7)
พ่อของผมได้รับตำแหน่งใหม่..จากพนักงานขับรถขนเงิน เป็นพนักงานนั่งรถ
ฮะฮะ..อย่าเพิ่งงงครับ..คือแทนที่แกจะต้องขับรถเอง แกก็ได้มานั่งเฉย ๆ ตรงเบาะข้าง ๆ
คอยคุมพนักงานขับรถอีกที
แล้วคอยเช็คเงินให้ตรงกับเอกสาร และให้เอกสารมีชื่อคนรับเงิน
งานสบายขึ้น ได้เงินเดือนมากขึ้น
ที่ผมรู้เพราะวันนี้...พ่อพาผมไปด้วย
ตอนนี้ผมคลานและนั่งได้แล้วครับ
(เก่งจัง...ขอบคุณที่ชมคร๊าบบบบ)
เหตุที่พ่อพาผมไปด้วย เพราะแม่ไม่อยู่
แม่ไม่สบาย..ต้องไปนอนโรงพยาบาล
พ่อจึงพาผมไปที่ที่ทำงาน
ที่ทำงานของพ่อเป็นตึกใหญ่โต
เป็นธนาคารแห่งหนึ่งย่านสีลม
แถวนี้ตอนผมเป็นผู้ใหญ่(เมื่อชาติที่แล้ว) ผมเคยมาทำธุระบ่อย ๆ
ธุระนั้นไม่ใช่อะไร..แหะ..พาแฟนเดินเล่นที่ซอยละลายทรัพย์
ซอยละลายทรัพย์อยู่ข้างธนาคารกรุงเทพฯ
คนเดินกันอย่างกะมด..มุงกันอย่างกะมีของแจกฟรี
ทั้งที่ของที่ขายนั้นราคาก็ใช่จะว่าถูกจากที่อื่น
เพียงแต่มีของให้เลือกมากกว่าเท่านั้นเอง
****
พ่อพาผมไปฝากกับน้าสาย
น้าสายเป็นคนละคนกับน้าสายที่เป็นกระสือ
กระสือที่ฉายในหนังเมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว
น้าสายคนนี้รวบผมไว้ข้างหลัง
ปล่อยให้ผมสองสามเส้นตกมาปรกหน้าผาก
เธอทาปากสีแดง..แดงจนนึกว่าคาบพริกชี้ฟ้าไว้
ตาก็ดุ๊ดุ
แต่ใจดี๊ใจดี
แกเป็นแม่บ้านอยู่ที่นี่
"ต๊าย..น่ารักจังเลย.."
"อ้วนจ้ำม่ำดีเหลือเกิน.."
"ภรรยาผมไม่สบายครับ" พ่อบอก
"เป็นไรคะ?"
"หมอบอกเลือดจาง..ต้องนอนให้น้ำเกลือสองสามวัน..ผมก็เลยต้องกระเตงลูกมาด้วย"
"ที่บ้านไม่มีใครอยู่เลยหรือ?"
"เราอยู่กับสามคนพ่อแม่ลูก..ไอ้จะไปฝากกับญาติก็ไกลและฉุกละหุกเหลือเกิน..ผมเลยเอามาทำงานด้วย"
ผมดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของน้าสาย
"ลูกสิงห์ของผมเลี้ยงไม่ยากครับ..ไม่งอแง..นาน ๆ ทีถึงจะร้องไห้..คุณสายแค่ชงนมให้แกกินก็พอแล้ว.."
"ไม่เป็นไรค่ะ..สบายอยู่แล้วเรื่องนี้.."
"ผมต้องรบกวนด้วยครับ..เย็นผมถึงค่อยพาแกไปอยู่กับญาติ จนกว่าภรรยาของผมจะกลับบ้าน"
"เอ๊ะ..ทำไมดิ้นจังล่ะลูก.."
น้าสายถามผม..
ผมซึ่งกำลังทำหน้าเบ้..
น้าสายจั๊กกะแร้เหม็นจะตาย..
แอะ..
****
ผมอยู่กับน้าสายสบายมาก..ก็อย่างว่าล่ะครับ ถึงตัวผมจะเป็นเด็กทารก แต่หัวใจและความรู้สึกนึกคิดของผม
เป็นผู้ใหญ่นี่นา
จะว่าไป น้าสายแกก็เป็นคนดี
เสียแต่ตอนผมฉี่..แกมองที่หูด้งของผม..แล้วชอบทำตาวาว
"อุแม่เจ้า.."
