่ออกจะ
เออ
นะ
เอาเป็นว่าปากนะใครๆก็บอกว่า ลุงปากตะไกร
บอล..ออกมารอพี่ที่นี้ๆๆๆ..นะ แล้วติดเสื้อผ้ามาสัก 2-3 ชุดด้วยละอย่าลืม..เดี๋ยวเจอกัน พอถึงตอนนี้ เจ๊โอ กะพี่นัทดูจะดีใจใหญ่ว่าจะมีเหยื่อ เอ้ย ลูกทัวร์มาเพิ่ม แต่หนูยีสงสัยค่ะ ลุงต้องพูดเองเออเองแหงๆเลย พี่บอลคงมั่วแต่อึ้งจนปฏิเสธไม่ทันแหงๆ แล้วลุงก็ยื่นโทรศัพท์มาให้หนูยีคุยต่อ
เออ เดี๋ยวๆๆ พี่ไปค้างไม่ได้นะยี พี่บอลพูดตอบกลับมาแบบนี้ง่ะ.. (5555 หนูยีว่าแล้ว)
ค่ะ ก็ไม่ต้องค้างไงค่ะพี่บอล ไปเช้าเย็นกลับ แต่พี่กลับคนเดียวนะ เพราะหนูยีไปค้างกันต่อ
งั้นพี่ว่า พี่ขับรถไปเองดีกว่า
หุ หุ ตกลงพี่บอลไปแบบเช้าเย็นกลับ พวกเจ๊ๆก็มาคิดกันว่า จะส่งใครไปนั่งเป็นเพื่อนพี่บอลกันดี ตอนแรกบอกว่าจะส่ง ลุงไปนั่ง ลุงสองสั่นหัวบอกว่า.. แค่รับสายผม ยังอึ้งเลย เจ๊โอไปนั่งสิ อยากเจอไม่ใช่หรอ
เจ๊โอสั่นหัวดิ๊ก เถียงกันไม่ยอมนั่งรถพี่บอล โชคร้าย พี่นัทขับรถไปดันเจอตำรวจค่ะ..ดักรถเสียค่าปรับ และรถของเจ๊โอก็โดนจับ ขอหาใช้ป้ายทะเบียนป้ายแดง ปลอมหรืออะไรนี่ละ พี่นัทโดนยึดใบขับขี่เลย
ตำรวจนี้ไม่ฟังเหตุผลอะไรเลยน้า
ขนาดเจ๊โอมีใบอะไรสักอย่างให้ดู ก็ไม่ยอมดู
.เฮ้อ..วัยรุ่นเซ็ง
เอาเป็นว่า พวกเราโดนยึดใบขับขี่ไปก็ไม่สนใจแระ ยังไงก็หยุดความสนุกไม่ได้หรอก เมื่อพี่บอลมาถึงที่นัด แนะนำตัวกันเล็กน้อย พวกเจ๊ๆยังเถียงกันไม่ลงว่าใครจะนั่งไปเป็นเพื่อนพี่บอล พอดีพี่บอลเอาเจ้าข้าวแหนียวนึ่ง เอ้ย ไม่ใช่ เจ้าข้าวนึ่ง หมาพันธ์อะไรไม่รู้ละ แต่น่ารักมั่กๆเลยลงมา หนูยีตัดสินใจกระโดดขึ้นรถพี่บอลทันที ตัดปัญหาส่งใครไปนั่งกะพี่บอลได้
ทีนี้ก็ออกเดินทางค่ะ
จุดหมายแรกไปบางใหญ่ ไปดู จอม กะ จิม
จอมกะจิมนี่ เป็นหลานของลุงSong982 นะค่ะ เด็กๆน่ารักมากๆเลย โดยฉพาะน้องจอม เจอนี่ใส่หน้ากากพาวเวอร์เรนเจอร์(หรืออะไรนี่ละ) วิ่งไปวิ่งมา ชอบกินอมยิ้มด้วย หนูยีให้ไปอันแล้วก็ชอบถ่ายรูปด้วยละ น่าร๊ากกกก
เจ๊โอนี่ ชอบมากเลย สงสัยเห็นเด็กแล้วคิดถึงหลานรักที่บ้านแหงๆ
พอดูหลานๆของลุงเสร็จแล้วก็ออกไปสู่จุดหมายจริงๆสักทีค่ะ.. มหาชัย มหาชัย มหาชัย ไปกินกุ้ง กินปู..ๆๆๆๆ
.หิวๆๆๆๆ
ขับรถตามๆกันไปนะคะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าไปถึง จะได้กินกุ้ง กินปู กินๆๆๆๆๆ ไปถึงก็ได้กินทันที
.แต่ที่ไหนได้ไปถึงวังกุ้ง อยากกินนี้ ต้องงมเอาค่ะ
เจ๊โอตอนนั้น แบตใกล้หมด เริ่มหิวจัด
