ความคิดเห็นที่ 47
เปิดเมนูกับข้าว.......................ครัวไทย ปลาช่อนปลาดุกไย.................ยั่วยิ้ม อีกปลาหลดปลาไหล..............เลื้อยรี่ ปลาสลิดบิดตัวพริ้ม................พลิกพลิ้วอัศจรรย์ฯ
โอววววววววววววว................... อาววววววววววววว.................. ว้าวววววววว อเมซิ่งครัวไทย จริง ๆ ขอรับ
แหะ แหะ ขอรับ สวัสดีทักทายทุก ๆ ท่าน ในเบื้องต้น ข้าพเจ้าส่งเสียงร้องเช่นว่านี้ เพราะเหตุตื่นตาตื่นใจมากมายจริงเจียว ขอรับ อิอิ 
ค่ำคืนที่ผ่านพ้น ข้าพเจ้าร่ำสุรา พร้อมกับเยี่ยมชมผัก-ผลไม้ เพื่อจัดสำรับอัศจรรย์ มาถึงวันนี้ ข้าพเจ้าเลยไป ฉอบปิ้ง เที่ยวชมตลาดปลา เพื่อนำมาประกอบสำรับ อเมซิ่ง ครัวไทย อัศจรรย์ ขอรับ แหะ แหะ ขอรับ
ปล.มีข้อสังเกตุ สำหรับ บทอัศจรรย์ บางประการ คือ
๑.ธรรมชาติมักเกิดวิปริตอาเพศ แบบว่า ไม่ธรรมดา (อะฮ้า ไม่ธรรมดา อิอิ) พร้อมกันนั้น กวีผู้บรรยายจินตนาการแห่งความไม่ธรรมดา ก็มักนิยมบอกกล่าวเพื่อเข้าเนื้อ(เรื่อง) ด้วยคำว่า อัศจรรย์ เสมอ ๆ ซา-แดง-หว้า อีกด้านหนึ่ง กวีก็มุ่งปูทาง(โหมโรง) สำหรับคนอ่าน เพื่อเข้าสู่เนื้อ(เรื่อง) โดยง่าย
๒.บทอัศจรรย์ในวรรณคดี (โดยทั่วไป) มุ่งเน้นการบรรยายแบบเหนือจริง ในเชิงวิจิตรกามา ในอีกด้านหนึ่ง อาจสะท้อนปรากฏการณ์ของค่านิยมแห่งยุคสมัย ว่าด้วยการไม่แสดงออกทางเพศอย่างโจ่งแจ้ง พร้อม ๆ กับสำนึกส่วนลึก ที่เห็นว่า เรื่องเช่นว่านี้ เป็นสิ่งไม่ดี และไม่เป็นไปตามธรรมชาติ (ทั้งที่นำเอาธรรมชาติมาบรรยาย อิอิ) ดังนั้น จึงมุ่งเอาความงามของภาษาและจินตนาการ มาบรรยาย เพื่อกลบเกลื่อน
๓.ในวรรณคดียั่วล้อ(เช่น ระเด่นลันได ) อีกด้านหนึ่ง ก็เป็นปรากฏการณ์ของการวิพากษ์วิจารณ์ สังคมชนชั้นสูง โดยนำวิถีที่เป็นอยู่ มายั่วล้อในเชิงเสียดสี แม้กระทั่งบทอัศจรรย์ ก็ยังมีความจงใจ เช่นว่านี้
๔.ในยุคสมัยหนึ่ง (ยุคการต่อสู้ทางความคิด และความเชื่อทางทฤษฎีการเมือง) ศิลปวัฒนธรรม เป็นเครื่องมือชิ้นหนึ่งที่ทรงประสิทธิภาพ ในการโน้มน้าวคนในสังคมนั้น ๆ รูปธรรมหนึ่งคือ การปะทะกัน ระหว่างสำนักคิดศิลป์บริสุทธิ์(ศิลปะเพื่อศิลปะ) กับ สำนักคิดศิลป์เพื่อชีวิต (ศิลปะต้องรับใช้ชีวิต) กรณีนี้ อาจมองผ่านได้ จากรูปธรรมการต่อสู้ของชนชั้นศักดินาเดิม กับชนชั้นล่าง และชนชั้นกลางบางส่วน ดังนั้น วรรณคดีคลาคสิค(เช่น พระลอ อิเหนา และฯลฯ) จึงเป็นกรณีที่ต้องวิพากษ์(ในยุคนั้น) นัยว่า เป็นการชี้ให้เห็นถึงความฟุ้งเฟ้อ หมกมุ่น ของชนชั้นสูง เพื่อเปรียบเทียบให้เด่นชัดว่า แท้แล้ว ความงามที่แท้ของศิลปะ อยู่ที่การรับใช้ชีวิตและสังคม (เช่นการบรรยายภาพแม่หญิง ที่ทำงานในท้องทุ่ง , หรือการบรรยายภาพชีวิตของชนชั้นล่าง) อันมิใช่รับใช้ความพอใจของคนในชนชั้นศักดินา (อ่านเพิ่มเติมได้จาก งานวิพากษ์ ของ นายผี , จิตรภูมิศักดิ์ และ ฯลฯ) (ข้อสังเกตบางประการ ในกรณีของสำนักคิดศิลปะเพื่อชีวิต มีหลาย ๆ กรณีที่หยิบยกงานเขียนของ ชนชั้นสูง มาอธิบายให้เห็นถึงความฟอนเฟะและการต่อสู้ทางการเมืองของชนชั้นสูงด้วยกันเอง เช่น นิราศหนองคาย ที่ จิตร ภูมิศักดิ์ หยิบมาเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ของความขัดแย้ง ระหว่างผู้กุมอำนาจในชนชั้นเดียวกัน และนำมาสู่การบันทึกงาน ในลักษณะของการเปิดโปง ความไม่ถูกต้องในแวดวงสังคมชนชั้นสูง) ทว่า ! เมื่อผ่านห้วงเวลาของการต่อสู้ทางความคิด ในอีกด้านหนึ่ง ก็เป็นความคลี่คลายของยุคสมัย และความคลี่คลายของมุมมองความคิด กระทั่งนำสู่การอธิบายความงามของศิลป์ ในแง่มุมของการ ยอมรับความงามที่แตกต่าง อันขึ้นอยู่กับบริบทการมองชิ้นงานแต่ละชิ้น อย่างไรก็ตาม ก็ใช่ว่า การคลี่คลายดังกล่าว จะนำไปสู่การลดความขัดแย้งได้โดยสิ้นเชิง นั่นเพราะแม้ในปัจจุบัน ก็ยังมีการเลือกเชื่อตามสำนักคิดโดยปฏิเสธความยอมรับ ต่อสำนักคิดที่แตกต่าง
๕.ค้างไว้ก่อนแล้วกัน อิอิ
แหะ แหะ ขอรับ ข้าพเจ้า แวะมาตั้งประเด็นข้อสังเกตบางประการ เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นโดยหลากหลาย และเพื่อประโยชน์ ของการเรียนรู้ ขอรับ แหะ แหะ แล้วก็ต้องขออภัย หากมีความคลาดเคลื่อนบางประการ จากการเขียนโดยความทรงจำ ด้วยนะ ขอรับ
แวบมาสวัสดี ทักทายทุก ๆ ท่านในเบื้องต้นก่อน ขอรับ แหะ แหะ แบบว่า งานพอกหัวพอกหาง พอกกลางตลอดตัว ขยับบ่ค่อยจะออก แล้ว ขอรับ อ้อ ! อีกนิด ขอรับ ขออนุญาตต้อนรับสมาชิกทั้งเก่าและใหม่ ที่มาร่วมพูดคุยอย่างครึกครื้น ยินดีมากมาย ขอรับ คึกคักมากมาย
ศาลาไทย , จังงัง , คุณน้ำหวานน่ารัก , คุณราม , คุณรมย์ บุริน , คุณคนอุดร , พี่เล็ก ,ซอมพอแดง รวยระรินกลิ่นชา , จอมยุทธ , นิรนาม , น้องเหล็กฯ , คนเดินดินกินข้าวแกง , p_jung
ได้เห็นเพื่อนพ้องน้องพี่มากมาย พร้อมทั้งเพื่อนใหม่มากมาย มาร่วมพูดคุยอย่างครื้นเครง ข้าพเจ้ายินดีมากมายจริงเจียว ขอรับ แหะ แหะ ต้องขออนุญาตทักทายสวัสดีแบบรวดเร็ว เช่นนี้ก่อน แล้วจะกลับมาทักทายเรียงคนอีกครั้งครา ขอรับ
แหะ แหะ เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องแวบโดยพลัน ขอรับ อิอิ
ไปล่ะ

อีกนิดแล้วกัน อิอิ เพิ่งเห็นตาหมี mz บรรเลงดนตรีไทย ตอบลูกลิง โอ........จังหวะเร้าจายยยยยเจง ๆ อิอิ
แต่อันนี้ "เจตนาลองแต่งอ่ะครับ เพราะจริงๆแล้วไม่ถนัดแนวนี้เท่าไหร่"
แหะ แหะ ออกตัวแบบนี้ ซา-แดง-หว้า ถนัดแนว "โชะ-เชะ" เลยกระมัง อิอิ 
ไปล่ะ ต้องแวบก่อนล่ะ อิอิ
จากคุณ :
นายทิวา
- [
28 ก.ค. 47 17:43:48
]
|
|
|