CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown



    เรื่องจริงผ่านจอ : ระวัง!! มันมากับหน้าฝน ...

    ** เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่แบบว่า ไม่ได้ตั้งใจเขียนนัก
    คือไปประสบพบเจอมา ด้วยความตื่นเต้น หวาดผวา
    เลยนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ในบอร์ดฟัง แต่ได้เพียงวันเดียว
    ก็โดนใครบางคนก็อปปี้มาแปะไว้ที่ห้องเฉลิมไทย
    หากใครผ่านไปอ่านมาแล้ว นั่นก็คือเรื่องเดียวกันครับ
    ต้นฉบับจริงๆ อยู่ที่นี่
    http://www.dvdgameonline.com/forums/index.php?act=ST&f=2&t=10293&hl=เใื่ํงจใ๔ง&s=0d020c1c170b781d028b7b74e4606da5
    ก็คิดได้ว่า เออ อ่านของคนอื่นมาเยอะแล้ว
    ลองเอามาให้ที่นี่อ่านกันดูบ้าง เผื่อจะมีใครชอบ
    ขอบคุณที่อ่านกันนะครับ ...
    ***********************************
    เรื่องจริงผ่านจอ : ระวัง!! มันมากับหน้าฝน
    คำเตือน : ติดเรท 15 ผู้ปกครองควรพิจารณา
    ***********************************
    เมื่อกี้นี้เองครับ ...
    มันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี๋นี่เอง ...

    หลังจากเข้าเน็ทได้ซักพัก ...
    สายดันหลุด ... เวรเอ้ย ขยันหลุดจริงๆ ...
    อืม ... ปวดฉิ๊งฉ่องพอดีเลยเว้ย ไปเข้าห้องน้ำดีกว่า ...
    เลยบู๊ทเครื่องซะ แล้วออกไปเข้าห้องน้ำ ...
    ด้วยความไม่ประมาท ผมเปิดไฟก่อนทุกครั้งก่อนเข้า ...
    ต่อให้มันมีแสงสลัวๆ พอที่มองเห็นอะไรๆ ได้ก็เถอะ ...
    เปิดปุ๊บก็เดินเข้าไปปั๊บ ...
    ถอดกางเกง ... หย่อนตูด ...
    ขณะที่กำลังจะปลดปล่อยสายน้ำสู่เบื้องล่าง ...
    หูผมก็ได้ยินเสียงอึ่งอ่างร้อง ...
    เอ ทำไมวันนี้มันร้องแบบแปลกๆ วะเนี่ย ... รึมันกำลังทำกิจกรรมส่วนตัวกันหว่า ...
    หันไปดู ... มันอะไรวะนั่นน่ะ ...
    เหมือนขดเชือกกลมๆ กำลังขยุกขยิก ขยับไปขยับมา ...
    ไอ้ขดเชือกที่ว่ามันมีสีดำ ... เป็นลาย ...
    ดูไปแล้ว ไอ้ลายแบบนี้คล้ายๆ ท้องปลาช่อน ... แต่มันคงไม่ใช่
    ปลาช่อนที่ไหนจะสามารถขนาดนี้วะ ม้วนตัวได้ด้วยอ่ะ...
    แถมเกล็ดมันยังเป็นเงาวับสะท้อนกับแสงไฟ ...
    เชื่อ Jax เถอะครับ ...
    ไม่มีปลาช่อนตัวไหนในโลกนี้จะมีเกล็ดเป็นเงาวับเหมือนใช้น้ำยาขัดเงาแบบนี้หรอก ...
    เว้นแต่ว่า ... มันจะไม่ใช่ปลาช่อน ...
    ไม่ถึงหนึ่งวินาที สมองผมก็สรุปผลลออกมาทันทีว่าไอ้นี่มันคือ ...
    งู ... อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ...
    ผมแหกปากร้องด้วยความกลัวสุดขีด ...
    แต่ร้องในใจอ่ะ ... ไม่กล้าร้องจริง ... กลัวมันจะได้ยินแล้วหันมาเล่นผมแทน ...
