ข้าพเจ้าชอบถามตัวเองว่า นี่เราโรคจิตรึเปล่า?
ข้าพเจ้าคิดว่าทุกคนมีอาการทางจิตหรือเป็นโรคประสาทอยู่ในตัว จะมากจะน้อยแล้วแต่ตัวบุคคลไป แต่ละคนก็จะมีอาการไม่เหมือนกัน บางคนกลัวในสิ่งที่ไม่น่าจะกลัว เช่น กลัวน้ำเย็น กลัวกล้วย เป็นต้น บางคนก็ชอบความเจ็บปวด ชอบดมกลิ่นเหม็นๆ ส่วนข้าพเจ้าเป็นคนถนอมหนังสือมากเกินไป จนเข้าขั้นประสาทแดมีกออ่อนๆ
หนังสือทุกเล่นของข้าพเจ้าไม่ว่าจะเป็น ตำรา หนังสือการ์ตูน นิยาย วรรณกรรม และอีกสารพัดประเภท ข้าพเจ้ารักและหวงแหนราวกับลูก ตั้งแต่การไปเลือกซื้อที่ร้าน ข้าพเจ้าจะเลือกเอาเล่มที่มีสภาพดีที่สุด ข้าพเจ้าจะรื้อดูในกองตั้งแต่เล่มบนยันเล่มสุดท้าย ดูสัน ดูปก ดูกระดาษ หารอยยับ รอยขีด เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าพเจ้าเลือกมานั้นดีที่สุดแล้วในร้าน พอชำระเงินเสร็จแล้ว พนักงานก็จะห่อปกพลาสติกให้ฟรีๆ ขั้นตอนนี้ข้าพเจ้าก็จะเพ่งเล็งอีกนั่นแหละ เรียกได้ว่าแทบจะยืนจิกดูพนักงานห่อด้วยสายตาที่เผ็ดร้อน ประมาณว่า ห่อดีๆ นะ มะระอึง หนังสือกะระอูพึ่งซื้อมาใหม่ๆ ถ้าห่อไม่ดีเดี๋ยวมีโวย
และก็เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ได้โวยจริงๆ ที่ร้านดอกอะไรซักอย่างที่อยู่ติดดิน ดูเหมือนว่าพนักงานสาวจะเป็นมือใหม่หัดห่อ คือห่อปกได้ทุเรศมากๆ ไม่ได้มีความสวยเลย เหมือนเธอใช้ตอสระอีนยกขึ้นมาห่อ ข้าพเจ้าพอเห็นสภาพหนังสือใหม่ๆ ถูกเธอทารุณกรรมแล้ว ก็เกิดอาการฉุนกึกขึ้นมาทันที สาวน้อยหน้าแฉล่มยื่นถุงมาให้ข้าพเจ้าอย่างไม่รู้ชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า ข้าพเจ้าดึงหนังสือออกจากถุงอย่างช้าๆ ให้เธอได้เห็นชัดๆ อ้า..ตอนนี้เธอคงกำลังนึกว่าฉันกำลังหยิบหนังสือใหม่มาชื่นชมด้วยความเห่อสินะ ข้าพเจ้ากระชากปกออกมาจากหนังสือ อ้า..ถึงตรงนี้เธอคงกำลังงงแล้วสินะว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ แล้วข้าพเจ้าก็เริ่มขยำปกพลาสติกให้เป็นก้อนกลมๆ อ้า..เธอกำลังมองฉันด้วยสายตาตกตะลึง ดีจังๆ แล้วข้าพเจ้าก็วางซากไว้ตรงหน้าเธอเป็นอนุสรณ์ อ้า..สะใจๆ แล้วข้าพเจ้าก็เดินออกไปหาร้านอื่นห่อใหม่ แม้จะต้องเสียเงินเพิ่มก็ตาม
ที่เล่ามาข้างต้นถือว่าเป็นแค่อาการเริ่มแรกอย่างอ่อนๆ นะครับ ยังไม่ถึงกับหนักมาก หลังจากหิ้วหนังสือกลับมาบ้านแล้ว ข้าพเจ้าก็จะเข้าสู่โลกส่วนตัวด้วยการอ่านหนังสือที่ซื้อมาอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง เอาเป็นว่านอกจากกินข้าวกับเข้าห้องน้ำแล้ว ข้าพเจ้าจะไม่มีขยับไปไหนเลย ไม่ว่าใครในบ้านจะมาชวนพูดคุยอะไร หรือวานให้ทำอะไร หรือเพื่อนชวนออกไปเที่ยวไหน ข้าพเจ้าก็จะทำหน้าบึ้งและก็บอกด้วยความสุภาพและอ่อนโยนว่า แม่มีงอเอ๊ย! อย่ามากวนได้ไหมวะ กรูกำลังอ่านหนังสือ!!