ทำท่าจะฆาตกรรมลุงโทษฐานหลอกให้มาแล้วไม่ได้กิน แถมยังต้องข้ามสะพานไม้ไผ่ที่แสนจะน่ากลัว เพราะว่าเป็นเสาไม้ไผ่ปักแล้วก็เอาไม่ไผ่ลำกล้องยาวๆ ประมาณ 2 ต้นพาดไว้ แล้วให้เดินอะ
เหมือนไต่ลวดเลยค่ะ..น่ากลัวดี ยิ่งเจ๊โอว่ายน้ำไม่เป็น ก็เลยน่ากลัวไปอีก
กุ้งที่หวังจะมากินกลางวันก็อด เลยยิ่งหงุดหงิดโมโหหิว จะรองมกุ้งขึ้นมาสงสัยไม่ทันกิน เลยไปหากินที่ร้านอาหารชื่อ ริมวัง แทนค่ะ พอมาถึง เจ๊โอสั่งแหลก 5-6 อย่างข้าวอีก 2 โถ
หมดไม่หมดไม่รู้ สั่งไว้ก่อน
พอกินอิ่มแล้ว ขับรถกลับไปวังกุ้งกันใหม่ค่ะ
ทีนี้จะไปงมกุ้ง พี่บอลบอกว่า มาแล้วยังไงก็ต้องของมกุ้งเป็นประสบการณ์สักครั้ง
ตอนแรกกะให้ผู้ชายสองคนงมกุ้ง แล้วหนูยีก็รอกินอย่างเดียว แต่ลุงบอกว่า หนูยีก็ต้องเปลี่ยนเสื้อด้วย ให้นั่งรออยู่บนเรือ รอเก็บกุ้งที่พวกพี่ๆงมได้อยู่บนเรือ ส่วนพี่นัทตอนแรกก็จะไม่งมค่ะ แต่สุดท้ายโดนลากไปงมด้วย
ลุงผู้น่าจะช่ำชองในการจับกุ้ง แต่งมผ่านไปครึ่งบ่อก็ยังงมกุ้งกันไม่ได้สักตัว แถมสุดท้ายไปๆมาๆ หนูยีโดนลากมาลงบ่อให้ช่วยงมกุ้งอีก เพราะงมกันตั้งนานก็ยังจับกันมะได้สักตัว กลายเป็นว่าคนที่ไม่ได้ลงงมกุ้ง มีเจ๊โอ กะเจ้าข้าวนึ่งค่ะ รับหน้าที่เฝ้าสมบัติไป
พอผ่านไปกว่าครึ่งบ่อแล้ว พี่นัทเริ่มงมกุ้งได้ ตัวไม่ค่อยใหญ่ค่ะ แต่ก็งมได้แระกัน แล้วก็ลุงเริ่มงมได้เหมือนกัน ตอนนั้นเลยมีแค่หนูยีกะพี่บอลเท่านั้นเองที่ยังงมไม่ได้ พี่นัทกะลุงนี่เริ่มมือขึ้นค่ะ
งมได้ใหญ่เลย โดนเฉพาะพี่นัท..
แล้วก็เป็นเรื่องขึ้นจนได้
เมื่อหนูยีเกิดงมกุ้งได้เป็นตัวแรก เหลือพี่บอลเพียงคนเดียวที่ไม่ได้เลยสักตัว
และจะด้วยศักดิ์ศรีของความเป็นผู้ใหญ่ ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายหรืออะไรก็ไม่รู้ล่ะ พี่บอลยอมไม่ได้รีบงมกุ้งใหญ่เลยค่ะ
ไฟงี้ ลุกท่วมตัว งมกุ้งใหญ่เลย (สงสัยไม่อยากแพ้หนูยีแหงๆ) แถมสั่งอีกนะคะ ห้ามเอามาลงถนนเด็ดขาด 555
กลายเป็นการแข่งงมกุ้งกันไปตอนไหนไม่รู้
พอพี่บอลเริ่มงมกุ้งได้ พวกพี่นัทกะลุง ก็งมกุ้งตัวใหญ่ได้แทนค่ะ
พี่นัทว่า
บอลตอนนี้งมกุ้งตัวเล็กๆไม่ได้แล้วนะ ตอนนี้เขาต้องงมกุ้งตัวใหญ่ๆแล้วละ 555
ยุขึ้น!! พี่บอลเลยตั้งหน้าตั้งตางมหาแต่กุ้งตัวใหญ่ ไม่สนใจตัวเล็กๆแล้ว รู้สึกว่าจะงมกุ้งตัวใหญ่ได้ 1 ตัวมั้งค่ะ แต่หลุดมือไป อดกินเลย
. แหม..วันนั้นทั้งวันที่เหลือ ไม่ทำอะไรกันแล้วละคะ แข่งกันงมกุ้งสนุกสนาน 2 ชม. ได้กุ้งมาประมาณ ครึ่งกิโลได้
.
