เช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ผมมีโอกาสได้ไปดูหนังเรื่องหนึ่ง
โหย..ร้องไห้ซะ
ร้องไปพร้อมกับทึ่งในความสามารถของนางเอก
ถ้าไม่ใช่เธอคนนี้..หนังเรื่องนี้คงเรียกน้ำตาของผมไม่ได้ถึงขนาดนี้
เธอเล่นเก่งมาก..ดึงอารมณ์คนดูออกมาได้ทุกชอต ทุกซีน
พระเอกก็ใช่ว่าจะเล่นไม่ดี
ดวงตาใสแป๋วสื่อความหมายคู่นั้น..ไม่พูดอะไรออกมา..ก็โอย..แทบตาย
ฉากสุดท้ายที่มีเด็กชายกอดต้นไม้..
วิวสวยมาก..ตื้นตันมาก..
ชีวิต..ผลิดอกออกใบแตกกอเริ่มใหม่เสมอ
เป็นการยืนยันได้ถึงวจีที่ว่า
ทุกชีวิต..มีหนทางของมันเสมอ
เช้าวันนั้นผมได้รับโทรศัพท์
ให้พี่ ๆ ทายว่าจากใคร?..กึกึ..
ถูกแล้ว..เจ้าการะเวกแสนซนนั่นเอง
ไง..โทร.มาไมแต่เช้า?
พี่มุน..นี่นะเช้าของพี่..
เพิ่งสิบโมงเองไม่ใช่รึ?
คนอื่นเขาตื่นกันก้นแห้งหมดแล้ว..
ไมต้องก้นแห้ง?
ก็ตากแดดไง..
งั้นพี่ขอก้นเปียกต่อดีกว่า..
อ๋าย..พี่ฉี่รดที่นอนเหมือนเวกเหรอ?
ผมหัวเราะ
มีอะไรว่ามา..?
วันนี้พี่ว่างปะ?
ไม่แน่
แสดงว่าว่าง งั้นไปดูหนังกับเวกนะ
ไม่แน่..แสดงว่าอาจจะไม่ว่างโว้ย
อ้าว..ถ้าไม่ว่างพี่ก็ต้องบอกว่าไม่ว่างแล้วสิ..พี่บอกว่าไม่แน่..แสดงว่ายังไม่มีนัดไงล่ะ..
ผมถอนใจ นึกอย่างไงถึงชวนพี่ดูหนัง
ทุกทีเห็นชวนไปร้านคอมพ์เล่นเกมส์
ก็พี่หวานชวน..
งั้นพี่ว่าง..เจอกันที่โรงหนังนะ..
ผมวางหู..หัวเราะด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง
กึกึ..
+++++++
โรงหนังแถวบ้านผม..อาจจะไม่เหมือนที่กรุงเทพฯ
มันตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า
ตั้งอยู่ชั้นบนสุด
การจะขึ้นไปให้ถึงได้..ต้องมีบันไดเลื่อน
ไม่ก็ต้องขึ้นลิฟท์
ค่าตั๋วก็แสนถูก
ร้อยสี่สิบขาดตัว ตัวกระเปี๊ยกอย่างนายการะเวก ยังต้องเสียเต็มราคา
ก่อนจะเข้าดู..ต้องซื้อข้าวโพดคั่วไปด้วย..งั้นไม่ครบเซ็ต
ข้าวโพดคั่วที่เค็มปี๋..กินแล้วหิวน้ำเป็นกำลัง
น้ำที่หวานเจี๊ยบ..กินแล้วก็อยากเข้าห้องน้ำ
พี่ ๆ ที่อยู่กรุงเทพฯ..อย่าหัวเราะพวกผมนะครับ
พวกผมมันคนบ้านนอกครับ
กึกึ..
+++++
หวานไม่ทำหน้าแปลกใจอะไร ที่เห็นผมยืนเกร่รออยู่แล้ว
เธอมาในเสื้อยืดสีขาว..หลวมโคร่ง..เหมาะกับวัย
ผมยาวรวบไว้..ปล่อยผมม้ามาบังบาง ๆ ที่หน้าผากขาวผ่อง..เน้นริมวงคิ้วที่ดำสดใส
ปากแดงธรรมชาติ ตาหวานธรรมชาติ
ลำคอระหงขาวนวล..ใส่สร้อยคอสีเงินเส้นเล็ก ๆ
เมื่อเธอยิ้มให้..ผมยังรู้สึกว่าได้กลิ่นสบู่หอม ๆ กรุ่นจากกายเธอ
พี่มุน..แป๊กซี่หกแล้ว..
