แง๊ว กระทู้เก่ามันเจ๊งไปแล้วอะครับ หลังจากคุณพยาบาทจอมขมังเวทเข้ามาแปะความคิดเห็น
อนึ่งรบกวน เพื่อนๆ แปะความคิดเห็นอีกรอบเด้อครับเด้อ เสียดายอะครับตั้งสิบสองคน...เนอะ...ว่ามะ
8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*
สร้อยสน
กุหลาบโรยกลิ่นหอมเย็น ฟุ้งกรุ่นกำจายทั่วบริเวณ บางกลีบปลิวลมมาเคลียแขน กลิ่นกลีบอ่อนบางซ่านเข้าไปถึงในใจของชายหนุ่ม ผู้ห่างสัมผัสอันหอมหวานมานานนัก
เขามาที่ส่วนสวนกุหลาบนี่เป็นประจำ เพราะนอกจากสีและกลิ่นอันพึงใจแล้ว เขายังจะได้มีโอกาสได้ทอดตามองอีกคนที่เขาเฝ้ามองมาตลอด
สวนสาธารณะแห่งนี้มีทั้งกลุ่มไม้ดอก ไม้ใบ ไม้โชว์กิ่ง และไม้ให้ร่ม ปลูกร่วมและสลับกลุ่มกันได้จังหวะจนน่านั่งไปเสียทุกมุม จากตรงซุ้มกุหลาบข้ามลานหญ้าไปก็เป็นส่วนของสวนสนหลากพันธุ์ ไม่ไกลเกินกว่าที่สายตาของชายหนุ่มจะจับจ้องไปยังหญิงสาว ซึ่งก็มานั่งอยู่ที่ม้านั่งใต้เงาสนนั่นเป็นประจำเช่นกัน
ลมกรรโชกแรงขึ้นจนกุหลาบเหลืองโรย ต้องปลิดกลีบทิ้งเกสรไปทั้งดอก เช่นเดียวกับเพื่อนต่างสีที่พากันสลัดก้านปล่อยให้ละอองเรณูปลิวลมตลบจนเขาต้องหลับตาหลบพิษแห่งความหอมของราชินีดอกไม้ พลางรีบปิดสมุดบันทึกในมือด้วยเกรงว่าความรักความหลังจะปลิวไปไกลจนเกินเก็บคืน
สิ่งหนึ่งสัมผัสแขนแกร่งด้วยความแผ่วเบาแล้วพาดไพล่อยู่ที่หน้าตัก เมื่อลืมตาก็เห็นว่าเป็นแพรโปร่งบาง สอดดิ้นทองงามระยับราวกับเครื่องประดับมากกว่าเป็นแค่ผ้าคลุมผม เขามองกลับไปยังเจ้าของ ซึ่งนั่งอยู่ใต้หมู่สนฝั่งโน้น ลมเอยช่างเป็นใจให้ช้ำ พัดยอกย้อนจนมีเหตุเป็นอันต้องสบสายตากันจนได้
เธอนั่งนิ่งราวไร้ความรู้สึกใด เพียงสายตาที่มองเท่านั้นเขาก็จำต้องมาส่งแพรบางคืนให้ถึงมือ ทั้งที่อยากจะแอบซ่อนเก็บมันไว้จะแย่
ขอบคุณค่ะ....อยู่คุยเป็นเพื่อนกันก่อนก็ได้นะคะ...ฉันเห็นคุณมานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ทักทายกันเลย....มาที่นี่เป็นประจำเหมือนกันนะคะ....ท่าทางจะชอบกุหลาบมาก เห็นมาทีไรก็ตรงไปอยู่ในสวนกุหลาบนั่นตลอดเลย
ตลอดเวลาของการเปิดบทสนทนาอันยาวนาน เขาได้แต่เพียงมองลึกลงไปในแววตาใสหมดจดของเธอ
พยายามมองให้ลึกไปถึงข้างใน จนไม่แน่ใจว่าเขาไม่เห็นอะไรหรือในนั้นไม่มีอะไรกันแน่ จึงพยายามมองหาทุกซอกมุมที่พอมี ทว่าทุกส่วนคงยังว่างเปล่า และลืมไปว่าปล่อยให้ฝ่ายที่เพิ่งกล่าวขอบคุณ พูดอยู่คนเดียวมาหลายคำ
