สายฝนยังโปรยปรายไม่ขาดสาย ทิดอู๊กแอบชะโงกคอทำท่าลับล่ออยู่ที่ประตู ตาหนึ่งจดจ้องที่จอทีวี บ่อยครั้งชำเลืองดูครอบครัวพี่สาวล้อมวงกินข้าวแอบกลืนน้ำลายอันเหนียวเหนอะ เขาไม่สามารถเข้าไปในบ้านได้ทั้งๆที่เขามีสิทธิ์เสมอพี่สาว
อีนางไปปิดประตูสิเดี๋ยวหมามันเข้าบ้าน
ลูกสาวของนางวัยเจ็ดขวบลุกขึ้นอย่างว่าง่ายแอบปั้นข้าวเหนียวส่งให้ทิดอู๊กพร้อมกับปิดประตูบ้านมองดูลุงด้วยแววตาเวทนา เขาส่งคำข้าวเข้าปากค่อยเคี้ยว ฟันทั้งหมดของแกมีคราบหินปูนสีดำจับเขรอะมองเห็นได้เด่นชัดไม่รู่ว่าแกแปรงฟันครั้งสุดท้ายเมื่อตอนอายุเท่าไหร่ บางซี่ผุส่งผลให้เหงือกและคางบวมอยู่ตลอดเวลา เขาเดินผ่านม่านฝนตรงไปยังเพิงพักมอซอพอซุกหัวนอนได้
ที่ต่อออกมาจากยุ้งฉางคอกไก่อาจดูหรูหรากว่า เขานอนตะแครงมองดูบ้านหลังใหญ่กอดอกสะท้านด้วยพิษหนาวยามราตรี แต่แปลกแกไม่เคยเจ็บป่วยเป็นอะไรกับเขาเสียทีหรือว่าสวรรค์มองข้ามคนอย่างแกไปเสียแล้ว นรกเช่นกันคงไม่ต้องการคนเช่นแกให้ไปอยู่เสียระบบการปกครองคนที่เขาต้องการให้ตายๆไปเสียกับไม่ตาย...
ทิดอู๊กตื่นแต่เช้าทุกวันไม่ได้เดือดร้อนเรื่องหุงหาอาหารหรือจัดเตรียมสัมภาระให้ลูกไปโรงเรียน เขาสบายทุกอย่างหน้าไม่ต้องล้างให้เหนื่อย ผ้าไม่ต้องซักให้ยากแกไม่เคยบ่นว่าเหม็นมีแต่คนรอบข้างบ่นให้แกฟังทำตัวสมถะยิ่งกว่าโสเครตีสเสียอีก แกเพียงได้แต่ยิ้มซื่อๆเหมือนนักร้องลูกทุ่งวอนแฟนก่อนลุกขึ้นเงอะงะหันซ้ายทีขวาทีหยุดบ้างเดินบ้าง ดวงตากวาดซ้ายแลขวาบางครั้งก็หยุดพูดกับต้นไม้ริมทางพอแก้เหงาสรรพสิ่งหลากล้วนเป็นเพื่อนแก จุดหมายของทิดอู๊กคือวัดที่ตัวหมู่บ้าน
เขาไม่ได้ทำบุญอย่างคนอื่นเขาเพียงแต่มานั่งเหม่อท่าเจ้าจ๋อบนม้าหินอ่อนใต้ร่มโพธิ์ใหญ่ข้างศาลาวัด บางครั้งก็มักเดินไปกุฏิเล็กๆริมกำแพงชิดขอบถนนทิดอู๊กรู้จักพระหลายรูปที่พากันมาพักร้อนช่วงปิดภาคเรียนซึ่งเป็นลูกหลานของคนหมู่บ้านนี้ แกเดินเด๋อด๋าเข้าไปนั่งพับเพียบพระหนุ่มนักศึกษาพากันหันมามองด้วยดวงตาเคยชิน
แม่นอาจารย์โย บ่ครับ แต่กี้ผมไปเยี่ยมปู่เตี้ยเพิ่นป่วย อาจารย์ผมขอไก่ไปเลี้ยงสักตัวผมอยากเลี้ยงไก่
นั่นคือความสามารถพิเศษของแกที่พูดครั้งเดียวพร้อมกันสามเรื่อง
กราบก่อนแล้วค่อยพูดกัน เสียงเข้มของพระหนุ่ม
ทำให้ทิดอู๊กรนรานกราบสักการะสองครั้งถูกเตือนอีกทีถึงครบสามในความหมายการกราบสามครั้งของแกอาจหมายถึง ขอข้าวกิน ขอไก่ไปเลี้ยง ขอเงิน
ช่วงอากาศดีๆอย่างนี้มีเพลงกล่อมนอนคงดี พระหนุ่มรูปหนึ่งเอ่ยขึ้น
เพลงล่ะบาท
อีกรูปสำทับพร้อมเอาเงินบาทมาวางต่อหน้า แกขยับมือเงอะงะเอียงคอเล็กน้อยพองาม ริมฝีปากหนาๆเริ่มขยับแล้ว...
