ทำไมนายฯ “เก๊ก” จัง
นรต. อภิเษก ปิศโน
apisek07@hotmail.com

เพื่อน ๆ ต่างสถาบันถามผมอยู่เสมอว่า “ทำไมนักเรียนนายร้อยขี้เก๊กจัง”
ผมก็ตอบไปด้วยหลักการว่า
“นักเรียนนายร้อยได้รับการฝึกมา
ให้เป็นผู้ที่มีบุคลิกที่สง่า
น่าเกรงขาม แต่เมื่ออยู่
กับเพื่อน ๆ หรือต่อหน้า
คนอื่นเราก็ไม่ได้เก๊ก
จะมีการวางตัว
บ้างก็เวลาแต่ง
เครื่องแบบเท่านั้น
ถ้านอกเครื่องแบบ
ก็วางตัวแค่พองาม
ไม่ให้เสียชื่อสถาบันเท่านั้น”
แต่รู้สึกว่าจะไม่ใช่
คำตอบทีถูกต้องนัก
เพราะคำถามลักษณะนี้
ยังถามมาอีกต่อเนื่องจาก
หลาย ๆ ฝ่าย อาจจะกลายเป็น
ประเด็นถกเถียงทางการเมืองได้
หากผมไม่หาตอบมาให้กับ
คนถามให้หายสงสัย
จากการค้นคว้าอยู่
ประมาณ ครึ่งปี จึงพอ
สรุปแยกประเด็นต่าง ๆ ออกจากกัน โดยเริ่มจากคำว่า “เก๊ก” ก่อน ผมเริ่มสันนิฐานก่อนว่าคำว่า เก๊กนี้ ต้องไม่ใช่คำไทยแท้ แน่นอน เพราะเป็นคำที่จะต้องตีความอีกที ผมเริ่มตั้งคำถามว่าคำว่า เก๊ก นี้อาจจะมา
จากคำว่า “เก๊กฮวย” แต่ก็ไม่น่าจะเป็น
ไปได้ที่ว่า นักเรียนนายร้อยจะเก๊กฮวย
“อาจมาจากภาษาจีนก็ได้” บอย เพื่อนรักผมเสนอ
เมื่อสอบถามเพื่อน ๆ ที่มีเชื้อสายจีน
อยู่บ้าง และคนที่ไม่มีเชื้อแต่เสนอ
หน้าเข้ามาตอบก็ไม่มีใครรู้คำตอบ
อันแท้จริง เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
จริง ๆ เมื่อคำ
ว่า “เก๊ก” กลายเป็นประเด็นถก
เถียงกันในหมู่นักเรียนนายร้อย
ตำรวจเสียแล้ว ทั้งที่ผมพยายามที่จะ
ทำอย่างเงียบ ๆ แล้ว
ชมรมปาถกฐา และ
การแสดงถึง กับนำเรื่อง
นี้ไปเป็นประเด็นในการ
โต้วาที ระหว่างสถาบัน
และนรต.รุ่นของเราได้นำประเด็น
คำว่าเก๊กนี้ เข้าสู่การประชุมของรุ่น มีความเห็นที่เราลงมติแล้ว่าใกล้เคียงกับความหมายที่ใช้กันมากที่สุด ของคำว่า “เก๊ก” คือ
นรต.ศุภชัย “การวางตัวซึ่งไม่เป็นธรรมชาติผู้แสดงพยายามแสดงบุคลิกในด้านบวก ของตนเองให้ผู้อื่นเห็น”
นรต.ไพโรจน์ “การแสดงออกซึ่งกิริยาที่ไม่วอกแวก ไม่ค่อยสนใจใยดีกับคนรอบข้าง มี ความมั่นใจในตัวเองสูง”
นรต.อาทิตย์ “เป็นระเบียบวินัยของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ที่ต้องวางตัว ให้มีบุคลิกที่เป็นที่น่าเกรงขาม”
ผมเกือบจะใช้คำตอบของมติรุ่นเป็น
