เช้าวันจันทร์อันสดใส หลังจากที่สามีไปทำงานและลูก ๆ ไปโรงเรียนกันแล้ว ฉันนั่งอ่านสือตามลำพังในห้องนั่งเล่น เสียงคนรับใช้กำลังทำความสะอาดดังออกมาจากห้องครัว ฉันนั่งเหยียดขาบนโซฟาอันนุ่มสบาย ถ้าจะว่าไปแล้วห้องนั่งเล่นนี้ก็ถือว่าเป็นห้องที่ฉันชอบที่สุดในคฤหาสน์ก็ว่าได้
ฉันอ่านเรื่องการปลูกกุหลาบ ฉันกำลังหลงใหลในความงามของมัน ตอนนี้ในสวนของฉันมีดอกกุหลาบหลายหลากสี มันสวยมากฉันใช้เวลาหลายชั่วโมงในการนั่งเฝ้ามองสวนกุหลาบ สายลมเย็นพัดเอื่อย ๆ เข้ามาตรงหน้าต่างที่ฉันเปิดแง้มเอาไว้ ฉันชอบฤดูใบไม้ผลิสีเขียวของต้นไม้กับสีเขียวของกำแพงห้องนั่งเล่นทำให้ฉันมีความสุข ฉันวางหนังสือลง กวาดสายตามองไปทั่วห้องสีเขียวสดใส พลันสายตาฉันก็ไปหยุดที่กำแพงข้างขาวตรงเตาผิงจนได้
ฉันลุกขึ้นจากโซฟา และเดินไปที่กำแพง ฉันเห็นแต่สีเขียวของวอลเปเปอร์ที่ปิดเอาไว้ ฉันเอามือลูบไปบนกำแพง คราวนี้ฉันไม่รู้สึกถึงความสากของพื้นผิวก้อนอิฐ แต่ฉันรู้สึกถึงความลื่นเรียบของผิววอลเปเปอร์พร้อมกับความแข็งแรงของกำแพงที่ห่อหุ้มบ้านของฉันและศพของบ๊อบที่ยืนอยู่ในกำแพงนี้มาหนึ่งปีแล้ว ตรงนี้สินะคงเป็นอิฐก้อนสุดท้ายที่ฉันวางลงไป ฉันยังจำดวงตาของคุณได้ดี อย่ามองฉันด้วยสายตาอย่างนั้นสิบ๊อบ อย่างน้อยคุณก็น่าจะดีใจนะที่คุณได้อยู่กับฉันในตอนนี้ ฉันแนบหูลงไปบนกำแพงตรงตำแหน่งที่คิดว่าน่าจะเป็นหัวใจของบ๊อบ ฉันคงจะแปลกใจไม่น้อยถ้าได้ยินเสียงหัวใจของคุณเต้น หรือมีเสียงบางสิ่งบางอย่างเคลื่อนไหวภายใต้กำแพง ฉันหลับตาลงและเงี่ยหูฟัง คุณน่าจะพูดทักทายอะไรฉันออกมาบ้างนะบ๊อบ อย่าทำเป็นนิ่งเงียบไปหน่อยเลย
คุณผู้หญิงคะ กำลังทำอะไรเหรอคะ คนรับใช้ทักขึ้น
ฉันสะดุ้งตกใจ รีบหันกลับมามองที่คนรับใช้
เอ่อ ไม่มีอะไรจ๊ะ ฉันแค่สำรวจดูว่าวอลเปเปอร์ที่เธอติดไว้แน่นแค่ไหน ฉันบอก
ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันทากาวติดไว้แน่นหนาไม่มีทางที่มันจะลอกหลุดออกมาง่าย ๆ แต่เมื่อกี้ดิฉันเห็นคุณผู้หญิงเอาหูแนบกำแพง แล้วก็ยิ้มหัวเราะอยู่คนเดียว คนรับใช้บอก เธอดูสนอกสนใจกับสิ่งที่ฉันเพิ่งทำไปกับกำแพง
ฉันเงียบไปครู่หนึ่ง สายตาชำเลืองไปที่กำแพง บ๊อบคงกำลังคอยฟังล่ะสิว่าฉันจะพูดว่าอะไร
ฉันแค่อยากฟังเสียงต่าง ๆ ในกำแพง เธอเคยได้เสียงลมหายใจภายใต้กำแพงไหม ฉันถามอย่างเยือกเย็น
ไม่เคยหรอกค่ะ
แล้วถ้ามีใครสักคนเอาเธอไปอยู่ในกำแพงตอนที่เธอยังหายใจอยู่ล่ะ ฉันถาม ด้วยน้ำเสียงเย็นชา
คุณผู้หญิงคะ มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ ดิฉันขอตายก่อนที่จะไปอยู่ในกำแพงดีกว่า คนรับใช้ตอบ ฉันมองเห็นความหวาดหวั่นบนสีหน้าเธอ คงไม่มีใครไปอยู่ใต้กำแพงแล้วหายใจได้หรอก ดิฉันคิดว่าคงมีแต่คนตาย อีกอย่างดิฉันไม่คิดว่าจะมีใครอยากไปอยู่ภายใต้กำแพงแล้วพยายามหายใจหรอกค่ะ
อืมนั่นสินะ คงมีแต่คนตาย ฉันยืนกอดอด ทำท่าครุ่นคริด แต่ถึงยังไงคนตายก็ไม่หายใจ แต่บางทีถ้าเธอได้ยินเสียงใครหายใจภายใต้กำแพงล่ะ
คุณผู้หญิงเลิกพูดเรื่องนี้ซะทีเถอะค่ะ ดิฉันกลัว คนรับใช้บอก เธอมองหน้าฉันด้วยแววตาที่หวาดกลัว ดิฉันแค่มาบอกว่า ตอนนี้ดิฉันทำความสะอาดครัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
