CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 4

    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2923228/W2923228.html

    ตอนที่แล้ว

    ============

    “เจ้าเป็นหญิงหรือชายกันแน่?”  แล้วจ้องหน้าคนชุดเทาที่นอนสงบนิ่งอยู่เบื้องหน้า  ก่อนตัดสินใจพิสูจน์หาความจริง  ค่อย ๆ เอื้อมมือหนา ๆ คลำหาบางสิ่งบางอย่างที่ควรจะมี

    บุรุษหนุ่มชะงัก!!    แล้วถอนมือกลับ

    “เจ้า!  เป็นหญิง!”   เมื่อคลำไม่พบลูกกระเดือกบริเวณลำคอของร่างที่หมดสติ

    บุรุษผมเทาได้แต่มองใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษอย่างครุ่นคิด   สมองคิดอะไรไม่ออก  รู้สึกสับสนอยู่ภายใน

    “ทำไมข้าต้องห่วงเจ้าด้วยนะ”   เจ้าชายแรร์เน็สถามตัวเอง  หลังจากค้นหาสาเหตุของความรู้สึกนั้นเจอ

    “จริง ๆ ข้าควรจะฆ่าเจ้าเดี๋ยวนี้”  แล้วกระชับดาบขึ้นมาไว้ในมือ  แม้จะรู้สึกอ่อนล้าเต็มทีก็ตาม    แต่ทว่าอีกความคิดหนึ่ง   กลับสวนทาง  ความรู้สึกขัดแย้ง  ลำบากใจกำลังแทรกซึมเข้าไปในหัวใจของเจ้าชาย  หากต้องปลิดชีวิตร่างที่นอนแน่นิ่งคนนี้   แม้ช่วงเวลาที่ได้รู้จักกันอาจไม่นานแต่เหตุการณ์ต่าง ๆ บ่งบอกถึงจิตใจอันเต็มเปี่ยมด้วยความเมตตา  และงดงาม  ทุกสัมผัสของคน ๆ นี้เต็มไปด้วยความปรารถนาดีที่เจ้าชายเองก็รู้สึกและสัมผัสได้

    “แต่เจ้าเป็นผู้อ่านคาถา  ข้าต้องฆ่าเจ้า”  เจ้าชายผมสีเทาขยับดาบในมืออย่างช่างใจ  แล้วจ่อปลายดาบลงที่ลำคอของคนชุดเทา  แต่อย่างไรก็ตาม  ไม่อาจกล้าออกแรงตวัดปลายดาบฟันลงไปได้เลย  ภาพเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ขณะต่อสู้กับมดยักษ์ที่หญิงสาวช่วยเหลืออย่างไม่คิดถึงชีวิตของตนเองเลยแม้แต่น้อยมันวนเวียนอยู่ในสมอง

    ชายหนุ่มหลับตาลงอย่างคิดไม่ตก  แล้วถอนหายใจแรง ๆ  ก่อนตัดสินใจวางดาบลงข้างตัว

    “มันต้องมีทางสิ!  ทางที่ข้าไม่ต้องฆ่าเจ้า…เฟรนลี่”  เจ้าชายคิดกังวล  และเชื่อมั่นในความรู้สึกของตนเองว่าเธอจะต้องไม่ยอมอ่านคาถาบนดาบทองสีรุ้ง  หากถูกฝ่ายอำนาจมืดจับตัวไป  ที่สำคัญตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าดาบทองสีรุ้งนั้นอยู่กับใคร…??  ที่ไหน…??  

    เจ้าหญิงเฟรนลี่เริ่มรู้สึกตัว  แล้วไอถี่ ๆ  สำรอกน้ำที่เข้าไปออกมา  ลืมตาขึ้น  แล้วมองสิ่งรอบตัวอย่างช้า ๆ  เมื่อมองเห็นบุรุษผมเทานั่งอยู่เบื้องหน้า  จึงค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นแม้จะรู้สึกปวดร้าวระบมไปทั่วทั้งตัวด้วยความอ่อนเพลียและบอบช้ำ

    “เจ้าฟื้นแล้วหรอ”  เจ้าชายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา  ความกังวลลดลงเมื่อเห็นหญิงสาวปลอดภัย

    “เจ้าถูกมดยักษ์ทำร้าย!!” ภาพอันน่ากลัวนั้นยังจำได้ติดตา   เมื่อเจ้ามดยักษ์ปักเขี้ยวจมมิดลงที่หน้าอกของเจ้าชาย  เลือดแดงทะลักออกมาเป็นสายธารหลาก  แล้วเข้าไปจับแขนบุรุษหนุ่มเขย่าอย่างร้อนใจด้วยความเป็นห่วง