ผมนายมาวิน แสนนอก ไอ้หนุ่มรูปหล่อบ้านไผ่ เปรียบเทียบ สรพงษ์ ชาตรีและชาติ้ว จะมาในผลงานเพลง หอมผักกระแยง
เป็นสโลแกนที่แกใช้เป็นประจำ เราท่านอาจสงสัยว่าชาติ้วเป็นใคร แม้แต่แกเองก็ตอบไม่ได้ เหรียญบาทอยู่ในกระเป๋ากางเกงเรียบร้อยแล้ว แกหยุดร้องเมื่อได้ครึ่งเพลง
อาจารย์ถ้าร้องใสไมค์เสียงดีกว่านี้แต่ก่อนผมอยู่วงเสียงอีสานในนามไอ้หนุ่มรูปหล่อบ้านไผ่
ร้องเร็วๆกำลังซึ้งถ้าไม่ร้องเอาเงินคืนมา
พระหนุ่มทำท่าจะลุกขึ้นเสียงเพลงท่อนสุดท้ายก็สะกดนิรันดร์ แกยิ้มซื่อๆเมื่อเพลงจบลงก่อนเริ่มร้องเพลงใหม่ไปเรื่อยๆ แท้จริงเสียงอีสานยังมีทิดอู๊กอีกคนไม่แน่นักอาจเป็นญาติกับปอยฝ้ายอย่างน้อยทรงผมก็เหมือนกันต่างที่ว่าผมแกไม่เคยผ่านแชมพูเท่านั้นเอง
แต่ก่อนผมไม่เป็นบ้าอย่างนี้หรอกอาจารย์ ถูกพ่อตีตั้งแต่เล็กก็เลยเป็นบ้า ทิดอู๊กบอกยิ้มแย้ม
ทำเอาพระหนุ่มที่ล้อมวงหัวเราะร่า ให้ขนมนมเนยเป็นรางวัลแก่นักร้องหลงวง ดวงแดดลอยขึ้นสูงเหนือปลายไม้ทิดอู๊กหอบข้าวของพะรุงพะรังเดินลับหายไปในทิศทางที่มา
2.