ผมตกใจ กระดกแก้วน้ำที่ถือขึ้น..มันเกือบจะหลุดมือไปซะแล้ว ถ้าน้องเวกไม่ทักไว้ก่อน
ตีตั๋วแล้วเหรอคะ?
เสียงหวานนั้นถามมา
ตีแล้วครับ..
เธอยื่นธนบัตรในมือให้..
ผมรับ..นับตังค์ทอนให้เธอ
อันเป็นข้อตกลงระหว่างเรา
ที่เธอถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
ถ้าอยากจะเที่ยวด้วยกัน ต้องช่วยกันออก..
มุนไม่ใช่เศรษฐี หวานก็ไม่ใช่เศรษฐี..ขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่ทุกวัน..
เพราะฉะนั้น..อย่าอวดรวย..ไม่เข้าเรื่อง..เข้าใจไหมคะ?
เข้าใจค้าบ.. ผมรับปากแล้วลอบกลืนน้ำลาย
++++
ผู้หญิงหน้าตาสวยหวานคนนี้..ใครจะเชื่อว่านิสัยของเธอค่อนข้างจะเข้าใจยาก
บางครั้งก็อ่อนหวาน..ดูเหมือนจะอ่อนแอจนต้องการคนดูแล..แต่บางครั้ง
เธอเสียอีกต้องดูแลผม
ซื้อมาทำไปตั้งเยอะคะนี่.. เธอมองถุงข้าวโพดแสนเค็มกับน้ำอัดโซดาแสนหวานในมือของผม
รู้อยู่ว่าซื้อหน้าโรงหนังมันแพง..ยังจะซื้ออีก..ไม่เคยกินข้าวโพดคั่วรึไง?
ก็ผมรู้ว่าการะเวกชอบ..
ไม่ต้องมาอ้างเลย..เห็นทุกทีก็กินแหมบ ๆ อยู่คนเดียว..
จริงคับพี่หวาน.. เจ้าเวกพยักหน้าหงึก ๆ
พี่มุนชอบเอามุนมาอ้างบ่อย ๆ อย่างคราวนั้นก็ทีหนึ่งแล้ว..
ไร..เวก..พูดดี ๆ นะ ผมพยายามถลึงตาขู่ แต่เขาไม่สนใจ
พี่เขาเดินไปขอเบอร์โทรศัพท์ผู้หญิงที่ร้านเกมส์ครับ..
เฮ้ย..
พี่เขาบอกว่าน้องชายของผมให้มาถาม..ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้รู้เรื่องเล้ย..
หวานค้อนตาคว่ำ
ผมอยากจะเตะเจ้าเวกสักโครม
ผู้หญิงแก่ ๆ ที่เฝ้าร้านเกมส์ไงคับ..พี่มุนบอกว่าคราวหน้าก่อนจะมาจะได้โทร.มาถามก่อนว่ามีโต๊ะว่างหรือเปล่า
เฮ้อ..แล้วไป ผมถอนใจดังเฮือก..
หางตายังลอบเห็นนายการะเวกแลบลิ้นแผล่บ
ไอ้เด็กแก่แดดคนนี้..สักวัน!!
ผมหมายมั่นในใจ
+++++
หนังเดินเรื่องเรียบ ๆ เพื่อเป็นการปูพื้น
เจ้าการะเวกและผมนั่งเคี้ยวข้าวโพดกันอย่างเอร็ดอร่อย
หวานซึ่งนั่งถัดไปจ้องตาเขม็งไปกับภาพยนตร์ที่โลดเต้นตรงหน้า
นางเอกกับพระเอกมาเจอกันด้วยอุบัติเหตุ
ทั้งที่พระเอกอยู่เชียงใหม่ นางเอกอยู่กรุงเทพฯ
แต่ทั้งสองก็มาเจอกันได้..อย่างน่าแปลกใจ
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้ง่าย ๆ แต่ไม่รู้เป็นไร หนังไทยแทบทุกเรื่องจะต้องมีอุบัติเหตุอย่างงี้
เธอและเขาเดินชนกันโครม
เจ้าเวกหัวเราะฮิฮะ..