หลังอ่านจบข้าพเจ้าจะนำหนังสือเก็บขึ้นชั้นเป็นหมวดหมู่ เรียงตามตัวอักษร ตามเลขที่เล่ม การทำอย่างนี้นอกจากจะดูเรียบร้อยงามตาแล้ว ยังช่วยให้ข้าพเจ้าทราบได้ด้วยการมองอย่างผ่านๆ ว่าหนังสือเล่มไหนหายไปบ้าง ปกติข้าพเจ้าจะไม่ค่อยใส่ใจเท่าไรนักว่าหนังสือมันอยู่หรือไม่อยู่บนชั้น นานๆ ครั้งข้าพเจ้าจะมองตรวจตราซักที ก็แค่วันเว้นวันเท่านั้นเอง
ความสกปรกและรอยเปรอะเปื้อนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ข้าพเจ้าทนไม่ได้ ข้าพเจ้าไม่ค่อยอยากให้คนอื่นแตะหนังสือของข้าพเจ้า เวลาคนในบ้านจะหยิบหนังสือของข้าพเจ้าอ่าน ข้าพเจ้าจะเตือนด้วยความหวังดีแกมข่มขู่ว่า ให้ล้างมือให้สะอาดเสียก่อน เวลาอ่านก็จับให้มันเบาๆ มือหน่อย อย่าให้มีรอยยับย่น แล้วถ้าเกิดข้าพเจ้าไปเจอน้องตัวดีนอนอ่านหนังสือไปกินขนมไป โอ้แม่เจ้า!! มันกำลังข่มขืนหนังสือด้วยความหื่นและเมามัน (มือน้องชายมันแผลบไปหมด) ทำให้หน้ากระดาษอันศักดิ์สิทธ์ของข้าพเจ้าต้องแปดเปื้อน ข้าพเจ้าก็จะเข้าไปตักเตือนด้วยความเอ็นดู เอาแค่หูชาและก็งอนไม่พูดไม่จาไป 3 วันเท่านั้นเอง
แต่น้องชายข้าพเจ้าก็มีความเป็นโรคจิตประเภทหนึ่งเหมือนกัน นั่นก็คือเวลามันอ่านหนังสือเสร็จ มันไม่เคยเก็บให้เข้าที่เหมือนเดิม ทั้งๆ ที่เป็นแค่เรื่องง่ายๆ ในการนำหนังสือไปใส่ในช่องว่างที่เดิมของมัน แม้กระทั่งเด็กปัญญาอ่อนก็ทำได้ แต่น้องของข้าพเจ้ากลับไม่ทำ กลับวางระเกระกะไปทั่วบ้าน แต่ก็แปลกอยู่อย่าง ทั้งที่หนังสือมันกระจัดกระจายกันอยู่ แต่เจ้าน้องตัวดีกลับรู้หมดว่าเรื่องไหนวางอยู่ตรงไหนบ้าง ตกลงนี่มันมีความจำดีแต่ไม่มีความรับผิดชอบใช่ไหมเนี่ย เหมือนเจ้าข้าวนึ่งที่บ้านเลย (หมาน่ะ) พอมันอุจจาระเสร็จก็สะบัดตูดหนีเลย ไม่เคยกลบให้เรียบร้อย ไม่เหมือนกับเจ้าถุงเงิน (แมวน่ะ) มันรู้จักกลบด้วยนะฉลาดจัง
แล้วอ้ายความจุกจิกในเรื่องหนังสือเนี่ย มันยังลามมาถึงเรื่องอื่นๆ ของข้าพเจ้าด้วย อย่างเสื้อผ้าในตู้ของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะจัดเรียงไว้เป็นแถบๆ เสื้อเชิ้ต เสื้อยืด กางเกง ผ้าเช็ดตัว อันเดอร์แวร์ ข้าพเจ้าก็จัดไว้อย่างมีระบบ จัดเรียงตามยี่ห้อ สี แล้วเวลาเลือกเสื้อผ้ามาสวมใส่ ข้าพเจ้าไม่ได้เลือกชุดมาใส่ตามความพอใจ แต่จะใส่เรียงลำดับให้ทุกชุดมีความเท่าเทียมกัน คือใส่เป็นรอบ ให้เสื้อผ้าทุกชิ้นได้ถูกใช้ ไม่ใช่ตัวนี้ชอบมากใส่บ่อย ตัวนี้ชอบน้อยแล้วนานๆ ใส่ แต่ต้องแชร์ให้ทัดเทียมกัน ได้ใส่เหมือนๆ กัน ที่ข้าพเจ้าทำอย่างนี้ก็เพราะกลัวว่าตัวอื่นจะน้อยใจได้
ตกลงที่ข้าพเจ้าเล่ามาทั้งหมดนี้ ท่านว่าข้าพเจ้าโรคจิตรึเปล่า?
แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 47 10:40:30
จากคุณ :
ณัฐกร
- [
20 มิ.ย. 47 10:33:13
]