พ่อครัวใหญ่
เตี้ยเป็นคนบ้านโป่งราชบุรีโดยกำเหนิด
บิดาเป็นชาวจีนมีอาชีพเป็นเจ้าของโรง้เลื่อย
มารดา เป็นคนไทยเชื้อสายโซ่ง
(เป็นคนไทยกลุ่มหนึ่งที่อาศัยอยู่แถบราชบุรี นครปฐม)
ถึงแม้เตี้ยจะโตมากับพ่อ ซึ่งเป็นเจ้าของโรงเลื่อย
แต่ชีวิตเตี้ยไม่ได้สุข สบายแม้แต่น้อย
เนื่องด้วยเตี้ยเป็นลูกคนที่สาม
ในบรรดาลูกพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน
เตี้ยยังมี น้องสาวอีกหนึ่งคน
ชีวิตเตี้ยเมื่อตอนยังเด็ก
ไม่รับการดูแลเอาใจจากบิดามากนัก
เนื่องด้วยมารดา ของเตี้ยเป็นภรรยานอกสมรส
ภรรยาหลวงของบิดาเตี้ยเป็นคนจีน
สังคมคนจีนภรรยาหลวงย่อม เป็นใหญ่
มารดาของเตี้ยจึงไม่ผิดอะไรกับคนใช้
ชีวิตของเตี้ยนั้น เกิดมาไม่เคยมีความอบอุ่นเลย
ก็ว่าได้ ไม่ว่าจะทำอะไรต้องมี
การเปรียบเทียบกับลูกของบ้านใหญ่
ความน้อยเนื้อต่ำใจนี้เตี้ยเก็บ สะสมมาเรื่อย
มันเป็นความรู้สึกอิจฉาริษยาในวัยเด็กที่ทับถมมา
เป็นเวลานาน ครั้นพอเตี้ยถึงวัยที่
ศึกษาเล่าเรียน เตี้ยก็ได้รับการศึกษา
เล่าเรียนเหมือนเด็กทั่วไปที่ควรจะได้เรียน
มันผิดกันตรงที่ ทำไมเตี้ยต้องไปโรงเรียนวัด
แต่ลูกบ้านใหญ่ทุกคนได้ไปเรียนโรงเรียน
ประจำอำเภอ
เมื่อเรียนจบมัธยมเตี้เลยตัดสินใจไม่เรียนต่อ
เพราะว่าเตี้ยมีความรัก ความรู้สึกของเตี้ยที่มีต่อ
พิทยานั้ัน มันเป็นความรู้สึกที่อบอุ่นอย่างที่เตี้ย
ไม่เคยมีในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นจากแม่
จากพ่อหรือจากพี่ชายพี่สาวที่โตกว่า
เกิดมาในชีวิตนี้ความรู้สึกแบบนี้
มันมีพลานุภาพยิ่งใหญ่มาก
สำหรับเตี้ยในที่สุดเมื่อความรักมันเต็มอกของเตี้ย
และพิทยาสาวนครปฐม มันเลยตัดสินใจ ในสิ่ง
ที่ทุกคนในวัยสิบเจ็ดไม่สมควรที่จะทำ
คืนนี้เป็นคืนวันที่สองของงานประจำปีองค์พระปฐมเจดีย์
เตี้ยและพิทยานัดแนะกันอย่างดี
เมื่อตอนกลางวัน หลังจากแยกออกจากกลุ่ม
ที่ตนมาด้วยต่างจูงมือกันมาสักการะพระร่วงโรจน-ฤทธิ์
เพื่อขอพรให้ความรักนั้นอยู่ชั่วฟ้าดินสลาย
เมื่อทั้งคู่แน่ใจซึ่งกันและกัน แม้จะมีอุปสรรค
ขวากหนามหรือมหาสมุทร
ก็ไม่อาจขวางความรักของทั้งสองได้
ทั้งคู่จึงหนีตามกันมาอยู่ราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านของเตี้ย
ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ทั้งคู่มีพยานรักด้วยกันสามคน
หญิงสองชายหนึ่ง ภาระ อันหนักยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นเขา
ตกอยู่กับเตี้ยแต่เพียงผู้เดียว ลูกสามเมียหนึ่ง
แม่อีกหนึ่ง เตี้ยต้องกัด ฟันทนทำงานทุกอย่างไม่ย่อท้อ
ไม่ว่าจะเป็นงานร้านข้าวต้มโต้รุ่ง
งานรับจ้างทั้งกลางวันกลาง คืน
และแล้วเหมือนสวรรค์มีตา เมื่อแรงงาน
จังหวัดรับจัดหาคนงานไปทำงานตะวัน
ออกกลาง
วันนี้อากาศจังหวัดราชบุรีแจ่มใสไร้เมฆหมอกมาบัง
ไม่มีแต่ควันจากโรงงานน้ำตาล
ไม่มีแม้แต่กลิ่นเหม็นจากแม่น้ำแม่กลอง
ความรู้สึกของเตี้ยตอนนี้เป็นไปด้วยความหวัง
มองไปทาง ไหนเห็นแต่หน้าลูกเมียล่องลอย
อยู่ในห้วงอวกาศ ตกเย็นเตี้ยเดินเข้าบ้าน
ด้วยความปิติยินดี เพราะ เตี้ยได้ไปทำงาน
