หลังจากวิลาไปนอนที่บ้านของเจนจิรา 2 วัน เธอได้นอนอย่างเต็มอิ่มและสบายใจ ไม่ต้องคอยหวาดผวากับเสียงโทรศัพท์ในช่วงกลางคืน ส่วนมือถือของหญิงสาวก็ปิดทุกครั้งก่อนนอน ถึงแม้พวกโรคจิตอยากโทรเข้าเครื่องเธอมากขนาดไหนก็โทรไม่ติด
แต่เมื่อวิลาเปิดเครื่องขึ้นที่ทำงาน ไม่ถึง 5 นาที เธอก็ได้รับข้อความเป็น message ฉบับแรกเป็นของเบอร์ที่สองที่วิลาได้รับเมื่อหลายวันก่อนช่วงเย็น เป็นข้อความสั้นๆ
"เหยื่อ" ใครส่งข้อความนี้มาให้ชั้นเนี่ย เบอร์นี้ที่โทรกลับไปแล้วไม่ยอมรับสาย
วิลารู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที คล้ายๆกับว่าคนที่ส่งข้อความอยู่ใกล้ๆตัวเธอ หญิงสาวมองรอบๆกาย ว่ามีใครที่ทำท่าผิดปกติรึเปล่า แต่ก็ไม่มี เห็นแต่พวกพนักงานในแผนกที่รู้จักและคุ้นหน้ากันกำลังเตรียมตัวจะทำงาน
ทำไมวิลารู้สึกเหมือนมีใครจ้องมองเธออยู่นะ ไม่รู้ว่าหญิงสาวคิดไปเองหรือระแวงเกินเหตุไปรึเปล่า เธอนั่งนิ่งครุ่นคิดและรู้สึกกลัว มือหนึ่งเอื้อมมาแตะไหล่บางวิลาสะดุ้งเฮือก
"เป็นอะไรไปวิ เรียกแค่นี้ต้องตกใจด้วย"เสียงของดารณีเอ่ยกับเธอ
"ดาชั้นรู้สึกเหมือนตกเป็นเป้าสายตาของใครสักคน"วิลาบอกกับเพื่อนร่วมงานในบริษัท
"ทำไมคิดอย่างนั้น ระแวงเรื่องโทรศัพท์มากไปรึเปล่า"
"จริงๆนะ ชั้นว่าชั้นไม่คิดมากแน่ๆ ดาชั้นกลัวน่ะ"หญิงสาวจับมือของดารณีกุมไว้
วิลาตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะเปลี่ยนเบอร์ใหม่ พอตกเย็นเธอก็ทำอย่างที่ต้องการทันทีวิลาเข้าไปในร้านโทรศัพท์บอกยกเลิกเบอร์เดิมและซื้อเบอร์ใหม่ใส่แทน ก่อนจะก้าวออกจากร้านกลับไปที่รถ ลับหลังของเธอมีสายตาที่เฝ้ามองวิลาอยู่ด้วยความเย็นชาและยิ้มออกมาที่มุมปาก
+++++++
แกร๊ก!
เสียงเปิดประตูของหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเปิดประตูรั้วบ้านเพื่อจะเข้าที่พัก ขณะนั้นเธอรู้สึกเหมือนมีบางอย่างจี้อยู่ที่ลูกกระเดือก ปลายมีดเย็นๆแตะอยู่ที่หลอดลมของเธอ ร่างบางตัวแข็งทื่อ ใครคนหนึ่งผลักหญิงสาวเข้าไปในบ้าน ร่างที่ถูกจี้พยายามหันกลับมามองใบหน้าของคนร้ายหากแต่เห็นเพียงบุคคลในชุดดำที่ปิดหน้ามิดชิด
คนร้ายไม่พูดอะไรเลยเหมือนกลัวว่าเธอจะรู้เพศของมัน กลับส่งกระดาษเพียงหนึ่งแผ่นเล็กๆให้กับหญิงสาว ซึ่งพอเธอได้อ่านข้อความนั้นก็รู้สึกกลัวขึ้นมาทันที อากาศที่อบอ้าวในบ้านกับบรรยากาศรอบกายสร้างความสะพรึงกลัวแก่หญิงสาวมาก มันไม่ต้องการอะไรเลยนอกจาก
.
