CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    เมลโลดี้สื่อรัก ตอน 1

    นิยายเรื่องสั้นเป็นตอนๆ  ที่ไม่มีวันจบ  เพราะเป็นเรื่องความชุลมุนวุ่นวายเกี่ยวกับพวก  ดารา  นางแบบ  พรีเซ็นเตอร์ทั้งหลาย
    เอามาคั่นเรื่องเจ้าสาวทาสค่ะ

    ณ  ที่ทำงานของบริษัทที่อยู่กลางเมืองกรุงเทพนี้นะคะ  เป็นบริษัทที่รับจัดหา    นักร้อง  นางแบบ  ดารา    พรีเซนเตอร์ทั้งหลายส่งเข้าไปสู่ค่ายหนังและค่ายเทปที่อยู่ในวงการบันเทิง  รวมถึงรับแต่งเพลงทุกประเภทด้วยค่ะ    เรียกว่าที่แห่งนี้เป็นสื่อกลางสำหรับนักหาฝันทุกคน  ใครที่ต้องการเป็นดาวก็มักจะมาเขียนใบสมัครเพื่อแนะนำประวัติส่วนตัว  หรือบางครั้ง  ก็อาจทิ้งเดโมเทป  ภาพถ่ายและที่อยู่เพื่อให้ทางบริษัทสนใจได้ติดต่อกลับไป
    ชื่อเต็มๆของสำนักงานแห่งนี้ก็คือ  บริษัทสร้างฝัน  จำกัด  เป็นที่รู้จักของพวกวัยรุ่นทั้งหลายที่แวะเวียนกันมาเทสต์หน้ากล้องกันอยู่เป็นประจำ    
    จุ๊    ๆ  ๆ  แต่แปลกอยู่อย่างค่ะ  พนักงานที่นี่น่ะสิคะมีแต่ผู้หญิงล้วนๆ  ซึ่งเป็นผู้มีความสามารถไม่แพ้กันเลยค่ะ

    นำโดย  
    ผู้จัดการสาวแสนสวย  นส.วราตรี    เป็นเจ้าของบริษัทที่มีหุ่นเซ็กซี่  เร้าใจชายหนุ่มทั้งหลาย  ผู้มีนิสัยประหยัดมาก

    ตามมาด้วยแมวมองสาวแสนสวยหุ่นอวบอั๋น  นส.  คิราลักษณ์  เป็นคนค้นหาดาราและนักร้องเข้าสู่วงการ  รักในการกินเป็นชีวิตจิตใจมาก

    ตำแหน่งที่ขาดไม่ได้นั่นคือโครโปรดิวเซอร์สาว  มีความมั่นใจในตัวเองสูง  มีหน้าที่ปั้นนักร้องส่งค่ายเทป  นส.  ฐิติมล  ผู้มีความละเอียด  แม้แต่ตัวโน๊ต  1  ตัวในเพลงยังไม่ยอมให้พลาดเลยค่ะ

    แล้วก็นักแต่งเพลงแห่งบริษัทนี้    นส.  กวินันท์  ผู้ซึ่งชอบแต่งเพลงเร็วๆเป็นชีวิตจิตใจ    เพลงเศร้าๆซึ้งๆ  แต่งได้เป็นบางเวลาเท่านั้น

    ต่อมาก็สไตลิสต์สาวหน้าหวานที่มีหน้าที่ค้นหานายแบบและนายแบบเข้าสู่แคทวอล์ทชื่อดังๆ    นส.  ริลลินี

    คนเกือบสุดท้าย  ที่คอยจัดหาพรีเซนต์เตอร์ส่งไปถ่ายโฆษณา  ต้องคัดแล้วคัดอีกถ้าไม่ดีจริงเธอไม่ให้ผ่าน  
    นส.  ธันธิกา

    คนท้ายสุดและสุดท้ายเป็นตากล้องสาวมือฉบังที่ถ่ายภาพออกมาได้อารมณ์มาก  นส.  อรชนก

    แนะนำตัวละครหมดแล้วคราวนี้ก็มาเข้าสู่นิยายบทแรกกันค่ะ

    ++++++++++++++++++++

    ตอนที่  1    เสนอตอน    เมลโลดี้สื่อรัก

    คนเจียมตัวก็ได้แต่เจียมใจ  
    ทนทำใจได้แต่เฝ้ามองดูเธอ
    ฉันคงไม่มีสิทธิ์จะคิดดัง
    ว่าชั้นนั้นรักเธอ
    ได้แต่เพ้อรักเธอข้างเดียว…………

