ความคิดเห็นที่ 1 ขอเข้ามาสวัสดีกระทู้ที่ร้อยค่ะ.. แหะ..แหะ... เพิ่งเข้ามาได้ไม่นาน แถมเข้ามาอ่านเฉยๆอีกต่างหาก.. ถึงจะแต่งกลอนไม่เป็น...แต่ว่าชอบอ่านกลอนอ่ะค่ะ ขอบคุณนักกลอนทุกท่านค้าบ..บ.. @^______^@ จากคุณ : p_jung - [ 7 ส.ค. 47 12:12:20 A:210.246.67.120 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 แหะ ๆ ๆ  เข้าทักทายกาทู้ที่ 100  นึกวามาก่อนใคร   ตะว่ายังช้ากั่ว  คุณ p_jung อีกนะเนี่ย กระทู้หมื่นบทแล้ว..........................ฤานี่ น้องเพิ่งเข้ามามี............................ส่วนได้ ร้อยเรียงเรื่องราวดี........................ดีบอก  ต่อกัน อาศรมสวรรค์ฝากไว้......................หมื่นแล้วบทกวี ขอฝากเนื้อฝากตัวฝากหัวใจ เก็บเอาไว้ดูเล่นเล่นนะพี่ น้องSunจะเป็นเด็กดี ของพี่พี่อาศรมชาวโคลงทุกคน รับป่ะ ๆ ขอเป็นน้องนุชสุดท้องนะคะ  (^__^) แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 47 13:46:07 แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 47 23:18:37 จากคุณ : Sunflower (หิ่งห้อยน้อยใจ) - [ 7 ส.ค. 47 13:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณมาก มาก ค่ะ พี่เหล็กละมุน ทั้ง Sunflower : หิ่งห้อยน้อยใจ  เป็นคนเดียวกัน  ถูกต้องนะค้า.............   บะ-แบบว่าแปลมาจากชื่อจิง ๆ (จีน)  น่ะค่ะ ตะก่อนหน้านี้นี่เขียนกลอนแปด  เพิ่งเริ่มหัดเขียนเมื่อมีผู้ส่งกระทู้อาศรมชาวโคลง ภาค 98 มาให้นิเองค่ะ  ตะว่าจะพยายามต่อปัยนะคะ  ขอฝากตัวเป็นศิษย์  ชาวอาศรมด้วยคนค่ะ   ขอบคุณที่อ่านแล้ว............ยินดี  ในงาน จะส่งโคลงกลอนกวี...........ใส่ไว้ ตอบรับใส่ฤดี...................คำพี่  เอ่ยนา จะแต่งโคลงบทให้............ใส่ทู้พี่เอย แหะ ๆ ๆ ๆ ๆ แก้ไหม่แล้วค่ะ  มะรู้ว่าดีขึ้นหรือยังอ่ะนะคะ  ^___^ แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 47 13:46:37 แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 47 13:45:19 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 47 15:17:11 แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 47 23:19:32 จากคุณ : Sunflower (หิ่งห้อยน้อยใจ) - [ 7 ส.ค. 47 14:35:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แหะ ๆ ๆ เข้ามาแก้ใหม่อีกรอบค่ะ ๏  ฝากรักจักฝากให้...................น้องเมีย ของเกลื่อนกลาดของเสีย............ส่งให้ ฝากรักไว้ที่เฮีย.........................เมียเตะ  ส่งนอ รักฝากนิดหนึ่งไว้.......................ซ่อนข้างหลังเมีย แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 47 13:41:00 แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 47 23:21:02 จากคุณ : Sunflower (หิ่งห้อยน้อยใจ) - [ 7 ส.ค. 47 14:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อะจ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  ผิดผัง  หมดเลย  หมดกัน อ่า  รีบไปหน่อย  ลืมดู  อิ ๆ ๆ ๆ   ตะว่ากลับไปแก้แล้วนะคะ  ไม่ทราบว่าใช้ได้หรือยังคะ ? แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 47 13:47:57 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 47 15:19:25 จากคุณ : หิ่งห้อยน้อยใจ - [ 7 ส.ค. 47 14:48:03 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณที่อ่านแล้ว...........ยินดี  ในงาน จะส่งโคลงกลอนกวี..........ใส่ไว้ ตอบรับใส่ฤดี...................คำพี่  เอ่ยมา จะแต่งโคลงบทให้............ใส่ทู้พี่เอย แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 47 13:48:30 แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 47 13:36:57 จากคุณ : Sunflower (หิ่งห้อยน้อยใจ) - [ 7 ส.ค. 47 14:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อักษรเดินหมื่นลี้ ....        