CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown



    "Man Hunting" 1/2

    ตอนนี้มันยาวค่ะเลยขอแบ่งออกเป็นสองตอนแล้วกันนะคะ มีอะไรขัดหูขัดตาอ่านแล้วไม่สบอารมณ์ก็บอกมาได้เลยนะคะ ยินดีรับฟังเสมอค่ะ

    บทที่ 1

    “วางแผนที่จะกระโดดลงไปหรือไง เป็นฉันจะไม่ทำหรอกนะเคท ให้ตายเหอะ...กำลังจะไม่มี ผ้าไหมเหลือแล้วนะเนี่ย”

    “ฉันกำลังเช็คสภาพอากาศ” เคท สเวนสัน พูดด้วยความอดทน แล้วก็กลับไปมองดู นอกหน้าต่างอพาร์ทเมนท์ของเธอ รู้ว่าเจสซี่จะหมดความสนใจและก็หันกลับไปสนใจกับ หนังสือพิมพ์ถ้าเธอทำเพิกเฉยกับหล่อนนานพอ

    เธอดึงผ้าม่านหนาเพื่อที่ให้แสงแดดยามเช้าของเดือนสิงหาคมเข้ามา ถึงแม้เพื่อน ที่ดีที่สุดจะนั่งอยู่ข้างหลัง ทำเสียงกรอบแกรบด้วยหนังสือพิมพ์และนั่งจิบกาแฟ เคทก็ยังรู้สึก เหงาอยู่ดี เธอเหมือนตกอยู่ในภวังค์แห่งความสิ้นหวังซึ่งแม้แต่ปรัชญาของเจสซี่ก็ไม่เข้าหู นี่ไม่ทำให้เกิดอะไรดีขึ้นมา เธอบอกกับตัวเองและเดินออกห่างจากหน้าต่างไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว ซึ่งคลุมด้วยผ้าลินิน พยายามที่จะใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับอาหารเช้า กาแฟ และหัวข้อธุรกิจใน เดอะ ซันเดย์ เพเพอร์ แต่ความคิดของเธอก็มุ่งมั่นอยู่แต่กับสถานะที่ทนทุกข์ของชีวิตเธอ

    แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะถึงขนาดทนทุกข์ เธอคิด ที่จริงไม่ได้ทนทุกข์อะไรเลย ฉันมีอาชีพ ที่ดีในตำแหน่งผู้จัดการที่ปรึกษาเอกของบริษัท แน่นอนว่าฉันไม่อยากให้พ่อเป็นเจ้าของบริษัทและบางครั้งมันก็ช่างน่าเบื่อแต่ยังไงก็เป็นอาชีพที่ดี ใช่...เป็นอาชีพที่โอเคนะ

    ด้วยความพยายาม เคทเอาเรื่องอาชีพออกไปจากสมองและหันกลับมาสนใจกับ แคทตาล็อคในมือต่อ ชีวิตของเธอที่ผ่านมานั้นก็ดี สุขภาพก็สมบูรณ์และก็มีเงินใช้จ่าย อย่างสบาย ๆ มีเพื่อนที่ดีเยี่ยม เพื่อนที่เป็นคนที่ดีที่สุดที่เธอกินอาหารเช้าด้วย ในห้องอพาร์ทเม้นท์ที่เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์อันงดงามจากฝรั่งเศส ซึ่งแน่นอนว่าเธอ ไม่สามารถซื้อหามาได้ถ้าเธอไม่มีอาชีพบ้า ๆ นี่

    ไม่นะ...เคทวางความคิดติดลบของเธอและชะเง้อมองเลยขึ้นไปจากหนังสือของเธอ ไปยังที่คนที่มีนัยน์ตาและผมสีน้ำตาลแก่ที่อ่านหนังสือพิมพ์ของเธอและก็กำลังกินกาแฟของเธอด้วยความใส่ใจทั้งหมดที่มีเหมือนกับที่ให้สิ่งอื่น ๆ

    เจสซี่ โรเจอร์เงยหน้าขึ้นมา ผมหยิกสลวยของหล่อนกระเด้งเล็กน้อย “อะไรเหรอ”

    “ไม่มีอะไรหรอก” เคทบอก “ก็แค่นั่งนับพรที่ขอ เธอเกือบจะเป็นข้อแรก”

    “ฉันเนี่ยนะข้อแรก นั่นก็เป็นสิ่งยืนยันได้เลยว่าเธอน่ะมีชีวิตที่แย่ขนาดไหน” เจสซี่พูด แล้วก็หันกลับไปที่หนังสือพิมพ์

    เชื่อหรอกว่าเจสซี่จะตัดบทไปง่าย ๆ เคทคิด หล่อนนั่งอยู่ตรงนั้นแล้วดูเหมือน ออเดรย์ เฮฟเบิร์น ที่อายุสิบสอง แล้วนี่ฉันดูเหมือน เกรซ เคลลี่ ที่อายุห้าสิบ ทั้ง ๆ ที่เรา สองคนอายุสามสิบห้า นี่หล่อนไม่สนใจเลยหรือไงนะว่าช่วงเวลาของชีวิตกำลังผ่านไปจากเรา ในขณะที่เรามีอาชีพที่เราไม่อยากทำ

