คลื่นรักทะเลใจ ตอนที่ 2
***...หากมรสุม จะทำเธอเหน็บหนาวใจ จะพัดจะแรงแค่ไหน จะขออยู่ข้างเคียงเธอ.....***
...................................................................................................................................................................
ความรู้สึกหวาดกลัวที่เกิดขึ้นนานเกือบสองชั่วโมงของทุกคนหมดไป เมื่อรอยลำเล็กซึ่งบรรจุผู้โดยสารเต็มลำเรือแล่นมาเกยหาดทรายซี่งเป็นแนวยาวไกลสุดลูกตา
เกาะอะไรค่ะนี่
เสียงวนาลีที่เอ๋ยปากถามชายแปลกหน้าผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือทำให้ใครต่อใครพากันอมยิ้มอย่างอดไม่อยู่ เพราะเสียงของเธอนั้นอ่อนหวานเกือบจะเป็นออดอ้อนเลยก็ว่าได้
แพรทองเอียงหน้าไปมองชายหนุ่มร่างสูงที่ไม่ยอดพูดจากับใครตั้งแต่แล่นเรือของเขาไปเทียบเรือของตัวอย่างใคร่รู้ แต่เธอก็ต้องผิดหวัง เพราะเขายังคงปิดปากเงียบเช่นเคย จนทำให้สาวร่างอ้วนดูหงอยเหงาไปอย่างช่วยไม่ได้
สงสัยมันจะเป็นหูหนวก หรือไม่ก็ใบ้
เสียงอาทิตย์ที่กระซิบกระซาบ ทำให้แพรทองต้องรีบทำสัญญาณมือให้เขาหยุดพูด เพราะเธอรู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่ชายผู้นี้จะหูหนวกหรือเป็นใบ้ เพราะถ้าเขาเป็นจริงป่านนี้เธอก็คงลอยคออยู่ในทะเลไปแล้ว
ก็ได้...ถึงอย่างไรมันก็ช่วยเราเอาไว้
แพรทองฟังแล้วอ่อนใจ เพราะอย่างไรก็ตาม อาทิตย์ก็ยังเหยียดหยามชายผู้นั้นอยู่ดี มันที่ดังออกมาจากปากเขานั้นไง
ดังนั้นแพรทองจึงตัดสินใจเดินไปทรุดตัวลงนั่งข้างวนาลี ที่กำลังนั่งเกยทรายเล่นแทน
คุณวนาลีค่ะ เขาคงยังเหนื่อยอยู่นะค่ะ เลยไม่อยากพูดกับใคร คุณวนาลีคิดดูซิค่ะ เขาต้องรอรับพวกเราลงเรือเขาทั้งลำ...ไม่เหนื่อยก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว
งั้นหรือค่ะสาวร่างอ้วนยังไม่ค่อยเชื่อถือคำพูดของแพรทองเท่าไรนัก
ซึ่งแพรทองก็ทำได้แค่เพียงพยักหน้าเท่านั้น เพราะเธอรู้ดีว่าเหตุผลที่เธอให้วนาลีนั้นน้ำหนักคงยังไม่เพียงพอที่จะลบล้างความคิดนั้นได้ อีกอย่างเธอเชื่อว่าวนาลีเองก็คงเป็นคนที่ค่อนข้างจะอ่อนไหว เพราะถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นๆ คงรู้สึกเฉยๆ ซึ่งมันอาจมาจากรูปร่างเจ้าเนื้อของวนาลีเองด้วย เพราะแพรทองเคยได้ยินมาว่า