+++++
นางเอกกระเป๋าเงินตก
พระเอกเก็บกระเป๋าเงินได้
นางเอกตกรถเพราะไม่มีตั๋วและเงินค่ารถ
พระเอกขี่รถตามเอากระเป๋าไปคืนให้
ทั้งสองก็เลยรักกัน..
เจ้าเวกหัวเราะฮิฮะ..
++++
ข้าวโพดหมดถุง ผมเห็นเจ้าเวกเช็ดมือกับขาเกงเกงเลยทำตามมั่ง
เราทั้งสองแย่งกันดูดน้ำ
คงวุ่นวายไปสักหน่อย..หวานเลยเหวี่ยงค้อนโครมเข้าให้
เราทั้งสองเลยต้องนั่งเงียบกริบ
++++
หนังพาเราเข้าสู่จุดเปลี่ยนของเรื่อง
แสดงถึงชีวิตด้านลึกของพระเอก และนางเอก
นางเอกมีเพื่อนซี้คนหนึ่ง..ทำงานเป็นนักเขียนเวปไซด์ด้วยกัน
เพื่อนนางเอก..มีแฟนที่คบกันทางอินเตอร์เน็ต
เพื่อนของพระเอก..เป็นคนงานทำงานงานวิจัยพันธุ์ไม้ด้วยกัน
พ่อแม่นางเอก..ไปไหนไม่รู้
หนังก็บอกไว้แต่ผมไม่ได้จำ
พ่อแม่พระเอก..ไปไหนไม่รู้เหมือนกัน
หนังบอกเพียงว่าเขาต้องอยู่คนเดียวตั้งแต่อายุหกขวบ
เนี่ย..ลึกสุดแล้ว..
เจ้าเวกหัวเราะฮิฮะ..
++++
นายหัวเราะอะไรนักหนา?
ผมกระซิบถาม
เขากลั้นยิ้ม..ตาแพรวพราว
หัวเราะพี่มุน
ไม?
พี่มุนทำตาเหล่เก่งจัง
ผมงง
ตาซ้ายมองพี่หวาน ตาขวามองหนัง..พี่ทำได้ไงคับพี่?
ผมแยกเขี้ยวให้เขา
++++
แล้วก็มาถึงจุดเปลี่ยนที่ว่า..
พระเอกระดมโทร.หานางเอก..ด้วยเครื่องสาธารณะประจำหมู่บ้าน
นางเอกยินดีรับโทรศัพท์พระเอก ไม่เว้นแม้แต่เวลาประชุมเรื่องงาน
จนในที่สุด ทั้งสองก็ได้เจอกันอีกครั้ง ในวันวาเลนไทน์พอดี
โหย..โรแมนติกแท้ ๆ
เจ้าเวกกลั้นหัวเราะยิก ๆ
+++++
วันนี้เพื่อนนางเอกพยายามชวนนางเอกให้ไปเป็นเพื่อนเที่ยวกับแฟนทางเน็ตคนนั้น
เธอไม่ไป..บอกว่าไม่อยาก
ไม่สนใจว่าเพื่อนจะตัดพ้อต่อว่าอย่างไร ดูเหมือนเธอจะรู้ว่าพระเอกจะลงมาจากเชียงใหม่มาหาเธอในวันนั้น
จริงดังคาด พระเอกโทรเข้ามือถือ..บอกว่ารออยู่ข้างล่างคอนโดของนางเอก
ทั้งสองมาเจอกัน..
ตอนนี้..ทั้งคู่เล่นเก่งมาก..พระเอกทำเขินได้น่ารัก นางเอกใช้สายตาเท่าทันและเอ็นดูมองเขาตลอดเวลา
ก่อนจากกัน(เจอกันแป๊บเดียวเองแหละ)พระเอกให้ดอกกุหลาบนางเอก
เป็นดอกกุหลาบสีแดง ห่อด้วยพลาสติกใส..คงเพิ่งซื้อมาจากร้านข้าง ๆ เมื่อตะกี๊
เสียดาย..ตัวเองอยู่เมืองหนาวแท้ ๆ เมืองที่มีดอกไม้ที่สวยที่สุดของประเทศ
กลับไม่เด็ดติดมือมาสักดอก..