    “เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?”   เผลอยกมือเปิดเสื้อของชายหนุ่มดูอย่างลืมตัว   มองบาดแผลบนแผ่นอกของเจ้าชายด้วยความรู้สึกแปลกใจ  

    เจ้าชายนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ  ที่อยู่ ๆ หญิงสาวก็โผเข้ามาหาในระยะประชิดตัวเช่นนี้

    “ข้า…ไม่…เป็นไรหรอก”  เสียงเจ้าชายแผ่วลงกว่าเดิม  ราวกับเสียงกระซิบ   ดวงตาสีสนิมเหล็กดูอ่อนระโหยโรยแรง  

    เจ้าหญิงมองแผลนั้นกำลังปิด  และกำลังจะเลือนหายไปในที่สุด

    “เจ้าอย่าห่วงไปเลย”  บุรุษหนุ่มกระพริบตาอย่างเชื่องช้าด้วยความอ่อนล้า เปลือกตานั้นทิ้งตัวลงมาครึ่งหนึ่ง

    “แผลกำลังจะหาย…”  เจ้าหญิงมองอย่างไม่เชื่อสายตา  แต่ก็ต้องเชื่อ    ไม่ว่ามันจะหายด้วยเหตุใด  วิธีไหนก็ตาม  ความรู้สึกหนึ่งบอกเธอว่า  บุรุษตรงหน้าคนนี้  ไม่ใช่คนธรรมดา  แต่ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร  เป็นอะไรก็ช่าง  มันไม่สำคัญเท่ากับการที่รู้ว่าเขาปลอดภัย  แล้วเงยหน้ายิ้มให้เจ้าชายอย่างดีใจที่สุด

    เจ้าชายมองรอยยิ้มแย้มบนใบหน้าของคนที่อยู่ตรงหน้า  ดวงตาสีเขียนสดใสคู่นั้นเป็นประกาย   เป็นความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก   รอยยิ้มแบบนี้ไม่เคยได้รับจากใครมานานแล้ว  รอยยิ้มที่อ่อนโยน  รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความปรารถนาดี  คนที่เคยยิ้มแบบนี้ให้เจ้าชายมีเพียงไม่กี่คนและต่างตายจากโลกนี้ไปแล้ว   เจ้าชายนึกถามตัวเองอยู่ในใจ  

    เจ้าเป็นใครกัน  ทำไมถึงเป็นห่วงข้า   ดีกับข้าถึงเพียงนี้  ทั้งที่เราเพิ่งรู้จักกันเท่านั้น…   เจ้าช่างเต็มไปด้วยความงดงามเหลือเกิน…

    เมื่อเจ้าหญิงมีสติ  รีบละมือออกจากร่างของชายหนุ่ม  ปั้นสีหน้าไม่ถูก  ที่เผลอไปถูกเนื้อต้องตัวบุรุษหนุ่มอย่างนั้น  ได้แต่ก้มหน้าก้มตามองตัวเอง  เห็นกระดุมเสื้อเม็ดบนเปิดออก  รู้สึกใจหายวาบ  ยกมือจับคอเสื้อไว้แน่น

    “เจ้า!!”  แล้วจ้องหน้าเจ้าชายนิ่งอย่างเคร่งเครียด  แล้วรีบถอยตัวออกห่างอย่างรวดเร็ว  แต่กลับช้าไป

    “ไม่…..!! นะ!!”  หญิงสาวกรีดร้องเสียงหลง  เมื่อร่างเจ้าชายโน้มตัวเข้ามาใกล้  และเหมือนถูกบังคับให้ล้มลงกับพื้น

    “………………..!!!!!!!”

    เจ้าหญิงเฟรนลี่ตกใจสุดขีด   เนื่องจากยังไม่ทันตั้งตัวบวกกับความตกใจ  เซล้มลงตามแรงน้ำหนักของร่างเจ้าชายที่เทลงมาอย่างไม่ได้ยับยั้ง

    “อย่านะ!!  เจ้าจะทำอะไรข้า  ทำแบบนี้กับข้าไม่ได้นะ  ออกไปนะ  ออกไป”  เจ้าหญิงตะโกนโหวกเหวกโวยวายด้วยน้ำเสียงแหบพร่าและอ่อนแรง

    “ปล่อยข้านะ!”   พยายามใช้กำลังที่มีเหลือเพียงน้อยนิดนั้นขัดขืนอย่างสุดกำลังจนเหนื่อยและหมดแรง  พอหยุดการเคลื่อนไหว  จึงรู้ว่า  อีกฝ่ายหยุดการเคลื่อนไหวเช่นกัน  ไม่ขยับเขยื้อนอะไรอีกเลย  และดูเหมือนจะหยุดขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวนานแล้ว
     
