CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    น้าสือวาดภาพผมตอนถูกผ่าได้เหมือนมาก..ผมแหกปากร้องได้ใกล้เคียงกับภาพนั้นมาก

    แล้วผมก็รอดมาจนได้
    หลังจากที่บอกกับตัวเองว่า..ตายซะเลยดีกว่า
    โหย..อะไรจะเจ็บปวดปานนี้
    น้าสือวาดภาพผมตอนถูกผ่าได้เหมือนมาก..ผมแหกปากร้องได้ใกล้เคียงกับภาพนั้นมาก
    ไม่รู้ทำเวรทำกรรมอะไรไว้..ถึงต้องมาโดนกระทำย่ำยี่ให้เจ็บปวดขนาดนี้
    ???
    ++++

    ตั้งแต่วันพฤหัสที่แล้ว..มาจนถึงวันพฤหัสคือวันนี้
    เป็นช่วงที่ผมเหมือนตกนรกทั้งเป็น
    เช้าวันนั้น ผมไปรายงานตัวกับคุณหมอ..
    คุณหมอใช้กล้องส่องเข้าไปในรูหู..แล้วพยักหน้าหงึก ๆ
    เขียนอะไรยุกยิกลงในกระดาษ
    แล้วยื่นกระดาษอะไรไม่รู้ให้ผมเซ็นต์
    ก่อนเซ็นต์ คุณหมอบอกว่าจะได้ไม่ต้องมาฟ้องร้องหมอภายหลัง
    หากพลาดพลั้งถึงตายขึ้นมา
    แล้วก็หัวเราะฮิฮะจนตาหยี
    !!!
    ++++

    ผมถูกจูงไปเจาะเลือด..
    พยาบาลตาสวย..ใส่ผ้าปิดปากจมูกจนดูไม่ออกว่าอย่างอื่นจะสวยหรือเปล่า
    ใช้เข็มดุ้นเท่าสากกะเบือ..ทิ่มเข้าไปในเส้นเลือดของผม
    ผมร้องเจี๊ยก เธอทำตาโต..ถามว่า “เจ็บด้วยหรือ?”
    เจ็บสิคับ?
    ไม่น่าจะเจ็บนะ
    เนื้อคนนะคับ
    อ้าวเหรอ..เห็นเส้นเลือดโปนขนาดนี้..นึกว่าเนื้อโค
    แสดงว่าสูบบะหรี่มากสิท่า? เธอถาม
    ผมพยักหน้ายอมรับ
    งั้นไม่เป็นไรหรอกเจ็บแค่นี้..อีกไม่นานจะเจ็บกว่านี้อีกหลายเท่า
    เวลาหมอเขาเจาะคอให้
    อีกไม่นานหรอก..
    ผมกลืนน้ำลายเอื้อก..มองดูเธอสูบเลือดของผมไปประมาณแกลลอนหนึ่ง
    เธอถอนเข็มเร็วไปหน่อย..เลือดกระฉูดตาม
    ปริ๊ด..
    ผมเวียนหัววูบ
    ผมเห็นเลือดได้ซะที่ไหน??
    ++++

    จากนั้นก็ถูกบังคับให้ไปเอ็กซเรย์
    เป็นตึกเก่า ๆ สภาพทึม ๆ
    ไฟนีออนติด ๆ ดับ ๆ
    เหมือนโรงพะบานในหนังผียังไงยังงั้น
    มีบุรุษพยาบาลคนหนึ่ง ใช้ผ้าปิดหัวปิดปากปิดจมูกซะแทบมิด
    โผล่แต่ดวงตาวับแวม
    สั่งให้ผมถอดเสื้อผ้า
    ไม่ให้เหลืออะไรสักอย่างติดตัว
    แล้วให้ใส่ชุดสีฟ้าตัวโคร่ง
    ผ้าหยาบยังกะผ้าดิบ
    นั่งทำหน้าปริบ ๆ รออยู่หน้าห้องเลขเก้า
    ที่นอตหลุดพลิกกลายเป็นเลขหก
    ผมกลืนน้ำลายอีกเอื๊อก
    ++++

    การเอ็กซเรย์ผ่านไปในเวลาที่ไม่นานนัก
    ขณะแต่งตัวใส่ชุดเดิม..ผมสงสัยเป็นอย่างมาก
    สงสัยจนเก็บไว้ไม่อยู่ เลยต้องถามออกไป
    เอ่อ..คุณครับ..
    ผมมาผ่าหู..
    แล้ว?..เขาย้อน
    หมอสั่งให้เอ็กซเรย์หู
    แล้ว?..เข้าย้อนอีก
    คุณก็เอ็กซเรย์หู
    แล้ว?..
    คุณให้ผมถอดเสื้อผ้าทำไมคับ?
    แล้ว?..
    +++++

    ผมเดินงง ๆ จากการถูกฉายด้วยแสงรังสีที่มีกัมมันตภาพรังสีเอ็กซ์ประมาณ 26 หน่วยครึ่ง
    หรือไม่ก็งงก็เพราะคำตอบของ “คุณ” คนนั้น
    “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ”
    ++++

