คราวที่แล้วฝันไปว่ามีงูตัวใหญ่มารัด ปรากฏว่าจักรยานพ่อสามีโดนมือดีขี่ไป
มันไม่น่าจะเกี่ยวกันนะ แต่ว่ามันเกี่ยวกับนัทตี้โดยตรงที่คุณพ่อปู่นั้นบ่น บ่น บ่น เล่า เล่า เล่า แต่เรื่องนี้ทุกวันให้ได้ยินเข้าหู
นัทตี้นั้นพยายามเข้าใจว่าแกคงเสียดาย และ รับฟังแกปลอบแกด้วยคำเดิม ๆ ทุกที
รู้สึกว่าแกดีขึ้นตอนที่เราปลอบ ตอนเย็นเอาอีกแล้วที่โต๊ะกินข้าว
นี่แกไปเจอจักรยานคนอื่นที่ถูกลักมา แกอุตส่าห์ไปจูงมาไว้ที่บ้าน
แกจะเอาคันนี้มาแทนให้ได้ แต่ว่าที่ใต้เบาะมีชื่อเจ้าของอยู่
นัทตี้ยกเหตุผลให้แกแจ้งเจ้าของ
แกว่าแกแจ้งแน่ แต่ว่าเอาไว้ขี่เล่นก่อนสองสามวัน
เดือดร้อนครอบครัวเราอีก สามีต้องไปซื้อไส้ไก่มาใส่ให้ใหม่ เปลี่ยนยางในให้ใหม่ซึ่งก็ไม่พ้นเรา
มันน่าเบื่อนะ ในสภาพแบบนี้
เคยไหมที่อยู่ๆ ก็เกิดความเบื่อหน่าย เซ็งขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ ?
เคยไหมที่เราจะโทษโน่นโทษนี่รอบ ๆ ตัวเราอย่างไร้เหตุผล ?
อากาศเปลี่ยน คนเปลี่ยน เชื่อไหมว่าเป็นไปได้?
เชื่อไหมว่ามันเกิดขึ้นกับนัทตี้จริง ๆ ก็ทำไมล่ะ?
วันนี้อากาศร้อนแทบตายชักใส่ชุดว่ายน้ำเดินอยู่ในบ้านดี ๆ พรุ่งนี้ต้องไปค้นเอาเสื้อแขนยาวมาใส่แก้หนาว
คิดว่าเออ พรุ่งนี้จะออกไปขี่จักรยานเล่นเสียหน่อย อ้าว ฝนดันตกลงมาอย่างไม่ให้ตั้งตัว
อากาศแปรปรวนเหมือนคนบ้า เดี๋ยวอาละวาด เดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวร้องไห้
นั่งมองอากาศด้วยความเบื่อ จนตัวเองก็ใกล้เหมือนอากาศเข้าไปทุกทีแล้ว ห่อเหี่ยวดีแท้หนอชีวิต
โดดขึ้นมาทำอะไรใหม่ ๆ แก้เซ็งดีกว่า
กำลังนั่งคิดว่าจะทำอะไร ยายยัสมินโทรมาว่า เมื่อไหร่จะมาหาเธอบ้างมาช่วยเธอเลี้ยงไอ้ตัวเล็กหน่อย เธอก็จะประสาทแด๊กอยู่แล้วกับลูกของเธอ
เพราะเจ้าหนูมิกกี้ (ขวบสี่เดือน)กำลังหัดเดินและชอบออกไปเล่นที่ระเบียงบ้านมาก(ชั้น 4)
เธอไม่สามารถพาลูกออกไปไหนได้เพราะอากาศ และ ที่ระเบียงเธอกลัวลูกตกไปตาย
นัทตี้บอกเธอว่าให้เธอไปซื้อตาข่ายลวดเคลือบพลาสติกมาจะทำให้ถ้านัทตี้และสามีมีเวลา
ไม่รู้ว่าตัวเองคิดยังไงบอกยัสมินให้โทรนัดช่างทำผมร้านที่เธอรู้จักให้หน่อย จะได้วางแผนได้ว่าวันไหน
ยัสมินโทรให้ทันที โทรกลับมาบอกว่าวันศุกร์บ่ายโมงครึ่ง
วันศุกร์ นัทตี้บอกสามีว่าจะขึ้นรถไฟไปบ้านยัสมิน ให้เขารอลูกกลับจากโรงเรียนแล้วให้พากันไปบ้านยัสมินเอาเครื่องมือเจาะปูนไปด้วย