วนเวียนชีวิตของทิดอู๊กยังคงหมุนวนซ้ำวัดเป็นสถานที่แกคุ้นเคยและทุกคนก็เห็นแกเป็นส่วนหนึ่งของวัดที่ไม่ต่างจากหมูหมากาไก่เศษข้าวก้นบาตรหลวงตาพอทำให้แกไม่อดตาย ตะวันเย็นโพล้เพล้ของวันหนึ่งในสัปดาห์อันหมุนซ้ำแสงสีแดงของขอบฟ้าราวขอบตาของผู้เสียคนอันเป็นที่รัก ต้นตาลยืนต้นเดียวดายอยู่ไกลลิบเป็นเงาตะคุ่ม ทิดอู๊กเดินคอตกไหล่งองุ้มมือทั้งสองประสานกันอยู่ตลอดเวลา ลัดเลาะไปตามคูคันนาตัดตรงเข้าวัด หยุดนั่งยองๆที่ข้างเล้าไก่มองดูมันอย่างชื่นชมหลวงตาว่าจะให้ไก่สองตัวเมื่อนานมาแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้สมประสงค์ แกยื่นมือลอดสุ่มไก่จับลูกเจี๊ยบตัวเล็กๆมากุมกอดทะนุถนอมบรรจงจูบครั้งแล้วครั้งเล่า แกยิ้มกว้างพาลูกไก่มานั่งเล่นใต้ร่มโพธิ์ ลูกไก่ร้องจ้าเมื่อห่างอกอุ่นของแม่ไก่ แกบีบคอมันไว้ไม่นานนักลูกไก่ก็ตายแกใช้นิ้วหยาบๆแหย่ลูกไก่เบาๆ
หลับแล้วหรือ?ลุกขึ้นมาก่อน
แกหยิบหินก้อนเล็กๆมาทำเป็นหมอนให้ลูกไก่หนุนเอาใบโพธิ์รองร่างเป็นที่นอน เอาเศษผ้าเก่าขาดมาห่มให้ ร้องเพลงเบาๆลมเย็นรอดผ่านใต้ลานโพธิ์ แกเผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า หลวงตาขึ้นกุฏิฉันน้ำชากาแฟปิดประตูจำวัดตั้งแต่หัวค่ำตามปกติ กุฏิหลังเล็กริมกำแพงล็อคตายพวกพระหนุ่มก็กลับสำนักเรียน พอมีไฟจากห้องน้ำและหน้าจั่วศาลาส่องแสงมอซอหยอกเย้ากับแมลงราตรี
ละครหลังข่าวจบลงไม่นานไฟฟ้าตามหมู่บ้านก็ปิดลงดวงแล้วดวงเล่าไม่นานนักหมู่บ้านก็ถูกความมืดครอบงำถนนทุกสายว่างจากผู้สัญจรแถวสี่แยกเสียงหมากัดกันขร่มอยู่ชั่วระยะก่อนกลืนหายไปพร้อมสายลมดึก ดาวลูกไก่ฉายแสง ดาวประจำเมืองเปล่งแสงกล้า ดาวตกวูบวาบทาบฟ้าดิ่งดวงก่อนวับหาย ขอบฟ้าทิศบูรพาฟ้าแปบปลาบอีกไม่นานวันฝนคงเทกระหน่ำ แกยังนอนหลับฟุบหน้ากับม้าหินอ่อนอีกมือหนึ่งยังกุมลูกไก่ไว้ ฝูงยุงบินวนวู่วี่บางตัวอิ่มเลือดเผลอนอนหลับข้างลูกไก่
3.
กำแพงต่ำเตี้ยทางทิศตะวันตกเห็นเงาตะคุ่มโดดผ่านแผ่วเบาย่างเยาะเลาะลัดหมอบคลานมายังเล้าไก่ หมาบักลายโงหัวขึ้นแล้วหลับต่อมันเป็นหมาวัดที่เป็นมิตรต่อทุกผู้คนและหมาทุกตัวในหมู่บ้าน มันกระดิกหางให้ขโมยถ้ามันยิ้มได้มันคงยิ้มให้พร้อมจับมือทักทายเหมือนฝรั่งมั่งค่า หมาบักแดงตรงเข้าเลียหน้าเลียตาคลอเคลียชิดใกล้
ไป๊
