CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ยังไม่รู้จะชื่อเรื่องอะไรดี (ดัดแปลง knight เจ้าค่ะ)

    คือว่า ... เรื่องนี้จะทำให้เปลี่ยนเรื่องเก่าเล็กน้อย ซึ่งก็เอามาลงให้เกะกะบอร์ดเล่น ไม่ต้องอ่านก็ได้เพราะมันไม่ต่างจากอันเดิมเท่าไรค่ะ (เพราะตอนใหม่ไม่เสร็จเลยลงมั่ว)
    อ้อ แล้วก้ที่ใช่ - ขึ้นต้นเพราะ มันเป็นการพิมพ์คอมฯ ค่ะ แล้วคนเขียนก็ไม่รู้จะเอาอะไรขึ้นต้นเละใช่ - (ขอบคุณท่านที่อ่านอันเก่าค่ะ)


    ห้องปฏิบัติการ NASA / สหรัฐ อเมริกา ปี ค.ศ. 2740
    นักวิทยาศาสตร์ในห้องเดินไปทางนี้บ้างทางโน้นบ้างตลอดเวลา หลายคนจ้องอยู่หน้าจอมอร์นิเตอร์ พลางรัวนิ้วกดปุ่มที่ส่องแสงภายใต้ความมืดสลัวของห้อง และหลายคนก็กดคีย์บอร์ดอย่างคล่องมือด้วยสีหน้ายินดีหรือไม่ก็กลุ้มใจเมื่อมองหน้าจอคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่แม้แต่เศรษฐีก็ยังไม่มีใช้
    เสียงตะโกนถามดังเกือบจะตลอดเวลา ทำให้ชายหนุ่มวัย 27 หงุดหงิดไม่น้อย องค์การนาซ่าเป็นที่ที่เขาใฝ่ฝันมาตลอดว่าจะต้องทำงานในนี้ให้ได้ ถึงจะงานหนัก แต่ถ้าได้อยู่กับดวงดาวแล้วก็คุ้ม แต่มาตอนนี้ มันก็สายเกินไปซะเมื่อเพิ่งรู้ว่างานที่ทำไม่คุ้มกับค่าแรงที่ได้เป็นแสน ๆ เลย
    “เฮ้ ไอ้คุณเซฟิอุส ทำงานสิครับทำงาน ที่นี่เขาจ้างท่านมาทำงานนะครับ” เพื่อนของเขาหยอก ขณะที่แบกแบกอุปกรณ์รูปร่างแปลกๆ เต็มอ้อมแขน “นั่น มีเมล์เข้ามาแน่ะ .... เอ๊ะ”
    เซฟิอุสหันขวับมองหน้าจอทันที สีหน้าตกตะลึงพอๆ กับเพื่อนองเขาที่เพิ่งรู้ว่าพูดอะไรไป ทั้งสองจ้องมองหน้าจอที่ปรากฏไฟกระพริบเตือนว่ามีเมล์เข้ามา
    “อะไรกัน นั่นมัน ....” ไม่แปลกเลยที่ทั้งคู่จะจ้องมองหน้าจอด้วยสีหน้าที่งงเป็นไก่ตาแตก เพราะคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรืออะไรก็ตามที่เป็นเครื่องติดต่อสื่อสารทุกชนิด ทางองค์การจะล็อคไว้ทั้งหมด ไม่มีใครที่รู้รหัสปลดล็อคนอกจากโปรแกรมเมอร์ขององค์การ
    “อย่าเพิ่งตกใจน่า บางทีพวกโปรแกรมเมอร์อาจจะสั่งงานอะไรมาก็ได้” เขาพูด แต่สีหน้าบอกได้เลยว่า ไม่ใช่เหตุผลนั้นแน่
    “ไม่มีทางหรอก โปรแกรมเมอร์จะไม่มีสิทธิสั่งงาน ส่วนพวกใหญ่ๆ โตๆ อยากสั่งงานอะไรก็จะเดินมาดื้อๆ เราโดนเจาะรหัสแล้วแน่ๆ”
    เสียงของคอมพิวเตอร์ดังขึ้นเพราะมีเมล์มาอีกฉบับ แต่คราวนี้เมล์เปิดขึ้นเอง โดยปรากฏเป็นหน้าจอสีดำสนิท เซฟิอุสจ้องมอง ทันใดนั้น ข้อความตัวหนังสือก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว
    - ไม่ต้องห่วงหรอก ข้ามาดี อย่างน้อยข้าก็ไม่พังคอมฯเจ้าหรอก ทีนี้ จะเปิดเมล์ได้รึยัง _
    เพื่อนของเขารีบวิ่งไปที่ห้องของพวกโปรแกรมเมอร์ทันที ทิ้งให้เซฟิอุสตกตะลึงกับข้อความที่ปรากฏขึ้นมา ข้อความนั้นเหมือนกับรู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกันอยู่ เขารีบพิมพ์ตอบกลับไปอย่างรีบร้อนทำให้พิมพ์ผิดหลายรอบ จึงทำให้ช้าเข้าไปใหญ่
    - คุณเป็นใคร ต้องการอะไร_
    - แหม ก็บอกแล้วไงว่าข้ามาดี ไม่ต้องตกใจหรอก_
    - แล้วคุณเจาะรหัสเข้ามาได้ยังไงกัน ที่นี่การรักษาความปลอดภัยมีมากกว่าทั้งประเทศรวมกันซะอีก คุณทำได้ยังไง_
    - หุ หุ เรื่องนี้เป็นความลับจ๊ะ เรามาต่อรองกันดีกว่า_
    - ต่อรอง ? ต่อรองอะไร ?_
    - เปิดเมล์ดูสิ_
    เขาทำตามข้อความนั้น เมล์ถูกเปิดขึ้น แต่กลับมีที่ให้กรอกรหัสขึ้นมาด้วย เซฟิ
    อุสหันกลับไปดูเมล์ฉบับที่ 2 ต่อ พลางพิมพ์ข้อความตอบกลับ
    - ต้องใช้รหัสเปิด_
    - เอาละ บททดสอบแรกของเจ้าเริ่มแล้ว รหัสข้าแฝงไว้ที่ไหนสักแห่งในเครื่องเจ้า ข้าให้เวลาเจ้าหา 30 วินาที คำใบ้ก็แฝงอยู่ในคำพูดทุกคำของข้า เริ่ม_
    ถึงจะงง แต่ก็เป็นสัญชาตญาณของนักวิทยาศาสตร์อย่างเขาที่ต้องหาในทันที เริ่มจากวิเคราะห์คำพูดทั้งหมดของเมล์ลึกลับ ในที่สุดเวลาก็ผ่านไปครบ 30 วินาที
    - ได้รึยัง คุณเซฟิอุส_
    เขาสะดุ้งโหยงเมื่อข้อความขึ้นมา แต่ไม่ใช่เพราะเขาหารหัสลับไม่ได้ มันเป็นเพราะฝ่ายนั้นรู้ชื่อของเขาต่างหาก
    - คุณกำลังคุยกับใครอยู่ล่ะ นี่เป็นนักวิทยาศาสตร์ของนาซ่าเชียวนะ ปัญหาเด็กๆ ทำไมจะแก้ไม่ได้_
    - กะแล้วว่าเจ้าต้องทายถูก ข้อแรกคือเจ้าฉลาด และอีกข้อคือ ข้อไม่เก่งตั้งปัญหาเอาซะเลย เอาละ งั้นก็เปิดอ่านซะ_
    เขากรอกรหัสที่ได้มาใส่ช่องทันที หน้าจอกลายเป็นสีดำสนิทอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะพรวดพราดกลายเป็นสีขาว พร้อมกับข้อความสัญลักษณ์แปลกๆ ยาวหลายหน้า
    - ทีนี้ข้าจะทดสอบอีกครั้ง ตอนนี้ข้าจะเริ่มทำลายเมล์ซะ เพื่อไม่ให้ใคร รวมทั้งเพื่อนเจ้าที่เดินมาข้างหลังเห็น เจ้าจงแกะรหัสให้ได้เร็วที่สุด แล้วข้าจะติดต่อกลับมาอีกครั้ง_
    รูปตัว pacman โผล่ขึ้นมาและเริ่มกินเมล์อย่างรวดเร็ว เซฟิอุสก็อปปี้เมล์ได้ในเวลาที่ฉิวเฉียด เขารอให้เจ้าตัวตะกละนี่หายไป แต่เมื่อมันกินเมล์หมด มันก็เริ่ม ....