ไม่พอกินง่ะ
/ - - /
เจ๊โอคิดถูกที่ไม่รอให้ลุงงมกุ้งขึ้นมากิน เพราะว่ากว่าจะได้กิน
เป็นลมไปก่อนแหงๆ
พอเย็นๆพี่ชายลุง (เจ้าของวังกุ้งตัวจริง) กลับมามีปูก้ามโตๆ ติดมาด้วย เลยได้ปูกลับมากินแทนค่ะ
.
งมกุ้งเพราะกะกินกุ้ง แต่ได้ปูมาแทนแฮะ
ไม่เป็นไร ของแพงเหมือนกัน หุ หุ หุ วันนั้นเลยได้กลิ่นโคลนติดตัวไปตามๆกัน แต่สนุกมากๆเลยละค่ะ
แล้วก็ถึงเวลาแยกย้ายกันไป พี่บอลเข้ากรุงเทพ ส่วนพวกเราก็ไปราชบุรี ระหว่างนั้นก้เริ่มมืดลงจนถึงมืดมากๆเลยค่ะ ทางเข้าบ้านลุงนี่ มืดสุดๆ
ระหว่างที่นั่งรถกันไป..ก็นั่งคุยวางแผนกันไปด้วยว่าพรุ่งนี้จะมีโปรแกรมทำอะไรบ้าง
หนูยีบอกว่าอยากไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อน อยากไปค่ะๆๆ
นี่จำตอนที่แม่ลุงถูกตีหัวได้เปล่า วันนั้นเป็นวันที่ลุงกะเพื่อนลุงไปแช่บ่อน้ำพุร้อน คืนนั้นเป็นคืนเดือนดับ ลุงเริ่มเล่าเรื่องบ่อน้ำพุร้อนค่ะ
ไปแช่น้ำพุร้อนตอนกลางคืนหรือค่ะ มืดแย่สิ
จุดเทียนเอารอบบ่อไง
แหม..จุดเทียนแช่น้ำพุร้อน โรแมนติกแย่เลยลุง งั้นเราก็ไปกันได้อะจิ กลางคืนแบบนี้อะ หนูยีอยากไปค่ะ
เดี๋ยวสิ กะลังเล่าอยู่นี่ไง คืนเดือนดับ ก็ไม่มีใครเคยบอกว่าอย่าไปแช่ หลังจากพระไปแช่แล้วขึ้นแล้วนี่นะ พวกลุงก็ไปแช่กันต่อ มันมืดมาก
.