เสียงไล่เบาๆเล็ดลอดผ่านไรฟันหัวขโมยอีกคนล้วงปลาย่างออกมาจากย่ามกวัดแกว่งหน้าหมาบักลายให้น้ำลายสอวิ่งไล่งับอลวน เจ้าหัวขโมยขว้างมันโดยแรงไร้ทิศทาง ปลาย่างลอยคว้างหล่นแหมะหน้าทิดอู๊กพอดี แกลืมตาหรี่ปรือมองดูประหลาด้วยความพิศวงงงงวย รีบยกมือไหว้ขอบคุณต้นโพธิ์ที่ประทานปลามาให้พร้อมเคี้ยวกินเอร็ดอร่อยไม่สนใจหมาบักแดงบักลายที่ทำหน้าผิดหวังจ้องมองทิดอู๊กอย่างเอาเรื่อง
หัวขโมยเปิดเล้าไก่ไม่ยากนัก เสียงหลวงตาไอขลุก ทำให้มันหมอบราบอีกครั้งหัวใจของพวกมันเต้นระทึกราวกลองศึกในสมรภูมิ แต่ยังคงคลืบคลานเข้าไปในเล้ากลิ่นขี้ไก่เหม็นคลุ้ง แต่เมื่อคิดถึงตอนไก่นอนกอดตระไคร้ข่าอ่อนในหม้อทำให้มีกำลังใจในการทำบาปอย่างหน้าชื่นตาบาน มือไม้ควานหาไก่วัดที่มีแต่ตัวอ้วนๆมันคว้าหมับกำคอไว้ เสียงคร๊อกๆเล็ดลอดผ่านคอไก่แผ่วเบาไก่โต้งดิ้นทุรนตีปีกผลับๆไก่ตัวอื่นพลอยตกอกตกใจร้องระงมขึ้นกลางดึก ทิดอู๊กคิดได้โดยไวสงสัยหลวงตาจับไก่ให้แล้วเดินเงอะงะไปนั่งรอหน้าประตูเล้าที่เตี้ยระดับหัวเข่าความมืดอำพรางทุกสิ่งทุกอย่างไว้แนบเนียน หัวขโมยรีบมุดออกมาโดยไว พร้อมไก่รุ่นกระทงในมือ
หลวงตาผมอยากเลี้ยงไก่ ...เลี้ยงไก่
แกบ่นพึมพรำขโมยสะดุ้งโหย่งหัวฟาดเล้าไก่โดยแรงแต่มือยังกำคอไก่ไว้แน่น ผุดลุกขึ้นที่จะวิ่ง แกคว้าขาไว้ทันท่วงที
ขอไก่ ผมอยากเลี้ยงไก่
หัวขโมยอีกคนวิ่งย้อนกลับมาตรงเข้าเตะทิดอู๊กราวลูกฟุตบอลไม่มีพ่อมีแม่ หลวงตาตื่นแล้วเสียงฝีเท้าที่เหยียบบันไดกุฏิคล้ายเหยียบหัวใจขโมยเข้าไปด้วยยิ่งเตะดูเหมือนยิ่งรัดแน่นทวีคูณเพิ่มดีกรีความบ้าในเม็ดเลือดให้ทิดอู๊ก
มิงอยากเลี้ยงไก่นักรึ
หัวขโมยสบถคว้าด้ามเสียมที่วางชันข้างเล้าไก่ฟาดเต็มกระหมับ
โพล๊ะ!
เลือดข้นไหลผ่านดวงตาของแกเป็นเส้นสายมือที่เกาะเกี่ยวอ่อนแรงหัวใจเต้นผะแผ่วลมหายใจรวยริน ไก่ ขอไก่
เลือดสีแดงไหลเป็นวงกว้าง
มิงอยากได้นักรึไอ้อู๊กผีบ้าข้าจะให้
หัวขโมยยัดไก่ใส่มือของแกพอดีแสงไฟสาดผ่าน
เกิดอะไรขึ้นว่ะไอ้แผง
หลวงตาจำหน้าหลานรักได้
ไอ้ผีบ้านี่มันลักไก่วัดผมมาเห็นพอดี มันเลยฮึดฮัดสู้ก็เลยฟาดด้วยเสียมขอรับมันแรงเยอะนัก
อ้าว...แล้วมิงมาอะไรดึกๆดื่นๆ
แม่ไม่สบายเลยให้ผมมาขอยาหลวงตาครับ
เอ่อ...เอายาแล้วเอาไก่ไปด้วยล่ะดีกว่าปล่อยให้มันตายเปล่าๆส่วนไอ้ผีบ้านี่ปล่อยมันไว้นี่แหละ ถ้ามันฟื้นขึ้นเมื่อไหร่จะไล่ไปเสียให้พ้นเลี้ยงเสียข้าวสุก
ไม่นานความเงียบสงัดเข้ามายึดครอง ลมดึกวูบผ่านใบโพธิ์ครวญเพลงโหยหวน ทิดอู๊กเพียงมองเห็นพ่อยืนอยู่ใต้ร่มโพธิ์นั่น............
จากคุณ :
เดอะแหลม
- [
26 มิ.ย. 47 23:51:34
A:192.168.68.106 X:203.113.41.72
]