    เสียงเพลงที่ดังมาจากห้องเล็กๆในบ้านทาวเฮาส์สีหวานซึ่งเป็นที่พักอาศัยของนักแต่งเพลงสาวสวย  กำลังนั่งฟังเพลงซึ้งที่วัยรุ่นกำลังฮิตฟังกัน    เธอนั่งทำงานไปร้องเพลงคลอไปด้วย  หญิงสาวมีอาชีพเป็นนักแต่งเพลงประจำบริษัทสร้างฝัน  จำกัด
    “โอ๊ย  จะบ้าตาย  แต่งเพลงซึ้งนี่ทำไมมันยากอย่างนี้นะ”เธอตะโกนออกมาเพราะความโมโหที่หัวสมองคิดอะไรไม่ได้ดั่งใจ

    กวินันท์ได้รับงานชิ้นใหม่มาทำ  1  ชิ้น  ทางบริษัทค่ายเทปอยากให้เธอแต่งเพลงให้นักร้องหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักและโด่งดังมากในขณะนี้
    “กีวี่    ชั้นมีงานด่วนให้เธอทำหนึ่งชิ้น”  ชมพู่หรือนส.ฐิติมลซึ่งมีหน้าที่เป็นโครโปรดิวเซอร์เรียกเพื่อนสาวเข้าไปพบเพื่อบอกงานใหม่ให้ฟัง
    “งานอะไร  เหรอชมพู่ทำไมต้องรีบขนาดนั้น
    “รีบสิ  เพราะเขาบอกมาว่างานนี้ขอด่วนหน่อย  พรุ่งนี้ต้องเสร็จอยากให้บริษัทของเราแต่งเพลงแนวรักหวานซึ้ง  ออกแนวโรแมนติกน่ะ  ให้กับนักร้องชื่อดังที่จะนำไปเล่นคอนเสริตใหญ่ที่เอ็มบีเจแอล  เห็นว่าพรุ่งนี้จะเข้ามาที่บริษัทนะ  ฐิติมลแจกแจงงานให้เพื่อนสาวฟัง

    “หา  ชมพู่นายนั่นบ้ารึเปล่า  แต่งเพลงวันเดียวใครจะไปแต่งทันกัน”
    “ไม่รู้  เรื่องนี้เจ๊วราตรีเป็นคนรับงาน  ชั้นก็มีหน้าที่แจกงาน”ฐิติมลปัดความผิดไปให้เจ๊เจ้าของบริษัท

    “เจ๊อีกแล้วเหรอ  ทำไมเจ๊ชอบรับงานเร่งๆจริง”  กวินันท์โมโหไปถึงเจ๊วราตรี
    “อ้าวกีวี่ไม่รู้เหรอ  เจ๊เป็นโรคแพ้หนุ่มหล่อน่ะ  น่าอย่าบ่นเลยรีบกลับไปทำตามสั่งเถอะ  เดี๋ยวงานไม่เสร็จจะถูกเล้งเอาได้”หญิงสาวได้แต่ทำหน้าเมื่อย

    “ว่าแต่ว่าใครเหรอ  นักร้องที่กำลังโด่งดัง”
    “อ้าวก็  นายเกมส์ที่ร้องเพลง  ค้นหาใจน่ะ  ตอนนี้เขาดังมากเลยนะ  ใครๆก็ร้องเพลงเขาได้หมด”กวินันท์นึกถึงใบหน้าหล่อเหลาที่มีสันจมูกโด่งเป็นจุดเด่นที่สุด  กับดวงตาคมเรียวยาวที่บอกถึงคนชอบเอาชนะ

    “เฮ้อ  แค่นึกถึงหน้านายนั่น  ชั้นก็ไม่รู้ว่าจะแต่งได้รึเปล่าเพลงน่ะ”หญิงสาวถอนหายใจออกมาทำหน้าเบื่อๆ
    “ทำไมเธอถึงคิดอย่างนั้นล่ะกีวี่”
    “ก็ในวงการบันเทิงน่ะ  เขาเรียกตานักร้องคนนี้ว่า  เจ้าชายจุกจิก”กวินันท์พูดถึงฉายาของชายหนุ่มให้ฟัง

    “คงไม่ขนาดนั้นหรอกกีวี่  คิดมากไปรึเปล่า”
    “แล้วชมพู่คอยดูไปก็แล้วกันว่าจะเป็นอย่างที่ชั้นบอกหรือไม่”  หญิงสาวมั่นใจว่าสิ่งที่คนในวงการพูดต้องมีส่วนเป็นจริงบ้างล่ะน่า  ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่เอามาพูดกันหรอก
    +++++++++

