คราวราตรีต้องหลับใหล รุ่งอรุณฟื้นคืนกลับมาใหม่
หน้าที่ของกาลเวลา ...พามันมาและจากไป
ปลุกชีวิตให้เริ่มใหม่ ไป...ตามครรลอง
ท้องทุ่งบนยอดเขาสูงไม่เคยเปล่าเปลี่ยว ยังมีเหล่ามวลหมู่ไม้หลากสายพันธุ์รายล้อมอยู่ ถึงตอนนี้จะยังไม่เบ่งบานอวดสีสัน แต่ก็ยังทำหน้าที่ส่งกลิ่นพฤกษาผสานอบอวลความหอม...ไหว้วานมวลอากาศให้พัดผ่าน จนหยาดน้ำค้างหมดเรี่ยวแรงจะต้านทาน ร่วงหล่นสู่ผิวดินอันอ่อนนุ่มกลับคืน บ้าน...ที่มันจากมา ยอดหญ้าเอนไหวอิสระหยอกเย้าเคล้าคลอคะนึงกับสายลมเย็นให้เตรียมพัดพาไอเย็นสดชื่นลดหลั่นความร้อนแรงแห่งแสงที่กำลังจะมาถึง
เช้านี้ไม่สดใสอย่างที่ใคร ๆ หวัง กลุ่มเมฆตั้งเค้าส่อแววจะตกหนัก ธรรมชาติกำลังคืนความสดชื่นทดแทนให้กับชีวิตที่สูญเสีย แสงแดดก็คงได้พักบ้างไม่ต้องส่องสว่างสักชั่วครู่ ความกดอากาศนั้นผลักให้สายลมโถมเข้าใส่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า จนต้นหญ้าของท้องทุ่งแหวกกระจายออกไปอย่างไร้ทิศทาง มันเป็นอย่างนี้มาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง บางครั้งมันช่างเกรี้ยวกราด โหดร้าย รุนแรง โถมเข้าใส่ทุกสรรพสิ่งอย่างบ้าคลั่ง ไม่เกรงใจใคร บางครั้งมันช่างอ่อนโยนอบอุ่นราวกับแม่ปลอบโยนลูก แน่นอนว่าใครก็คงอยากให้เป็นอย่างหลังมากกว่า แต่ก็คงเลือกไม่ได้ มันเป็นไปตามแต่ผู้กำหนด และแล้วหมู่เมฆก็อุ้มน้ำฝนไว้ไม่ไหว ปล่อยมันลงจากมือราวกับโยนทิ้ง เหมือนกับว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีค่าอะไร น้ำปริมาณมหาศาลร่วงหล่นกระแทกกับสายลม สลายตัวออกเป็นเม็ดอย่างที่มันควรจะเป็น ก่อนจะสัมผัสกับผิวดิน บ้าน...ที่มันจากมา
เมฆฝนหายไปแล้ว มันคงอารมณ์ไม่ดีนักถึงได้ทำอะไรรุนแรงไปอย่างนั้น ยังดีที่มันไม่ได้ทำร้ายใคร และแล้วก็ได้เวลาสลายความเปียกชื้น เมื่อแสงแดดกลับมาเยือนท้องทุ่งอีกครั้ง ยอดหญ้าที่รอดพ้นวิกฤตลุกขึ้นยืนหยัดได้ใหม่ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะยังมีแรงพลิ้วไหวได้อีก พวกมันโอนเอนไปมาคล้ายชะโงกหาใครสักคนด้วยความเป็นห่วง คนที่รอคอย ใครคนนั้น คนที่เคยขับกล่อมบรรเลงให้พวกมัน...เคลิบเคลิ้มอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
พระอาทิตย์เลื่อนไปอยู่ส่วนบนสุดของท้องฟ้าแล้ว ทำไมเขายังไม่มา เขาไม่เคยผิดเวลา ทำไมเขาปล่อยให้พวกนั้นรอคอยอย่างเงียบเหงาเศร้าสร้อยอย่างนั้น หรือวันนี้เขาจะไม่มา น่าสงสาร น่าจะมีใครสักคนอาสาไปบอกพวกนั้นว่า เขามาแน่ แต่มาช้า เขากำลังเก็บข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ใส่ในตู้อย่างเป็นระเบียบ ราวกับว่าจะไม่ต้องใช้มันอีกแล้ว อีกไม่นานหรอกเขาก็จะมาถึง คอยอีกสักหน่อยได้ไหม อย่าพึ่งจากไปเลยสายลม อยู่ด้วยกันก่อน คอยพัดพาไอแดดออกไปจากพื้นผิว มันคงไม่อยากแห้งเผือดก่อนเวลามันสมควร เมื่อเธอจากไปแล้วชีวิตชีวาก็คงจะขาดหายไป ต้นหญ้าคงไม่ไหวเอนเหมือนอย่างเก่า กลิ่นอบอวลของหมู่พฤกษาก็คงจะกระจายไปไหนไม่ได้ ดูดอกไม้พวกนั้นสิ ถ้าเธอไปแล้วพวกนั้นจะลอยไปไหนมาไหนได้อย่างไร เพราะฉะนั้นอยู่ก่อนเถิดนะ แต่อย่าถามฉันเลยว่าฉันรู้เรื่องคนคนนั้นได้ยังไง ฉันไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะฉันเองก็เป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งในจักรวาลเหมือนกันกับเธอ...