เพราะคิดว่าถ้ามีเวลาจะทำตาข่ายที่ระเบียงให้ยัสมินเลย ไม่เสียเวลาหลายรอบ
ร้านทำผมอยู่ที่สถานีรถไฟที่นัทตี้ลงนั่นแหละ ร้านนี้ใหญ่มาก และจัดร้านได้คลาสมาก
เจ้าของร้านชื่อลูคัส เป็นผู้ชายอายุราว 50 ปี เขาเคยได้แชมป์ผมมาก่อน
ในร้านมีเด็กสาว ๆรุ่น 20 ปีอยู่ 5-6 คน แต่ละคนทำผมได้เฟี้ยวฟ๊าวมาก
คนที่มาสระผมให้นัทตี้นั้น เธอไว้ผมทรงพังค์ที่ไถข้างหัวเป็นขั้น ๆ ที่กลางหัวปล่อยตั้งเป็นนกหัวขวาน ย้อมสีฟ้าด้วยที่ผมตั้ง ๆ กลางหัว
รู้สึกตัวทันทีว่าอารมณ์ดีขึ้นได้ออกมาเห็นความเป็นไปของคนนอกบ้าน ดูปฏิกริยาอาการของคนแล้วมีความสุข
เหลือบตาไปมองเก้าอี้ข้าง ๆ เป็นรุ่นคุณยายอายุราว 65-70 ปี เธอคงดัดผมเพราะหัวยังครอบอยู่ในเครื่อง การแต่งตัวของเธอมองไม่เห็นเพราะผ้าคลุมอยู่
ชะโงกหน้ามองเลยโต๊ะว่างไปอีกสองโต๊ะ มีผู้หญิงอีกคนนั่งอยู่คะเนดูใบหน้าประมาณ 50-55 ปีไม่เห็นการแต่งกายเช่นกัน เธอนั่งจ้ออยู่กับลูคัสที่กำลังเล่นหัวของเธอ
มองกระจกไปดูทางด้านหลังมีเด็กเล็ก ๆ ที่มากับพ่อนั่งจ้ออยู่กับช่างอีกคน โดยพ่อของเธอก็นั่งตัดผมกันอยู่ใกล้ ๆ
ไอ้ที่นัทตี้มองโน่นนี่ที่บรรยายมาเพราะว่า ต้องการวิเคราะห์และคาดการณ์ว่า หัวกบาลตัวเองจะออกมาในรูปแบบไหน
เป็นการประเมินด้วยสายตาที่เห็นทั้งลูกค้าและพนักงานในร้าน
เนื่องจากไม่เคยทำผมด้วยกันมาก่อน และหวังว่าคงไม่แย่จนเกินไปกับหัวของเรา
ลูคัส ไม่ปล่อยให้ลูกค้ารอนาน เขามาจับผมนัทตี้ยก ๆ เขย่า ๆ แล้วถามว่าจะให้ทำอะไร
นัทตี้ว่าผมสั้นไม่มากเกินไป ที่รักษาได้ง่าย ๆ เพราะจะต้องอยู่กับน้ำทะเลทั้งวัน และไม่ชอบเป่าผมด้วย
เขาไม่รีรอ เพราะเวลามีค่า จับกรรไกรมาแง็บ ๆ หยิบมีดโกนมาแช็บ ๆ นัทตี้ก้มหน้าอ่านหนังสือไปนาน ๆ เงยมามองที
ไม่ได้พูดอะไรกัน ปล่อยให้เขาจัดการไปโดยไม่รบกวนสมาธิของเขา เพื่อความปลอดภัยของหัวตัวเอง
เสียงแช็บ ๆ จากใบมีดหายไป มีมือหนัก ๆ มาขยี้หัวตัวเองเล่น เลยยกหน้าขึ้นมามอง
ว๊าว นี่เราเหรอเนี่ย
ระหว่างนั้นเขาเดินไปที่โต๊ะข้างๆ กัน ปล่อยเราคาไว้ก่อนสักครู่เพราะลูกน้องมาเรียกให้ไปจัดทรงของลูกค้าที่อยู่ถัดไป
คุณยายลูกค้าพอใจมาก เพิ่งได้เห็นหน้าชัด ๆ เนี่ยแหละ เธอเสร็จแล้วลุกน้องลูคัสเอาผ้าที่คลุมออก เดินไปที่โต๊ะเก็บเงินโดยมีลูกค้าเดินตามมาจ่ายเงินด้วย
นัทตี้เห็นคุณยายที่ว่านี่เต็มตัว ท่าทางเธอเปรี้ยวไม่เบา เหมือนกระชากวัย
เสร็จจากคุณยายนั้น เขาก็หันมาหานัทตี้ มาจับผมแล้วบอกว่าเปรี้ยวมาก ๆ หน้าตาเขาพึงพอใจมาก