ผมก็เขินดิครับ..ทำหน้าแดงให้แกเห็น
ยิ่งแกเห็นแกยิ่งแหย่ผมใหญ่
"ตัวแค่นี้รู้จักเขินแล้วเหรอยะ..พ่อหนุ่ม"
ช่วงกลางวัน ผู้จัดการแบงก์นั้นเห็นผมเข้าก็อุทานออกมา
"อะไรกันคุณสาย..ผมไม่ยักรู้ว่าคนที่ยังไม่มีแฟนก็มีลูกได้.."
"ว๊าย..ผู้จัดการล่ะก้อ..พูดอย่างงี้อีชั้นเสียหายนะคะ.."
ผู้จัดการวัยเลยกลางคนมาได้ไม่นานนั้นหัวเราะอย่างใจดี
"ลูกใครละครับ.."
"คุณนิเวศน์ค่ะ..พอดีเมียแกไม่สบาย ที่บ้านไม่มีใครดู เลยเอาฝากอีชั้นเลี้ยงวันหนึ่ง เห็นว่าเย็นจะเอาไปฝากไว้กับญาติ.."
"อ๋อเหรอ..อือม์ หน้าตาน่าเอ็นดู..แน่ะ..ว่าแล้วยังจะมาจ้องหน้าอีก.."
เขาพยักพะเยิดกับผม..
"ไม่ให้มองหน้าแล้วจะให้มองอะไรล่ะกั๊บ.." ผมถามด้วยเสียงอือ..
"เด็กคนนี้ทะเล้นดีแท้..ไม่กลัวคนแปลกหน้าเลย..ว่าไงไอ้หนุ่ม..เย็นนี้ไปกินเหล้ากับลุงไม๊?"
ทั้งมือทั้งเท้าผมดิ้นกระแด่วเพื่อเป็นการตอบรับ
น้ำลายฟูมปากตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
ผู้จัดการหัวเราะเสียงดังลั่น
****
จะเป็นเพราะว่าผมเป็นเด็กที่อุ้มง่าย..ไม่งอแง
ผมเลยมีโอกาสถูกอุ้มโดยสาว ๆ ที่เป็นพนักงานแบงก์หลายต่อหลายคน
แต่ละคนมีอ้อมกอดที่นุ่มนิ่มต่างกัน
พี่เนตร..นิ๊มนิ่ม..เสียแต่ดำไปหน่อย
พี่ดวง..แหะ..ไม่อยากผละจากอ้อมกอดแกเล้ย
พี่สวย..วาว..ผู้หญิงอะไรไม่รู้ มีแต่กระดูกเหมือนผู้ชาย
ส่วนป้าเฉิด..อุ้มผมทีแป้งที่พอกหน้าไว้นั้นร่วงกราว
ดีหน่อยที่ป้าเฉิดมีของให้ผมเล่น
ของที่ให้เล่นนั้นไม่ใช่อะไร เป็นธนบัตรใบละพันเป็นปึก ๆ
แกพาผมเข้าไปในห้องเซฟ..โหย..ผมไม่เคยเห็นเงินมากมายอย่างงี้มาก่อนเลย
แกเอาเงินออกไป..แล้วก็เอาเข้ามา..แล้วก็เอาออกไป
เดินไปเดินมา..จนแกคงรู้สึกว่าเมื่อย..แกเลยวางผมลงกับพื้นในห้องเซฟนั้น
ผมนั่งแปะ..มองที่เงินเป็นตั้ง ๆ นั้นอย่างตื่นตา
น้ำลายไหลยืดจนเต็มหน้าอก
เมื่อชาติที่แล้ว..ผมทำงานแทบตายยังไม่เคยได้เห็นเงินขนาดนี้
นับดูคร่าว ๆ ปึกละแสน มีอยู่เป็นร้อยปึก
วาว..ไม่ต่ำกว่าสิบยี่สิบล้านนะนั่น
วาว..
******
ผมนั่งน้ำลายหกมองเงินนั้นอย่างทำอะไรไม่ถูก
สักพักก็ได้ยินเสียงวี๊ดว๊ายที่นอกห้องเซฟ
มีเสียงปืนดังปัง ๆ ทะลุหลังคาที่เป็นฝ้า..
