เรื่องที่พระราชาไม่เคยได้ฟังมาก่อน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพระราชาหนุ่มรูปงามพระองค์หนึ่ง
ปกครองดินแดนที่รุ่งเรืองและแสนกว้างใหญ่
ดินแดนแห่งนี้มีทรัพยากรธรรมชาติต่างๆมากมาย
ทั้งทะเล ทุ่งหญ้า ภูเขาและป่าไม้
ทุกอย่างอุดมสมบูรณ์จนพระราชาคิดว่าพระองค์คงไม่ต้องทำงานอะไร
นอกจากนั่งฟังเรื่องเล่าแปลกๆและสนุกสนานที่เหล่าเสนาธิการเล่าถวาย
โดยเฉพาะเรื่องการสงครามและการผจญภัย
แต่เมื่อเล่าไปนานเข้า เรื่องเล่าต่างๆก็ค่อยๆหมดไป กลายเป็นเรื่องที่พระราชาได้ฟังแล้วทั้งนั้น
เมื่อไม่มีเรื่องเล่าที่สนุกสนาน ก็ทำให้พระราชารู้สึกเบื่อเป็นอันมาก
"ถ้าหากมีใครสักคนที่เล่าเรื่องที่ฉันไม่เคยได้ฟัง
ฉันจะให้รางวัลมากมายกับคนคนนั้น และหากคนเล่าเป็นหญิงสาว
ไม่แน่ว่าเราจะเข้าพิธีอภิเษกสมรสกัน"
หลังจากพระราชาให้เสนาประกาศไปทั่วเมืองอย่างนั้น ได้มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาในปราสาทมากมาย
ทุกคนต่างหวังจะเข้ามาเล่าเรื่องถวาย บรรดาหญิงสาวฝันว่าถ้าเรื่องเล่าขอเธอเป็นที่ถูกใจ
เธอคงจะได้เป็นพระราชินี
"นี่เป็นเรื่องที่ฉันได้ยินมาแล้วทั้งนั้นนี่"
พระราชาบ่น เมื่อได้ฟังเรื่องม้าวิเศษที่วิ่งเร็วกว่าพายุเป็นรอบที่เก้า
เรื่องธนูไฟที่เพียงดอกเดียวก็เผาเมืองทั้งเมืองได้เป็นรอบที่สิบสอง
และเรื่องดาบทองที่ตัดอะไรก็ได้เป็นรอบที่ยี่สิบ
"เจ้าไม่ต้องเล่าแล้ว ตอนจบพระราชาก็รบชนะ
กลายเป็นเจ้าของทุกอาณาจักรเลยใช่ไหม"
พระราชาขัดขึ้นขณะที่หญิงสาวคนหนึ่งกำลังพยายามจะเล่าเรื่อง 'พระราชาผู้ยิ่งใหญ่'
เป็นรอบที่สิบเอ็ด
"ตกลงนี่ไม่มีใครสามารถเล่าเรื่องอะไรที่ฉันไม่เคยได้ฟังได้เลยหรือ"
พระราชากำลังนั่งรำพึงอย่างเบื่อหน่าย ตอนที่สาวใช้นางหนึ่งก้าวมาหยุดยืนอยู่หน้าบัลลังก์
และบอกว่ามี 'เรื่องที่พระราชาไม่เคยได้ฟัง มาเล่าถวาย
"แต่พระองค์ต้องเสด็จออกไปนอกวัง
และทำตามที่หม่อมฉันแนะนำโดยไม่ต้องซักถามอะไรนะเพคะ"
หญิงสาวบอกข้อแม้
"ได้สิได้ๆให้ฉันไปที่ไหนนก็ได้ ขอแค่ให้ได้ฟังเรื่องแปลกๆใหม่ๆเท่านั้น
พระราชารับคำอย่างเต็มใจ ในคืนนั้นเองพระองค์จึงลอบออกไปนอกปราสาทพร้อมกับสาวใช้
ทำไมต้องออกทางประตูครัวด้วยล่ะ ออกทางประตูสวนดีกว่านะ
พระราชาถามหญิงสาวที่เดินนำหน้าอย่างสงสัย
ชู่วว์