    เพราะตอนนี้มันกำลังรัดตัวเองกับไอ้อึ่งอ่างโคตรซวยตัวหนึ่ง
    (หรืออีอึ่งอ่างก็ไม่รู้แฮะ ผมดูเพศอึ่งอ่างไม่เป็นน่ะ)
    (ช่างหัวมันเหอะ ให้มันเป็นอึ่งอ่างกะเทย ... กุก็ม่ะสนหรอกตอนนี้)
    มันกำลังรัดแน่นขึ้น ไอ้อึ่งอ่างก็ร้องอ็อดๆ ขึ้นมา แล้วก็พองลมแบบสุดตัว
    มันเป็นสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของอึ่งอ่างประเทศไทยแถวๆ บ้านผม
    เพราะถ้าไม่พองลม มีหวังกระดูกมันหักเละไม่เหลือแน่
    แต่นี่ไม่ใช่เวลามานั่งดูสารคดีสัตว์โลกผู้โชคร้าย ...
    เพราะถ้ามั่วมานั่งดู ไอ้งูนั่นอาจเปลี่ยนใจหันมาเล่นผมแทนซะก่อน ...
    เอาไงดีวะ ... สมองผมเริ่มคิดหาวิธีสารพัดเอามาจัดการกับไอ้งูตัวนี้ ...
    ในขณะที่มันกำลังรัดอึ่งอ่างอย่างเมามัน (รึเปล่าก็ไม่รู้ ไม่ได้ถามมันด้วย)
    ขั้นแรก ... ใส่กางเกงก่อน ... ไม่งั้นมันเหลือบมาเห็นปลาช่อนน้อยเดี๋ยวจะซวย
    (ใครๆ ก็รู้ว่าปลาช่อนสิงห์บุรี รสชาติเด็ดขาดแค่ไหน  )
    ขั้นที่สอง ... ค่อยๆ เดินออกมาจากห้องน้ำ ... อย่างช้าๆ ... ขาสั่นพั่บๆ ...
    ออกมาได้แล้ว ... เอาล่ะวะ ... อะไรดีล่ะ ...
    ถังน้ำ ... ใช่ ต้องหาถังกลมๆ มันครอบมันไว้ก่อน ...
    เหลือบไปเหลือบมา ... ไม่มี ... บางทีมันอาจจะอยู่หน้าบ้าน ...
    แล้วผมก็รีบวิ่งออกมาที่หน้าบ้าน เปิดไฟ แล้วมองหาถังอย่างรวดเร็ว ...
    ได้มาแล้วรีบกลับไปที่ห้องน้ำ ... หวังว่ามันคงยังไม่กินไอ้อึ่งอ่างนั่นไปแล้วชิ่งหนีหรอกนะ ...
    มาถึงห้องน้ำแล้ว มันยังอยู่ครับ ... ยังเพลิดเพลินจำเริญใจกับเจ้าอึ่งอ่างตัวนั้นอยู่ ...
    ครอบซิ ... ครอบเลย ... แต่ ... จะครอบยังไงวะ ...
    ในเมื่อไอ้งูตัวนั้นมันอยู่ที่มุมอ่างน้ำ ติดกับผนังพอดี ... แล้วไอ้ถังที่ผมถือมามันก็เป็นทรงกลม ...
    ครอบไปมันก็ติดผนังก่อน ... ไม่พอดีแน่ๆ ...
    ไม่สนล่ะวะ ... ตอนนี้ยังไงก็ต้องรีบจัดการก่อนที่มันจะรู้ตัวแหละ ...
    แล้วก็ค่อยๆ เดินไป ... ได้ระยะพอดี ก็ ... ผลุ๊บ!! ... ครอบไปแล้ว ... แต่ ...
    ถังมันเอียงๆ ... มันไม่สนิท ... มันขยับได้ ...
    Chip หายแล้วกุ ... พลาด!! ...
    ผมพยายามกดถังเอาไว้ ... ออกแรงกดไม่ให้มันขยับได้ ...
    อย่างน้อยตัวมันที่ยังขดอยู่อีกครึ่งหนึ่งก็ยังติดอยู่ ...
    ถ้ามันหลุดออกมาได้ ... จะเกิดอะไรขึ้น ... โอย ...
    มันพยายามดิ้นไปดิ้นมา ...
    ผมค่อยๆ เดินหันไปมองอีกด้าน ... ให้แน่ใจว่ากำลังกดงูอยู่จริงๆ ...
    อา ... ตัวมันไม่ใช่เล็กๆ เลยเว้ย งูเห่ารึเปล่าวะเนี่ย ...
    เอาไงต่อล่ะ ... กุไม่บ้ามานั่งกดทั้งคืนหรอกนะ ... ยังไงก็ต้องเอามันออกไปจากบ้านให้ได้ ...