ไม่เกินครึ่งชั่วโมง ร่างในชุดดำก็ก้าวเดินออกมาจากบ้านหลังนั้นพร้อมกับถุงขยะสีดำติดมือมาด้วย ทิ้งไว้แต่หลักฐานที่น่าทุเรศและน่ากลัวอยู่ข้างใน
ร่างของหญิงสาวที่ถูกฆ่าทิ้งอย่างเลือดเย็นถูกซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้า ท้องที่ถูกแทงแบบนับไม่ถ้วน หากแต่ศีรษะกลับหายไป
ข้างฝ่ายวิลาก็เตรียมปิดไฟขึ้นไปนอนบนห้อง และก็ไม่ลืมเช็คว่าสายโทรศัพท์ถูกปลดออกหรือยังก่อนจะปิดเครื่องที่มือถือของตัวเองอีกครั้ง หญิงสาวคิดว่าถ้าเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือแล้วเรื่องบ้าๆคงจบไปแต่เธอคิดผิดแทนที่มันจะสงบเหมือนเมื่อก่อนกลับไม่เป็นเช่นนั้น
ดึกสงัดคืนหนึ่งมือลึกลับกำลังสอดซองจดหมายใส่ตุ้จดหมายของหญิงสาวด้านนอก
มันไม่ได้ใส่เข้าไปหมดแต่เหลือส่วนปลายไว้ให้วิลาเห็น
+++++++
ในตอนเช้าขณะที่เธอปิดประตูเตรียมขับรถไปทำงาน สายตาของวิลาก็มองเห็นซองจดหมายที่เหน็บไว้ในตู้สีแดง หญิงสาวหยุดมองและดึงมันออกมา หน้าซองไม่มีชื่อผู้ส่ง ผู้รับก็ไม่มีบอก ดูเหมือนจะมีบางอย่างอยู่ในนั้นลักษณะไม่ใช่จดหมายแน่ มันดูพองๆผิดจากกระดาษทั่วไป
วิลาค่อยๆฉีกซองและเปิดออก ได้กลิ่นเหม็นคาวน่าคลื่นไส้ออกมาจากข้างใน แล้วเธอก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่อยู่ในซอง มันดุน่ากลัวมากอย่างที่เธอไม่เคยเห็นอะไรน่ากลัวอย่างนี้มาก่อนนอกจากในหนังสยองขวัญเท่านั้น หญิงสาวสะกดกลั้นความสะอิดสะเอียนไว้ไม่ได้ เธอวิ่งไปอาเจียนนอกบ้านทันที
สิ่งที่เธอเห็นมันคือดวงตาของคนหนึ่งคู่ที่ถูกเสียบด้วยมีดปลายแหลมด้ามเล็ก ดูเหมือนไม้เสียบลูกชิ้นปิ้งที่มีขายตามทางเดิน วิลาคงจะเลิกกินอาหารชนิดนี้เด็ดขาด เมื่อน้ำจิ้มที่ราดลงบนลูกชิ้นแปลกประหลาดนั้น คือเลือดสีแดงสดๆที่อยู่ในถุงพลาสติกใสเหมือนยามที่แม่ค้าส่งให้กับเธอ
นี่มันอะไรกันเจ้าของดวงตาคุ่นี้เป็นใคร แล้วเกี่ยวข้องอะไรกับตนทำไมถึงต้องเอามาให้เธอรับรู้ด้วย วิลารีบใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อเอาซองนี้ไปทิ้งที่ถังขยะหน้าหมู่บ้าน อาการตื่นกลัวและสั่นสะท้านอยู่ในสายตาของบุคคลที่ 3 ตลอดซึ่งยืนยิ้มด้วยความสะใจ
เมื่อถึงที่ทำงานเสียงโทรศัพท์เครื่องใหม่ของเธอดังขึ้น วิลาสะดุ้งอีกครั้ง ก็จะไม่ให้เกิดอาการอย่างนั้นได้ยังไงในเมื่อเครื่องนี้หญิงสาวยังไม่ได้บอกเบอร์ให้คนรู้เลย