    กวินันท์นั่งบิดขี้เกียจไปมาบนโต๊ะทำงานที่บ้าน  
    “เฮ้อ  เมื่อยจัง    แต่งเนื้อร้องได้ครึ่งหนึ่งละ  ไปหาอะไรทานก่อนดีกว่าชักหิว”
    หญิงสาวลุกขึ้นไปเปิดตู้เย็นหยิบมักกะโรนีที่ซื้อสำเร็จมาจากห้างใส่ไมโครเวปในตู้อบเพื่อให้ความร้อนกระจายไปทั่ว  อาหารก็จะได้สุกรับประทานได้  ต่อจากนั้นเธอก็เทนมรสจืดใส่แก้วยาว  1  แก้ว    เดินถือออกมาที่เทอเรสหน้าบ้านซึ่งมีมุมเล็กๆไว้สำหรับนั่งทานข้าวได้

    กวินันท์เปิดเพลงคลอไปด้วยในขณะนั่งทานมักกะโรนีแสนอร่อย  เสียงดีเจหนุ่มหล่อคุยก่อนเปิดเพลงให้ฟัง
    “คราวนี้เรามาฟังเพลงฮิตติดชาร์ตอันดับหนึ่งของคลื่น  98.75  กันดีกว่าครับ  คิดว่าหลายคนคงจะรู้จักกันดีกับชื่อของ  หนุ่มเกมส์  ปรีธนะ    สกุลเทวิน  กันนะครับ  กับภาพหนุ่มหล่อ  ผิวขาว  ทรงผมเท่ห์  แต่ถูกใจสาวๆกันมาก  ลองมาฟังเพลงของเขาดูนะครับว่าจะหวานจับใจขนาดไหน

    แล้วดีเจก็เปิดเพลงค้นหาใจที่กำลังดังที่สุดในเวลานี้  หญิงสาวก็นั่งฟังเพลงไปด้วยทานไปด้วย  พร้อมกับชมเชยเสียงของเขา
    “อื้อ  เสียงโรแมนติกดีจัง    มิน่าถึงได้ติดชาร์ตนานขนาด  หลายอาทิตย์ติดกัน”กวินันท์นั่งฟังเพลงของเขาไปเรื่อยๆจนกระทั่งจบ  พร้อมกับทานมักกาโรนีหมด  เธอก็เก็บจานไปล้างในอ่างและคว่ำไว้อย่างเรียบร้อย  หญิงสาวอยู่กับอรชนกตากล้องสาวมือฉมังตั้งแต่เข้ามาทำงานที่บริษัทสร้างฝัน  บ้านที่กวินันท์อยู่ก็เป็นบ้านที่อยู่ในรั้วเดียวกันกับ  เจ๊วราตรีเจ้าของบริษัทแสนสวยที่ชวนให้พวกสาวๆมาอยู่ที่นี่ด้วย    

    ชมพู่โครโปรดิวเซอร์ก็อยู่กับริลลินีสไตลิสต์สาวห้าว    ธันธิกาผู้คัดตัวพรีเซ็นเตอร์  ก็อยู่กับคิราลักษณ์  แมวมองสาวร่างอวบโดยเก็บค่าเช่าเดือนละ  4000  บาท  ค่าน้ำค่าไฟแยกต่างหากใช้เท่าไหนจ่ายเท่านั้นตามจำนวนมิเตอร์ไฟ

    แอบนินทาเจ้าของบริษัทนิดหนึ่งตรงที่เป็นคนงกมาก  เก็บค่าเช่าทุกเดือนตรงเป๊ะ  ๆ  ไมมีให้เกินหรือขาดแม้แต่สตางค์แดงเดียว  ที่ว่าไม่ให้เกินเนี่ยหมายถึง  อย่าจ่ายเกินวันที่กำหนดนะอย่าเพิ่งคิดว่าเจ๊จะใจดีลดราคาให้  ไม่มีทาง

    หญิงสาวกลับไปนั่งแต่งเพลงจนเสร็จ  อัดใส่  ซีดีเก็บไว้กะว่าจะเอางานไปส่งที่บริษัท  เธออาบน้ำแต่งตัวใหม่ก่อนจะออกมาอยู่ในชุดเสื้อแขนตุ๊กตาพองๆ  คอปาดสีขาว    กับกระโปรงยาวสีเทา  สะพายเป้กระเป๋าถักที่หญิงสาวโปรดปรานรองจากรองเท้าสาน    เธอขับรถกลับไปที่บริษัทสร้างฝัน  เห็นพวกเพื่อนๆคนอื่นกำลังทำงานกันอย่างขะมักขะเม้น