คนอ้วนส่วนใหญ่มักจะกังวลกับรูปร่างหน้าตาของตนเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่เขาหรือเธอตนพึงพอใจ ด้วยไม่มั่นใจกับเรือนร่างตนเองนั่นเอง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ใครหลายคนลดน้ำหนักลงมาได้ แต่ก็มีที่ลดเท่าไรก็เท่าเดิม หรือมากกว่าเดิมเสียอีก เพราะยิ่งคิด ก็ยิ่งกลุ้ม ยิ่งกลุ้มก็ยิ่งกินหนักกว่าเดิม เหมือนดาราสาวชาวฝรั่งเศษผู้หนึ่งที่เคยให้สัมภาษณ์ทางรายการโทรทัศน์ว่าพอเครียด เธอก็หันมาหาช็อคโกแลตซึ่งเชื่อว่าจะช่วยลดความเครียดลงได้ แต่เผลอไปนิดเดียวน้ำหนักของเธอก็ขึ้นพรวดเกือบยี่สิบกิโลกรัม จะลดก็ลดไม่ลงเลยตามปล่อยเลยตามเลย
แต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อแพรทองเงยหน้าขึ้น เธอก็พลันได้ยินเสียงเขาดังขึ้นเป็นครั้งแรก แข่งกันเสียงฝนที่ยังคงเทลงมาอย่างไม่ขาดสายว่า
อย่างมัวนั่งอยู่ตรงนี้ รีบวิ่งไปที่บ้านหลังนั้นเร็วเข้า ไม่งั้นพวกคุณจะเป็นปอดบวมตายไปเสียก่อนที่จะได้กลับบ้าน...ที่นั้นพอจะมีเสื้อผ้าให้คุณได้เปลี่ยน และไม่ใช่แค่เพียงพูดเท่านั้น สองเท้าของเขาก็ยังคงก้าวเดินนำหน้าอย่างรวดเร็ว
แพรทองหันไปพยักหน้าให้วนาลีทียังคงนั่งนิ่งให้ลุกขึ้นเดินตาม ซึ่งสาวร่างอ้วนก็รีบลุกขึ้นอย่างว่าง่าย แต่เมื่อแพรทองหันไปทางคู่หมั้นหนุ่ม ก็พบว่าดวงตาของเขาฉายชัดถึงความตะขิดตะขวงใจอย่างบอกไม่ถูก
มีอะไรหรือเปล่าค่ะทิตย์ ไปพักบ้านเขาสักคืนเถอะค่ะ เพราะคืนนี้เราคงเลี่ยงไม่ได้แล้วล่ะ
เปล่า ผมยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย
อ้าว แล้วมีอะไรหรือค่ะ
อาทิตย์ส่ายหน้า ขณะที่สองตาของเขามองตรงไปที่เพื่อนๆ ซึ่งเดินมุ่งหน้าไปยังกระท่อมโกโรโกโส ที่เห็นอยู่ลิบๆ นั่นแล้ว
งั้นดีค่ะทิตย์ แพรเองก็หนาวจะแย่อยู่แล้ว เพิ่งรู้วันนี้เองว่าน้ำฝนมันเย็นกว่าน้ำประปาหลายเท่านัก
อาทิตย์พนักหน้า แล้วดึงมือแพรทองข้างหนึ่งไปเกาะกุมเอาไว้มั่น ก่อนจะก้าวเท้าตามคนอื่นไปอย่างรวดเร็ว
//////////////////////////////////////
ภายในกระท่อมหลังเล็กกลางดงมะพร้าว ซึ่งจัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่เรียบง่าย เป็นภาพที่ให้แพรทองรู้ประหลาดใจยิ่งนัก เพราะถึงไม่มีใครบอกเธอก็รู้ว่าบ้านที่น่าจะเรียกว่าเ กระท่อมมากกว่า หลังนี้เ ผู้เป็นเจ้าของคงอาศัยอยุ่ลำพังเท่านั้น เพราะบนเสื่อซึ่งวางอยู่มุมหนึ่งของห้อง มีหมอนใบเล็กวางอยู่เพียงใบเดียวเท่านั้น และ มุ้งสีขาวก็ยังคงเก็บไว้อย่างเรียบร้อยวางอยู่ใกล้ ๆ กัน