ติ๊ด ๆ เสียงส่งข้อความ message อีกแล้ว เบอร์ของคนไม่รู้จักโชว์ขึ้นมา มือบางของวิลาสั่นเทาและเย็นในขณะที่เอื้อมมือหยิบมันจากบนโต๊ะทำงานที่เธอเพิ่งหยิบมาวาง หญิงสาวกดปุ่มดูข้อความที่ส่งมาก็ต้องตกใจตาค้างกับรูปที่ส่งเข้าในมือถือ
มันคือรูปดวงตาสองคู่ที่ถูกเสียบด้วยมีดพร้อมกับหยดเลือดที่เธอเห็นเมื่อเช้านี้เหมือนกันไม่มีผิดหญิงสาวโยนโทรศัพท์ลงไปที่โต๊ะทำงานของเธอทันที พร้อมกับถอยเก้าอี้ออกห่างนั่งตัวสั่นไม่พูดไม่จา มือหนึ่งยื่นมาแตะไหล่ของเธอในขณะที่สติของหญิงสาวกลัวสุดขีด ทันทีที่มีความรู้สึกถึงการสัมผัส วิลาก็ร้องออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ
"กรี๊ด!!!!!!!!!!! "
"วิเป็นอะไร"ดารณีถือแฟ้มเอกสารมาให้หญิงสาว เธอเห็นเพื่อนในบริษัททำท่าเหมือนกลัวอะไรสักอย่างก็เลยลองถามดู
"มันส่งมาอีกแล้ว"
"ส่งอะไร"
"รูปภาพน่ากลัวมากชั้นไม่เคยเจออะไรที่สยองขนาดนี้"วิลาบอกกับดารณีพร้อมกับกอดเธอไว้ด้วย มือของหญิงสาวเย็นจัดผิดปกติ
"รูปอะไรวิ มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ"ดารณีถามเธอด้วยความอยากรู้
"นี่ไงล่ะ"หญิงสาวเปิดรูปภาพให้เพื่อนดู ทันทีที่ดารณีเห็นก็ทำหน้าเหมือนจะอาเจียนและวิ่งออกไปข้างนอก หญิงสาวสงสัยว่าคนส่งภาพนี้รู้เบอร์ของเธอได้ยังไง แล้วยังเบอร์โทรศัพท์ที่ขึ้นโชว์บนหน้าจอก็เป็นคนละหมายเลขกับที่โทรมากวนประสาทเธอ วิลาจดเบอร์นี้ใส่กระดาษเพื่อเช็คหาเจ้าของเบอร์
และสถานที่ๆจะให้คำตอบกับเธอได้ก็คือร้านขายโทรศัพท์มือถือ ตกตอนเย็นวิลาก็ขับรถไปที่ร้านเดิมถามหาพนักงานสาวคนเมื่อวานนี้ที่เป็นฝ่ายจัดการเรื่องเบอร์ใหม่ของเธอ แต่คำตอบที่ได้รับจากพวกเพื่อนๆในร้านก็คือ
"วันนี้ไม่ได้มาทำงานค่ะ"
"มีเบอร์ของเธอมั้ยคะ ชั้นมีเรื่องจะถามเขาหน่อยค่ะ"วิลาอยากตรวจสอบอะไรบางอย่างหญิงสาวคิดว่าการหยุดงานของพนักงานสาวที่นี่ต้องเกี่ยวข้องกับดวงตาคู่นั้นแน่ๆ วิลามีความรู้สึกเช่นนั้น
เพื่อนของพนักงานสาวคนนั้นจดเบอร์มาให้หญิงสาววางไว้บนโต๊ะ และเธอก็หยิบแผ่นกระดาษอีกใบขึ้นมาเพื่อที่จะถามพนักงานให้ช่วยเช็คเบอร์นี้ทีว่าใครเป็นเจ้าของ แต่ในขณะที่วิลาจะยื่นแผ่นกระดาษให้นั้น สายตาของหญิงสาวก็มองเห็นเบอร์ของพนักงานสาวที่เป็นคนจัดการเบอร์ใหม่ให้เธอ กับ เบอร์ในแผ่นกระดาษที่จะยื่นถาม
มันเป็นเบอร์เดียวกัน!!!!