พระเอกคนนี้ไม่โรแมนติคเหมือนผมเล้ย..
เจ้าเวก..อ้าว..นั่งหลับไปซะแระ
++++
คืนนั้นเป็นคืนเดียวกับที่เพื่อนนางเอก ประสบเคราะห์กรรมอย่างใหญ่หลวง
อันเป็นสาเหตุที่ทำให้นางเอกทนอยู่ที่กรุงเทพฯไม่ได้..ต้องตีตั๋วขึ้นรถทัวร์ไปเชียงใหม่
กลับไปบ้านย่าของเธอ..ซึ่งสิ้นชีวิตไปตั้งแต่ต้นเรื่อง อันทำให้นางเอกมาชนกะพระเอกในคราวนั้น
ท่ามกลางการเทคแคร์อย่างสุดชีวิตจิตใจของพระเอก
แล้วทั้งสองก็แต่งงานกัน
วาว..
เจ้าเวก..เอียงศีรษะมาซบไหล่ผม
++++
พระเอกทำอาหารอร่อย
พระเอกเป็นสามีที่น่ารัก..ไม่แม้แต่จะเว้นในข้อที่ว่า..
ยกน้ำอุ่นให้ภรรยาสาวใช้เท้าแช่น้ำ..เพื่อคลายความเมื่อยขบ
นางเอกมองเขาด้วยสายตาซาบซึ้งอย่างที่สุด
หนังแสดงให้ผู้ชมเชื่อว่า..พระเอกรักนางเอกอย่างไม่น่าเชื่อว่า..
จะรักกันได้ขนาดนั้น
เจ้าเวก..ยกมือเกาหัว..แล้วหลับต่อ
+++++
หนังเรื่องนี้ไม่มีฉากจิ๊จ๊ะเจ๊าะแจ๊ะ
แอร์ในโรงก็เย็นสบาย..เมื่อคืนวันเสาร์ผมก็เชียร์บอลอยู่ทั้งคืน
อันเป็นสาเหตุที่แทบจะทำให้ผมหลับไปด้วยกันกับเจ้าเวกเสียให้ได้
ดีที่..พระเอกล้มทั้งยืนขณะทำงาน!!!
++++
เรื่องราวต่อจากนี้..ตรึงทุกอย่างไว้ด้วยความผูกพัน และการสื่ออารมณ์ของตัวแสดงทั้งหมด
ความเจ็บไข้ได้ป่วย..ความลำบากขัดสน..ความเห็นอกเห็นใจ..ความเอื้ออาทรระหว่างมิตรภาพ
ความหวานที่กลายเป็นขม..ความรักที่คอยวันสูญเสีย..
ความกดดันที่ทวีขึ้น..ความสำนึกผิด..ความห่วงหาอาลัย..ความฯลฯ
ถะถั่งโถมเข้าสู่ผู้ชมอย่างตั้งตัวไม่ทัน
ถ้อยพรรณาในจดหมาย..อันเป็นของปู่ที่เขียนระบายความรู้สึกของตนกับย่า..ของนางเอกเอาไว้เมื่อนับสิบปีมาแล้ว
ถูกถ่ายทอดโดยนางเอก..ให้พระเอกฟัง..
ขณะที่พระเอก..นอนหายใจรวยริน..ใช้หลังมืออังแก้มของคนรัก..อย่างทนุถนอม
นางเอกอ่านด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า..ราวกับจะรู้ล่วงหน้า..ว่านี่คือวินาทีสุดท้ายของชีวิตคนที่เธอรักแล้ว
ความรักที่ผมมีต่อคุณ..มากมายเกินกว่าจะอธิบายออกมาได้..
ผมหวังแต่เพียงว่า..ขอให้คุณเก็บมันเอาไว้..ในส่วนลึกของหัวใจของคุณ
พระเอกมือตกจากแก้มคนรัก..อันหมายถึงการสิ้นลมหายใจสุดท้าย..ของเขา
นางเอกฝืนอ่านข้อความต่อไป..