หญิงสาวหันมาเตือนให้พระราชาเงียบเสียงไว้ พระองค์จึงต้องเดินตามเธอไปอย่าเงียบๆ
จนเมื่อใกล้เขตห้องครัว พระราชาก็ต้องเงี่ยหูฟังเสียงบางอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
มันเป็นเสียงถ้วยชามที่กำลังถูกล้าง เสียงแกร๊กๆกริ๊กๆเป็นจังหวะ ที่ดังอยู่ในความเงียบ
และสะท้อนไปทั่วบริเวณนั้น ทำให้พระราชารู้สึกสงบอย่างประหลาด
เขยิบมาสิเพคะ มาฟังว่าพวกสาวใช้กำลังคุยอะไรกัน
หญิงสาวหันมากระซิบใกล้ๆ เสื้อผ้าของเธอมีกลิ่นหอมสดชื่นของดอกไม้
แต่เป็นดอกไม้ที่ไม่มีอยู่ในอุทยานชั้นใน พระราชาคิดว่ามันคงเป็นดอกไม้ป่า
เธอคิดว่าจะมีหญิงสาวที่ได้อภิเษกกับพระราชาไหม
พวกสาวใช้ที่กำลังล้างจานส่งเสียงคุยกันเบาๆ
ฉันหวังเหลือเกินว่า ปราสาทแห่งนี้จะได้มีงานเลี้ยงฉลองกันเสียที
พวกเราจะได้มีเสื้อสวยๆใหม่ๆใส่ เธอยังจำงานเลี้ยงฉลองของพระราชาองค์ก่อนได้ไหม
ทรงให้เสื้อผ้าเป็นของขวัญแก่พวกเราตั้งมากมาย
แล้วบรรดาสาวใช้ต่างก็พูดถึงงานเลี้ยงฉลองอันยิ่งใหญ่ บ้านเมืองประดับด้วยธงทิวสีสันสดใส
ระฆังเงินส่งเสียงหวานกังวานไกล งานฉลองมีอาหารอร่อยๆมากมาย และมีเค้กหน้าสายรุ้งถึงเจ็ดชั้น
ทั้งหมดเป็นเรื่องที่พระราชาไม่เคยได้ฟัง
และที่สำคัญพระราชาองค์ก่อนท่านใส่ใจพวกเราเสมอ ถึงไม่มีงานฉลองอะไร
พวกเราก็ได้เสื้อผ้าใหม่ๆบ่อยๆ ถ้าพระราชาองค์นี้เป็นเหมือนท่านก็คงดี
ฉันไม่ได้อยากฟังเรื่องพวกนี้นี่
พระราชาโวยวาย เมื่อหญิงสาวเดินนำหน้าพระองค์ออกนอกปราสาทไป
ก่อนที่พระองค์จะเข้าไปลงโทษพวกสาวใช้ที่กำลังล้างจาน
มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่พระองค์อยากฟัง แต่เป็นเรื่องที่พระองค์ควรฟังนะเพคะ
ถ้าหากทรงฟังเฉพาะอะไรที่อยากฟังเท่านั้น ก็จะยังมีเรื่องที่พระองค์ไม่รู้อีกตั้งมากมาย
แล้วหญิงสาวก็พาพระราชาออกนอกปราสาทไป ทันทีที่ประตูเปิดออก
ลมหนาวข้างนอกก็พัดกรูเข้ามาวูบใหญ่
ปีนี้หนาวแล้วหรือนี่ ไม่ได้ออกมานอกปราสาทนานเต็มที แย่จริงๆที่
ไม่ได้เอาเสื้อคลุมกันหนาวมา
แต่แล้วก็หยุด เมื่อหญิงสาวหันมาทำท่าบอกให้เงียบ
ฟังสิเพคะ
หญิงสาวบอกขณะหยุดยืนที่ข้างกระท่อมหลังหนึ่งที่ยังจุดไฟ
น้ำเสียงอ่อนโยนที่ลอดออกมาจากกระท่อมนั้น ทำให้พระราชาเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ
และพระองค์ก็ได้ยินเรื่องราวที่สนุกสนานมากมาย เรื่องราวของหญิงสาวที่มีจิตใจงดงาม
