ความคิดเห็นที่ 1 มาริโมะน้อยกลอยใจ “มารุเมะ มารุเมะ” เสียงใสๆ ของเด็กน้อยวัยสองขวบ...คิดว่าประมาณนั้นนะคะ (เพราะฉันไม่เคยเดาอายุเด็กถูกสักที -_-‘) ดังขึ้น พร้อมกับชี้มือตรงไปยังตู้กระจกใสแบบที่ใช้เลี้ยงปลาสวยงาม แต่ครั้งนี้สิ่งที่อวดโฉมอยู่ในตู้นั้นกลับเป็นก้อนกลมๆ สีเขียวสด ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเกือบๆ สามสิบเซนติเมตรของสาหร่ายน้ำจืดชนิดหนึ่ง จบเสียงใสๆ ไม่ถึงวินาทีเสียงหัวเราะของุคุณแม่ยังสาวที่จับจูงมือน้อยไว้ก็ดังขึ้น “ไม่ใช่มารุเมะจ้า แต่เป็นมาริโมะ (marimo) จ้ะ ไหนลองพูดสิ มาริโมะ” “มาริเมะ” เด็กน้อยยังพูดผิด คุณแม่ส่ายหน้าอย่างเอ็นดู ขณะที่คุณพ่อยังหนุ่มยิ้มกว้างพร้อมกับโยกหัวน้อยนั่นเบาๆ แล้วพากันเดินจากไป คงจะจนใจที่ไม่สามารถแก้คำพูดผิดๆ ให้กลายเป็นถูกได้ อืม...ก็คงต้อรออีกหลายเดือนหรือเป็นปีเสียล่ะมั้ง ฉันอมยิ้มยามเมื่อมองตามครอบครัวเล็กๆ นั้นไป ก่อนจะละสายตากลับมาจับจ้องยังมาริโมะลูกกลมยักษ์ในตู้กระจกขนาดเล็กอีกครั้ง คราวนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นมาโพสต์ท่าถ่ายรูปคู่เจ้าลูกกลมๆ นั่นแล้ว ฉันเลยยกกล้องในมือขึ้นแล้วกดขัตเตอร์ถ่ายภาพนั้นอย่างรวดเร็ว เพราะปลายหางตาเห็นคุณป้าสองสามคนกำลังเดินเข้ามา และเพราะความรีบร้อนเลยทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาขาดคำอธิบายที่ติดอยู่เหนือตุ้กระจกนั่นไปเสียฉิบ ฉันตัดใจไม่ถ่ายรูปซ่อม เพราะนักท่องเที่ยวที่ทยอยกันเข้ามา และเวลาที่จำกัดทำให้ไม่อาจจะโอ้เอรอเวลาไปได้มากกว่านี้ (ยังมีต่อ) (ปล.ซักหน่อย aoiumi ที่เห็นในรูปคือชื่อที่เด็กทะเลอยากใช้ สำหรับการเขียนความเรียงแนวท่องเที่ยวแบบนี้น่ะค่ะ อย่าแปลกใจนะว่าไปขโมยรูปใครที่ไหนมา ^^'') แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 47 10:09:34 จากคุณ : เด็กทะเล (ลิปิการ์) - [ 20 ก.ค. 47 10:07:22 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ฉันสาวเท้าเดินจากมาเพื่อชมวงจรชีวิตของสาหร่ายทรงกลมนามว่า “marimo” ที่ตั้งอยู่ถัดจากมาริโมะลูกยักษ์ ใช่ค่ะ เจ้าลูกกลมเส้นผ่านศูนย์กลางเกือบสามสิบเซนฯ นั่นล่ะค่ะ...ลูกยักษ์ เพราะปกติตามที่เห็นๆ กันก็จะประมาณไม่เกินห้าเซนฯ (ซึ่งห้าเซนฯ ก็ถือว่าใหญ่มากแล้ว ปกติที่วางขายกันราคาถูกสุดก็ไม่เกินหนึ่งเซนฯ ซื้อมาสองลูก ^^'') มาริโมะถูกพบในทะเลสาบ Akan เป็นครั้งแรกในปี 1897 โดยชาวญี่ปุ่นที่ชื่อ Tetsuya Kawakami และหลังจากที่ค้นพบเป็นเวลาหนึ่งร้อยปี เจ้ามาริโมะก็ถูกยกให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธุ์...ถึงขั้นวิกฤตโดยรัฐบาลญี่ปุ่น ใช่ค่ะ...ไม่สามารถพบมาริโมะที่มีรูปทรงแบบนี้ได้ที่ไหนอีกแล้วในประเทศญี่ปุ่น ส่วนในโลก...