อ้อ...ครับ....ผมชอบกลิ่นกุหลาบน่ะครับ....มันหอมเย็นชื่นจนช่วยให้ผ่อนคลายและสบายใจขึ้นมาก... เขายิ้มให้ทั้งหน้าเมื่อเธอยิ้มตอบกลับมาอย่างเต็มใจ
นิลค่ะ...ดาวนิล....ยินดีที่ได้ทักกันเสียทีนะคะ เธอชิงแนะนำตัวเองเสียก่อน จนเขาไม่ทันคิดอะไรได้มากไปกว่า แนะนำตนเองตอบไปโดยอัตโนมัติ
ชื่อกานต์ ที่แปลว่าที่รักหรือเปล่าคะ...แหมชื่อยังกับพระเอกนิยายรายสัปดาห์ เธอหยอกอย่างเป็นกันเองได้เร็วเกินไปด้วยซ้ำ แต่ว่าชื่อคุณนี่คุ้นหูจังค่ะ.....แต่จำไม่ได้เสียแล้วหละค่ะว่าเคยมีใครที่รู้จักมาก่อนมีชื่อนี้ เธอเอื้อมมือมาแตะเบาๆ ที่ต้นแขน ท่าทีแสดงความขอโทษทั้งที่ยังมิได้ทำผิดกิริยาอันใดเลย
ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณนิล.....ทำไมมานั่งตรงนี้คนเดียวตลอดเลยเล่าครับ เขาพลาดไปโดยไม่ทันสะกิดใจ
เอ๊ะ...คุณกานต์แอบมองนิลอยู่ตลอดเลยหรือคะ เธอยังคงอารมณ์แจ่มใส
ขอโทษครับที่เสียมารยาท....ผมหมายความว่า...เอ่อ... คนที่เฝ้ามองมาตลอดจึงได้แต่ตะกุกตะกักอยู่แค่นั้น
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ...ก็จริงนี่คะ....นิลมานั่งที่นี่คนเดียวตลอดมา....มานั่งรื้อฟื้นความทรงจำเก่าๆ น่ะค่ะ
เพียงแค่นั้นทั้งคู่ก็นิ่งงันจมอยู่กับความคิด ความรัก ความหลังของแต่ละฝ่าย กานต์ยังจำเธอที่รักของตนได้ตลอดมา ทั้งยังย้ำกับใจว่ายังรักเธอมั่นเสมอ สิ่งใดที่เธอจะได้มีความสุขกับชีวิตเขาก็จะยินดีหามาพลีให้ ได้แม้แต่ชีวิตตัวเอง
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร เพราะอาการกรีดปลายนิ้วค่อยสานสิ่งหนึ่งอยู่นั้นดูเป็นไปตามความเคยชินมากกว่าจะตั้งใจ
สร้อยสน....สวยจริงครับคุณนิล เขาเอ่ยปากทักสิ่งที่อยู่ในมือเรียวละมุน ทำลายความเงียบและห้วงคำนึงของหญิงสาวตรงหน้า
ค่ะ...สร้อยสน...ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าฉันชอบร้อยมันตั้งแต่เมื่อไหร่...รู้แต่เพียงว่า...ฉัน...เคยร้อยมันด้วยหัวใจทั้งดวง และด้วยสร้อยสนนี่แหละค่ะที่ร้อยหัวใจอีกดวงของคนที่ฉันรักเอาไว้
เธอสลดลงเล็กน้อย คล้ายดอกไม้งามต้องแสงแรงร้อนของแดดบ่าย
น่าอิจฉาความรู้สึกดีๆ ของคุณนะครับ เขาจะเอ่ยอันใดได้มากกว่านี้อีกเล่า