หนูยีเริ่มรู้สึกแปลกๆแล้วสิค่ะ
ชักไม่อยากฟัง เลยบอกลุงว่า
ลุง หนูยีไม่อยากรู้เรื่องแล้ว ไม่ต้องเล่าแล้วนะ ไม่เอาแล้ว แหม..ลุงก็ทำท่าจะไม่เล่าตามที่ขอแล้วค่ะ ..แต่พี่นัทสิค่ะ ใจร้าย
เล่าต่อเลยๆ พี่อยากรู้ หนูยีโวยอย่างไร พี่นัทก็ไม่ยอมอะ ลุงเลยเล่าให้ฟังต่อ
แง้
เจ้าไมเคิล(หลานลุงนะคะ) มันมาเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนด้วย ทีนี้มันมืดไง ลุงนั่งหันหน้าไปทาง แล้วพวกเพื่อนลุงมันหันเข้าป่า ไมเคิลมันร้องว่า ผีๆ
เลยหันไปดู
เห็นแสงไฟอะ ลอยไปลอยมา ถามเพื่อนลุง มันบอกว่า เห็นมา 15 นาทีแล้ว
ผีโขมด หนูยีร้องขัดขึ้น มันต้องเป็นผีโขมด เหมือนในเพชรพระอุมาแหงๆเลย ลุงพยักหน้าว่า
อืมผีโขมด
เจ้าไมเคิลมันขึ้นจากบ่อ ไม่ยอมใส่เสื้อผ้าเลยละวิ่งขึ้นรถ
ไม่เอาแล้วอะลุง
เลิกเล่าเถอะ
แง้
.หนูยีกลัวอะ
แต่ไม่มีใครเห็นใจหนูยีเลย ลุงยังเล่าต่อด้วยความเมามัน
พอขึ้นรถกันหมดก็เปิดไฟส่องไปทางที่มีแสงไฟ แต่มันก็ไม่เห็นอะไรเลย นั่นไง ผีโขมดชัวร์ๆ เหมือนในเพรชพระอุมาสุดๆ โดนแสงไฟแล้วมองไม่เห็นนี้ ผีโขมดใช่เลย
พอแล้วอะ หนูยีกลั๊ววววว แต่ไม่มีใครหยุดเลยอะค่ะ
แต่เจ้าไมเคิลมันชี้ไปทางที่ไฟรถส่อง แล้วร้องผีๆ ทั้งๆที่ไม่เห็นอะไรเลย แต่ไมเคิลมันก็ยังร้อง ปกติถ้าเวลาจะพูดกับใคร หรือแกล้งใครเล่นนี่ ไมเคิลจะพูดเป็นภาษาอังกฤษ แต่นี้กี่ครั้งๆ ก็ยังพูดเป็นภาษาไทย ผีๆๆ อยู่นั่นละ เห็นท่าไม่ดี เลยรีบเผ่นกลับกัน วันนั้นเป็นวันที่แม่ลุงโดนขี้เมาตีหัว กลับมาทันพาแม่ส่งโรงพยาบาลเลยละ
แง้
.. หนูยีกลัวอะ..เลยได้นั่นตัวลีบกลัวๆไปตลอดทาง
.ลุงนะลุง ทำกันได้
พี่นัทด้วย
แง้
..
กว่าจะถึงบ้านลุงก็ปาเข้าไป 3 ทุ่มกว่า
ลงมาก่อนอื่นหนูยีดูฟ้าก่อนเลยค่ะ..โล่งใจได้หน่อยที่วันนั้นไม่ใช่คืนเดือนดับ ไม่งั้น
เหวออออออออออ
เอาเป็นว่า ถึงบ้านลุง ก็ไปทำกับข้าวเลยค่ะ (ก็กุ้งกะปูที่ได้มาละคะ) เรื่องน่ากลัวช่างมัน เรื่องกินเรื่องใหญ่ ทำกินกันอร่อยไปเลย
กุ้งที่จับมาได้ ถึงตัวเล็ก ๆ แล้วก็ไม่ถึงโล แต่กินกันจะไม่หมดเอานะคะ มันเยอะหรือเป็นเพราะว่า กินไม่ลงเพราะรู้ว่าจับมายาก ก็ไม่รู้ละ
แต่วันนี้หนูยีเหนื่อยจัง
แต่ก็ยังไม่นอน
เพราะมัวแต่ตื่นเต้นที่ไปเปิดกรุบ้านลุง ห้องลุงนี่มีแต่หนังสือ สมบัติเยอะจริงๆ หนังสือทั้งนั้นเลย มีอะไรบ้างไม่รู้ละ เพราะหนูยีเหนื่อย ดูไม่หมด ถ้าอยากรู้รายละเอียดต้องถามพี่นัทค่ะ เห็นว่าประทับใจกรุหนังสือลุงสุดๆ
หลังจากอาบน้ำกันเสร็จ แทนที่หนูยีน่าจะเป็นคนที่หลับไปคนแรก แต่กลับกลายเป็นว่า เจ๊โอนอนหลับคนแรกต่างหาก สงสัยจะเฝ้าของจนเหนือยแหงๆเลย
วันแรกของการเดินทาง
กับการงมกุ้งตัวเปื้อนโคลน สนุกจริงๆค่ะ
(ยังมีต่อ แต่มะไหวแล้ว แปะพรุ่งนี้นะคะ)
แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 47 00:29:06
จากคุณ :
หนูยี
- [
30 พ.ค. 47 23:41:30
]