CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    =[+] ฉิกจับอิด [+]= นิยายจีนร่วมแต่งแนวทดลอง : ตอนที่ 51 "รั่วซุนจื่อจิง"

    ยอดเขาสูงตั้งตระหง่าน อยู่เหนือมวลเมฆ บนยอดเขาตั้งอยู่ด้วยสำนักยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งแห่งยุทธภพ
    เป็นสำนัก...บู๊ตึ๊ง

    ยอดเขาบู๊ตึ๊งยังคงมิแปรเปลี่ยน สำนักบู๊ตึ๊งเองก็เช่นกัน มันก่อสร้างขึ้นมาด้วยรากฐานที่มั่นคงเป็นเวลานับร้อยปี ในช่วงเวลาอันเนิ่นนานนี้ได้สั่งสมเกียรติประวัติอันยาวนานเอาไว้มากมาย ศิษย์ที่ผ่านการอบรมจากสำนักแห่งนี้มีไม่น้อยทีเดียวที่กลายเป็นสุดยอดฝีมืออันดับหนึ่ง หรือกลายเป็นผู้นำยุทธภพ!

    วันนี้ประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งกำลังจะเผยโฉมออกมา..........

    ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 8 เหล่าชาวยุทธทั้งที่ได้รับเทียบเชิญ และมิได้รับเทียบเชิญต่างทยอยกันขึ้นสู่เขาบู๊ตึ๊ง ชาวยุทธจำนวนเกือบพันคนต่างพากันมาชุมนุม ในนี้จัดแบ่งออกได้เป็นสามพวกใหญ่ๆ

    หนึ่งนั้นย่อมเป็นมิตรสหาย และญาติของเหล่าชาวยุทธที่ตกตายอย่างปริศนาที่เชิงเขาบู๊ตึ๊ง
    สองคือพวกที่ได้รับบัตรเชิญ ซึ่งมิอาจหลีกเลี่ยงการชุมนุมไปได้ เพราะนั่นเท่ากับว่าพวกมันตั้งตนเป็นอริกับ "หอห้ากระบี่"

    ส่วนพวกสุดท้ายคือ พวกที่มิได้รับเชิญ แต่มุ่งมายังบู๊ตึ๊งเพื่อร่วมชมความสนุกสนาน หอห้ากระบี่จัดงาน "ชุมนุมกำราบฉิก" ยังมีผู้ใดมิสนใจ?

    ที่ตื่นเต้นเร้าใจกว่านั้นก็คือ ทุกผู้คนต่างมิกล้ารับรองว่า ฉิกจับอิด จะไม่ปรากฏตัวขึ้นในงานครานี้!

    ถึงกับมีบางคนที่ชมชอบเห็นความฉิบหายของผู้อื่น ลอบภาวนาให้ฉิกจับอิดปรากฏตัวขึ้นก่อกวนงานชุมนุม!!!!!!!!!!

    จื่ออิงสั่งการศิษย์ในสำนักออกต้อนรับแขกเหรื่อ บรรดาเจ้าสำนักต่างๆ พากันเดินทางมาถึง ไม่ว่าจะเป็น
    "เอี๊ยบแช" เจ้าสำนักกระบี่ดาว
    "หลงซิง" แห่งหอมรกต
    "เติ้งเสี่ยวเทา" ประมุขพรรคกระยาจก
    "เจียงเจ๋อตุง" ประมุขพรรคจวักธรณี
    "โจวเอินผิง" ศิษย์เอกแห่งพรรคหมัดฆาตกร
    "เหมาเจ๋อหมิน" ศิษย์เอกพรรคสองทิศ
    กระทั่ง ซุนยัดไหล เจียงไคเซ็น และหูจิ่นเช็ค ก็ปรากฏตัวโดยพร้อมเพรียง

    การปรากฏตัวโดยพร้อมเพรียงของพวกมันกลับเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจประการหนึ่ง เนื่องเพราะคราแรกที่คนหล่านี้พบเจอกันที่โรงเตี๊ยมฉิกจับอิดเชิงเขาบู๊ตึ๊ง พวกมันมิใช่ต่อยตีกันจนร้านรวงแทบพังทลายหรอกหรือ? เหตุใดภายหลังการปรากฏตัวของพวกมันจึงปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันทุกครั้งไป? มิเพียงเท่านั้นพวกมันยังสนิทสนม และสนทนาปราศัยกันอย่างถูกคอยิ่ง!!

    หรือว่าเหตุการณ์ชุลมุนในโรงเตี๊ยมฉิกจับอิดครานั้น เป็นพวกมันเสแสร้ง สร้างสถานการณ์ขึ้น
    เป้าหมายก็เพื่อก่อกวนฉิกจับอิดโดยตรง!!!

    นอกจากเรื่องนี้ยังมีเหตุแปลกประหลาดอีกประการ นั่นก็คือ เหล่าผู้นำสำนักฝ่ายธรรมะล้วนมากันโดยพร้อมเพรียง ทว่านอกจากหัวซานที่มีหลิวหยงเคอเดินทางล่วงหน้ามาก่อน และศิษย์น้องของมัน "เหลียงหย่ง" ที่นำศิษย์รุ่นหนุ่มของสำนักมาร่วมชุมนุมแล้ว ผู้นำคนอื่นๆ ของค่ายพรรคที่รวมเป็น "หอห้ากระบี่" ล้วนแต่มิปรากฏกายขึ้น!!!