อย่าเลยค่ะ....สิ่งใดที่ทำให้เรารู้สึกดีมากๆ หากวันใดมันห่างหาย หรือว่าเราเผลอลืมเลือนไป แต่แล้ววันหนึ่งเรากลับห่วงหาหรือจดจำมันได้ขึ้นมา ความรู้สึกดีมากๆ นั้นจะกลับมาทำร้ายความเป็นตัวของตัวเราได้รุนแรงพอๆ กัน โดยเฉพาะความรู้สึกที่เรียกว่า รัก
ดาวนิลไม่ได้หยุดมือจากการถักร้อยเส้นใบสนในมือ เขาสังเกตเห็นว่า มือนั้นสั่นเล็กน้อย แล้วปลายเล็บบางก็เผลอจิกให้สายใบสนขาดจากกัน
อุ๊ย....ขาดเสียแล้ว....ตั้งใจว่าจะร้อยให้คุณกานต์ในฐานะคนที่จะเป็นมิตรที่ดีต่อกันในโอกาสต่อไป....เดี๋ยวจะร้อยให้ใหม่นะคะ คนพูดรวบกำเศษเส้นแหลกสลายไว้ในมือ ราวกับว่าอยากจะหลอมมันด้วยกระไอร้อนแห่งชีวิตให้มันได้หวนคืนดังเก่ากระนั้น
เขาแอบหวังว่า แม้สร้อยสนเส้นขาดนั้นก็เพียงพอแล้วกับตน ทว่าเธอกลับโปรยมันลงรวมกับเศษก้านใบแห้งแข็งตรงหน้า สุดที่เขาจะเอ่ยอะไรออกมาได้ จึงเพียงแต่เพียงเอื้อมหยิบมันขึ้นมาพินิจดูอีกครั้ง
น่าเสียดาย...ไม่น่าเชื่อว่าเส้นใบสนแข็งๆ เป็นข้อเล็กๆ นี่จะเอามาร้อยเป็นอะไรแบบนี้ก็ได้นะครับ ชายหนุ่มแสดงความเห็นราวกับตนไม่เคยเห็นความละเอียดอ่อนเช่นนี้มาก่อน
ไม่ต้องเสียดายหรอกค่ะ....ฉันร้อยมันได้แค่ลายนี้ลายเดียวเท่านั้น ลายเดียวที่ฉันจำได้...จะด้วยสิ่งใดก็แล้วแต่ เส้นใหม่นี่ก็ไม่เคยด้อยกว่าเส้นเก่าเลยค่ะ แม้ว่ามันจะไม่เคยสวยงามกว่าก็ตาม
ความเงียบมาเยือนคนทั้งสองอีกคราว ภาพความหลังมีแรงมหาศาลในการดึงให้ทั้งคู่กลับไปจมอยู่กับอดีตอีกครั้ง ภาพของหญิงสาวที่เขาเฝ้ามองมานานกลายเป็นเพียงฉากหนึ่งของชีวิตที่ผัดผ่านความรานร้าวร้ายมาหนักหนาสาหัส อาจจะเช่นกันกับสร้อยสนเส้นใหม่ในมืองาม ที่เจ้าตัวดูจะตั้งใจจับจ้องและระมัดระวังไม่ได้มันขาดจากกันเหมือนอย่างเส้นก่อนหน้า
หมู่นกทยอยกลับรังที่กลุ่มไม้ใบหนา ถัดสวนกุหลาบไปอีกด้าน ลมแรงพัดหวนย้อนกลับมาจากทางนั้น จนกลิ่นหอมอ่อนกำจายผ่าน เธอยืดตัวขึ้นตรงสูดหายใจยาวขณะมองไปยังซุ้มกุหลาบนั่น เขามองตามนิดหนึ่งก่อนจะกลับมามองตาเธอ นัยตารื้นน้ำฉ่ำชื่นยังคงไม่มีอันใดเคลือบแฝงเช่นเคย
หากยังรักยังคิดถึง ทำไมไม่กลับไปหาสิ่งที่เรารัก เราคิดถึงล่ะครับ เขาไม่รู้เลยว่า ข้อความที่กล่าวออกมานี้จะกรีดแทงเข้าไปถึงส่วนไหนของหัวใจเธอ หญิงสาวจึงหลั่งน้ำตาพราวอันแม้จะซ่อนไว้ด้วยการก้มหน้า หากหยดน้ำใสยังหยาดลงมิได้หยุด
คุณครับ...คุณ...คุณนิล....เป็นอะไรไปครับ...ผมขอโทษ...ขอโทษนะครับหากว่าพูดอะไรผิดไป