    เหลียวหันไปมองรอบๆ ตัว ... ไม่มีอะไรที่มันหนักๆ เลยรึไงวะ ...
    อย่างน้อยก็เอามาทับถังไว้ก่อน ... แล้วผมค่อยออกไปหาอะไรมาจัดการมันอีกที ...
    แต่ไม่มี ... ในเมื่อไม่มีอะไรช่วยได้ ... คงต้องใช้วิธีสุดท้าย ...
    "เฮ้ยยยยยยย!! ..." ผมแหกปากร้องลั่นบ้าน ... คราวนี้ร้องจริงๆ
    แล้วพี่สาวกับน้องสาวผมก็วิ่งลงบันไดมา ... "อะไรๆ ... ร้องซะลั่นบ้าน"
    "งูโว้ยยยย ..." ยังไม่ทันขาดคำก็ถอยกรูดหนีกลับขึ้นไปบนบันไดอีกรอบ  
    "เอายาฉีดยุงมาเร็วววว ...." ผมเรียกหาชิลท็อก ...
    (เอ่อ ... ชิลท็อก มีไว้ฆ่ายุงนะครับ ไม่ใช่ฆ่างู แต่ผมจะเอามาฉีดให้งูมันมึนๆ เท่านั้น)
    "อยู่ไหนเล่า ยาฉีดยุงน่ะ ..." ... ดูมันถาม ...
    "ก็หาเข้าสิโว้ยยย ... โธ่ ..." ... ผมตอบกลับไปแบบฉุนกึก
    แล้วสองคนนั่นก็วิ่งพล่านไปทั่วบ้านเพื่อจะหายาฉีดยุง ...
    ได้มาแล้ว ... ผมละมือข้างหนึ่งรับยาฉีดยุงไว้ ในขณะที่มืออีกข้างออกแรงกดถังไว้ให้หนักกว่าเดิม
    เสียงไอ้อึ่งอ่างร้องแอ๊ดขึ้นมาทีหนึ่ง แล้วก็เงียบไป ... มันคงเสร็จไปแล้ว ...
    ผมฉีดชิลท็อกไปให้โดนตัวงูมากที่สุด ... ฉีดเข้าไปใต้ถัง ... เผื่อว่าหัวงูมันจะอยู่ในนั้น ...
    ตอนนี้ไม่สนใจว่าไหนจะหัว ไหนจะหางหรอก ... ฉีดได้ซักพัก ... มันก็หยุดดิ้น ...
    มันคงเมาได้ที่ ... ผมค่อยปล่อยมือออก กะว่าจะครอบงูให้เข้าที่ถังพอดี ...
    เหวยยยยย ... มันหลุดได้ .. แล้วเลื้อยเข้าไปในซอกหลืบระหว่างอ่างน้ำกับผนัง ...
    เห้นหางแล้วตัวมันคงใหญ่ไม่ใช่เล่นแน่ .... ผมขนลุกซู่ ... ขาสั่นพั่บๆๆ อีกรอบ ...
    เอาไงวะ ... ฉีดสิ ... แล้วผมก็ฉีดเข้าไปในซอก ... ระดมฉีดแบบไม่ยั้ง .. งานนี้ งูไม่ตาย คนก็ตายก่อนล่ะวะ ...
    ได้ผล ... มันเริ่มโผล่หัวเลื้อยออกมาช้าๆ ... ผมสะดุ้งเฮือก แล้วฉีดเข้าไปที่หัวมันอีก คราวนี้มันเลื้อยกลับเข้าไป ...
    มันต้องเลื่อยไปออกอีกข้างแน่ ... อึ่งอ่างอีกสองสามตัว กระโดดออกมาจากใต้อ่างน้ำอย่างรวดเร็ว เหมือนกำลังหนีอะไรสักอย่าง ...
    อย่างที่ผมคิดไว้ ... มันเลื้อยออกมาอีกด้านหนึ่งจริงๆ ...
    คราวนี้ผมผงะถอยหลัง ... เห็นตัวมันชัดๆ แบบนี้ ขาสั่นหนักกว่าเก่า ...
    เท่าที่คาดคะเน ความยาวเมตรกว่าๆ แล้วตัวก็ใหญ่แบบ ... โหย ...
