******** ลงก่อนเพียงส่วนหนึ่งครับ อีกส่วนขอติดไว้ก่อน เนื่องจากผู้แต่งเอง อ่านแล้วก็ยังรู้สึกว่ามันไม่เป็นเหตุเป็นผลเพียงพอ ดังนั้นไม่สามารถให้ผ่านไปสู่ผู้อ่านได้*******จะพยายามลงให้ไม่เกินวันจันทร์นะครับในส่วนที่เหลือ ขอบคุณครับวิกาลมืดมิด ไม่มีลม ไม่มีดาว แต่มีจันทร์แสงจันทร์สาดส่องตัวตึกที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางซอกเขา ขวางกั้นด้วยแนวป่า และหุบเหว ถ้าจะกล่าวให้ถูกแล้ว มันตั้งอยู่บนภูเขา ห้อมล้อมด้วยภูเขาสูง ยากแก่การเข้าถึง รอบข้างของตัวตึกจัดวางด้วยป้อมค่ายเวรยามทุกๆ ยี่สิบวาบนป้อมค่ายยังจัดวางเครื่องยิงหน้าไม้ขนาดใหญ่ และเครื่องป้องกันการจู่โจมจำนวนมากมาย ดูไปคลับคล้ายตัวเมืองใหญ่ที่พร้อมรับการจู่โจม ยากแก่การตีแตกโดยง่าย!!!!ตัวตึกนี้คือสาขาใหญ่ พรรคฉิกจับอิด!!!!นอกจากนี้ทุกป้อมค่ายยังจัดตั้งระฆังทองเหลืองขนาดใหญ่ สำหรับเตือนภัย ระฆังที่จัดตั้งนี้เพียงทุบลงไปเบาๆ ก็จะบังเกิดเสียงดังสะท้อนไปทั่วทั้งหุบเขา เหมาะแก่การใช้เตือนภัยยิ่งนักด้านบนของป้อมค่ายจัดวางกำลังคนไว้ป้อมละเจ็ดถึงแปดคน ทุกๆ สองชั่วยามผลัดเปลี่ยนเวรยามหนึ่งครั้ง เวลานี้พอดีเป็นเวลาผลัดเปลี่ยนเวรยามกลุ่มคนอาวุธครบมือจำนวนเจ็ดสิบถึงแปดสิบคน เคลื่อนมาเป็นกลุ่มๆ เข้าแทนที่กลุ่มคนบนป้อมค่ายที่มีอยู่จำนวนสิบป้อมค่าย"ฉิกจับอิดยิ่งใหญ่....""....เกรียงไกรล้ำฟ้า"ทีแท้มีการกำหนดรหัสกันขึ้นในหมู่เวรยาม รหัสในคืนนี้ก็คือ " ฉิกจับอิดยิ่งใหญ่ เกรียงไกรล้ำฟ้า""โชคดีพวกท่านมาผลัดเปลี่ยนเวรยามได้ทันท่วงที มิเช่นนั้น หากปล่อยให้ล่วงเลย "พ่อบ้าน" คงลงโทษพวกเราอย่างหนัก" กล่าวจบ ตบบ่าไหล่กว้างขวางของอีกฝ่ายคราหนึ่ง จากนั้นจ้องมองใบหน้าอีกฝ่ายกล่าวว่า"เอ น้องชาย เหตุใดเรามิเคยพบเห็นเจ้....อ็อกกก" วาจากล่าวยังมิทันเสร็จสิ้นคนก็ล้มลงไปกองกับพื้นจากนั้นแว่วเสียงครวญครางดังแว่วมาจากป้อมค่ายข้างเคียง ป้อมค่ายทั้งสิ้นสิบหลังปรากฏสภาพอันน่าสะพรึงกลัว และหวาดหวั่น ผู้คนที่เฝ้าคุมอยู่ล้มลงตายสิ้น บนร่างปรากฏมีดสั้นเล่มหนึ่ง ล้วนปักลงบนขั้วหัวใจโดยมิคลาดเคลื่อนแม้สักเล็กน้อยเหล่าเวรยามที่เข้ามาผลัดเปลี่ยนพากันแบกซากของคนที่ตายลำเลียงออกไป เช็ดถูรอยเลือดจนเรียบร้อย ราวกับมิมีอันใดบังเกิดขึ้นจากนั้นพวกมันพากันเข้าประจำการในป้อมค่ายราวกับว่าเมื่อครู่มิมีสภาพอันน่าแตกตื่นอันใดเกิดขึ้น บุคคลอื่นหากผ่านมาในเวลานี้ล้วนมิสามารถแยกแยะความผิดปกติใดใดได้ เพียงแต่ที่แปลกประหลาดอยู่บ้างก็คือ พวกมันล้วนหันไปมองทางทิวเขาด้านทิศตะวันออก พวกมันใช่รอคอยพระอาทิตย์ขึ้นหรือไม่? แต่ยามนี้มิใช่ห่างจากเวลาพระอาทิตย์ขึ้นอีกหลายชั่วยามหรอกหรือ?