อีกเป็นนานกว่าอีกฝ่ายจะข่มน้ำตาน้ำใจของตนให้กลับมาดำรงสติกับปัจจุบันได้ดูสิ ขาดอีกจนได้ คุณกานต์คะ ฉันตั้งใจจะร้อยมันให้กับคุณจริงๆ รออีกครู่นะคะ เธอยังถอนสะอื้น จนถ้อยคำขาดเป็นห้วงๆ
วันหน้าก็ได้ครับ.......ผมต้องขอโทษจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณรู้สึกไม่ดีขนาดนี้เลย
เพราะแดดอ่อนเริ่มปรับสีฟ้าเป็นชมพูหม่นซีดและหมอง แมลงกลางคืนเริ่มระงมขานทักทายยามอาทิตย์ย่ำยอแสง กลิ่นกุหลาบจางเริ่มถูกแทนด้วยดอกไม้กลางคืน ซ่อนกลิ่นคละกลิ่นมากับราตรีและวาสนา ทั้งนั้นหอมฉุนรุนแรงชวนวิงเวียนมากกว่าจะสดชื่น
ผมว่าผมคงต้องกลับก่อนแล้วหละครับ
เขาบอกอย่างเกรงใจเธอเต็มที่ กระไรเลยกับความเป็นสุภาพบุรุษซึ่งต้องยกไปไว้เสียอีกทางหนึ่งก่อน
คุณ ก็ควรจะกลับได้แล้วนะครับ
.ถ้า
หากว่า ผมต้องเป็นเหตุให้คุณรู้สึกเศร้าหรือเสียใจ ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรก็ตาม
..ผม
..ผม
ก็ ก็ควร จะต้องไปจากตรงนี้เสียที
ได้โปรดเถิดค่ะ
โปรดอยู่เป็นเพื่อนฉันอีกสักครู่ อีกครู่เดียวเท่านั้น เมื่อ
.. เมื่อตะวันลับฟ้าเราค่อยไปจากตรงนี้พร้อมๆ กัน เสียงของหญิงสาววิงวอนจากส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเพียงในประโยคแรก แล้วความเลื่อนลอยก็กลับมาประทับตรงที่เดิมของมันอีกครั้ง
เงาไม้ของหมู่สนทอดยาวหนีแรงแสงอันอ่อนล้า หรีดหริ่งเรไรสงัดเสียงลงเหมือนตกใจในคำพูดของเธอ เขาใจหายวาบ เผลอตัวตะลึงมองจ้องตาอีกฝ่ายอย่างมีความหวัง โน้นตัวเข้าไปใกล้เพื่อหมายจะมองว่ามีสิ่งไรบ้างที่กำลังดิ้นเร่าอยู่ในแววตาใสทว่าหม่นหมองตรงหน้า
สมุดบันทึกอันแอบซุกกายอย่างเงียบเชียบอยู่ในซอกแขนข้างใกล้หัวใจของเขามาตลอด จึงเลือนมานอนราบอยู่บนหน้าตัก ทั้งทำท่าจะเผยอเปิดเผยใจความทั้งหมดซึ่งเขาสู้อุตส่าห์ฝากฝังไว้กับมันอย่างเชื่อใจ
กานต์รีบตะครุบมันไว้ได้ทันแต่เพียงปกข้างหนึ่ง เมื่อหน้ากระดาษสีซีดเซียวเปิดพลิกไล่กันไปตามแรง สิ่งซึ่งคั่นอยู่ในหน้าหนึ่งนั้นก็โรยตัวช้าๆ ลงไปกองรวมกับเศษเส้นใบสนก่อนหน้า
ก่อนที่เขาจะก้มลมหยิบมันได้ หญิงสาวก็ฉวยสร้อยสนซึ่งแผ่บางเพราะทับไว้ในที่แห้งมาเป็นเวลานาน เธอพลิกมันไปมาอย่างจะพิจารณาให้ถ่องแท้ว่ามันจะเกิดมาเป็นสร้อยนี้ได้นานสักเท่าไรแล้ว ทั้งยังนำมันลงวางทาบเทียบกับเส้นใหม่บนข้อแขนของตนเอง
ขอ
.