นอกจากที่ญี่ปุ่นแล้ว คิดว่าน่าจะเคยพบอยู่อีกแห่งหนึ่งในประเทศหนึ่งทางยุโรปค่ะ ต้องขอโทษจริงๆ ที่ไม่มีข้อมูลตรงนี้อยู่ -_-' มารู้จักเจ้ามาริโมะกันหน่อยดีกว่าค่ะ มาริโมะลูกกลมเป็นสาหร่ายสีเขียวชนิดที่พบได้ทั่วไปในแหล่งน้ำจืดอื่นๆ ทั่วโลก แต่ความพิเศษของเจ้ามาริโมะที่พบในทะเลสาบแห่งนี้นั้นอยู่ที่ลักษณะรูปร่างของมัน ซึ่งจะมีลักษณะทรงกลมคล้ายลูกบอล ซึ่งชื่อ “มาริโมะ” ก็เป็นชื่อที่มีความหมายบ่งบอกถึงรูปร่างของมันนั่นเอง แอบไปถามชาวญี่ปุ่น (ที่เชื่อถือได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ -_-‘) มาแล้วค่ะว่า marimo น่ะมาจากไหน เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน...อ้าว!!! O_o ก็เลยต้องมาช่วยกันวิเคราะห์ และสรุปกันออกมาว่า mari น่าจะมาจากคำว่า “mari” ที่แปลว่า “ball” และเจ้าคำว่า “mo” ก็น่าจะมาจากคำที่แปลว่า “สาหร่าย หรือ algae” นั่นเอง แล้วทำไมสาหร่ายใน ทะเลสาบ Akan ทะเลสาบทางตอนกลางค่อนมาทางตะวันออกของเกาะฮอกไกโดถึงได้มีรูปทรงกลมได้... มีผู้เชี่ยวชาญพยายามจะค้นคว้าหลายคนค่ะ หลายสมมติฐาน หลายการคาดเดา แต่พอจะสรุปออกมาและได้ทำการแสดงด้วยตู้กระจกที่ฉันเดินไปชมได้ว่า ยามเมื่อสาหร่ายที่เป็นแผ่นขนาดใหญ่เกิดการแตกสลายกลายเป็นชิ้นเล็กๆ เพราะคลื่นในเขตน้ำตื้น กระแสน้ำก็จะเป็นปัจจัยที่ทำให้เจ้าสาหร่ายที่แตกออกเป็นชิ้เนเล็กๆ กลิ้งไปกลิ้งมา แล้วมันก็เกิดรักกันขึ้นและมารวมตัวกันเป็นรูปไข่เล็กๆ เมื่อเวลาผ่านไปเจ้าสาหร่ายรูปไข่ก็จะมีการเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นรูปทรงกลม จนเมื่อมาริโมะมีขนาดโตขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มหนักขึ้น มันก็จะถูกกระแสน้ำพัดกลิ้งตกลงไปยังบริเวณเขตน้ำลึกของทะเลสาบได้ง่าย และยามเมื่อจมลึกลงไปยังก้นทะเลสาบที่ไร้ซึ่งแสงแดด ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการสังเคราะห์แสงของสาหร่ายและพืชทุกชนิด เจ้าก้อนกลมๆ ก็เริ่มจะแตกสลายกลายเป็นชิ้นเล็กๆ อีกครั้ง และเมื่อเจอกระแสน้ำพัดพามาอีกทีวัฏจักรชีวิตเดิมๆ ของสาหร่ายทรงกลมก็จะวนเวียนไปที่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง แตก กลิ้ง กลม และก็แตก อืม...เป็นวัฏจักรจริงนะนี่ (ยังมีต่อ) จากคุณ : ลิปิการ์ - [ 20 ก.ค. 47 10:16:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ฉันเดินออกจาก ศูนย์แสดงมาริโมะ (Marimo Exhibition Center) ไปยังด้านนอกที่มีบ่อเลี้ยงปลาขนาดใหญ่กรุด้วยกระจกโดยรอบและด้านบนเปิดโล่ง เด็กๆ หลายคนกำลังมุ่งดูอยู่ด้วยความสนใจที่เห็นปลาน้ำจืดสองสามชนิด (ไม่สามารถบอกชื่อไทยได้ค่ะ คาดว่าไม่มีชื่อไทย เพราะเป็นปลาในเขตอบอุ่น แถมชื่อภาษาอังกฤษก็ยังลืม...