    แน่นอนว่าเจสซี่ไม่ได้ใส่ใจ ชีวิตของหล่อนไม่ได้กำลังจะผ่านพ้นไป แต่หล่อนกำลังใช้มัน หล่อนไม่ได้ทำงานในสิ่งที่หล่อนไม่ต้องการ หล่อนทำในสิ่งที่รัก ถ้าคุณสามารถเรียกงานตกแต่งหน้าเค้กเป็นอาชีพได้ ซี่งแน่นอนว่าเจสซี่เรียกมันว่าเป็นงานที่หล่อนรัก ถึงแม้ว่าการที่หล่อนอยู่ได้อย่างไรกับงานนั้น เคทไม่เคยรู้ เจสซี่อยู่อย่างเรื่อยเปื่อยไม่เคยวางแผนเลย ไม่แน่ถ้าเคทไม่ได้วางแผนว่าเธอควรมีอาชีพอะไรเอาไว้อย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าถ้าเธอทำอะไร อย่างอื่น...............

    หยุดเลย เธอบอกตัวเอง เธอเป็นผู้จัดการที่ปรึกษาที่ดีและเธอก็ทำเงินได้เยอะแยะ ไม่ใช่เป็นเพราะงานที่ทำรบกวนเธอ แต่เป็นเพราะชีวิตที่โดดเดี่ยวของเธอเอง แน่นอนว่าเจสซี่ มีความสุขมากกว่าที่ผ่านมา หล่อนไม่ได้ทำตัวเองให้มีคู่หมั้นที่น่ารังเกียจถึง 3 คนในเวลาเพียง 3 ปี เพราะว่าหล่อนไม่ได้กังวลเลยว่าหล่อนอายุปาเข้าไปถึงสามสิบห้าแล้วแถมยังไม่ได้แต่งงานอีกด้วย เป็นฉันเองที่กังวล เคทคิด เธอเป็นคนเดียวที่ผิดและทนทุกข์ มันไม่น่าที่จะมีปัญหาแต่มันมี เพราะว่ามันไม่มีอะไรที่เธอสามารถทำได้

    น่าเวทนานัก เคทถอนหายใจและกลับไปให้ความสนใจกับหนังสือต่อ

    เจสซี่ปิดหนังสือพิมพ์แล้วตบมันลงบนผ้าลินินที่คลุมโต๊ะอยุ่นั้นและพูดด้วยเสียงอันดังว่า “ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของพ่อเธอ”

    เคทสะดุ้งเฮือก มองขึ้นมาจากหนังสือ “อะไร ระยะขั้นฝืดในวงจรธุรกิจ โครงสร้างในปี 70 คาลวินหากิจกรรมยามว่างไม่ได้ อะไรเหรอ”

    อย่าทำแกล้งโง่น่า” เจสซี่กอดอกมองมาที่เธอ “เธอไม่มีความสุขเลย”

    “ไม่จริง ฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้น” เคทแก้ บังคับตัวเองให้ยิ้ม “อ่านมาจากในหนังสือเหรอไง อ่านอะไรเหรอ ฉันบอกแล้วว่าไม่ให้อ่านเกี่ยวกับเรื่องบุคคล เธอร้อนใจแทนคนที่โดดเดี่ยวและเธอก็เลยโยนปัญหานั่นมาที่ฉัน ฉันสบายดี อ่านหน้ากีฬาซะ” เธอกลับไปสนใจที่หนังสือต่อ ถือมันให้เหมือนเป็นโล่กำบังข้างหน้าเธอ

    เจสซี่ไม่ปล่อยให้ผ่านไปได้เหมือนเคย “ก็เธอถอนหายใจอยู่ตลอด ฉันไม่มีสมาธิในการอ่านเรื่องการท่องเที่ยวและเวลาว่างในขณะที่เธอนั่งถอนหายใจอยู่ข้าง ๆ”

    “ฉันไม่ได้ถอนหายใจสักหน่อย” เคทพูดโดยที่ไม่ยอมมองตอบ “ก็แค่ไซนัสน่ะ”

    “ไม่ใช่เลย” เจสซี่หรี่ตามองมา “เธอคงไม่ได้ติดใจเกี่ยวกับคนหน้าไว้หลังหลอกอย่าง อีตาดีเรคหรอกนะ หรือว่าใช่”

    “ไม่” เคทยังคงสนใจอยู่กับหนังสือ “ฉันไม่ได้ติดใจเกี่ยวกับคนหน้าไว้หลังหลอกนั่น มันไม่ใช่เวลาที่จะมาทำตัวมีประสิทธิภาพนะ กลับไปอ่านเรื่องการท่องเที่ยวและเวลาว่าง เถอะ”

    เจสซี่จับมุมหนังสือของเคทและดึงมันลง เพื่อที่เธอจะได้มองเข้าไปในตาของเพื่อนรัก “เธออยากแต่งงาน”

    จากคุณ : Arissara - [ 17 มิ.ย. 47 20:15:16 A:62.167.78.219 X: ]