ลายเดียวกันเลยนะคะ
..แต่
คิดว่าคงสวยกว่าของนิลแน่ๆ
ดาวนิลยิ้มอย่างที่อารมณ์แจ่มใสกลับมาเยือนแล้ว จนเขาต้องแอบระบายลมหายใจเบาๆ อย่างโล่งอก
อย่างนี้ก็ขายหน้าแย่เลย
ริจะสอนหนังสือสังฆราชเสียแล้ว เธอยื่นสร้อยสนเส้นเก่านั้นมาให้เขาอย่างระมัดระวัง
ไม่ใช่ฝีมือผมหรอกครับ
เมื่อก่อนผมเคยลองหัดแต่ไม่เคยทำได้ดี และ
.และเดี๋ยวนี้
ผมหมายถึงว่าหลังจากนั้น ผมก็ไม่คิดจะทำมันขึ้นมาอีกเลย เขาพยายามปะติดปะต่อคำพูดโดยไม่ให้สะเทือนใจใครเลยสักคน
นิลร้อยสร้อยสนนี่ตลอดเวลาเพราะรู้สึกได้เหมือนว่ามีใครสักคนมาคอยนั่งรอยื่นข้อมือมาให้ลองสวม
มีใครสักคนมาคอยให้กำลังใจเมื่อมันขาดออกจากกัน
.คุณกานต์ก็คงเหมือนกัน
.สร้อยสนของคุณก็คงสำคัญกับคุณมากสินะคะ เราอาจจะมีอะไรเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง
.นั่นคือยังผูกพันกับความสุขที่ผ่านเลยไปแล้ว
โดยตลอดหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้แสดงอาการหรือน้ำเสียงอย่างใดที่จะทำให้เขารู้สึกว่า เธอกลับไปเศร้าหมองหดหู่อีกครั้ง นั่นอาจเป็นเพราะขณะนี้เธอได้พบกับเพื่อนร่วมทุกข์อย่างเดียวกันแล้วก็เป็นได้
ครับสร้อยสนเส้นนี้
.เธอ
ที่รักของผมร้อยไว้ให้ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าเขาจะพยายามเรียบเรียงถ้อยคำอย่างไร ก็ไม่อาจสกัดกั้นข้อเรียกร้องจากหัวใจของตนเองได้
หยุดเถิดค่ะ
.ถ้านิลอยากจะฟังอะไรสักอย่างจากคุณ ก็ขอฟังช่วงเวลาแห่งความสุขของคุณเถิดนะคะคุณกานต์ เธอถึงกับส่งปลายนิ้วเรียวงามมาแตะริมฝีปากของเขา
ยังดีที่คุณรู้ว่าคุณเก็บมันไว้เพื่ออะไร แต่กับนิล
นิลไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะร้อยมันเพื่อใครหรือเพื่ออะไร
.