ถ้าอาจารย์ที่สอนวิชา Taxonomy ปลามารู้เข้าต้องตายแน่ๆ ตอนเรียนอุตส่าห์ได้ A มานอนกอดไว้แล้วเชียว -_-‘) กำลังว่ายวนอยู่เหนือเจ้าก้อนสีเขียวกลมๆ ของมาริโมะยักษ์หลายลูก บ่อน้ำนี้อยู่ในระหว่างการทดลองเกี่ยวกับมาริโมะ เขาไม่ได้เขียนบอกไว้ว่าทดลองอะไร หรือถ้ามีเขียนแต่ฉันมองไม่เห็นแต่ก็แน่ใจได้เลยว่ายังไงก็คงอ่านไม่ออก เพราะว่ามันเป็นภาษาญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยตัวคันจินั่นเอง (ยังมีต่อ) แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 48 09:30:30 แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 47 10:23:10 จากคุณ : ลิปิการ์ - [ 20 ก.ค. 47 10:18:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ครบเวลาสิบห้านาทีตามที่ทางเรือกำหนด ฉันก็ต้องเดินตามหลังนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ไปยังท่าทอดเรือของเกาะเล็กๆ กลางทะเลสาบน้ำจืดแห่งนี้ เดินขึ้นเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ขึ้นไปจับจองเก้าอี้บนชั้นสอง เหม่อมองพื้นน้ำสีเขียวขุ่นของทะเลสาบน้ำจืดที่ฉันไม่ค่อยได้มาเยือนบ่อยนัก เพราะหนักไปทางทะเลน้ำเค็มมากกว่า ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ได้น่ะหรือ... เรื่องของเรื่องมันก็เกิดจากการเบื่อหน่ายชีวิต เอ๊ย ไม่ใช่ รู้สึกว่าชีวิตขาดการท่องเที่ยวละรสชาติสนุกสนานมากไปหน่อยในช่วงนี้ ดังนั้นจึงไม่ลังเลที่จะวางแผนท่องเที่ยวไว้ก่อนจะออกเดินทางมาเก็บตัวอย่าง งงกันล่ะสิค่ะว่าเก็บตัวอย่างมาเกี่ยวกับการเที่ยวครั้งนี้ได้ยังไง ;) ก็พอดีว่า Akan Natural Park แห่งนี้ ตั้งอยู่ในเมืองที่ฉันต้องเดินทางมาเก็บตัวอย่างเป็นประจำทุกเดือนในปีที่แล้ว และเกือบทุกเดือนในปีนี้ ร่ำๆ จะมาหลายรอบ แต่ก็มีเหตุผลหลายอย่างทำให้ไม่ได้มา แต่ในที่สุดคราวนี้ก็มาได้ หลังจากฝืนร่างกายกรองน้ำทะเลตัวอย่างที่เก็บมาได้จนเสร็จในตอนตีสี่ครึ่งของเช้าวานนี้ แล้วก็จรลีหนีทุกคนมารอรถบัสที่มีวันละสามคัน...เช้า กลางวัน เย็น จากแหล่งเก็บตัวอย่างมาลงยังสถานีรถไฟเล็กๆ ที่ใกล้ที่เก็บตัวอย่างมากที่สุด แล้วก็จัดการต่อรถไฟมายังสถานีรถไฟใหญ่กลางเมือง Kushiro ด้วยเวลาสี่สิบนาทีกว่าๆ นั่งรอเวลารถบัสที่วันหนึ่งมีอยู่ห้าเที่ยว...เช้า สาย เที่ยง บ่าย และเย็น เพื่อจะนั่งไปยัง Akan Natural Park ด้วยเวลาสองชั่วโมง แล้วในที่สุดตอนห้าโมงเย็นของเมื่อวานนี้ฉันก็แบกกระเป๋าลงจากรถบัส (ที่ฉันโกงค่าโดยสารไปพันกับอีกสองร้อยสี่สิบเยนด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์...จริงๆ นะไม่ได้ตั้งใจเลย...;)) แล้วเดินจนเหงื่อตกเพื่อเช็คอินเข้าเรียวกัง...โรงแรมแบบญี่ปุ่นเล็กๆ ด้วยความร่าเริง (ยังมีต่อ) (อธิบายรูป - เรือที่นั่งชมความงามของทะเลสาบ Akan จอดเทียบท่าก่อนออกเดินทาง) แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 47 10:24:11 จากคุณ : ลิปิการ์ - [ 20 ก.