    คุนหลุนนั้นตั๋วล่ายสุกอ้างภาระกิจภายในสำนัก เพียงส่ง หวงอี้เฟยศิษย์เอกมาแทน ส่วนเส้าหลินเทียนซานนั้น มิปรากฏผู้คนแม้สักคนเดียว หันซานเพียงส่ง "แม่ชีกล้วยไม้หยก" อาจารย์อาของเหวินเหม่ยชิงเป็นตัวแทน นำพาศิษย์หันซานอีกสิบกว่าคนมาร่วมงาน

    ส่วนต้วนเล้ง แห่งพรรคลมหวน และ หยางซีเหมินเจ้าสำนักดาวตก กลับหายสาบสูญมิพบเห็นร่องรอยแต่อย่างใด

    พวกมันพึ่งเข้าร่วมกับหอห้ากระบี่ เวลาสำคัญเช่นนี้กลับกล้าปลีกตัว มิยอมเข้าร่วมชุมนุม
    นับว่าขวัญกล้าบังอาจมากทีเดียว!

    จื่ออิงจับจ้องผู้คนที่มาเข้าร่วมชุมนุมทั้งหลาย ปากก็ทักทายปราศัยถึงทุกข์สุขของอีกฝ่าย
    สายตาก็ลอบตรวจตราดู

    ชายหนุ่มพบว่าตนเองมิได้คาดคำนวณผิดพลาดแต่อย่างใด เหวินเหม่ยชิงย่อมมาเข้าร่วมชุมนุมไม่ทัน
    ซึ่งนี่ก็นับเป็นความตั้งใจของเขา ส่วนตั๋วล่ายสุกมิพอใจที่ตนเองช่วงชิงตำแหน่งผู้นำหอห้ากระบี่ไปได้ ต้องหาทางบ่ายเบี่ยงมิเข้าร่วม ส่วนต้วนเล้ง และหยางซีเหมิน ตัวมันเองเป็นคนออกคำสั่งให้นำกำลังคอยตรวจตรา โดยรอบบริเวณย่อมมิปรากฏตัว

    หนึ่งเดียวที่เหนือความคาดหมายของเขาก็คือ หลิวหยงเคอ

    หลิวหยงเคอนั้นก็เป็นอีกคนที่จื่ออิงมิใคร่ยินดีที่จะให้มันเข้าร่วมชุมนุม เนื่องเพราะมันหวั่นเกรงว่าอีกฝ่ายจะเปิดโปงความลับของมัน และหากเป็นหลิวหยงเคอแล้วล่ะก็ ทุกผู้คนล้วนต้องเชื่อถือในคำพูดของมันอย่างแน่นอน เพราะคนผู้นี้เป็นอีกผู้หนึ่งที่มีคนนับหน้าถือตา คำพูดของมันจึงมีน้ำหนักอย่างมาก ที่สำคัญเหวินเหม่ยชิงเวลานี้มิแน่ว่าระแวงสงสัยมันแล้ว หากได้คำยืนยันจากหลิวหยงเคออีกผู้หนึ่ง มันย่อมตกอยู่ในสภาพการณ์ที่เลวร้ายยิ่งแล้ว!!!!!!!!

    จื่ออิงอดมิได้ที่จะระบายลมหายใจออกมา ในยามนี้ตนเองยังมิสามารถหาทางรับมือกับอีกฝ่ายได้
    ส่วนเรื่องที่เจ้าสำนักหัวซานเคยใช้ความลับเรื่องการตายของเสี่ยวเง็กเป็นเครื่องข่มขู่และต่อรองกับมัน พร้อมทั้งสัญญาว่าจะช่วยผลักดันให้มันก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำ โดยมิยินยอมบ่งบอกความต้องการออกมานั้น ก็ยังเป็นเรื่องที่จื่ออิงปวดเศียรเวียนเกล้ายิ่ง

    เนื่องเพราะตอนนี้จื่ออิงได้เป็นผู้นำของหอห้ากระบี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทว่าอีกฝ่ายยังคงนิ่งเฉย
    มิได้มีความเคลื่อนไหวแม้เพียงเล็กน้อย "หลิวหยงเคอ เจ้าที่แท้ต้องการสิ่งใดกันแน่?" จื่ออิงอดคิดมิได้เมื่อจ้องมองไปยังด้านหลังของอีกฝ่าย

    ทันใดนั้นเองหลิวหยงเคอคล้ายมีสัญชาตญาณพิเศษ พลันหันกลับมาสบตากับอีกฝ่าย
    จื่ออิงได้แต่ปั้นหน้ายิ้มแย้ม ตรงเข้าทักทาย

    "พี่หลิว จากมาสบายดี?"

