CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown



    บันทึกของสองเรา....ในถุงของความทรงจำ....(ผม)

    ผม

    ผมชื่อ ชวิน เป็นนักเรียนเตรียมทหารคนหนึ่งที่ต้องกลับบ้านตอนเย็นวันศุกร์ และ ในเช้าวันจันทร์ก็ต้องกลับโรงเรียนนายเรือ ผมเจอเธอ นดา สาวมั่น ผมคิดว่าเธอเป็นสาวมั่น เธอเรียนศิลปกร เธอเรียนเขียนภาพ เธอแต่งตัวเซอร์ขาดใจ 4 ปีที่ผมมองเธอ สี่ปีกว่าผมจะรู้จักเธอ มันนานจนผมคิดว่าคงไม่มีทางได้รู้จักกัน
    เย็นวันศุกร์ นักศึกษาศิลปกร หอบเอากระดานสำหรับรองกระดานวาดภาพ สะพายย่ามใบเก่า ๆ เดินผ่านหน้าผมไป เธอมองผมเพียงแวปเดียว จริง ๆ ครับ สายตาว่างเปล่า มองผ่านผมไปเหมือนผมไม่มีตัวตนเลย

    เช้าวันจันทร์ที่ผมต้องรอรถเพื่อจะไปโรงเรียนนายเรือ เธอวิ่งกึ่งเดินมาเพื่อจะไปเรียน หน้าเรียว ๆ ที่ล้อมไว้ด้วยผมสีน้ำตาลอ่อน ๆ ยาว ดูยุ่ง ๆ คงเพราะเธอน่าจะรีบไปเรียน เธอไม่เคยสนใจอะไรรอบตัวเลย ไม่เคยมองว่าผมกำลังมองเธออยู่ ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าตัวเอง สภาพเป็นอย่างไร นี่ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงต้องหน้าขาวผ่อง ผมเรียบ หรือไม่ก็จัดให้เข้ารูปทรง แต่เธอไม่สนใจอะไรสักเท่าไร

    เย็นวันศุกร์ วันนี้คนเยอะน่าดู นักศึกษาศิลปกรคนเดิม ยังไม่มีทีท่าว่าจะลงจากรถสายใด ผมยังคงปักหลักยืนรอ เสียงรถประจำทางจอดตรงป้ายรถ ผู้คนมากมายย่างก้าวลงจากรถคันโต นักศึกษาศิลปกรคนนั้นลงมาแล้ว เธอไม่มีสายตาว่างเปล่าอย่างเคย ห่างตาคู่สวยตอนนี้เหมือนจะเปื้อนอะไรสักอย่าง มันเหมือนมีน้ำ ใช่แล้วเธอมีน้ำตา แล้วสาเหตุละ ผมไม่รู้สาเหตุว่าเธอเป็นอะไร เธอเดินผ่านผมไป มองมาทางผม ไม่มีอะไรในตาคู่สวยเหมือนเคย เธอหอบเอาเฟรมเขียนภาพ ผ่านหน้าผมไป ช่างเป็นเย็นวันศุกร์ที่ผมรู้สึกหงุดหงิดที่สุด ผมคิดว่าการที่ผมคอยมองสาวศิลปกรคนนี้อย่างเดียวก็น่าจะมีความสุข เธอมักจะยิ้มกับคนที่เธอรู้จักตรงป้ายรถประจำทางเสมอ ผมเลยพลอยได้เห็นรอยยิ้มของเธอด้วย

    เช้าวันจันทร์ ผมไม่มีฝึกเพราะทางโรงเรียนเขาให้พักก่อนการรับกระบี่ ผมไม่รอช้ารีบมารอเธอตรงป้ายรถประจำทาง วันนี้เธอไปเรียนช้ากว่าทุกที เธอแต่งตัวเหมือนเดิม เซอร์ ๆ กางเกงยืดสีซีด รองเท้าคู่เก่า เสื้อสีขาว ย่ามใบเก่าที่ตอนนี้มันติดสีที่เธอใช้เขียนภาพ เธอนั่งลงบนเก้าอี้ภายในป้ายรถประจำทางด้วยท่าทีไม่รีบร้อนเหมือนทุกจันทร์ ผมคือชายชาติทหาร ผมถูกฝึกมาเพื่อรับใช้ประเทศชาติ ไม่ให้หวั่นกลัวต่อสิ่งใด ผมตัดสินใจแล้วว่าจะต้องคุยกับเธอให้ได้ ผมเปิดฉากทักทายไปได้นิดหน่อย แล้วรถประจำทางสายที่เธอจะไปก็มา เธอทิ้งประโยคสุดท้ายไว้ว่า
    ‘….ได้ …งั้นเย็นวันศุกร์เจอกันตรงนี้ ’ แค่นี้ก็ยังดี แม้จะไม่มีอะไรในประโยคมากมายแต่มันก็ทำให้ผมได้รู้ว่า เธอไม่รังเกียจที่จะรู้จักผม

    เย็นวันศุกร์ก็มาถึง เย็นวันศุกร์ที่ผมรอคอย ผมมารอเธออยู่ครู่ใหญ่ เธอวิ่งกระหืดกระหอบมาทางผม เธอถือกระดานสำหรับใช่เขียนภาพ เธอชวนผมไปที่สวนแห่งหนึ่ง มันสวยครับแม้จะไม่มีอะไรมาก แค่ต้นไม้สีเขียว ผู้คนที่ไม่พลุกผล่น ออกกำลังกาย นั่งใต้ต้นไม้ แล้วแต่กิจกรรม เธอเลือกเอามุมข้าง ๆ สระน้ำ เธอนั่งลงบนพื้นหญ้าสีเขียว วางย่ามไว้ใกล้ ๆ ตัว เธอขีด ๆ เขียน ๆ ไม่นาน มันก็ออกมาเป็นภาพที่ผมว่าสวยนะ เป็นภาพของธรรมชาติในกรุง เธอวาดภาพเสร็จแล้วส่งให้ผม เธอนอนลงบนพื้นหญ้า นอนมองฟ้ามองแสงระยิบระยับบนท้องฟ้าที่มืดสนิท ไม่มีคำพูดใด ๆ ไปกว่าการทำความรู้จักกันมาขึ้น อย่างน้อยผมก็ได้รู้อะไรมากกว่าเก่า เธอกำลังจะเรียนจบ เธอชอบวาดภาพ เธอชอบท้องฟ้ายามค่ำคืน ….. กว่าเราจะกลับกันก็เกือบสองทุ่ม สามปีแล้วที่ผมรู้จักเธอ ผมขอเธอคบในเวลาต่อมาหลังจากที่ผมเรียนจบรับกระบี่
    เช้าวันจันทร์วันที่ผมต้องประดับยศ เธอใช้เวลาวันจันทร์อยู่กับผมเสียส่วนใหญ่เธอให้ของขวัญเป็นภาพวาดรูปนายเรือกับผม เธอบอกกับผมว่า ‘ดาให้ได้ก็แค่ภาพวาดแหละ ไม่รู้วินจะชอบหรือเปล่า’ เสียงใส ๆ ของเธอมันช่างหวานจับใจ เราคบกันได้สามปีแล้ว หากวันนั้นผมไม่ตัดสินใจพูดอะไรไป แม้จะเป็นประโยคที่แค่ทักทาย ผมคงเสียใจที่ไม่รู้จักเธอ


    ในความทรงจำ ยิ่งคิดถึงมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งรักเธอมากเท่านั้น ....>_<

    จากคุณ : ขุนเขา - [ วันวิสาขบูชา 19:24:38 A:203.113.71.101 X:203.150.209.232 ]