ขณะนี้เหมือนเสียงหัวใจของชายหนุ่มจะดังกลบเสียงใดๆ ได้ทั้งสิ้น หรือว่าความพยายามที่ต้องทุ่มเทพลังใจทั้งหมดจะมามลายลงเสียในย่ำค่ำคืนนี้
อย่างนี้
คุณกานต์คงไม่ต้องการสร้อยสนของนิลอีกแล้วใช่ไหมคะ หญิงสาวถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ความกระตือรือล้นเมื่อแรกมลายหายไปหมดสิ้นแล้ว
จันทร์เสี้ยวสะท้อนแสงนวลใสได้ทันทีที่อาทิตย์ลับขอบฟ้าไปทั้งดวง ลมยังโชยกลิ่นดอกไม้ขาวให้อวลตรลบอยู่รอบกาย กบเขียดเริ่มโผล่ขึ้นจากสระเพื่อลิ้มหยาดน้ำค้างแรก เขาเบือนหน้าไปเสียทางอื่น เพราะไม่อยากสบสายตาเธอไปพร้อมๆ กับการโกหกอย่างร้ายกาจที่กำลังจะพูดออกมา
เธอที่รักของผม ได้จากผมไปแล้วครับ จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ด้วยอุบัติเหตุในครั้งนั้น
คุณกานต์คะ
เห็นแก่มิตรภาพที่เพิ่งเริ่มต้นของเราสองคนเถิดค่ะ
.กรุณาอย่าพูดเรื่องอย่างนี้ให้นิลฟังอีกเลย
..นิลฟังมามากพอแล้ว
.จากปากของคนอื่น ขอคุณไว้สักคนได้ไหมคะ
.อย่าทำให้นิลต้องทรมานเหมือนกับคนอื่นๆ อีกเลย
เธอถึงกับคุกเข่าลงตรงหน้าของเขา และเปลี่ยนจากตั้งใจจะให้เป็นสร้อยข้อมือ ให้กลายเป็นที่คั่นหนังสืออันใหม่อีกอัน แม้นเธอไม่ได้บอกว่าขอให้สร้อยสนของเธอได้วางอยู่เคียงข้างกับสร้อยสนเส้นเดิม แต่เขาก็บรรจงสอดซ้อนมันไว้กับหัวใจดวงเก่าของเขา พร้อมกับรับปากกับเธอเบาๆ
ครับคุณนิล
ผมรับรองว่าจะไม่ทำให้คุณเสียใจหรือลำบากใจอะไรอีกเลย
..เรากลับกันเถิดครับ
น้ำค้างลงแล้วเดี๋ยวจะไม่สบายไปเสียเปล่าๆ
ค่ะ
.กลับกันเสียที
.ให้นิลช่วยไปส่งคุณที่ในตึกนะคะ
หญิงสาวอ้อมไปด้านหลัง แล้วค่อยผ่อนแรงเข็นรถเข็นให้เพื่อนใหม่ผู้มีขาทั้งสองข้างเหลือเพียงแค่เข่า
ในใจยังคงคิดว่า สร้อยสนที่เธอจะบรรจงร้อยเป็นพิเศษในวันพรุ่งนี้ คงจะช่วยรื้อฟื้นความทรงจำของตนให้มันกลับมาได้บ้าง
ทั้งยังอดคิดไม่ได้ว่า อุบัติเหตุที่ทำให้คนตรงหน้าถึงกับพิการอย่างสาหัสนี้ จะเป็นคราวเดียวกันกับที่ทำให้เธอสูญเสียความทรงจำทั้งหมดไปหรือเปล่าหนอ
8*8*8*8*8*8*8*8*8*8*8
(แด่ สวนฝันในโลกแห่งความเป็นจริง BOTANIC GARDEN; Wollongong City ,NSW, AU.)
แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 47 01:31:41
จากคุณ :
SONG982
- [
15 มิ.ย. 47 01:30:16
]