และคุณ.จะยอมปล่อยให้มันงอกงามอยู่ในหัวใจของคุณตลอดไป..
แล้วเธอก็ปล่อยโฮ..โผซบร่างนั้นอย่างโหยหา..ร้องไห้ออกมาจนตัวสั่นสะท้าน..
ในความพร่าพรายของดวงตา..ผมได้ยินเสียงสะอื้นดังจากตรงนี้บ้าง ตรงโน้นบ้าง
ไม่เว้นแม้แต่นายเวก..
++++
เรื่องนี้..ประเด็นสำคัญอยู่ที่จดหมาย..
จดหมาย..ที่พระเอกเขียนให้นางเอก ขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่..และรู้ว่าเวลาของตัวเองใกล้จะสิ้นสุดลง
จดหมายเหล่านั้น..ทะยอยมาหานางเอกฉบับแล้วฉบับเล่า
ด้วยกรรมวิธีบางอย่าง..ที่หากพี่ ๆ อยากรู้ ต้องไปดูเอาเอง
เป็นการปลอบใจ..เป็นการดูแลครั้งสุดท้าย..ที่พระเอกจะทำให้เธอได้
ที่รัก..เป็นอย่างไรบ้าง ผอมไปหรือเปล่า ยังร้องไห้อีกไหม ผมขอโทษที่ไม่ทำตามสัญญาที่บอกไว้
ว่าผมจะอยู่กับคุณตลอดไป..ตราบเท่าที่ฟ้าจะให้เวลา
แต่ผมก็ไม่เคยคิดว่า ฟ้าจะให้เวลาผมน้อยแบบนี้..
ผมไม่อยู่แล้ว..คุณดูแลตัวเองให้ดีนะ อย่าร้องไห้อีกเลย.
.แม้น้ำตา..จะเป็นสิ่งที่..จะคอยเตือนให้คุณคิดถึงผม
แต่ผม ก็ไม่อยากให้คุณคิดถึงผมด้วยวิธีนี้
มันคงมีอีกหลายวิธี ที่จะทำให้คนเราคิดถึงกัน โดยไม่เจ็บปวด แล้วเวลาจะสอนเราเอง..
เหมือนกับที่ผมมักจะบอกคุณว่า ทุกชีวิตเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ..เพียงแค่เราเข้มแข็งเท่านั้น..
รักคุณมากกว่าชีวิตที่มี..
การเวกสะอื้นขึ้นมาทั้งตัว..ยกมือป้ายตา
++++
เราทั้งสามไม่มองตากัน..ขณะเดินออกจากโรงหนังแห่งนั้น
หนังเรื่องนี้..ทำให้ผมเสียน้ำตามากที่สุดเท่าที่ผมจำได้
ขณะนั่งในร้านอาหาร..เราสามคนยังนิ่งเงียบ..
ดวงตาของหวาน..บอบช้ำ..แดงกร่ำ
เจ้าการะเวก ยังไม่วายสูดจมูกฟืด ๆ
ผมเอง..ได้แต่พูดว่า
หนังดีนะครับ..
หวานพยักหน้า..ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา
ถ้าหวานมีคนที่รักที่สุดอยู่คนหนึ่ง..หวานจะบอกเขาว่า..
ถ้าเขาจะเป็นอะไร หรือหวานจะเป็นอะไร..เราจะเป็นพร้อม ๆ กัน
เราจะไม่ปล่อยให้คนอยู่ต้องทรมานอย่างนั้น
น้ำที่ผมดื่มเข้าไปเวลานั้น..ไร้รสชาติไปเสียแล้ว..
ความรักของผู้หญิง ล้ำลึก..สุดหยั่งจริง ๆ
++++
นายเวก..ชะเง้อคอขึ้นดูดน้ำจากแก้วตรงหน้า
อารมณ์เขาเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว
พระเอกใจร้าย..
ไม? ผมถาม
ให้นางเอกต้องร้องไห้ตั้งหลายที..
ผมนิ่ง
เป็นผมนะ..ถ้ารู้ว่าจะตาย..ก็ตายไปเลย..
คนที่อยู่จะได้ร้องไห้ทีเดียวไงคับ..
+++++
จากคุณ :
LaMoon
- [
28 มิ.ย. 47 23:45:10
A:202.5.82.217 X:
]