เรื่องราวของชายหนุ่มผู้เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นและความฝัน น่าแปลกที่เรื่องราวเหล่านั้น
พระราชานึกไม่ออกว่าเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน
นั่นเรียกว่านิทานก่อนนอน ถ้าพระองค์ไม่เคยฟังไว้วันหลังหม่อมฉันจะเล่าถวาย
หญิงสาวกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงสดใส และฟังอ่อนโยนคล้ายน้ำเสียงที่กำลังเล่านิทาน
แต่ตอนนี้เรารีบไปกันก่อนเถอะเพคะ
ว่าแล้วหญิงสาวก็รีบเดินนำหน้าพระราชา จนกระทั่งทั้งคู่มาหยุดยืนที่ทุ่งหญ้าแห่งหนึ่ง
ฟังสิเพคะ
ครั้งนี้น้ำเสียงของหญิงสาวตื่นเต้นกว่าทุกครั้ง ท่ามกลางความเงียบในท้องทุ่งแห่งนั้น
พระราชาได้ยินเสียงสายลมที่อ่อนโยนกำลังเย้ากับยอดหญ้าที่พลิ้วไหว
เสียงก้อนหินน้อยใหญ่ประสานกับเสียงลำธารที่เรื่อยไหลบรรเลง
เสียงภูเขาร้องเพลง และเสียงหัวเราะของเกลียวคลื่นที่ม้วนตัวเข้าหาชายฝั่งซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล
ฟังสิเพคะ ได้ยินไหม เสียงแห่งความสุขและความรัก เรื่องราวที่พระองค์ไม่เคยได้ฟังไงเพคะ
แล้วทั้งคู่ก็ยืนอยู่ท่ามกลางเสียงแห่งธรรมชาติต่อไปอีกเนิ่นนาน
พระราชารู้สึกว่าเสียงนั้นทำให้ร่าเริงและเบิกบาน ปลุกความฝันและความกล้าหาญ
รวมถึงความอ่อนโยนในใจ
มีเสียงต่างๆดังอยู่รอบตัวเรามากมาย แต่บางเสียงหากอยากได้ยินเราต้องเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ
แล้วเราจะได้รู้ในสิ่งที่เราไม่รู้มาก่อน เสียงที่ต้องฟังอย่างตั้งใจนี้จะทำให้พระองค์เป็นคนละเอียดอ่อน
และเป็นที่รักของคนทั่วไป
หญิงบอกแล้วส่งยิ้มให้พระราชาอย่างสดใส รอยยิ้มนั้นเองทำให้พระราชาได้ยินเสียงเสียงหนึ่ง
กระซิบกับหัวใจ เสียงที่ทำให้เมื่อกลับไปยังปราสาท พระราชาก็รีบสั่งให้จัดงานฉลองยิ่งใหญ่
ที่มีขนมเค้กสายรุ้งและอาหารอร่อยๆมากมาย พวกสาวใช้ในวังได้รับของขวัญเป็นเสื้อผ้าใหม่ๆ
ชาวเมืองทุกคนได้รับผ้าห่มที่จะทำให้เด็กๆหลับอย่างอุ่นสบาย ส่วนพระราชาเองนั้น
ของขวัญที่พระองค์ได้รับพิเศษกว่าใครๆ คือเจ้าสาวที่มีกลิ่นหอมของดอกไม้
เจ้าสาวที่มีจิตใจงดงามกว่าผู้ใด เจ้าสาวผู้ทำให้พระราชาได้ฟังเรื่องที่ไม่เคยฟังมาก่อน :)
can u remember me ?
eiei
จากคุณ :
can u remember me ?
- [
23 มิ.ย. 47 17:25:44
A:203.209.111.113 X:
]