ค. 47 10:22:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หลังจากที่เรือเริ่มแล่นออกจากท่า ก็พาผู้โดยสารทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติที่มีทั้งไทย (แน่นอน) และจีน หรืออาจจะเป็นไต้หวัน (ดูไม่ออก) ตรงไปชมความงามของรอบทะเลสาบ Akan อย่างช้าๆ ด้วยบรรยากาศสบายๆ ก่อนจะพาวกกลับมาจอดยังท่าเรือริมฝั่งตามเดิม ฉันก้าวลงจากเรือเดินตรงไปยังร้านค้าที่อยู่ใกล้ท่าเรือ พร้อมกับสั่งกับคุณป้าคนขายอย่างไม่ลังเล “marimo soft cream” ใช่ค่ะ ที่นี่เขามีไอศกรีมที่ทำจากมาริโมะด้วย อย่าตกใจ...กินแล้วรสชาตินมธรรมดามาก ถ้าไม่เขียนบอกไว้มาเป็น marimo soft cream ฉันก็คงนึกว่ามันเป็น soft cream ธรรมดาที่มีสีเขียว แต่ญี่ปุ่นก็เป็นอย่างนี้ล่ะค่ะ อะไรที่เป็นจุดเด่นของสถานที่นั้นก็ต้องเอามาทำผลิตภัณฑ์เรียกลูกค้นทั้งหมด เหมือนอย่างไอศกรีมรสโชยุที่เคยกินตอนสมัยไปเที่ยว Kotohira วัดชื่อดังของจังหวัด Kagawa ที่ฉันเคยอยู่เมื่อก่อนจะย้ายมาฮอกไกโด อืม แต่ยังไงไอศรีมโชยุก็ยังมีรสชาติโชยุมากกว่าไอศกรีมมาริโมะนี่ล่ะนะ แต่...ใช่ มันก็ต้องมีแต่ให้สมกับเป็นความพิเศษของไอศรีมมาริโมะหน่อยสิเนอะ กินลงไปจนเกือบจะขึ้นปากโคน ฉันก็พบมัน...เจ้าลูกกลมๆ สีเขียวขนาดใหญ่พอดีรูโคนไอศกรีมเลย มาริโมะ...ฉันเจอมาริโมะในไอศกรีม!!!!!!! เปล่าหรอก...ไม่ใช่สาหร่ายสีเขียวก้อนกลมจริงๆ สักหน่อย -_-‘ จนกินเข้าไปแล้วหมดลูกฉันก็ยังไม่รู้ว่ามันทำจากอะไร อืม... แต่...รสชาติแปลกดีจัง (ยังมีต่อ) (อธิบายรูป - lake Akan ถ่ายที่ท่าเรือ ไม่มีรูป marimo soft cream ให้ดู เพราะกินหมดลืมถ่าย -_-') จากคุณ : ลิปิการ์ - [ 20 ก.ค. 47 10:28:08 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ฉันยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู... ยังมีเวลาอีกห้าชั่วโมงกว่าจะถึงเวลารถบัสที่จะโดยสารกลับออก ฉันกางแผนที่ยับเยินในมือออกอีกครั้ง (ไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ เพราะกางดูมาตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น) กวาดสายตามองแผนที่แบบง่ายๆ ที่มีสัญลักษณ์แหล่งต่างๆ เป็นรูปวาดการ์ตูนเพื่อมองหาที่เดินเที่ยงแหล่งต่อไป แล้วฉันก็เห็นมัน...ที่ปลายสุดทางด้านขวามือของแผนที่... บริเวณที่ไม่มีสิ่งก่อสร้างอะไรนอกจากป่าเล็กๆ ที่มีเส้นทางชมธรรมชาติทอดยาวไปตามริมฝั่งทะเลสาบ ฉันตัดสินใจในทันทีก่อนจะสาวเท้าก้าวเดินต่อไป... (อธิบายภาพ - Lake Akan ถ่ายจากเรือ) (ลืมลงภาพอ่ะ T-T ลงไปดูข้อความล่างน้า) แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 47 10:33:18 จากคุณ : ลิปิการ์ - [ 20 ก.ค. 47 10:32:19 ]

ความคิดเห็นที่ 7 (อธิบายภาพ - Lake Akan ถ่ายจากเรือ) จากคุณ : ลิปิการ์ - [ 20 ก.ค. 47 10:33:46 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ^^' โธ่ อดเห็นติมมาริโมะเลย เด็ก'เล อะ กินเพลินได้ไง จากคุณ : ฯคีตกาล - [ 20 ก.ค. 47 10:38:09 A:192.168.4.3 X:203.150.193.202 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จบค่ะ...