นั่นไงเขามาแล้ว ในที่สุดเขาก็มา วันนี้เขาดูแปลกไป ทำไมเขาเชื่องช้าไปกว่าเดิม หรือจะเป็นเพราะย่ามใบนั้น เขาเอาอะไรมาด้วย ดูเหงื่อบนใบหน้าเขาสิ อายุขนาดนี้ทำไมต้องลำบากขนาดนี้ด้วย ระยะทางก็ไม่ใช่ใกล้ ๆ น่าสงสารจริง ๆ ภาวนาให้เขามาถึงเร็ว ๆ จะได้นั่งพักสักที นั่นแหละนั่งลงเถิด พักให้หายเหนื่อยเสียก่อน เดี๋ยวค่อยบรรเลงก็ได้ ให้พวกนั้นคอยต่อไปอีกหน่อย สายลมพัดเข้าสิ ช่วยให้เขาหายเหนื่อยหอบเสียที เขาเอาอะไรมาด้วยนะ กรอบรูปตัวเขาเองสมัยนั้นไง ดูรูปคนข้าง ๆ เขาสิ เธอสวยมากจริง ๆ สายลมเธอคงจำได้นะ เมื่อก่อนเธอก็มาที่นี่ประจำ น่าเสียดายที่เธอต้องมาด่วนจากเขาไป ตอนนั้นฉันเองก็เสียใจเหมือนอย่างที่เขาเป็น เขาไออีกแล้วดูสิ หนักกว่าเมื่อวานซะอีก ใครบอกฉันได้ไหม เขาเป็นอะไร หรือว่าเขาไม่เป็นอะไร ก็ดูสิ เขายังยิ้มอยู่เลย แล้วนั่นล่ะ จำได้มั้ย กลิ่นที่พวกเธอชอบไง สายลมเธอชอบมั้ย กลิ่นน้ำซุปนั่น หลายสิบปีมาแล้ว มันไม่เคยเปลี่ยนเลย
ล้อมวงเข้ามาเร็ว เขาหยิบซอสองสายออกมาแล้ว มันเก่ามากแล้วนะ เก่าพอ ๆ กับเจ้าของเลย ฉันไม่เข้าใจว่ามันส่งเสียงอันไพเราะขนาดนั้นได้ยังไง เขาตั้งเสียงมันเหมือนกับที่ทำทุกวัน เขาเริ่มแล้ว...ฟังสิ สายลมเธอชอบใช่มั้ย เสียงมันบ่งบอกถึงอารมณ์ของเขาเหรอ สายลมเธอร้องไห้ได้ไหม ฉันเองก็ร้องไม่ได้หรอก แต่มันซึ้งจริง ๆ นะ ฉันเห็นภาพเธอคนนั้นขึ้นมาทันที นั่นไงเขาร้องไห้ ดูน้ำตาเขาสิ มันใสกว่าน้ำค้างเมื่อเช้าเสียอีก เขาร้องทำไม เขายิ้มอยู่ไม่ใช่เหรอ เขาเป็นอะไร เหงื่อเขาออกเต็มไปหมด เขาไออีกแล้ว ดูสิ เขาล้มตัวลงนอนข้าง ๆ หลุมศพเธอคนนั้น เขา...เขาไม่หายใจแล้ว สายลม ฉันไม่เข้าใจ เขาดีใจอะไรเหรอถึงได้ยิ้ม หรือตัวหนังสือบนกรอบรูปนั่นจะบอกฉันได้
ต่อจากนี้ เธอจะไม่เหงา ฉันจะอยู่ดูแลเธอ...ชั่วนิรันดร์
ลาก่อน....ปู่ชิว
จากคุณ :
เหลย
- [
วันเข้าพรรษา 16:55:10
A:203.118.68.248 X:
]