    จากนั้นพวกเขาก็สั่งให้ผมไปเช็คอิน
    ได้ห้องพิเศษห้องหนึ่ง..มีทีวีตู้เย็นแอร์พร้อม
    มีเตียงแถมให้ด้วย
    พยาบาลก็แสนสวย หน้าตาน่ารักน่าใคร่
    ใช้เครื่องมือวัดความดันมาวัดที่แขน ใช้ปรอทมาวัดที่ปาก
    จดยิก ๆ ลงไปในกระดาษ
    แล้วหันมาถามหน้าซื่อว่า
    “วันนี้คุณอึ๊ไปกี่ครั้งแล้วคะ?”
    ผมหูอื้อเพราะแรงบีบจากเครื่องวัดความดัน
    เลยได้ยินว่าเธอถามถึงอายุของผม
    สิบแปดครับ
    เธอทำตาเหลือก
    ++++

    คืนนั้นผ่านพ้นไปด้วยคำถามถี่ยิบของพยาบาล
    นอกเหนือจากคำถามทั่วไปที่เขามักถามกัน
    “ญาติคุณยังไม่มาอีกเหรอคะ?”
    “ที่นี่มีกฎว่า ต้องมีญาติมาเฝ้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงนะคะ?”
    “ถ้าไม่มีเราจะต้องเปลี่ยนให้คุณไปนอนห้องรวมนะคะ..”
    “ไหนคะญาติ..อะไรกัน..คุณเกิดจากกระบอกไม้ไผ่หรือนี่??”
    เกือบสามทุ่มวันนั้น..ผมจึงจำเป็นต้องโทร.หาใครคนหนึ่ง
    “เอ็งเอาใส่ถุงมากินในนี้เลยแล้วกัน..” ผมบอกเขา
    “ได้จิงอ้ะ..” เพื่อนผมถาม
    “ได้สิวะ..เดี๋ยวข้าซื้อน้ำแข็งเผื่อไว้ให้..”
    “งั้นโอเค…”
    นั่นแหละ..ผมถึงได้มีญาติมานอนเป็นเพื่อน
    แม้มันจะเหม็นเบียร์ไปหน่อยก็เหอะ..
    ++++

    เช้าวันศุกร์ ผมต้องตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง
    พยาบาลในชุดขาว เข้ามาวัดความดันผมอีกครั้ง
    แล้วก็วัดปรอทอีกครั้ง
    แล้วก็ถามถึงอึ๊ของผมอีกครั้ง
    จากนั้นก็บอกว่า
    “อาบน้ำให้สะอาดนะคะ..โดยเฉพาะซอกนั้น..”
    “ซอก?”
    “ซอกหูไงคะ..ถูให้สะอาดเชียว..เท่าที่เห็นนี่ต้องอาศัยแปรงมังคะ?”
    ผมทำตามคำสั่งของเธอ
    ในใจก็นึกเสียวไปด้วย
    หูของใครผมไม่รู้ แต่หูของผมผมรู้ว่าเป็นจุดรวมของเส้นประสาท
    แค่ใครมาหายใจรดติ่งหู ผมก็ขนลุกซู่ไปไหนต่อไหน
    นี่อะไร..จะต้องถูกเข็มทิ่ม มีดผ่า
    ผมจะไม่เสียวได้อย่างไง??
    +++

    ได้เวลาประมาณเก้าโมง..
    ก็มีเตียงเปล่าเข็นมารับผมถึงในห้อง
    ผมเดินลงจากเตียงหนึ่งไปขึ้นอีกเตียงหนึ่ง
    เขาก็เข็นผมไปห้องผ่าตัด
    ก่อนถึงห้องผ่าตัดต้องขึ้นลิฟท์
    ลิฟท์เป็นลิฟท์ไม่ใหญ่นัก จึงรับน้ำหนักมากไม่ได้
    ประตูลิฟท์เปิด บุรุษพยาบาลบอกให้ผมลงจากเตียง
    เตียงถูกเข็นเข้าลิฟท์ไปพร้อมพร้อมกับบุรุษคนนั้น ผมยืนนิ่งอยู่หน้าลิฟท์
    ลิฟท์ลงมารับผมอีกครั้ง คราวนี้บุรุษพยาบาลคนนั้นมาคนเดียว ไม่มีเตียง
    เขามารับผมขึ้นลิฟท์
    เมื่อออกจากลิฟท์ เขาก็ให้ผมขึ้นเตียง
    แล้วเขาก็เข็นเตียงไปที่ห้องผ่าตัด
    พอถึงห้องผ่าตัด เขาก็ให้ผมลงจากเตียง
    แล้วนั่งรอ…
    ผมนั่งรอ..พร้อมกับนึกเสียวในใจ
    ลิฟท์..เตียง..หู..
    หลู เตียง…ฮิบ..
    ++++

