กรี๊ก!
บางทีผมอาจผิดเองที่ไม่อาจหาคำอย่างอื่น ที่เหมาะสมไปมากกว่านี้ ในการแสดงถึงอัตวินิบาตกรรมนัยน์ตาและประสาทหูตัวเองให้พ้นไปจากสิ่งที่ปรากฏในจอทีวี
ที่จริงผมไม่ได้ทำอะไรมากกว่าการเอื้มมมือไปตัดวงจรไฟฟ้าของทีวีประจำตำแหน่ง ตัดบทบาทของตัวละครที่ดูเสแสร้งและขาดความจริงใจ ตัดการโฆษณาที่เหลือเชื่อจนเจียนคลั่ง ตัดภาพสาวสวยที่กำลังเด้งซ้าย เด้งขวา เด้งหน้า เด้งหลัง กระดุ่บ กระดุ่บ ให้พ้นจากชีวิต
จอดับลง ชีวิตและเรื่องราวซึ่งกำลังดำเนินต่อเนื่องขาดหาย ถ้าพวกเขาเหล่านั้นมีจริงจะรู้สึกอย่างไร
บทบาทและหน้าที่ของพวกเขาและเธอ รวมทั้งสรรพสัตว์ และสรรพสิ่งล้วนหายวับเหมือนภาพยนตร์ฟิล์มขาดกะทันหัน ความมีตัวตนเหล่านั้นกลับกลายเป็นเพียงจอสีดำมืด มันน่าคิดว่าถ้าให้โอกาส พวกเขาจะเรียกร้องอะไรหรือไม่นะ...
ผมเบื่อสิ่งที่เสแสร้งและจอมปลอม ทำไมเราต้องนั่งหรือนอนจับเจ่าหน้าจอสี่เหลี่ยมวันละหลายชั่วโมงนั้นก็ไม่รู้
การปิดทีวีให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่ดีจริงๆ เป็นการทำลาย "ความมี" ให้หายลับดับสูญ ไม่ว่าความมีนั้นจะเป็นเท็จหรือจริงก็ตาม แต่หากมันถูกทำลายได้ก็คงไม่มีความหมายหรือน้ำยาอะไร
ผมยิ้มให้กับตัวเองสามครั้ง ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งความเป็นปรมาจารย์แห่งความเบื่อหน่าย สีที่ทาผนังห้องก็ดูน่าเกลียด บางทีคนทาสีอาจทะเลาะกับเมียมา ชอบหน้าต่างก็ดูหยาบๆ บางทีช่างไม้อาจทะเลาะกับเมียน้อยมา รถราที่วิ่งขวักไขว่เบื้องล่างลิบๆก็ดูเร่งร้อนเหมือนกับว่าจะรีบไปดูใจน้องเมีย คนหลายคนยืนคุยกันเหมือนคนปัญญาอ่อน
ก้อนเมฆบนท้องฟ้าก็ดูขี้เกียจเหลือทน มันลอยอย่างหงอยๆไร้เรี่ยวแรง เหมือนคนอกหัก ท้องฟ้าทำไมต้องทะลึ่งเป็นสีฟ้า ไม่มีปัญญาหาสีอื่นมาประดับบารมี
ส่วนตัวผมเองทำไมน่าเบื่อหน่ายเหลือทน เกิดมาหน้าตายังกับลิงผสมควาย รายได้ก็รับกับใบหน้าท่าทางเหลือเกิน จนมีปัญญาเช่าห้องเล็กๆชั้นสามของคอนโดมิเนียมหรูหรา ใจจะขาดอยู่กับจิ้งจกสามตัว ที่ดูแล้วไม่รู้ว่าพวกมันเป็นตัวผู้ตัวเมียกี่ตัว จะมีปัญหาในการแบ่งสรรปันส่วนความเป็นผัวเป็นเมียให้กันอย่างไร
ทีวีส่งเสียงซ่าเหมือนโซดากำลังเพ้อพิไรหาน้ำแข็ง ผมหันออกไปมองนอกหน้าต่าง ด้วยความหวังว่าจะเห็นนางฟ้าเหาะลงมาอ้อนวอนขอแต่งงาน
ฝันไปเถอะ!!