    กวินันท์ก้าวเท้าเข้าบริษัทก็เจอเสียงเรียกชื่อเธอทันที
    “กีวี่  เอางานมาส่งเหรอจ๊ะ”
    “ค่ะเจ๊  แล้วนี่เจ๊ไม่มีนัดกับหนุ่มที่ไหนเหรอคะถึงอยู่ติดบริษัทได้”

    “ช่วงนี้ยัง  ไว้หาเหยื่อเส้นดีๆได้ค่อยไป  เจ๊ไปดูพวกนั้นทำงานก่อนนะ  แล้วเดี๋ยวเจอกันจ๊ะ”พูดจบเจ๊วราตรีก็เดินนวยนาดเข้าไปในห้องฝึกสอนศิลปิน

    ฐิติมลเห็นเพื่อนรักเข้ามาในห้องอัดเสียงก็เดินเข้ามาถาม
    “กีวี่  แต่งเพลงเสร็จแล้วเหรอ”
    “อืม  เพิ่งเสร็จน่ะ  ก็เลยลองเอามาให้ฟังดู”  หญิงสาวส่งแผ่นซีดีให้กับเพื่อน  ฐิติมลรับมาเตรียมนำมาเปิดในเครื่องก็เผอิญได้ยินเสียงแสบแก้วหูดังเข้ามาในห้อง  สองสาวหยุดเคลื่อนไหวชั่วขณะ  อีเจ๊นี่พาใครมา

    “เชิญค่ะ  น้องเกมส์  พอดีนักแต่งเพลงของพี่เพิ่งเอางานมาส่ง  จะลองฟังเลยมั้ยคะ”  เจ๊ใหญ่แห่งบริษัทหันมาถามหนุ่มหล่อหน้าตาดีทันทีที่พูดจบ  และหันกลับมาทางด้านลูกน้องอีกครั้ง

    “ชมพู่  กีวี่  ตกลงงานที่สั่งเสร็จมั้ยจ๊ะ”
    “เสร็จค่ะ  กำลังจะเปิดฟังอยู่นี่ล่ะค่ะ  แต่ยังไม่ได้แก้ไขเลยเจ๊”ชมพู่เป็นคนตอบแทน
    “ไม่เป็นไรลองฟังดูก่อนเผื่อน้องเกมส์ถูกใจ  จริงมั้ยคะที่พี่พูดเนี่ย”

    “ดูเจ๊ใหญ่เราสิ  เอาใจนักร้องขนาดไหน  เห็นแล้วอดหมั่นไส้ไม่ได้”สองสาวแอบกระซิบคุยกัน
    “ซุบซิบอะไรกัน  เอ้า  เปิดเพลงสิจ๊ะ  จะได้รู้ว่านักแต่งเพลงของบริษัทเราน่ะเก่งขนาดไหน
    “ค่ะ  เจ๊”  ฐิติมลหันมาตอบ

    เสียงดนตรีเริ่มจังหวะอินโทร    เสียงเปียโนที่พลิ้วไหวเริ่มบรรเลงไปตามจังหวะของมัน    ตามด้วยเสียงหวานใสๆของนักแต่งเพลงสาวสวยที่นั่งอยู่ในห้องบันทึกเสียง  ดั่งเสียงดนตรีที่เป็นเหมือนเสียงกระดิ่งน่ารักหวานๆ

    @@@  ##$    $%^&#^G    @#$%^    !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!      #$***@###!

    เจ๊ใหญ่ของเราก็ยืนทำท่าเคลิ้มไปตามเสียงเมโลดี้ที่เพราะแผ่วๆพอเพลงจบเธอก็ถามนักร้องหนุ่มหล่อทันที
    “เป็นไงคะ  หนูกีวี่นักแต่งเพลงของบริษัทพี่แต่งเพลงเพราะมั้ยคะ”เจ๊วราตรียืนยิ้มแป้นรอฟังคำตอบจากนายเกมส์

    “ตรงไหนที่เรียกว่าเพราะเหรอครับ  ผมฟังๆดูมันก็ไม่ค่อยสื่อถึงความโรแมนติกเท่าไหร่เลย”รอยยิ้มที่ส่งให้นักร้องหุบทันที  กลายเป็นทำหน้าเจื่อนแทน
    “เหรอคะ  แต่พี่ก็ว่าเพราะนะคะ  และอีกอย่างเสียงน้องกีวีเนี่ยก็สื่อถึงความรักได้อย่างลงตัวเลยล่ะค่ะ

    “ดูเหมือนว่าเจ้าของบริษัทเนี่ยจะพยายามเชียร์ลูกน้องเหลือเกินนะครับ”นายเกมส์ส่งสายตาไปทางสาวกีวี่