    หลิวหยงเคอยิ้มแย้มพลางกล่าวตอบ

    "เนื่องจากมิต้องวิ่งวุ่นเช่นน้องท่าน อ้อ ต้องเรียก "ท่านผู้นำ" สินะ ดังนั้นยังสบายดีอยู่"

    หัวคิ้วของจื่ออิงกระตุกวูบ ก่อนที่จะคลายออก มีหรือที่มันจะฟังมิเข้าใจว่าอีกฝ่ายจงใจแดกดันตนเอง

    "ข้าพเจ้ากลับคิดมิถึงว่าวันนี้พี่หลิวจะมาร่วมชุมนุมด้วย" จื่ออิงกล่าวโดยยังพยายามปั้นหน้าแย้มยิ้มเช่นเดิม

    "งานนี้จัดขึ้นในนามหอห้ากระบี่ อีกทั้งเทียบเชิญก็ถูกส่งไปยังหัวซาน เราเมื่อเป็นเจ้าสำนักสังกัดหอห้ากระบี่ ไม่มาได้หรือ?"

    "ท่านที่แท้ต้องการอะไรกันแน่?!!" จื่ออิงกล่าวเน้นเสียง

    "ก็ร่วมชุมนุมตามคำสั่ง "ผู้นำ" อย่างไรเล่า" หลิวหยงเคอตอบกลับเรียบๆ

    "ท่านก็รู้ว่าข้าพเจ้าหมายความถึงเรื่องอะไร เวลานี้ข้าพเจ้าก็ได้เป็น"ผู้นำ" ของหอห้ากระบี่แล้ว แต่ท่านก็ยังมิได้บอกถึงสิ่งที่ท่านต้องการออกมา ท่านคิดทำอันใดแน่!!!!!!!!!!!"

    "..........." หลิวหยงเคอนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ค่อยกล่าวว่า

    "สิ่งที่เราต้องการ ท่านให้กับเรามิได้ และไม่มีใครสามารถให้กับเราได้
    ทว่าสิ่งที่ท่านได้กระทำตอนนี้ในฐานะของผู้นำหอห้ากระบี่ ก็ถือว่าทำได้ตามที่ข้าพเจ้าต้องการแล้ว เราก็จักมิเรียกร้องเอาสิ่งใดจากท่าน"

    จื่ออิงจับจ้องมองหลิวหยงเคอ พยายามที่จะค้นหาบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้สีหน้าท่าทีของอีกฝ่าย
    ทว่าจนแล้วจนรอดก็ยังมิพบเห็นความผิดปกติใดๆ

    ".............."

    ช่วงเวลาไม่นาน เพียงชั่วน้ำเดือด เจ้าสำนักทั้งสองของหอห้ากระบี่ต่างจับจ้องมองกันโดยมิได้กล่าวอันใดออกมา

    "ตึกตักๆๆ" เสียงฝีเท้าดังขึ้น จื่ออิงละสายตาจากหลิวหยงเคอหันไปดู พบว่าศิษย์บู๊ตึ๊งผู้หนึ่งกำลังมุ่งหน้ามาหาตน

    "มีเรื่องอันใด?" จื่ออิงชิงถามอีกฝ่าย

    "ตอนนี้ได้เวลาเปิดงานชุมนุม "กำราบฉิก" แล้วขอรับท่านผู้นำ" ศิษย์คนดังกล่าวรายงาน

    น่าประหลาด หลิวหยงเคอที่อยู่ข้างเคียงเมื่อได้ยินคำ "ท่านผู้นำ" พลันแย้มยิ้มที่มุมปากออกมาโดยจื่ออิงมิทันสังเกตเห็น

    "ผู้น้องขอตัว" จื่ออิงหันไปกล่าวลา

    "เชิญ "ท่านผู้นำ" ตามสะดวก" หลิวหยงเคอกล่าว

    จื่ออิงจึงเดินจากมาด้วยดวงใจที่เจ็บแค้น

    "หลิวหยงเคอ เจ้าคอยดูต่อไป หากเราสามารถจัดการพรรคฉิก เจ้าจะเป็นอันดับต่อไป!!!!"

    กำจัดฉิกจับอิด ขึ้นเป็นผู้นำของยุทธภพ นี่จึงเป็นหนทางรอดเพียงหนึ่งเดียวของจื่ออิง!!!!

    เพราะเมื่อนั้น มิว่าหลิวหยงเคอพูดเช่นไร ก็จักมิมีคนยินยอมเชื่อถือมัน
    เพราะย่อมไม่มีผู้ใดอยากเป็นศัตรูกับผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุทธภพเช่นจื่ออิง!!!!!!!!!!


    จื่ออิงเดินไป ณ ห้องโถงซึ่งชาวยุทธทั้งหลายชุมนุมออกันอยู่แล้ว เขาประสานมือคารวะทุกคนและกล่าวว่า “ขอบคุณพวกท่านที่ตอบรับคำเชิญของสำนักบู๊ตึ้ง ข้ารู้สึกเป็นเกียรติยิ่งนัก”

    แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 47 20:57:02

    จากคุณ : ทีมแต่งนิยาย - [ 24 มิ.ย. 47 20:48:06 ]