ไว้จะมาเล่าต่อวันหลัง เพราะวันนี้ตั้งในมาเล่าเรื่องมาริโมะ้น้อยกลอยใจอย่างเดียว รอพบกับ Part II and III นะคะ (ยังกะเขียน paper -_-') คิดว่าคงจะเร็วๆ นี้ ไม่นานเกินรอ ^-^ ขอแจ้งข่าวหน่อยได้มั้ยคะ ^^'' หนังสือเรื่องยาวเล่มใหม่ของเด็กทะเลออกแล้ว เรื่อง "Tsuyu - คือฤดูฝนของหัวใจ" ค่ะ ถ้าใครเป็นแฟนประจำถนนนักเขียนเมื่อสองปีก่อนโน้น คิดว่าคงจะเคยได้อ่าน เพราะเคยเอามาลงค่ะ เรื่องนี้แต่งตอนมาญี่ปุ่นใหม่ๆ พอผ่านการพิจารณาก็มีแต่งเพิ่มบางฉากบางตอน และมีบทส่งท้ายเพิ่มขึ้นมาด้วยค่ะ เอาหน้าปกมาฝากกัน ;) หรือใครอยากเข้าไปดูรายละเอียดก็เข้าไปดูได้ที่นี่เลยค่ะ http://www.jamsai.com/bookstore/basket.asp?proid=974-92295-5-x&submit=Detail&pg=&select1= ใครมีคำแนะนำหรือจะพูดคุยอะไรกันก็ทิ้งข้อความเอาไว้ได้เลยน้า ^^ (อะ จะถูกคิดค่าโฆษณาหนังสือมั้ยเนี่ย -_-') แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 47 10:43:02 จากคุณ : ลิปิการ์ - [ 20 ก.ค. 47 10:38:14 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ปกหวานมากกกกกกกกก จะติดตามแน่ๆ เลยค่ะ ฮิๆ ตามมาที่เว็บนี้ด้วยค่ะ จากคุณ : สาวกเด็กทะเล - [ 20 ก.ค. 47 14:31:32 A:203.156.80.228 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ยอมอ่ะค่ะ พี่อ้อม หม่ำหมดแล้วก็ซื้อใหม่มาถ่ายรูปสิคะ ฮี่ๆ =^^= แปลกดีนะคะ กลมเชียวนะ ธรรมชาติทำอะไรแปลกๆ อีกแล้ว ถ้ามันเกิดเฉพาะพื้นที่นี่ แล้วเขาจะทำเทียมได้ไหมหนอ ถ้ามันหมดไปคงเสียดายน่าดูค่ะ รออ่านภาคถัดไปนะคะ จากคุณ : ใบหม่อน - [ 20 ก.ค. 47 17:51:27 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อยากเห็ด้วยตาตัวเองจังค่ะ น่ารักดี จากคุณ : รวยระรินกลิ่นชา - [ 20 ก.ค. 47 18:11:59 A:202.133.158.57 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 มาริโมะ..หุหุ  ชื่อน่ากิน ยิ่งดูรูปยิ่งน่ากิน 5555 เหมือนขนมเลยอ่ะพี่อ้อม   แต่มองอีกที เหมือนตุ๊กตาที่ทำจากกำมะหยี่อ่ะ จากคุณ : แก้ม - [ 20 ก.ค. 47 18:20:29 A:203.118.80.2 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 ปกหวานมากๆ เลย เขาคงไม่ใช้มาริโมะมาทำไอติมจริงๆ มั้งเนอะ ก็ใกล้จะสูญพันธุ์แล้วไม่ใช่เหรอ แต่มันดูน่ารักดีเนอะ (ยังวงเล็บเยอะเหมือนเคย) (อิอิ) จากคุณ : scottie - [ 20 ก.ค. 47 18:41:57 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เจ้ามาริโมะ ดูรูปตอนแรกนึกว่า ตะไคร่น้ำบนก้อนหินอีกค่ะ ไม่มีรูปไอสครีมมาริโมะมาให้ดูบ้างหรือคะ จากคุณ : รสา รสา - [ 20 ก.ค. 47 19:29:08 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อยากอ่านจังค่ะ ไม่ได้อ่านหนังสือซีรีย์นี้ตั้งนานแล้ว (ไม่มีใครส่งมาให้อะ เศร้า) เจ้ามาริโมะก้อนโตนี่เค้าอายุเท่าไหร่เหรอคะ โต๊โต แต่คงเอามาเตะเล่นไม่ได้เนอะ จากคุณ : Tamarillo - [ 20 ก.ค. 47 19:33:43 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มาตามไปทัศนศึกษาด้วยคนค่ะ เนี่ยหอบข้าวกล่อง (ข้าวไข่เจียว)มาหม่ำด้วย ปล ปกหวานน่ารักๆๆๆๆ มากค่ะ จากคุณ : bookmark - [ 20 ก.