ที่ประเทศบาเรนห์ เป็นคนงานในครัว
เตี้ยทำงานอยู่ที่นั้นได้ปีกว่า
เตี้ยต้องกลับมาเดินเตะฝุ่นหางานใหม่ในเมืองไทย
ตอนนั้นเตี้ย มีความรู้สึกอยากกระโดดน้ำตาย
มันมืดมนไปหมด เตี้ยคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี
นอกจาก ภาระที่มีชีวิตแล้วคือลูกเมีย
เตี้ยยังมีภาระที่ไม่ชีวิตอีกคือ
เตี้ยซื้อบ้านเงินผ่อนอีกหนี่งหลัง
เมื่อมันต้องกลับมาในเวลาอันไม่สมควร
มันไม่ได้เตรียมใจไว้ก่อน
มันจึงหมดหนทางที่จะไปสมัครงาน
ครั้นจะไปเป็นพนักงานตามร้านอาหาร
ก็คงไม่มีเงินผ่อนบ้านแน่ จะไปเป็นพ่อครัวตามโรงแรม
ก็คงไม่ได้ฝีมือไม่ถึงคงไม่มีใครจ้าง
หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ
เตี้ยไม่เคยผ่านเปิดอ่านหน้าสมัครงาน
ทุกเช้า จนเจ็กเส็งเจ้าของร้านกาแฟ
ที่บ้านโปร่งรู้จักมันดี
เพราะทุกเช้ามันจะต้องมาอ่านหนังสือพิมพ์
ที่ร้านนี้เป็นประจำ
เช้านี้ก็เป็นเหมือนอย่างเคย
มันตื่นแต่เช้ารีบไปหาหนังสือพิมพ์อ่าน
มันหมดหวังกับไทยรัฐ เดลินิวส์
มติชนอ่านจนไม่มีอะไรจะให้มันอ่าน
มัันอ่านทุกหน้าทุกตัวอักษรที่รับสมัครงานจน
มันเริ่มท้อ มันจึงเดินกลับบ้านด้วยความหวัง
ถึงวันพรุ่งนี้ เมื่อกลับมาถึงบ้านมันก็ต้องตื่นเต้น
เมื่อมันพบกับเศษกระดาษที่ลูกสาวคนโตของมัน
ที่เรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่สอง
ได้แอบฉีกหนังสือ พิมพ์วัฏจักรฉบับวันอังคารที่ 25 มิถุนายน 2539 จากโรงเรียนมาให้พ่อของเธอ
ในหน้านั้น ระบุชัดเจนว่าต้องการด่วนคนงานในครัวที่มีประสบการณ์ ไปทำงานร้านอาหารไทยที่เมลเบิร์น
ไอ้เตี้ยมันจัดแจงออกไปตลาดเพี่อหา
โทรศัพท์สาธารณะ
ด้วยความที่มันเป็นคนพูดจาประจบ
ประแจงอย่างหน้าสงสาร
ขอมันได้มาก่อนค่าจ้างค่าแรงไม่มีการต่อรอง
จึงไม่ยากนักที่มันจะได้ มาเมลเบิร์นออสเตรเลีย
จากนี้ไปมันปฏิญาณไว้เลยว่า
มันจะไม่ให้มีเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้นอีก
มันจะไม่ยอมให้ตกงานอีกเด็ดขาด
ไม่ว่าจะได้มาด้วยวิธีการใดก็ตาม
มันกลัวทุกอย่าง กลัว คนจะมาแย่งตำแหน่งมัน
เดี๋ยวมันไม่มีงานทำ ไหนบ้านก็ต้องผ่อน
ลูกอีกสามอยู่ที่เมืองไทย
ถ้าหลุดจากร้านนี้ไม่ไปไม่รู้จะไปทำงานที่ไหน
ครั้นจะกลับเมืองไทยก็ไม่รู้จะไปทำอะไร
จะไปเป็นเด็กร้านข้าวต้มก็ไม่ได้
ไม่พอเลี้ยงลูก มันคงนึกไม่ออกว่า
มันจะไปทำงานอะไร ครั้นจะไป
ทำงานที่ตะวันออกกลาง
ตัวมันเล็กจะไปทำงานก่อสร้างก็ไม่ไหว
มันเลยต้องมาทำงานในครัว
แต่มันอยู่ที่ร้านอาหารไทยที่นครเมลเบิร์น
ได้ไม่นานเท่าไหร่ เพราะมันไม่เก่งจริง
ร้านอาหาร ไทยที่เมืองนี้ต้องเก่งจริงๆถึงจะอยู่ได้
มันจึงเริ่มมองออกว่าถ้ามันขืนอยู่ที่นี่ต่อไป
วันหนึ่งมันต้อง ประสบกับชะตากรรม
ที่มันคิดฆ่าตัวตายแน่ เพราะมันเป็นแค่ลูกมือ
มันไม่ได้เป็นพ่อครัวใหญ่ มันจึงคิดว่ากูเป็นหัวหมา
ดีกว่าเป็นหางสิงห์โต
มันจึงรีบจัดแจงซื้อหนังพิมพ์ภาษาไทยที่ีจำหน่าย
ในออสเตรเลียมาอ่านเพื่อหาที่สมัครงานใหม่
จากคุณ :
พินิจนันท์
- [
7 ก.ค. 47 09:25:40
A:220.240.123.199 X:
]