    เจ้าหญิงเฟรนลี่รวบรวมกำลังทั้งหมดพยายามขยับตัวออกมาจากร่างของเจ้าชายที่หมดสติ  แล้วหายใจออกอย่างโล่งอก  มองร่างสูงของเจ้าชายที่แน่นิ่งอยู่กับพื้น

    “บ้า!!  จะสลบก็ไม่บอกกันซักคำ  ใครจะไปรู้ล่ะ”  นึกขำและอายตัวเองที่โหวกเหวกโวยวายอยู่คนเดียว   ว่าแล้วก็ค่อย ๆ พลิกร่างเจ้าชายแรร์เน็สให้นอนให้ท่าสบายที่สุด  
    “เจ้าเป็นเป็นอะไรมากหรือเปล่า  ทำไม…”  เจ้าหญิงพึมพำเบา ๆ อย่างเป็นห่วง   ใบหน้าสวยนั้นแฝงความกังวลใจอย่างเห็นได้ชัด  เมื่อมองใบหน้าเยือกเย็นของบุรุษหนุ่มอันซีดขาว  ขอบตาและริมฝีปากกลายเป็นสีเดียวกับผมสีเทานั้น

    “ข้าจะช่วยอะไรเจ้าได้บ้าง…”  เอื้อมมือจับเสื้อของเจ้าชายที่ยังเปียกชื้นอยู่   คิดว่าควรจะเปลี่ยนเสื้อให้ใหม่ก่อนที่จะป่วยไข้ไปมากกว่านี้

    เจ้าหญิงเฟรนลี่เดินสำรวจกระท่อม   สภาพกระท่อมเก่า ๆ รกร้าง  เต็มไปด้วยฝุ่นหนา ๆ  และใยแมงมุมระโยงระยาง   แถมยังผุพังอีกต่างหาก   มือเอื้อมไปตบฝุ่นหนาบนหีบใหญ่ใบหนึ่งตรงมุมกระท่อม   และปาดหยากไย่สีขาวออก  เมื่อหีบเหล็กถูกเปิดออกด้านในมีเสื้อผ้าเก่า ๆ อยู่ 2-3 ชุด มีผ้าห่มสีตุ่น ๆ อยู่ผืนหนึ่ง   จึงรีบจัดการกับเสื้อผ้าเปียก ๆ ของตัวเอง    แล้วนำชุดใหม่ไปเปลี่ยนให้บุรุษผมเทาที่นอนนิ่งอยู่บนพื้น

    “คนอะไรตัวหนักชะมัด”  เจ้าหญิงเฟรนลี่บ่นเบา ๆ  ขณะประคองร่างไร้สติของชายหนุ่มขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนเพื่อเปลี่ยนเสื้อให้  นึกถึงตอนที่ตัวเองแบกร่างเจ้าชายหนีหมดยักษ์  แบกเข้าไปได้ยังไง  ตอนนั้นเอาพละกำลังมาจากที่ไหน

    เสียงฝนตกดังกระหน่ำอยู่ภายนอก  เสียงฟ้าคำรามเปรี้ยงป้างสนั่นหวั่นไหว  สองมือต้องคอยยกขึ้นปิดหู   น้ำฝนเริ่มรั่วซึมลงมาจากหลังคาซอมซ่อใกล้ผุพังเต็มที

    “ตายล่ะ  หลังคารั่ว!”  รีบลากร่างเจ้าชายที่ไร้สติให้หลบฝนมาอีกมุมหนึ่งของกระท่อม  เปลี่ยนไปหลายมุมจนพบมุมที่ฝนรั่วน้อยที่สุด

    อากาศทั้งเย็นและชื้น  ลมด้านนอกยิ่งโหมพัดเข้ามาให้หนาวเหน็บ  รู้สึกเหนื่อยและอ่อนเพลีย   เจ้าหญิงห่อตัวด้วยความหนาว   ยกมือขึ้นมาถูกันไปมาและเป่ามือให้อุ่นขึ้น  มือสั่นเทาและเริ่มชาหยิบผ้าห่มสีตุ่น ๆ ออกมาคลี่  พลางมองร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่ข้าง ๆ  ด้วยความห่วงใยว่าเขาจะหนาวหรือเปล่า   จะห่มคนเดียวก็กระไรอยู่  แต่จะห่มร่วมกับบุรุษ  มันก็ไม่เหมาะ  ไม่งาม  คิดวกวนจนสับสนไปหมด   จะทำอย่างไรดี  เพราะผ้าห่มมีอยู่ผืนเดียว  ได้แต่ถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก

    “เฮ้อ…แบ่งกันก็ได้”  เมื่อตัดสินใจได้แล้ว  จึงห่มผ้าห่มให้เจ้าชาย  

    “เจ้าห้ามทำอะไรข้านะ”  เจ้าหญิงเฟรนลี่กำชับร่างไร้สติของชายหนุ่มข้างตัว  ก่อนจะล้มตัวลงใต้ผ้าห่มสีตุ่น  นอนหันหลังให้จนม่อยหลับไปอย่างอ่อนเพลีย

    =============  

    ควันไฟจาง ๆ ลอยตัวอ้อยอิ่งอย่างเชื่องช้า  ราวกับไว้อาลัยอย่างเศร้าสร้อยและคอยส่งวิญญาณของเหล่าทหารที่ต้องบาดเจ็บล้มตายในสนามรบ  สภาพศพร่างชายหนุ่มฉกรรจ์นอนพลิกคว่ำหงายดาดเดื่อนเกลื่อนพื้นดินอันแห้งแล้ง  บ้างถูกฟันด้วยดาบ  บ้างถูกแทงด้วยหอกและหลาว  บ้างยังมีลูกธนูปักคาอยู่ตามร่างกาย  เลือดแดงไหลจนแห้งเหือดเกรอะกรังตามที่ต่าง ๆ  ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ  พื้นดิน  และร่างไร้วิญญาณ  ลมพัดกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง  แมลงวี่  แมลงวันเริ่มบินว่อน  อีแร้งบินคอยบนท้องฟ้าเตรียมลงมาลิ้มรสอาหารอันโอชะ

    ร่างสูงในเครื่องแบบเต็มยศของเจ้าชายแห่งเรียวขาดวิ่น  เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลลึกฉกรรจ์   เลือดยังไหลซึมตลอดเวลาไม่ยอมหยุด  ลมหายใจแผ่วเคลื่อนไหวช้าลงและช้าลง   ร่างนั้นถูกประคองเดินซวนเซไกลออกไป…ไกลออกไป…ด้วยความหวัง  แม้จะเป็นความหวังน้อยนิดเหลือเกินก็ตาม  ทิ้งภาพความสูญเสียเลือดเนื้อ  และชีวิตไว้เบื้องหลัง

    ==============  

    สบายดีกันหรือเปล่าคะ  ฝนตกเกือบทุกวันเลย   รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ   เข้าพรรษาแล้ว   ตั้งใจทำอะไรดีดีให้ตัวเองในช่วงเข้าพรรษากันนะคะ
    ขอบคุณน้ำใจคนอ่าน

    รสา รสา
    แฮปโลดแปลว่าอย่างนี้นี่เองนะคะ  ช่วงนี้ กทม.  ฝนตกบ่อยมากเลย  ที่โน่นเป็นอย่างไรบ้างคะ   งานยุ่งไหมเอ่ย…  แต่คิดว่า  พี่รสาคงใช้ธรรมะปราบความทุกข์กังวลใจได้หมดแล้วกระมัง  ^ _ ^
    แตงกวาดอง
    ขอบใจมากเลยที่ชอบนะจ๊ะ   ดีใจจัง….^ _ ^

    scottie
    ขอบคุณค่ะ  ที่แวะมาเยี่ยมเยียนนะคะ

    GTW
    ปู่คะ  โอนทางเอทีเอ็มก็ได้นะคะ  สะดวกดีนะ  เปิด 24 ชั่วโมงด้วยนะ  เห็นลูกค้าเขาก็โอนมาอ่ะค่ะ  ที่บริษัทอ่ะนะ  ถึงแน่นอนเลยค่ะ   เห็นปู่อ่ะ  งานยุ่งตลอดแหละน้า….  รักษาสุขภาพนะคะ

    ว่าแต่เข้าพรรษาอีกแล้วนะคะปู่….^ _ ^   ปีที่แล้วนี้  ขอปู่ให้งดเหล้าเข้าพรรษา  ปู่บอกว่า  ทำได้ดีขึ้น  ลดลงจริง ๆ  ปีนี้  ของดเลยได้ป่าวคะ  ไม่ใช่  “ลดลง”  เฉย ๆ  จะได้มีความพัฒนาก้าวหน้าขึ้นไงคะ  นะ นะ  

    ยุ้ยค่า
    ดีจ้า…น้องยุ้ย  สบายดีป่าว   ขอบใจจ้าที่ติดตามน้าาา  
    พี่และทีมงานดอกบัวน้อยก็มีใจมากจ้ะ  ที่น้อง ๆ ชอบนะ  ^ _ ^  ว่าแต่ตรวจศีลมารึเปล่าน้า…

    จากคุณ : ริเศรษฐ์ - [ 5 ส.ค. 47 23:56:03 ]