    เข็มแรกสำหรับการตกนรกของผมในครั้งนี้เริ่มขึ้นเมื่อเวลาเก้านาฬิกาห้าสิบเก้านาที
    ความแหลมคมชำแรกของไปในส่วนลึกสุดของรูหู
    เข็มแล้วเข็มเล่า
    ความเจ็บปวดกรูเกรียวไปทั่วร่าง
    น้ำตาผมไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
    กว่าฤทธิยาชาจะสำแดงผล..ผมก็เกร็งรับความเจ็บปวดนั้นจนแทบเป็นตะคริวไปทั้งร่าง
    มีดของหมอผ่าลงเมื่อไรผมไม่รู้ได้..
    ได้ยินว่าหมอขอเลื่อยไฟฟ้า..กระดูกโหนกหูยาวไปหน่อย
    ได้ยินเลื่อยไฟฟ้าทำงาน เสียงกรี๊ดก้องไปทั้งหัว
    ความวิงเวียนตาลาย..ความเจ็บปวดแทบดิ้นตายเกิดขึ้นนับแต่วินาทีนั้น
    “ผ่าเล็ก ๆ แค่นี้ไม่มีใครเขาวางยาสลบกันหรอก..” ผมนึกถึงคำของคุณหมอขึ้นมาได้
    “เจ็บนิดเดียว..ผลข้างเคียงก็ไม่มากเหมือนวางยา..”
    “เชื่อหมอเหอะน่า..”
    น้ำตาผมยังไม่หยุดไหล
    ++++

    เกือบสองชั่วโมงเต็มที่ผมอยู่ในห้องผ่าตัด
    ผมถูกเข็นออกมาที่ห้องพักเมื่อไรไม่รู้
    เจ้าเพื่อนขี้เมาของผมมันเล่าว่า
    ผมหลับอย่างไม่ได้สติ..จนกระทั่งตื่นขึ้นมาในเวลาหนึ่ง
    พร้อมกับอาการปวดหูที่ทวีขึ้นจนแทบจะขาดใจตาย
    พยาบาลสาว..รีบฉีดยาแก้ปวดให้ผม
    อาการไม่ดีขึ้น
    มีการเรียกหมอ..หมอไม่อยู่
    มีการโทรศัพท์หาหมอ..หมอบอกให้ฉีดอีกเข็ม
    พร้อมกับกินยาด้วย
    อาการดีขึ้นไม่นาน..ก็ปวดอีก..
    คราวนี้ปวดมาก..มากกว่าคราวที่แล้ว
    มากจนผมร้องโอยออกมาอย่างไม่เกรงใจใคร
    “ปวดซับหายเลยโว้ย..”
    +++++

    ขณะจิตหนึ่งที่ผมสงบนิ่งเข้าสู่พะวังของฤทธิยา
    ผมนึกถึงชายหาดทะเลหัวหิน
    คิดถึงน้าสือ..พี่เอม..พี่นัต และเพื่อน ๆ น้อง ๆ ทุกคน
    ผมอยากไปร่วมสนุก..ผมอยากไปเจอทุกคน..
    อยากไปฮาเฮ..ท่ามกลางบรรยากาศของมิตรภาพ..ริมฝั่งทะเล..ที่แสนงามนั้น
    ถ้าไม่ใช่เพราะคำหมอที่ว่า “หมอว่างวันเดียว..จากนั้นหมอจะติดราชการต่างจังหวัดหลายอาทิตย์”
    “คุณจะผ่าเลยไหม..หรือจะรอให้หมอกลับมาก่อน..”
    “แต่หมอว่าผ่าเลยดีกว่า..อุตส่าห์กินยาเตรียมตัวมาเป็นเดือนแล้วนี่นะ..”
    “ไม่งั้นก็ต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด..อาการแก้วหูทะลุ..จะผ่าได้ก็ต่อเมื่อภายในหูไม่ติดเชื้อแล้ว..”
    “ยาปฏิชีวนะที่ให้..อาจจะต้องเปลี่ยนให้แรงขึ้นก็ได้..ถ้าเชื้อดื้อยาซะแล้ว..”
    นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมไม่ได้ไปหัวหิน
    นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมได้แต่นั่งเสียดาย เมื่อได้อ่านและดูภาพของเพื่อน ๆ ที่ได้ไปสนุกกันมา
    เราจัดกันใหม่อีกครั้งเถิดครับ..
    นะ..
    ไม่ต้องเร็ว ๆ นี้ก็ได้..แต่ขอได้โปรดจัดอีกครั้ง
    อย่างน้อยก็เพื่อตอบแทนเพื่อนที่แสนดีจากแดนไกล..พี่นัตตี้คนดีคนนั้น
    ผมพร้อมจะเป็นหนึ่งในเจ้าภาพ..ที่จะเลี้ยงขอบคุณเธอ..
    ดีไหมครับ?
    ++++++++

    ปล. สำหรับเพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่โทร.มาแล้วผมไม่ได้รับ..ขอได้รู้ไว้เถิดว่า แม้เวลานี้..ผมก็ยังใช้โทรศัพท์ไม่ได้..
    หูผมไม่ได้ยินจริง ๆ ครับ

    จากคุณ : ปิ๊วปิ้ว - [ 22 ก.ค. 47 17:15:41 A:202.57.174.226 X: ]