...ผู้ชายคนนี้เจ้าระเบียบแฮะ..แพรทองคิดอย่างนึกขัน
ขณะที่เจ้าของบ้านกำลังสาละวนกับการก่อกองไฟอยู่ที่หน้าบ้าน ซึ่งบัดนี้สายฝนที่กระหน่ำขาดเม็ดลงแล้ว
จนกระทั่งมีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากหญิงวัยประมาณห้าสิบเศษ ซึ่งอายุมากที่สุดในคณะพูดเอ่ยว่า
เอ ...ชาวเกาะ...นี่เขาอ่านหนังสือภาษาอังกฤษกันด้วยหรือ
แพรทองจึงเบนสายตาไปยังที่มาของเสียงนั้นด้วยความสงสัยมากขึ้น แม้นว่าจะมีเสียงอุษาดังขึ้นว่า
หรือเขาเป็นแฮมมิงเวย์ค่ะ และเรียกเสียงหัวเราะจากใครต่อใครหลายคนก็ตามที
เขาเป็นใครกันแน่
แพรทองสงสัยขึ้นมาตะหงิด ๆ
แต่เมื่อมีเสียงกระแอมดังขึ้น แล้วชายเจ้าของบ้านโผล่เข้ามาเสียงสนทนาทีดังเซ็งแซ่ก็พลันหยุดเงียบลงอย่างกระทันหัน พร้อม ๆ กับที่สายตาทุกคู่หันไปหาเขาโดยไม่ต้องนัดหมาย
แพรทองมองเห็นแววตาเก้อเขินผุดขึ้นมาบนดวงตาคมเข้มคู่นั้น ก่อนที่จะเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเธอเองก็รู้สึกงงตัวเองไม่น้อย หลังจากรื้อเสื้อผ้าในกล่องไม้ใบใหญ่ออกมาแล้วยื่นออกให้พวกเธอ พร้อมกับเอ๋ยขึ้นมาว่า
คุณผู้หญิงพักบนบ้านน่ะครับ ส่วนคุณผู้ชายผมบอกไปแล้วว่าเดี๋ยวผมจะหาอะไรไปให้รองนอนหน้าบ้าน
แล้วบนหาดหน้าบ้านไม่มียุ่งหรือค่ะ
อุษาถาอย่างสงสัย เพราะส่วนผู้ชาย ที่เขาว่านั้นมันหมายถึงสามีของหล่อนด้วย
มีรอยยิ้มบางๆ ปรากฏบนใบหน้าเจ้าของบ้าน ขณะที่เขาเลื่อนมือไปปัดเส้นผมหยักโศกเป็นลอนสีดำเข้มซึ่งตกลงมาปิดดวงตาข้างที่มีแผลเป็นอยู่เหนือคิ้ว
ไม่เป็นไรครับ ผมจุดไฟไล่มันไปแล้ว...นอกจากยุ่งไม่กัด ยังอุ่นอีกด้วย
อุษารับคำในลำคอ ซึ่งแสดงว่าหล่อนคลายความสงสัยแล้ว ก่อนจะหันไปเลือกเสื้อผ้าที่กองอยุ่ตรงหน้ามาเลือกให้ตนเองและสามี ซึ่งอยู่หน้าบ้าน หลังจากเจ้าของบ้านหันหลังก้าวเดินออกจากบ้าน
โดยมีสายตาของแพรทองจับจ้องอยู่อย่างสังเกต
จนกระทั่งร่างนั้นลับหายไป แพรทองจึงถามตัวเองว่า เป็นเพราะเหตุใดถึงจึงสนใจกับทุกกิริยาบถของเขาเช่นนี้ ทั้งที่บุคคลทีเธอควรให้ความสนใจมากที่สุดนั้น ควรจะเป็นชายอีกคนซึ่งมีสถานะเป็นคู่หมั้นของเธอ
//////////////////////////////////////////
จากคุณ :
^0^
- [
9 มิ.ย. 47 13:15:25
A:203.145.12.118 X:
]