    "ไม้ๆ เอาไม้มาเร็ว" ผมร้องตะโกนให้น้องผมหาไม้มาให้ ... อีกมือหนึ่งก็คอยฉีดยาสกัดมันเอาไว้
    มันเริ่มเลื้อยไปยังอีกมุมหนึ่งของห้องน้ำ ... พอถึงมุม มันก็พยายามจะเลื้อยไต่ผนังขึ้นไป ...
    อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยา มันเลยนึกตัวเองเป็น Spider Snake กระมัง ...
    "เอานี่ ได้แล้วไม้ ..." ผมหันไปจะรับไม้มา ... "โหย ... เอามาทำห่ะไรวะ หาไอ้ที่มันใหญ่ๆ กว่านี้สิโว้ย ..." ... ผมเริ่มประสาทกิน ... เอามาตีงูนะโว้ย ...
    หันมาที่ไอ้งูตัวนั้น มันค่อยๆ ลดตัวลงมาจากมุมผนัง ... แล้วเลื้อยมาที่อีกมุมหนึ่งของห้องน้ำ ... เสร็จแน่กุ ...
    ถ้ามาเลื้อยมาถึงมุมนั้นได้ มันก็จะเลื้อยต่อมาที่ประตูห้องน้ำ ที่ๆ ผมกำลังยืนอยู่ ... แล้วผมก็จะโดน ... อา ... ไม่อยากจะคิด ...
    ผมฉีดยาเข้าไปอีก เอาให้โดนหัวมัน ... มันเลื้อยมาถึงมุมแล้ว ... มันเลื้อยต่อมาที่หน้าประตู ...
    Chip หายแล้วกู ... คราวนี้เสร็จแน่ ... ผมหันรีหันขวาง ... มีอะไรใกล้ๆ ตัวมั่งไหมวะ ... เห็นเก้าอี้เล็กที่ใช้นั่งอาบน้ำอยู่ตัวหนึ่ง ...
    "ได้มาแล้วไม้ ... " เออ ค่อยยังช่วย ... ถึงไม่ใหญ่แล้วก็หนักเท่าไรนัก แต่ก็พอซัดหัวมันได้ล่ะวะ...
    ผมใช้ไม้เขี่ยเก้าอี้ไปให้ติดกับผนัง ... อา แม่นเหมือนจับวาง ... เก้าอี้ถูกเหวี่ยงไปติดผนังพอดี ... ไอ้งูนั่นเลื้อยถอยกลับไป ...
    มันเลื้อยกลับไปที่มุม ... คราวนี้ มันพยายามเลื้อยกลับเข้าไปที่ซอกอ่างน้ำอีกครั้ง ...
    ไม่มีเวลาคิดแล้ว ... ผมเกลียดการฆ่าสัตว์เป็นที่สุด ... ถึงไม่เคยไปทำบุญกับเขา แต่ก็ไม่เคยคิดจะทำบาป ...
    มดตัวเล็กๆ ผมยังไม่เคยเดินเหยียบ เห็นมดทีไร ผมก็เดินเลี่ยงทุกที ... แต่คราวนี้เห็นทีจะเลี่ยงไม่ได้ ...
    เพราะถ้ามันหลุดออกมาจากห้องน้ำได้ มันก็จะเลื้อยเข้าไปในซอกหลืบในบ้าน ...
    คราวนี้คนในบ้านผมเดือดร้อนแน่ ... ผมยังลังเล ชั่งใจคิดว่าจะทำยังไงดี ... จะตีหรือไม่ตี ...
    ฉับพลัน ... สมองผมก็คิดไปถึงอนาคต ... ถ้าผมมีครอบครัว มีลูกมีเมีย ... ผมจะดูแลปกป้องเขายังไง ถ้ายังมามัวใจเสาะแบบนี้ ...
    บาปก็บาปละว่ะ ... ผมยอมตกนรกดีกว่าให้เกิดเรื่องกับคนในบ้านล่ะ ... เป็นลูกผู้ชายมันต้องกล้าสิวะ ...
    ไอ้งูนั่นเลื้อยมาที่ผนังจะเข้าไปที่ซอกแล้ว ... ผมเงื้อไม้ขึ้น ... ปั๊บๆๆๆ .... เสียงไม้ฟาดลงที่พื้นกระเบื้องดังลั่น ...
    ถูกบ้างหรือเปล่าไม่รู้ ... เหมือนจะโดนไปทีหนึ่ง ... มันหยุดเลื้อย แล้วหันหัวมาทางผม ...