ค. 47 19:40:58 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไปคนเดียวหรือเปล่า อิจฉามาก อยากเห้นของจริงจังเลย คงเอากลับมาเมืองไทยไม่ได้ใช่ไหม เดี๋ยวจะเอาไปให้อาจารย์ญี่ปุ่นดูว่ารู้จักไหม เผื่อแกจะมีเรื่องเล่ายาว ได้ความว่าไงแล้วจะมาคุยให้ฟัง จากคุณ : :-)น้อย - [ 20 ก.ค. 47 20:14:16 A:203.113.81.168 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 เหมือนเคยเห็นเวปหรือกระทู้ที่ไหนก็ไม่รู้บอกว่า คนญี่ปุ่นนิยมเลี้ยงกันอะ ยังนึกเลยว่า มันน่ารักดี แต่ใกล้จะสูญพันธุ์แล้วเหรอเนี่ย แง่ว ดีใจกับหนังสือด้วยจ้า เดี๋ยวกลับไทยไปเก็บน่อ ^^ จากคุณ : Clear Ice - [ 20 ก.ค. 47 21:26:24 ]

ความคิดเห็นที่ 20 น่ารักจังค่ะ เป็นกลมๆ น่าจับยังไงก็ไม่รู้ อิอิ จากคุณ : TSURUGI - [ 20 ก.ค. 47 23:22:03 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อยากเห็นรูปไอติมมาริโมะจังค่ะ เห็นพี่อ้อมบอกว่าสีเขียวใช่ไหมค่ะ เอ๋นึกถึงรสชาเขียวเลยน่ะคะ แต่รสชาติคงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงใช่ไหมค่ะ ^^ เมื่ออาทิตย์ก่อนเอ๋ไปเดินดูหนังสือ เจอหนังสือของพี่อ้อมแล้วน่ะคะ หน้าปกสีสวยหวานมากเลยค่ะ @^--^@ คิดถึงพี่อ้อมนะคะ... จากคุณ : ปลาดุกไร้นาม ^^ - [ 21 ก.ค. 47 01:04:43 A:203.113.32.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 เจ๊ ฯ คี อ่ะค่ะ...แบบว่าข้าวเช้าไม่ได้กินพอซื้อปุ๊ปก็ยัดใส่ปากปั๊ป ไม่ได้คิดเลยว่าต้องถ่ายรูปก็มันหิวววว T-T น้องสาวกเด็กทะเล ตามมาไกลเนอะ ^-^ จะกลับบ้านถูกมั้ยน้า เดี๋ยวพี่จูงมือกลับ ;) น้องใบหม่อน ส่งเมล์มาเร็ว รออยู่ ฮ่าๆ เขาเกิดเฉพาะพื้นที่นี่ค่ะ ทำเทียม...แบบของปลอมมีเพียบเลย เป็นพวกตุ๊กตา พลาสติกอะไรแบบนี้เยอะมากๆ คิดว่าน่าจะไม่หมดนะคะ เพราะว่าญี่ปุ่นเขาอนุรักษ์ได้เก่งค่ะ (อนุรักษ์ของตัวเอง ทำร้ายของคนอื่นล่ะเก่งมากๆ เลย) ภาคถัดไปรอก่อนนะ...จะพาไปดูบ่อโคลนเดือด ;) น้องรวยระรินกลิ่นชา ขอบคุณที่ชมว่าพี่น่ารักนะคะ อ้าว ไม่ใช่เหรอ ^^'' เห็นด้วยตาจากรูปไปก่อนแล้วกันน้า ไว้มีโอกาสมาดูสิจ้ะ น้องแก้ม ฮ่าๆ น่ากิน พี่ว่าคนไทยคิดเหมือนๆ กันเนอะ เห็นกลมๆ เขียวๆ น่ากิน ในขณะที่คนญี่ปุ่นที่เคยคุยด้วยนี่ เขาไม่เคยคิดว่าอยากจะกินเลยนะ ก็เคยถามว่ากินได้มั้ย เขาก็แบบอึ้งๆ (เขานี่เป็นเจ้าหน้าบริษัทที่มาช่วยเก็บตัวอย่างนะคะ อย่าคิดไกล) แล้วบอกว่า...ไม่เคยมีใครคิด (หรืออาจจะมีแต่เขาไม่รู้) ตุ๊กตาที่ทำจากกำมะหยี่รูปมาริโมะก็มีน้า แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา ไว้คราวหน้าจะไปเดินแหล่งท่องเที่ยวแถวนี้แล้วจะถ่ายรูปมาฝาก ^^ คุณ scottie ปกหวานเนอะค่ะ เห็นตอนแรกก็...โห ไรจะหวานขนาดนี้ เด็กทะเลคิดว่า... เขาอาจจะใช้สาหร่ายมาสกัดสีผสมลงไปนิดหน่อยมากกว่านะคะ...