คำตอบสุดท้ายแล้ว .แต่ด้วยความรอบคอบที่ยังพอได้รับการอบรมสั่งสอนของอาจารย์ ที่สอนวิชาวิจัย ว่าหากต้องการข้อมูลที่น่าเชื่อถือจะต้องไม่ลำเอียงต้องมีกลุ่มประชากร ที่ครอบคลุม ดังนั้นผมจึงได้สำรวจข้อมูลจาก สถาบันการศึกษาต่าง ๆ มาประกอบด้วย
“ลี่” นักศึกษาสาวให้ความเห็นว่า “เก๊ก” หมายถึง การปฏิบัติที่ผิดธรรมชาติเพื่อให้ตัวเองดูเด่น”
“ไก่” นิสิตสาวอีกสถาบันหนึ่งเห็นว่า “เก๊ก” หมายถึง การแสดงออกที่น่าหมั่นไส้ไม่จริงใจ
นอกจากนี้ผมยังได้ค้นคว้าจากคู่มือนักเรียนนายร้อยตำรวจ ที่ได้รับแจกในวันแรกที่เข้ามาเรียนที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ หัวข้อ “บัญญัติ 40 ประการ ของสุภาพบุรุษสามพราน” ข้อ 16 ว่า
“จักต้องปรับปรุงท่วงท่าของตนให้เป็นที่น่าเคารพเชื่อถือแก่ผู้พบเห็นสมกับเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ จงเพาะกายให้กำยำ แข็งแรง สมกับชายชาติตำรวจ
- ตำรวจต้องมีท่าทางลักษณะองอาจผึ่งผาย ไม่เงื่องหงอย จะ
นั่ง ยืน ต้องเป็นไปด้วยท่าทางอันสง่าผ่าเผยเดินยึดอก ตัวตรง แกว่งแขวนพองาม จังหวะไม่เร็วหรือช้าเกินไป การยืนหรือนั่งต้องให้องอาจ ไม่ใช่อกห่อ หลังงอ หรือหลังค่อม (ไม่ควรนั่งเท้าคาง นั่งกอดเข่า
ไขว่ห้าง)
- ความแข็งแรง เข้มแข็ง ย่อม
เป็นเครื่องเชิดชูให้ตำรวจเด่นขึ้น แต่ต้องคลุกเคล้าไปด้วยท่าทีอันสุภาพ ไม่แข็งกร้าว รู้จักจังหวะว่ากาลเทศะใดควรจะแข็งแรง หรือสุภาพเพียงใด จงสร้างสรรท่วงท่าให้อ่อนโยนละมุนละไม แต่มิใช่อ่อนแอ หรือปวกเปียกลังเลไม่เด็ดขาด พึงยึดหลักว่า “จงอ่อนโยน แต่อย่าอ่อนแอ จงแข็งแรง แต่อย่าแข็งกระด้าง”
จากคำตอบที่ผมได้สรรหามาตอบคำถามว่า “ทำไมนักเรียนนายร้อยขี้เก๊กจัง” ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้วข้างต้นนี้ แต่ในความรู้สึกของนักเรียนนายร้อยตำรวจทุกคนแล้วไม่ต้องการถูกหาว่าเก๊กเลย เพราะเหมือนกับเป็นการปิดกั้นไม่ให้คนอื่นกล้าที่จะเข้ามาพูดคุยด้วย เราจึงไม่ได้แสดงการเก๊กแต่อย่างใด(ในความรู้สึกเราเอง) แต่คนอื่นอาจมองเห็นว่าเก๊ก แต่ภายในใจแล้วต้องการที่จะรู้จักพูดคุยกับทุกคน หากท่านได้พบกันนักเรียนนายร้อยแล้วเชื่อเถอะว่า หากได้ลองพูดคุยแล้วจะรู้ว่าเขาไม่ได้ เก๊ก เกินไปเลย