ตามด้วยเสียงฝ้าที่พังลงมา..
"หยุด..นี่คือการปล้น!!"
เป็นเสียงตะโกนเข้มของใครคนหนึ่ง
"ทุกคนอยู่กับที่ คว่ำหน้าลง ถ้าไม่อยากตาย.."
ผมใจหายวาบ..ตายล่ะวา..โจรปล้นแบงก์จริง ๆ เหรอนี่
"บอกให้ยกมือขึ้นไงเล่า.."
ผมยกมือขึ้นสุดล้า..หลับตาปี๋..
แหะ..พวกโจรยังไม่เห็นผมนี่นา..
ผมเลยลดมือลง..ค่อย ๆ คืบไปที่ประตู
อาการคืบของเด็กอย่างผม..คุณ ๆ อาจไม่เคยเห็น
เป็นอาการการเคลื่อนที่ที่คล้ายกับการนั่งพับเพียบไปด้วย
ขาที่ตั้งอยู่จะก้าวไปข้างหนา
ส่วนขาอีกข้างที่พับอยู่จะคืบตาม
โดยมีมือทั้งสองประคองอยู่ข้างหน้า
ผมถนัดท่านี้..ยิ่งกว่าท่าคลาน
ก็ท่าคลานมันทำให้ผมเจ็บเข่า
เข่าเป็นเนื้ออ่อน ๆ ที่ถูกอะไรแข็ง ๆ ก็เจ็บเหมือนกันนะครับ
ไม่เชื่อลองเข่าตู้เย็นดูสิ..เจ็บไหมล่ะ
อิอิอิ..
*****
ผมค่อย ๆ โผล่สายตามองออกไปข้างนอก
เห็นโจรใส่ถุงเท้า..เอ้ย..ถุงน่องสีดำไว้บนหัว กำลังส่ายปืนไปมา
เขามาคนเดียว..ในมือถือถุงมาอย่างกะในหนังเปี๊ยบ
พวกพนักงานแบงก์พากันหมอบอยู่กับโต๊ะ
ส่วนลูกค้า..ส่งเสียงวี๊ดว๊ายล้มลุกคลุกคลานอยู่ด้านนอกเคาน์เตอร์
แหะ..ผมไม่เห็นหรอกครับ..แค่เดาเอาน่ะ
แล้วเจ้าโจรคนนั้นก็โยนถุงโครมไปที่ป้าเฉิด
บอกให้ป้าเฉิดเอาเงินในลิ้นชักใส่ในถุง
ป้าเฉิดทำตามด้วยความลนลาน
"ทำไมเงินจึงมีน้อยนัก?"
โจรถาม
"เก็บไว้ในเซฟหมดแล้ว.."
ป้าเฉิดตอบ
"งั้นไปเอามาให้หมด..ไม่งั้นแกตาย.."
"จ้า.. ๆ อย่าทำฉันเลย..ๆๆ"
ป้าเฉิดเดินเข้ามาที่ประตูห้องเซฟ ซึ่งกว้างขนาดห้องน้ำใหญ่ ๆ ห้องหนึ่ง..ผมรีบหลบแว๊บ
ก่อนหน้านั้น..ผมเห็นสีหน้าของแกแล้วรู้สึกแปลก ๆ
แทนที่จะตกใจกลัวตาย..แต่ประหวั่นลานเหมือนกลัวความผิด..
ผมจึงรีบถอยกรูดไปหลบอยู่อีกมุมหนึ่งของเซฟ
นั่งนิ่ง ๆ ทำตาปริบ ๆ
หวังในใจว่าขอให้แกลืมว่ามีผมอยู่ในนี้ด้วย
และเพื่อไม่ให้แกเห็นผม..ผมจึงมุดเข้าไปอยู่ในถุงสีน้ำตาลใบหนึ่ง
โดยหารู้ไม่ว่าถุงนั้นจะถูกป้าเฉิดแกใช้ใส่เงินไปให้ไอ้โจรด้วยอีกใบ
ฮือ..
****
จากคุณ :
ปิ๊วปิ้ว
- [
19 มิ.ย. 47 23:34:05
A:202.5.87.45 X:
]