นิ้วมืออะไรนั่น ใหญ่เหลือเกิน มันแหวกฟ้าใหญ่เต็มท้องฟ้า แหวกเมฆลงมาอย่างหน้าด้านไม่เกรงใจใคร ผมยังไม่ทันร้องสักคำ นิ้วมือนั้นก็กระแทกลงบนพื้น
กรี๊ก.........
+++++++
บางทีผมอาจผิดเองที่ไม่อาจหาคำอย่างอื่น ที่เหมาะสมไปมากกว่านี้ ในการแสดงถึงอัตวินิบาตกรรมนัยน์ตาและประสาทหูตัวเองให้พ้นไปจากสิ่งที่ปรากฏในจอทีวี
และใครทะลึ่งมาปิดทีวีที่ผมกำลังดูอยู่ ผมกำลังอินกับบทบาทของนางเอกที่กำลังจะถูกนางร้ายจับกัดกินทั้งเป็น บางทีอาจเชือดเนื้อเอาเกลือทา ทำเนื้อแดดเดียว ส่วนพระเอกหล่อแต่โง่ได้แต่ยืนหันรีหันขวาง ไม่รู้จะจัดการกับปัญหาอย่างไร ปล่อยให้ผู้ร้ายยืนดูอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง เตรียมวิ่งมาปล้ำนางเอกต่อ โดยหารู้ไม่ว่าผู้กำกับสั่งให้ตำรวจมายืนเตรียมจับอยู่แล้ว
ผมไม่ต้องสงสัยนานนัก เพราะนิ้วมือขนาดมหึมาเต็มท้องฟ้ากำลังพุ่งตรงมา..........
กรึ๊ก...
++++
เอ้ย..ไฟดับ!
จิตแพทย์วัยกลางคนร้องเสียงหลง
เขากำลังอ่านบันทึกของคนไข้ อย่างจะพยายามวิเคราะห์ความแปรปรวนทางจิตที่วิปลาสคลาดเคลื่อน คนไข้ที่เป็นโรคทีวีพารานอยด์ ซึ่งจู่ๆ ก็หายไปจากห้องพักอย่างไม่รู้สาเหตุ ทีวีมุมห้องซึ่งเปิดประดับบารมีแต่ไม่มีคนหรือหมาสักตัวนั่งดูก็จำเป็นต้องดับไปด้วย
หมอเองก็ไม่ได้ดู เพราะมัวแต่อ่านบันทึกของคนไข้
เจ้านั่นคงบ้า นิ้วมืออะไรจะลงมาจากท้องฟ้า บ้าชัดๆ เด็กสามขวบยังรู้ว่าบ้า บ้าประสาท...ประสาทแด๊ก...เออ เราเป็นหมอนี่หว่า ไม่ควรนึกแบบนี้
โลกเราไม่ใช่จอทีวีที่ใครจะมาดับง่ายๆ หมอคิดขณะเหลือบมองดูนาฬิกา อีกไม่นานก็จะถึงเวลาอาหารเย็นกับนางพยาบาลสาวที่หมายตาเอาไว้
ท้องฟ้าวันนี้สดใส ไม่มีนิ้วมือบ้าๆของคนบ้าๆ
หมอมองท้องฟ้านอกหน้าต่าง แต่ใจทะลึ่งคิดลึกไปถึงส่วนเว้าส่วนโค้งในที่ปกปิดที่ไม่ควรปิดบังสำหรับเขาของพยาบาลคนนั้น
จนไม่ทันมองว่าท้องฟ้าที่สว่างสดใสกำลังดับลงอย่างรวดเร็ว
ราวหลอดไฟฟ้าที่กำลังดับลงอย่างไรอย่างนั้น
++++
จบ
แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 47 03:57:57
แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 47 23:11:31
จากคุณ :
Psycho man
- [
4 ก.ค. 47 22:52:49
]