ยามเช้าเมื่ออาทิตย์ทอแสงใช่เกิดเหตุเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงกับตัวตึกที่ยิ่งใหญ่ โอ่โถง ราวกับตัวเมืองแห่งนี้หรือไม่?!!........................................"ซังเอ๋อ เจ้าต้องเข้าใจท่านประมุข เวลาเช่นนี้มีเรื่องราวน่าปวดเศียรเวียนเกล้าเกิดขึ้นมิใช่น้อย เจ้ามิบังควรเพิ่มเรื่องราวมิสบายใจแก่ท่านอีก" เสียงที่แผ่วเบาและนุ่มนวลกล่าวออกจากปากบุรุษหนุ่มที่แต่งกายด้วยชุดสีม่วง ใบหน้าเรียบเนียน รับกับปากได้รูป มันดูไปคลับคล้ายอิสสตรีอยู่หลายส่วนทีเดียวมันย่อมเป็น "พ่อบ้าน" ...กู่ฮวยฮวย เองเด็กสาวเชิดปากน้อยๆ จนสูง ทำจมูกย่นนิดหนึ่งอย่างมิใคร่พอใจ"ท่านกลับกล้าขัดขวางเรา ท่านเข้าใจว่าสามารถ?""ซังเอ๋อ....""มิต้องพูดแล้ว ท่านลุงอยู่ที่ไหน บอกมา!!!!" เด็กสาวตวาดกู่ฮวยฮวย ถอนใจยาว กล่าวว่า"อยู่ในห้องโถงใหญ่ ภายในนอกจากท่านยังมี ผู้คุมกฎซ้าย" กล่าวจบล่าถอยออกไป"เป็นมัน! ดีล่ะ พวกเราจะได้เห็นดีกัน" กล่าวพลางสะบัดหน้ามิสนใจกู่ฮวยฮวย มุ่งหน้าสู่ห้องโถงที่หลี่เฉินเชียงอยู่......................................ตึกเมฆลาย ภายในสวนตะวันตกของพรรคฉิกจับอิดตึกนี้เป็นที่อยู่ของผู้คุมกฎซ้ายแห่งฉิกจับอิด ถ้าจะพูดให้ถูกต้อง เวลานี้เป็นผู้คุมกฎเพียงหนึ่งเดียวของฉิกจับอิด!!!มันเองก็กำลังเพ่งมองไปทางด้านทิศตะวันออก เบื้องหลังเทือกเขาที่สูงใหญ่ มันที่แท้รอคอยสิ่งใด?!!!ทว่ามิว่ามันรอคอยสิ่งใดก็ตาม เวลานี้หากมันมีญาณวิเศษสามารถล่วงรู้การมาของบุรุษสองคน ณ ตึกลมตะวันออก ฟากตรงข้ามกับตึกเมฆลายแล้วล่ะก็ รับรองมันจะต้องแตกตื่นจนหน้าเปลี่ยนสีทีเดียว เพราะเวลานี้มีบุรุษคู่หนึ่ง หนึ่งนั้นแอบแฝงใบหน้าภายใต้หมวกปีกกว้าง อีกบุรุษ ท่าทางยากจน ดูไปคลับคล้ายพ่อครัว แต่ทว่า แม้นเป็นพ่อครัวกลับไม่ใช่พ่อครัวสามัญ เพราะมันครั้งหนึ่ง กลับสามารถเอาชนะผู้คุ้มกฏซ้ายแห่งพรรคฉิกฯ ที่ใครๆ ต่างเกรงขาม จนสร้างความแค้นใหญ่หลวงให้กับอีกฝ่าย มันคือ เสี่ยวซา เอง!
จากคุณ : ทีมแต่งนิยาย - [ 29 ก.ค. 47 21:42:40 ]
แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 47 16:47:22