คิดว่านะคะ อาจจะเป็นสาหร่ายที่เขาผสมเพาะพันธุ์ขึ้นมาก็เป็นได้ (เดา) เห็นด้วยค่ะว่าน่ารัก...ชอบเหมือนกัน ^^ วงเล็บเยอะเหมือนเดิม ฮ่าๆ (แอบคุยนอกรอบ) คุณรสา รสา เขามี cross section มาริโมะด้วยนะคะ ข้างในก็จะเป็นเส้นใยสาหร่ายเรียงกันเป็นวงรัศมีเลยค่ะ มีแต่รูปในแผ่นพับอ่ะค่ะ ไม่ได้จับตัวจริงมาผ่าเลยไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ ^^'' อะ มีแต่คนอยากเห็นไอศกรีมอ่ะน้า ขอโทษจริงๆ ค่า ^^'' คุณ Tamarillo ไม่ได้อยู่เมืองไทยใช่มั้ยคะ ไว้รอกลับมาเมืองไทยค่อยอ่านหนังสือซีรีย์นี้ก็ได้ค่ะ ^-^ อดใจรอๆ อายุของมาริโมะเขาไม่ได้บอกไว้น้า แต่คิดว่าน่าจะเกินสิบปี และคุณป้าที่มาเดินดูด้วยกันพูดกันเองว่า... สงสัยอายุเป็นร้อยปีแน่ๆ เลย แต่คิดว่าอาจจะสักหลายสิบปีหน่อยน่ะค่ะ เพราะว่าแต่ละปีมันโตขึ้นไม่เยอะมากค่ะ น้อง bookmark ไว้เดี๋ยวกระทู้หน้าจะเอารูปข้าวกล่อง (obentou) ของญี่ปุ่นมาฝาก ;) (มายั่วให้อยากกิน ฮ่าๆ) ปกหวานจริงๆ ด้วย เห็นด้วยเช่นกัน คุณ :-) น้อย ไปคนเดียวค่ะ หนีไปคนเดียว ก็เลยไม่มีรูปถ่ายตัวเองเลย มีแต่วิวและมาริโมะ อืม...เอากลับเมืองไทยได้หรือเปล่าน้า... อาจจะได้นะคะ ต้องแอบๆ แต่อุณหภูมิน่าจะมีปัญหา เพราะคิดว่ามันชอบหนาว ลองถามอาจารย์ญี่ปุ่นดูสิค่ะ รับรองว่ารู้จัก เพราะเจ้าตัวนี้ดังมากค่ะ จะรอฟังนะคะ ^^ (อะ...ว่าแล้ว...น้อยนี่ใช่คนที่คุณก็รู้ว่าใครใช่มั้ย -_-') ไอซ์จ๋า ใช่แล้วนิยมเลี้ยงค่ะ ในร้านของขายที่ระลึกจะวางขายมากมาย แต่ขายลูกเล็กๆ นะ ลูกโตที่สุดที่ขายก็ประมาณเส้นผ่านศก. 5 เซนฯ แต่แพงมากๆ (ลูกใหญ่) ซื้อมาเหมือนกัน ^^'' สองลูก เอารูปมาฝากด้วย ไอซ์กลับไทยเมื่อไหร่จ๊ะ ปล. มีใครบางคนฝากบอกให้เช็คเมล์หน่อยนะไอซ์ คุณ TSURUGI เนอะค่ะ น่าจับ ไว้เดี๋ยวจะลองเอาที่ซื้อมาขึ้นมาจับบ้าง ;) น้องปลาดุกไร้นาม อา...อยากเห็นไอศกรีมอีกคนแล้ว -_-' สีมันจะออกเขียวอ่อนกว่าไอศกรีมชาเขียวของไฮเก้นดาซมากๆ นะคะ แบบอ่อนๆ เลย รสชาติเหรอ...อืม ไอศกรีมมาริโมะนี่รสชาตินมๆ ธรรมดาเลยนะ ไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ค่ะ ขอบคุณที่แวะมองหนังสือพี่น้า อยากไปดูเหมือนกันเลย ^^ ++ เอารูปมาริโมะของเด็กทะเลมาฝาก ซื้อมาเลี้ยงสองลูก ขอพูดถึงเรื่องมาริโมะที่วางขายนิดหนึ่งนะคะ คิดว่าคงจะมีบริษัทที่ดูแลเรื่องนี้อยู่อย่างชัดเจน อาจจะเป็นบริษัทที่เพาะพันธุ์สำหรับขาย เพราะตอนที่ซื้อมาจะมีใบโฆษณาของบริษัทนั่นอยู่ และมีขั้นตอนวิธีการเลี้ยงเขียนกำกับไว้ด้วย มีเหมือนกันทุกร้านเลย (ซื้อสองร้าน เอาไปฝากน้องคนไทยที่ซัปโปโร และซื้อมาเลี้ยงเองอีกร้าน) เขาเขียนย้ำมากเลยนะคะว่ามาริโมะเป็นสิ่งมีชีวิต เพราะเช่นนั้นเวลาเลี้ยงก็ต้องเลี้ยงอย่างสิ่งมีชีวิต เลี้ยงทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่ได้ รู้สึกว่าดีนะ...ที่เขามีการวางแผนการจัดการในเรื่องต่างๆ ได้ดี จากคุณ : เด็กทะเล (ลิปิการ์) - [ 21 ก.