โอว ขอบใจมากจ๊ะ ถ้างั้นเธอช่วยเตรียมมื้อเที่ยงเลยล่ะกัน
ค่ะ คุณผู้หญิง เธอรับคำ แล้วหันหลังเดินกลับไปที่ห้องครัว ฉันได้ยินเสียงเธอเปิดตู้เย็น เพื่อนำอาหารออกมา
ฉันใช้เวลาผ่านไปเกือบประมาณหนึ่งชั่วโมง อ่านหนังสือไปได้ครึ่งเล่ม การดูแลกุหลาบก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก แต่สิ่งที่ทำให้ฉันชอบดอกกุหลาบก็เพราะว่า ในความเบ่งบานงดงามของกุหลาบ ก็ยังแฝงไปด้วยความแหลมคมของหนาม เวลาจะตัดดอกกุหลาบมาใส่แจกันต้องมองก้านมันให้ดี
ติ๊ง ต่อง เสียงกดกริ่งประตูทางเข้า คฤหาสน์ดังขึ้น
ฉันมองออกไปที่นอกหน้าต่างห้องนั่งเล่น เห็นผู้ชายคนหนึ่ง ยืนอยู่ตรงประตูรั้วหน้าคฤหาสน์
ไม่เป็นไรค่ะ คุณผู้หญิง คนรับใช้วิ่งออกมาจากครัว ดิฉันจัดการเองค่ะ
ฉันกลับมาอ่านหนังสือต่อ ได้ยินเสียงคนรับใช้พูดคุยกับผู้ชายคนนั้นผ่านเครื่องอินเตอร์คอมที่ติดไว้หน้าประตู ผ่านไปสักครู่เธอเดินกลับเข้ามาที่ห้องนั่งเล่น
เขาบอกว่า เขาต้องการมาพบคุณผู้หญิงค่ะ คนรับใช้พูด
เขาต้องการพบฉันทำไม ฉันถาม
ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่เขาบอกว่าเขามีบางอย่างมาเสนอคุณผู้หญิง และคุณผู้หญิงจะต้องชอบแน่นอน คนรับใช้ตอบ
หวังว่าคงไม่ใช่พวกเซลล์แมนขายของนะ ฉันบอกอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่
ดูท่าจะไม่ใช่ค่ะ เขาบอกว่าเป็นสิ่งที่ทำมาให้คุณผู้หญิงโดยเฉพาะ
ฉันเงียบไปครู่หนึ่งด้วยความงุนงง แต่สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจให้เขาเข้ามาได้
ถ้างั้นก็ไปพาเขามาเถอะจ๊ะ ฉันจะรออยู่ที่นี่
ฉันนั่งรออาคันตุกะแปลกหน้าที่ไม่เคยพบมาก่อน สักพักนึง ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าของคนสองคนกำลังเดินตรงเข้าที่มาห้องนั่งเล่น
คุณผู้หญิงรอคุณอยู่ในห้องนั่งเล่นค่ะ ฉันได้ยินเสียงคนรับใช้พูดกับแขก
ฉันนั่งขาไขว่ห้างบนโซฟา มีหนังสือวางอยู่ข้าง ๆ ผู้ชายอายุประมาณ 30 ปีต้น ๆ เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น ฉันไม่เคยเห็นชายคนนี้มาก่อน เขาเป็นคนร่างผอม สูง หนวดเครารุงรัง และมีผมสีแดงที่ดูยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ ใบหน้าที่ผอมแก้มตอบ ดูไม่สดใส และดวงตามองสำรวจไปรอบห้องอย่างไม่น่าไว้ใจ เขาใส่เสื้อและกางเกงหนังสีดำ ฉันคงบอกได้คำเดียวว่าเขาดูเหมือนคนจรจัดข้างถนนนี่เอง และเขาก็คงจะเป็นคนสุดท้ายในโลกที่ฉันจะต้อนรับให้เหยียบย่างเข้ามาในคฤหาสน์นี้
สวัสดีครับ ผมบิลครับ เขาเอ่ยปากแนะนำตัวด้วยเสียงแหบต่ำ ฉันเห็นฟันสีเหลืองไม่เป็นระเบียบ และกลิ่นควันบุหรี่ที่ลอยออกมา พร้อมกับลมปาก ทำให้ฉันต้องเบือนหน้าหนี เขายื่นมือให้ฉันจับเพื่อทักทาย
แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 47 03:29:01
แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 47 03:25:58
แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 47 03:23:49
จากคุณ :
Joecan
- [
27 มิ.ย. 47 02:53:08
]