    “เฮ้ย!” มันเคลื่อนตัวมากินหน้าต่างที่เขาเปิดไว้หน้าจอ ขณะที่เสียงของเมล์อีกฉบับดังขึ้นอีก พร้อมกับประโยคที่แสนจะน่าดีใจของเมล์ลึกลับ
    - อ้อ ลืมบอกไป เจ้าตัวที่ทำลายเมล์น่ะ มันตะกละน่าดูเลยล่ะ ถ้าไม่รีบกำจัดมันจะกินข้อมูลของเจ้าหมดนะ บ๊ายบายจ๊ะ_
    เมล์ลึกลับพูดหน้าตาเฉย ทั้งที่ตอนนี้เซฟิอุสรัวคีย์บอร์ดและเมาส์ในทันที
    ____________________

    เสียงกรีดร้องดังลั่นของคอมพิวเตอร์เจ้ากรรมดังขึ้น ทำให้เจ้าของบ้านปล่อยมือกระทันหัน แก้วกาแฟที่มีกาแฟร้อนๆ อยู่เต็มค่อยหมุนอย่างช้า (ในความรู้สึกของเซฟิอุส ผู้ใกล้จะเดือดร้อน ) เพื่อรดน้ำร้อนๆ ใส่เขาก่อนที่จะกระเด็นไปแตกเป็นเสี่ยง ทำให้มีเสียงกรีดร้องตะโกนแข่งกับคอมพ์ขึ้นมาอีกเสียง
    “โอ๊ย! อะไรกันนักหนาเนี่ย” เขาทิ้งแก้วกาแฟไว้อย่างนั้น เพื่อที่จะไปเปิดเมล์ซะ ก่อนที่เพื่อนบ้านจะเดินมาให้พร เมล์เงียบเสียงไป และมีหน้าจอสีดำขึ้นมาอย่างเคย ไม่ต้องสงสัยเลย เมล์แบบนี้ต้องเป็นของเจ้าคนลึกลับคนนั้นแน่
    - อะไรของคุณน่ะ ทำไมต้องเอาเสียงประหลาดนี่มาด้วย แก้วกาแฟผมแตกไปหลายใบแล้วน่ะ_
    - เถอะน่า ๆ โทษที แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้เจ้ารีบวิ่งมาเหรอ_
    เซฟิอุสเถียงไม่ออก เพราะปกติเขาจะดองเมล์ไว้เป็นชาติ ก่อนที่จะเปิดดูเมื่อเจ้าของเมล์มาตวาดใส่ แต่ตั้งแต่เจอกับเมล์ลึกลับนี้เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน เขาก็ต้องเปิดคอมฯไว้แทบจะตลอดเวลา เพราะถ้าเขาไม่เปิดไว้ในตอนที่เมล์มา เครื่องก็จะเปิดเองได้อย่างประหลาด พร้อมกับเสียงกรีดร้องดังลั่น ตอนที่เจอครั้งแรก ทำเอาเขาตกใจแทบแย่
    - เถียงไม่ออกล่ะสิ คุณเซฟิอุส_
    - ยุ่งน่า มีอะไรก็ว่ามา_
    - เปลี่ยนเรื่องเชียวนะ ก็ได้ ข้าจะบอกว่า เจ้าหมดเวลาไขรหัสแล้ว_
    - ก็ดี เพราะผมจะได้ถามคุณซะทีว่า คุณต้องการอะไร
    เมล์ลึกลับเงียบไปพักใหญ่ ท่าทางตกใจกับเรื่องที่เซฟิอุสไขรหัสได้ภายในเวลาไม่กี่วัน
    - เจ้าเก่งมาก ข้าเคยส่งรหัสไปในหลายๆ แห่งก่อนหน้านี้มามากแล้ว เจ้าเป็นที่เดียวที่แปลออก_
    - ขอบคุณสำหรับคำชม แต่คุณควรจะตอบคำถามผมนะ_
    - เอาละ ได้เวลาเข้าเรื่องแล้ว_
    เขารู้สึกว่าตัวเองคิดไปรึเปล่า เมื่อกี้นี้เขารู้สึกถึงน้ำเสียงของประโยคเมื่อครู่ มันดูเอาจริง และเป็นการเป็นงาน ทำให้ความรู้สึกสบายๆ หายไป บรรยากาศเริ่มเครียดขึ้น