ค. 47 08:41:29 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตามมาอ่านค่ะ สงสัยยังหลงทางหาทางกลับไม่ถูก T_T พี่อ้อมคะ ไอ้มาริโมะนี่ ดูจากรูปแล้ว ท่าทางจะเลี้ยงง่ายนะคะ เหมือนใส่โหลไว้เฉยๆ อย่างนี้เลยเหรอคะ ไม่ต้องมีอาหร ไม่ต่องมีอากาศ อืม...อยากทราบวิธีเลี้ยงน่ะค่ะ จากคุณ : สาวกเด็กทะเล - [ 21 ก.ค. 47 14:23:09 A:203.156.80.144 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 มาตอบน้องสาวกเด็กทะเล เลี้ยงง่ายสุดๆ ใส่ไว้เฉยๆ อาหารไม่ต้อง มอบแค่ความรักและกำลังใจ (แหวะ เน่าจริงๆ -_-') ก็ต้องเปลี่ยนน้ำอาทิตย์ล่ะครั้ง น้ำปะปาธรรมดา แต่ต้องเลี้ยงในที่มีแดดนะคะ เพราะมันเป็นพืช ต้องสังเคราะห์แสง แล้วก็ อ้อ นานๆ ก็จับมันขึ้นมากลิ้งๆ คล้ายๆ กับทำให้มันเป็นก้อนกลมๆ แน่นๆ หน่อยน่ะค่ะ แค่นี้เอง ง่ายเนอะ ^-^ จากคุณ : เด็กทะเล (ลิปิการ์) - [ 21 ก.ค. 47 15:54:59 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อ๊าย น่ารักๆ แพงมากไหมคะ? แล้วต้องไปซื้อเฉพาะที่เมืองนี้หรือเปล่า? แค่เปลี่ยนน้ำ แล้วจับกลิ้งๆ เราน่าจะเลี้ยงได้เนอะ :) จากคุณ : scottie - [ 22 ก.ค. 47 00:00:05 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อยากกิน( แต่คงยากขอแค่เห็นก็ยังดีเนอะ )ไอติมมาริโมะ แบบว่าชอบกินไอติมสุดๆเลยค่ะ จากคุณ : น้ำใส - [ 22 ก.ค. 47 08:43:29 A:10.31.1.169 X:202.28.27.6 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เห็นตั้งแต่วันก่อนอ่ะค่ะ พอดีนายเดินแว๊บเข้ามา..แหะ..แหะ..ปิดแทบไม่ทัน.. ก..กรี๊ด...คิดถึงจังค่ะ..ไม่ลืมค่ะ..ไม่ลืม... @^________________________^@ จากคุณ : p_jung - [ 22 ก.ค. 47 09:54:23 A:203.149.40.126 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 กำลังรอไปซื้อเรื่องใหม่ของพี่อยู่ค่ะ เพราะติดตามอ่านมาหลายเรื่องแล้วชอบค่ะ จากคุณ : เกนกานต์ - [ 22 ก.ค. 47 13:01:29 A:161.200.255.161 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 อ๊า น่ารักน่าเลี้ยง อยากได้ แง่ว ๆๆๆ ^^ ใกล้จะกลับไทยแล้วละ ((มั้ง)) ตอนนี้ก็กำลังลุ้น ๆ อยู่จ้า งือ ๆ ปล. แหะ ๆ เมล์นี่ ตอนนี้กำลังดองตั้งแต่สองเดือนที่แล้ว แล้วแหล่ะ ((มาประจานตัวเองทำไมกันเนี้ย ฮือ ๆๆๆ)) จากคุณ : Clear Ice - [ 22 ก.ค. 47 19:11:28 ]

ความคิดเห็นที่ 30 หายไปนานเลยนะจ๊ะ แต่กลับมาคราวนี้ก็มาแบบแปลก ๆ แต่ก็ให้ความรู้ดี เจ้าลูกกลม ๆ เขียว ๆ นี่น่ารักจังนะ ปทท. น่าจะมีอย่างนี้บ้างนะเนี่ยะ จากคุณ : เปียร์รุส - [ 22 ก.ค. 47 21:00:44 ]

ความคิดเห็นที่ 31 Part II ค่ะ http://www3.pantip.com/cafe/writer/topic/W2928340/W2928340.html จากคุณ : ลิปิการ์ - [ 24 ก.ค. 47 12:30:07 ]

ความคิดเห็นที่ 32 marimo น่ารักจริงๆ... มีไอติมด้วย..น่าลองคะ จากคุณ : bess - [ 27 ก.ค. 47 21:02:20 A:202.5.88.151 X: ]