    วินาทีนั้น ... ผมกลับไม่รู้สึกถึงความอาฆาตมาดร้ายเลยแม้แต่นิด ... งูมันค่อยๆ หันหัวมา ไม่อ้าปาก แยกเขี้ยว หรือขู่ฟ่อๆ ... อย่างที่มันควรจะทำ ...
    วินาทีนั้น ... ผมรู้สึกผิดขึ้นมาทันที ... มันอาจจะแค่เข้ามาหาอะไรกินประทังชีวิตตามวิสัยของสัตว์ ... มันเป็นเรื่องปกติของโลกใบนี้อยู่แล้ว ...
    คิดได้แค่นั้น ... เจ้างูนั่นค่อยๆ หันกลับไป พยายามจะเลื้อยเข้าไปอีก ... ปั๊บๆๆๆ ... ผมฟาดลงไปอีก คราวนี้พยายามให้โดนกลางลำตัว ...
    เขาว่าตีงูต้องตีให้หลังหัก แต่ตอนนี้ไม่รู้อะไรแล้ว ... ปั่บๆๆๆ ผมตีซ้ำลงไปที่กลางลำตัว แล้วก็หัวของมัน ... ได้ผล มันหยุดเลื้อย ตัวเริ่มชักไปมา ...
    หัวของมันมีรอยยุบลงไปข้างหนึ่ง ... ที่ช่วงลำตัว ก็เป็นรอยยุบไปสองสามที่ ... แล้วมันก็แน่นิ่งไป ...
    ผมตีซ้ำอีกหลายครั้ง ที่หัวของมัน ... ที่ตัวของมัน ... ให้แน่ใจว่ามันตายจริงๆ ... เขาว่างูมันเป็นสัตว์อาฆาต ...
    ผมจะปล่อยให้มันกลับมาทำร้ายคนที่บ้านไม่ได้อีก ... แล้วก็ตีซ้ำไปอีก ... ใจเต้นรัวเป็นกลอง ... ขาก็ยังสั่นอยู่ ... มันตายแน่นอน
    ผมค่อยๆ เขี่ยถังน้ำออกไป ... ไม่มีอึ่งอ่างอยู่ในนั้น ... บางทีมันคงหลุดออกไปได้ตอนที่ผมครอบถังไปทับงูพอดี ...
    ถ้ามันไม่โดนงูกัดแล้วพ่นพิษใส่ ... มันก็คงรอดไป ... แบบนั้นก็ถือว่าช่วยชีวิตมันไว้ได้ละนะ ... แต่ก็ต้องแลกกับอีกหนึ่งชีวิต คือเจ้างูตัวนั้น ...
    ซักพักหนึ่ง ... พอรู้สึกจิตใจเริ่มเป็นปกติ ก็ให้น้องไปเปิดประตูบ้าน ... แล้วผมก็เอาไม้เขี่ยงูขึ้นมาแล้วเอาออกไปทิ้ง ...
    เป็นอันว่า ผมฆ่างูไปตัวหนึ่ง ... ทำบาปไปกับหนึ่งชีวิตอีกแล้ว ... ผมว่าแค่ทุกวันนี้ กินเนื้อหมูเนื้อปลา ผมก็บาปมากพอแล้วนะ ...
    พรุ่งนี้เช้าผมต้องไปใส่บาตรหน่อยแล้วล่ะ ... รู้สึกแย่จริงๆ ครับ ...  
    ตอนนี้ผมปวดฉิ๊งฉ่องขึ้นมาอีกรอบแล้ว ... แต่ไม่กล้าเข้าห้องน้ำง่ะ ... โอย ... ปวดๆๆๆ ...  


    เขาว่าฝันเห็นงูจะเจอเนื้อคู่ ... แต่ผมเล่นมาตีงูจริงๆ แบบนี้ ...
    เวรกรรมมันจะตามมาสนองให้ผมไม่มีแฟนทั้งชาติเลยรึเปล่าวะเนี่ย
    ***********************************
    อ้อ มีคนขอไปทำ mail fwd แล้วครับ
    ถ้าเจอก็ไม่ต้องแปลกใจนะ 555 ...
    อืม ... เขียนอะไรบั่นทอนปัญญาแบบนี้ ...
    ถนัดอย่างแรงครับ ... อิ อิ

    จากคุณ : Jax เองครับ - [ 13 มิ.ย. 47 04:15:59 ]