ภาพนั้นถูกส่งมาจากเบอร์ของพนักงานสาวซึ่งทำงานที่นี่ได้ยังไง เป็นไปไม่ได้ วิลาลองกดเบอร์กลับไปตามหมายเลขที่อยู่ตรงหน้า สัญญาณว่างเธอรอให้คนมารับด้วยใจจดจ่อ มีเสียงคนรับสายแต่ไม่ยอมพูดนอกจากเสียงลมหายใจเสียงเดิมที่วิลาเคยได้ยิน ฟืด
ฟาด
หญิงสาวรีบกดวางสายทันที
ใบหน้าของวิลาแสดงอาการตกใจจนพนักงานในบริษัทสงสัยและถามเธอ
"เป็นอะไรคะคุณ ดูหน้าซีดจัง"
"ชั้นคิดว่าเพื่อนของคุณคงไม่ได้หยุดงานอย่างเดียวแล้วล่ะค่ะ"วิลาบอกกับเพื่อนของพนักงานสาวที่ไม่ได้มาทำงาน
"หมายความว่าอะไรคะ"
"คือ เมื่อกี้ชั้นลองโทรกลับไปตามเบอร์ที่คุณให้ มีคนอื่นรับสายแทน"วิลาบอกออกไป
"เป็นไปไม่ได้ค่ะก็เพื่อนของชั้นเขาอยู่คนเดียว จะมีคนอื่นมารับแทนได้ยังไง"
"ถ้าคุณไม่เชื่อก็ลองโทรกลับไปสิคะ"
หญิงสาวลองโทรกลับไปตามเบอร์ของเพื่อนกลับได้ยินแค่เพียง
"หมายเลขนี้ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ The number
.connect" โทรกี่ครั้งก็ได้ยินแต่คำพูดนี้
หลังจากที่ฝ่ายนี้วางสาย อีกฝ่ายหนึ่งแต่คนละสถานที่ ก็โยนโทรศัพท์มือถือทิ้งลงท่อระบายน้ำ และยิ้มอย่างสะใจ
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยังบ้านของพนักงานขายโทรศัพท์ตามที่เพื่อนของเธอได้แจ้งไว้ ทุกคนกลับพบแต่ความเงียบ ค้นหาร่างของหญิงสาวไม่เจอ จนกระทั่งขึ้นไปชั้นบน กลิ่นคาวที่เหม็นสาบก็ลอยออกมาจากห้องๆหนึ่ง ทันทีที่เปิดเข้าไปกลิ่นจากด้านในก็ฉุนแรงมากกว่าเก่า ซึ่งมาจากตู้เสื้อผ้าในห้องนอน ทุกคนต้องเอามืออุดจมูกกับกลิ่นที่น่าอาเจียน
พอบานประตูของตู้เสื้อผ้าเปิดออก ก็ต้องพบกับภาพที่น่าสยดสยองมากจนเกินกว่าที่จะรับได้ วิลาไม่ได้ไปที่เกิดเหตุหากแต่คอยอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ และปริศนาของดวงตาคู่นั้นก็ถูกเปิดเผยออกมาว่าเป็นของใคร
+++++
ที่บ้านหลังหนึ่งภายในตกแต่งแบบธรรมดาเรียบๆง่ายๆ หากแต่ถ้าสังเกตให้ดีจะรู้สึกถึงบรรยากาศเยือกเย็น เต็มไปด้วยกลิ่นฟอร์มาลีน และศีรษะของหญิงสาวเต็มห้องไปหมด
มือหนึ่งจับศีรษะของผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมาแกว่งเล่นไปมา พร้อมกับเสียงหัวเราะที่น่ากลัวไม่ต่างกับหัวที่แกว่งตรงหน้า
"ฮะ ฮะ ฮะ ชอบจังเลยรอยยิ้มที่สร้างให้คนติดใจ ขอโทษด้วยนะที่ต้องทำร้าย ก็ใครใช้ให้เธอยิ้มประทับใจล่ะ จริงๆก็ไม่อยากจะทำเลย ถ้าเผอิญวันนั้นไม่เห็น"
ร่างนั้นพูดไปหัวเราะไปเหมือนคนบ้า ทำตาฝันเลื่อนลอยถึงใครอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้หญิงเหมือนกัน ก่อนจะหันกลับมาพูดและมองไปที่ศีรษะที่ไร้ร่างหากแต่ได้รับการฉีดน้ำยาสตาฟค้างไว้แล้ว
"เร็วๆนี้ เธอจะได้มีเพื่อนแล้วนะ อีกไม่นานหรอก ถึงสิบเมื่อไหร่ชั้นจะเอามาแสดงให้ทุกคนรับรู้ถึงรอยยิ้มที่น่าประทับใจมากที่สุด 55555"แววตาที่แสดงถึงความมุ่งมาดต้องการศีรษะสุดท้ายมาประดับอีกหนึ่งชิ้น
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 47 00:08:33
แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 47 23:13:21
จากคุณ :
tonkho-w
- [
27 ก.ค. 47 22:36:59
]