    - ตอนนี้องค์การของเจ้ากำลังพบว่า ในระบบสุริยะอาจจะมีดาวเคราะห์ดวงที่ 10 ใช่ไหม ข้าจะบอกให้ว่า มันมีจริง_
    - คุณรู้ได้ยังไงกัน_
    - ก็เพราะข้าอยู่บนดาวดวงนั้นน่ะสิ_
    ความเงียบเข้าปรกคลุม ทั้งในคอมณ และบรรยากาศรอบๆ บ้านของเซฟิอุส อยู่หลายนาที จนกระทั่งเกิดเสียงลมพัดทำลายความเงียบ
    - หมายความว่ายังไง อยู่บนดาวดวงนั้น คุณเป็นมนุษย์ต่างดาวรึไง พูดเป็นเล่นน่า เอาจริงหน่อยสิ_
    - ความจริงก็คือ ข้าเป็นชาวโรวีเซีย ดาวเคราะห์ดวงที่ 10 แห่งสุริยะ และกรุณาอย่าเรียกพวกข้าว่ามนุษย์ต่างดาว มันไม่ใช่คำที่สุภาพนักสำหรับชาวโรวีเซียสำหรับพวกข้า เจ้าก็เป็นมนุษย์ต่างดาวเช่นกัน และข้าไม่คิดว่าเจ้าจะชอบที่จะถูกเรียกว่ามนุษย์ต่างดาว_
    เขาไม่พิมพ์อะไรโต้ตอบ และดูเหมือนฝ่ายนั้นจะเข้าใจความหมายดีจึงเป็นฝ่ายพูดฝ่ายเดียว
    - ข้าไม่ใช่คนชอบโกหก และเจ้าคงไม่คิดว่า คนที่เจาะรหัสเข้าไปที่นาซ่า จะลงทุนเสี่ยงถูกสิ่งที่พวกเจ้าเรียกว่าตำรวจจับ เพื่อเข้าไปก่อกวนเล่นหรอกใช่ไหม_
    - บอกผมสิว่าคุณเป็นคนอย่างนั้น_
    - ฮะ ฮะ ก็บอกแล้วไงว่าข้าไม่ชอบโกหก_
    มันไม่ใช่เรื่องที่จะเชื่อกันได้ง่ายๆ ในการที่จู่ๆ ก็มีคนมาบอกว่าเป็นมนุษย์ต่าง .... เอ่อ ...ชาวเมืองของดาวเคราะห์ดวงที่ 10 ที่ยังไม่มีใครค้นพบ และเขากำลังคุยกับคนๆ นั้นอยู่ โดยการติดต่อจากทางโลกไปหลายพันล้านกิโลเมตร มันเป็นไปไม่ได้ แต่เหมือนมีพลังอำนาจที่แผ่ออกมาจากคนๆ นี้ ทำให้เขาเชื่อสิ่งที่เขาพูด
    - โอเค ผมเชื่อคุณ_
    - เจ้าควรเชื่อ_
    - แล้วคุณติดต่อมาที่โลกทำไม_
    - เจ้าอ่านเมล์ฉบับแรกรึยัง_
    - เพิ่มแปลเสร็จ คุณก็ติดต่อมาพอดี เลยยังไม่ได้อ่าน_
    - บอกวิธีแปลของเจ้ามาสิ_
    - เป็นความสามารถเฉพาะตัว บอกไม่ได้_
    - แล้วข้าจะรู้รึว่าเจ้าแปลถูกรึเปล่า เอาเถอะในเมื่อเจ้ามีความสามารถพอจะหารหัสลับในตอนแรกได้ เจ้าก็คงจะแปลได้ ในเมล์ถ้าเจ้าแปลถูก มันจะเป็นข้อมูลพื้นฐานส่วนหนึ่งของโรวีเซีย_
    - ผมคิดว่าแปลถูก แล้วคุณส่งมาให้ผมทำไม_
    - ดินแดนโรวีเซียของข้าเป็นดินแดนแห่งเวทมนตร์ ซึ่งเป็นแห่งเดียวของจักรวาล และไม่ว่าใครก็อยากได้เวทมนตร์ทั้งนั้น เจ้าจะเถียงไหม_
    - ไม่_
    - เมื่อเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ต้องการ ดินแดนแห่งนี้ย่อมถูกรุกรานเป็นเรื่องธรรมดา เพื่อแย่งเวทมนตร์ของเรา_
    - เวทมนตร์แย่งได้ด้วยรึ_
    - แน่นอน เจ้าจะรู้วิธีจากในเรื่องที่ข้าส่งมา_
    - …..