ด้วยความขี้เล่นของตัวเอง เลยบอกว่า น้ำทะเลสีฟ้า ถ้าทำหัวให้เป็นสีแดงคงไม่ต้องกลัวจมน้ำตายนะ ? เขาตอบว่า ใช่ ความคิดดีมากเลย
นัทตี้ปล่อยให้เขาทำต่อไป เพราะไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วนี่ มันท้าทายให้อยากรู้ผลต่อไป
ลูกน้องเขามาทำ Mesch (เมช ลากเสียง ช. ช้างยาว)ให้ บ้านเราไม่รู้ว่าเรียกอะไรในภาษาช่างทำผม
จนในที่สุดก็เสร็จทุกขั้นตอน ลูกน้องเป่าให้เพราะผมเปียก
เขาเดินมาอีกทีเพื่อจัดทรงผม ใส่โฟม เป่า ดึง ขยี้ ซอยสองสามทีด้วยความชำนาญจัดเจน
ปากก็พูดไปด้วยว่า เปรี้ยวมาก ๆ
เอากระจกมาให้ส่องมองผมด้านหลัง เป็นอันเสร็จ จ่ายสตางค์ไป 160 ฟรังค์เดินตัวเบาออกมาจากร้าน
นัทตี้ประหลาดใจตัวเองไม่หาย ผ่านหน้าร้านไหนที่มีกระจกใสจะมองเข้าไปดูเหมือนว่าเราสนใจสินค้า
แต่ที่จริงไม่ได้สนใจสินค้าหรอก แอบส่องกระจกมองหัวตัวเองน่ะ
ไอ้เรื่องส่องกระจกกับใครนาน ๆ หรือมองตัวเองในกระจกนี้ไม่ได้ทำมานานแล้ว หลังจากผ่านช่วงวัยรุ่นมา
บางวันตอนนี้นั้นหัวตัวเองยังไม่เคยเจอหวีเลย ได้แต่เอาหวีที่ติดตัวมาแต่เกิดเสย ๆ เอาเป็นใช้ได้
เดินมาถึงบ้านยัสมิน สามีและสูกมาถึงสักครู่แล้ว เสอจิโอ้ (เรียกเร็ว ๆ ว่า เสอโช้วววว)สามียัสมินก็กลับมาจากทำงานแล้ว
สามีถามว่าเสร็จแล้วเหรอ แค่เนี้ยเองที่ได้ยินจากเขา
เสอโช้ว ทักทายและมองเฉย ๆ ไม่ได้แสดงอารมณ์
เจ้าหนูมิกกี้ ก็แปลกไป ทำไมวันนี้ไม่วิ่งเข้าหาได้แต่เกาะขาแม่ มองต๊านเต้(ป้า น้า อา)นัทตี้ด้วยตาโต ๆ
หนูน่าลูกสาวทำหัวแม่มือชี้ขึ้นแล้วชี้ลงพื้นดินในอากาศทันทีทันใด
ยัสมินคนเดียวที่ชมว่า สวย ๆ ๆ เปรี้ยว ๆ ๆ
มีเธอคนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจและให้กำลังใจเป็นเพื่อนที่ดีมาก จะดีจะร้ายเราจะเข้าข้างกันทุกที
นัทตี้รู้จักบุคคลิกของตัวเองดี ว่าแข็งขนาดไหนในสายตาคนอื่น ยิ่งเจอผมสั้น ๆ แหว่งไปแหว่งมา ทาสีแดง ยิ่งไปไกลจนกู่ไม่กลับ
เชื่อขนมกินได้ว่าถ้าแม่เห็นวันแรกที่สนามบินต้องมีคำพูดเกี่ยวกับหัวตามมาแน่ ๆ (ทำใจไว้แล้ว)
นัดมีตติ้งกันวันที่ 9 กค. ชักจะลังเลเสียแล้วสิ
เนี่ยเป็นเพราะอากาศแน่ ๆ เลยทำให้นัทตี้หมดสวย
พี่ ๆ น้อง ๆ ที่จะไปมีตติ้ง มีคนไหนสงสารนัทตี้บ้างไหม?
ช่วยเอาหัวไปย้อมให้เป็นสี ๆ กันหน่อยสิ ขอแค่นี้แหละ
เฮ้ออออออ ละเหี่ยใจ
จากคุณ :
NATTI (นัทตี้)
- [
20 มิ.ย. 47 19:37:17
A:212.161.255.137 X:
]