    หนอยอีตาหน้าจืดอย่างกับเต้าหู้ขาว  มาว่าเพลงของชั้นสื่อไม่ถึงอารมณ์  ชั้นอุตส่าห์ตั้งใจกับงานชิ้นนี้  กลับบอกว่าหาความเพราะไม่เจอเหรอ  ฮึ”กีวี่นั่งทำปากขมุบขมิบนินทาชายหนุ่มในใจ  พร้อมกับหน้าตาที่เริ่มบูดบึ้ง

    “เอ่อ  ถ้าอย่างนั้นน้องเกมส์ช่วยบอกหน่อยสิคะว่าอยากให้แก้ไขอะไรในเพลงบ้าง”เจ๊เจ้าของบริษัทถามความเห็นของปรีธนะอีกครั้ง
    “ผมว่ากลับไปแต่งใหม่ทั้งหมดแล้วค่อยเอามาให้ผมฟังอีกรอบดีกว่า  แล้วจะบอกให้ว่าที่ไม่ชอบน่ะเพราะอะไร”

    “อ๊าย  ไอ้ตี๋หน้าจืด  นี่จะให้ชั้นกลับไปแต่งใหม่อีกรอบเนี่ยนะ  เก่งจริงก็วิจารณ์มาสิยะว่าไม่เอาเพราะอะไร  โด่เอ๊ย  ทำเป็นวิเคราะห์ทำอย่างกับมีความรู้  ก็ไอ้แค่นักร้องเสียงหล่อเท่านั้นล่ะว้า”กีวี่กำมือแน่นเหมือนเตรียมพร้อมไว้ว่าถ้าใครปากเสียแม่ต่อยแน่  

    “วันนี้ผมกลับก่อนนะครับแล้วพรุ่งนี้จะมาฟังเพลงใหม่ว่าแต่งใช้ได้รึเปล่า”ในขณะที่นักร้องหนุ่มกำลังจะกลับ  กีวี่ก็หมดความอดทนกับชายหนุ่มตรงหน้า

    “เดี๋ยว  อย่าเพิ่งกลับสิ”
    “อะไร  ยัยกีวี่”เสียงอีเจ๊ประจำบริษัทหันมาทางเธอเรียกชื่อหญิงสาวเสียงดุ
    “เจ๊อยู่เฉยๆเหอะ  หนูขอคุยกับตานี่หน่อย”พูดจบก็ดึงแผ่นดิสในเครื่องบันทึกเสียงออกมาและก็คว้าแขนของนักร้องหนุ่มมาที่ห้องคอมพิวเตอร์ซึ่งมีโปรแกรมสร้างคอร์ดเมโลดี้บันทึกไว้  ปล่อยให้เจ๊วราตรีตาโตแต่ถึงโตยังไงก็ยังตี่อยู่ดี  อ้าปากค้างรอญาติมาเยี่ยม

    “เจ๊  ๆ    เจ๊”  ชมพู่เรียกเจ๊ใหญ่เสียงดัง
    “ยัยชมพู่  ทำไมต้องเสียงดังด้วยเนี่ย  หูชั้นแตกไปทำยังไง
    “ปากเจ๊อ่ะ  อ้าอยู่หนูกลัวเจ๊ขากรรไกรค้าง”
    “ปากเสียเดี๊ยะเถอะ  ว่าแต่ยัยกี่วี่เป็นอะไร  อยู่ๆก็ลุกขึ้นมาวีนลากหนุ่มหล่อเจ๊ออกไปด้วยน่ะ

    “ไม่รู้ดิเจ๊  หนูก็ยืนอยู่พร้อมเจ๊อ่ะ  เจ๊ไม่รู้แล้วหนูจะรู้ได้ไงล่ะ”  ดูมันๆ  ตอบกวนจริงๆ    เจ๊ใหญ่หันมาทำหน้ามุ่ยยกมะเหงกเขกโป๊กไปที่หัวยัยชมพู่
    “โอ๊ย  เจ๊มาเขกหัวหนูไมเนี่ย
    “โทษฐานปากดีไงล่ะ  ไปแอบดูดีกว่าว่ายัยกีวี่เอาหนุ่มหล่อชั้นไปกระทำชำเราที่ไหน”พูดจบก็รีบจรลีตามไปดูนางเอกของเรื่องทันที
    “หนูไปด้วยเจ๊”    ชมพู่รีบตามเจ๊ใหญ่ของเราออกไป

    แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 47 02:26:06

    จากคุณ : tonkho-w - [ 5 ก.ค. 47 00:45:05 ]