    - ในการโจมตีจากดาวดวงใดดวงหนึ่ง ชาวดาวโรวีเซียที่ถึงเป็นดวงดาวขนาดเล็ก แต่เพราะเวทมนตร์ที่เรามี สามารถใช้ขับไล่ศัตรูไปได้ หากมาแค่ดาวดวงเดียว แต่ตอนที่ข้าเรียนจบไป 5-6 ปี ดาวเราถูกรุกรานครั้งใหญ่ เพราะมีดาวที่เป็นศัตรูตัวฉกาจของเรา รวมรวมพันธมิตรจากดาวดวงอื่นๆ เพื่อโจมตีเราพร้อมๆ กัน ซึ่งเวทมนตร์ก็ต้องแพ้จำนวนคนที่มากมาย ราวกับฆ่าไม่ตาย ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เจ้ารู้ไหมว่าดาวดวงนั้นคือดาวอะไร_
    เซฟิอุสพิมพ์ตอบกลับอย่างรวดเร็วด้วยมืออันสั่นเทา เขากลัวคำตอบที่เขาเองก็พอจะเดาได้จับใจ
    - ควรแล้วที่เจ้าจะตัวสั่น ดาวดวงนั้นก็คือ โลกที่พวกเจ้าอยู่ยังไงล่ะ_
    เหมือนกับมีเสียงสะท้อนดังก้องในหู ความรู้สึกผิดทำให้เขาตัวร้อนผ่าว ถึงเขาจะไม่ได้ทำ แต่นั่นก็เป็นฝีมือของมนุษย์ในดาวดวงที่เขาอาศัยอยู่ ข้อความของเมล์ลึกลับพิมพ์ตอบกลับมา สำหรับคนที่เดินผ่านคงเห็นเป็นแค่ข้อมูลธรรมดา แต่สำหรับเขาเป็นเหมือนกับเสียงตวาดด้วยความโกรธ
    - พวกของเจ้ารวบรวมดาวที่มีแต่ความโลภได้มากมาย มนุษย์โลกฆ่าผู้คนของดินแดนที่สงบสุขแห่งนี้อย่างเลือดเย็น ทำลายสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างที่เมืองของเจ้าไม่มี เพียงเพื่อสนองความโลภอย่างได้ทุกสิ่งมาครอบครอง พวกเจ้าทำได้ยังไงกัน_
    - คิงโรเลนด์เกือบจะยอมให้เวทมนตร์แก่พวกเจ้าแล้ว ท่านยอมเสียศักดิ์ศรีของราชาเพื่อปกป้องประชาชน แต่ว่า อัศวินผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าของฉายา 4 เทพก็ปรากฏตัวออกมา พวกเขาเพียงแค่ 4 คนจัดการไล่ศัตรูไปได้อย่างง่ายดาย เราจึงรอดพ้นจากสงครามครั้งนั้นไปได้ เราจึงไม่เจอสงครามมาหลายร้อยปีแล้ว_
    เมล์ลึกลับเงียบไป เซฟิอุสจ้องมองข้อความทั้งหมดนั่นซ้ำอีกครั้ง เขาลากคีย์บอร์ดบางเฉียบเท่าแผ่นกระดาษมาใกล้ตัว และเริ่มพิมพ์อย่างช้าๆ อีกฝ่ายดูเหมือนจะรอคำตอบอยู่
    - คุณต้องการอะไร_
    - เอาละ เซฟิอุส ทีนี้ เรามาต่อรองกัน_
    _________________

    จากคุณ : Akira - [ 20 ก.ค. 47 20:04:05 A:203.118.120.30 X: ]