ผ่านโคลง มิตรมุ่งหมายเชื่อมโยง...   รักษ์ร้อย ร้อยกระทู้ผ่านจรรโลง...    เรียนเล่น จารชื่อจารึกถ้อย...         แห่งห้องชาวถนน จากคุณ : คุณหนูนา - [ 7 ส.ค. 47 16:28:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ๏ หมื่นคำค่อยคิดร้อย        จัดเรียง หมื่นจิตร่วมผสานเสียง        สู่บ้าน หมื่นโคลงเชื่อมไกลเพียง     ชั่วพริบ  ตาแฮ หมื่นทบหมื่นแสนล้าน          เช่นนั้นนิรันดร์สมัย ๚ะ แวะมาขอบคุณโคชรา lek Isara ศิษย์เอกครูหนอนสุรา  ที่มาช่วยเป็นแม่งานตัดริบบิ้นอาศรมฯ ๑๐๐ เขียนโคลงมัดจำไว้หนึ่งบทก่อน  ขอเวลาสักนิด  อาศรมฯ ๑๐๐  อยากเขียนโคลงชุดมาร่วมยินดีค่ะ  ฝากสวัสดีถึง คุณ Sunflower (หิ่งห้อยน้อยใจ) ด้วยค่ะ  ถ้าเป็นมือใหม่หัดรำจริง ๆ ก็ค่อย ๆ รำนะคะ ไม่ต้องรีบร้อนนะจ๊ะ ... พันทิปถ้าล็อกอินสมาชิกแล้วสามารถแก้ไขข้อความได้ด้วย  ลองดูนะคะ  สวัสดีคุณมามี้ ~ คุณหนูนาด้วยค่ะ  เห็นโคลงแล้วก็ชื่นใจ แต่เป็นห่วงสุขภาพมี้เหมือนเคย  รักษาสุขภาพมาก ๆ ด้วยนะคะ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 7 ส.ค. 47 19:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อาศรมครบหนึ่งร้อย           ยินดี มิตรภาพมากมี                   พี่น้อง ชี้แนะอย่างปรานี                ถูกผิด รำลึกเต็มทุกห้อง                แห่งห้วงหัวใจ สวัสดีค่ะพี่เล็ก และ ทุกท่าน ยินดี ยินดี ยินดี... จากคุณ : ซอมพอแดง - [ 7 ส.ค. 47 22:03:52 A:203.113.51.100 X:203.150.217.116 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีครับ พอมีเวลาแวะมา เข้าพันทิบ ชอบโคลงฝีมือศาลาไทย ที่หน้าแรกมาก ๆ ฝีมือยอดเยี่ยมมาก ๆ ต้องรีบเซฟโดยพลัน ใกล้วันแม่แล้วเลยเข็นโคลงวันแม่แห่งชาติมาร่วมด้วยช่วยกัน ๏ วัน       ประชาแซ่ซร้อง                      สดุดี   แม่          แห่งแผ่นดินศรี                      ศักดิ์หล้า แห่ง        หทัยราษฎร์ยิ่งนที                  มหาสมุทร                   ชาติ        รุ่งเรืองอวดฟ้า                       เฟื่องด้วยพระแม่ขวัญ ๚ะ๛                     จากคุณ : :::อกนิษฐ์::: - [ 7 ส.ค. 47 22:59:03 ]

ความคิดเห็นที่ 11             ๏ อะโห ร้อยกระทู้                                 เถิดเทิง กระทู้ละร้อยเปิดเปิง                                หมื่นข้อ แม่ปูลูกปูกระเจิง                                     กระจับหลุด กระโจนลื่นหมื่นโคลงจ้อ                          กระจาดเกลี้ยงกลางถนน ๚   ๏ กระหนุงกระหนิงประดิษฐ์ถ้อย              งามแงะ เลียนเยี่ยงแม่ปูแปะ                                  ประดับด้วย ต้วมเตี้ยมค่อยเตาะแตะ                            คลานคืบ    ศอกแล ยาวยืดจนยานย้วย                                     อยากให้เป็นโคลง ๚   ๏ โคลงโคลงโคลงโค่งโค้ง                      โคลงโคลง โคลงโข่งโคลงโคลงโคลง                          โข่งโข้ง โคลงโคลงโค่งโคลงโคลง                          โคลงโข่ง โคลงโข่งโคลงโคลงโค้ง                            โค่งโค้งโคลงโคลง ๚   ๏ ร้อย     พันคำคลุกเคล้า                          หมื่นหน กระทู้         เก่าเล่าขานจน                          ทั่วหล้า หมื่น          คิดหมื่นความผล                        ล้นหมื่น โคลง         เกิดราวดินฟ้า                            ฝากไว้แดนโคลง ๚ะ๛ อาศรมชาวโคลงฯ เดินทางมาถึงร้อยภาค นับว่าเป็นสิ่งอัศจรรย์มาก ต้องขอขอบคุณครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่เวียนมาถ่ายทอดความรู้ อบรมบ่มศิษย์ให้ดื่มด่ำในรสโคลง ศิษย์จะรักโคลงและโคลงจะติดตัว ไปจนตราบเท่าที่ยังวนเวียนในวัฎฎะสังสารอันยาวนานนี้ ................................. จากคุณ : :::อกนิษฐ์::: - [ 7 ส.ค. 47 23:22:44 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีทุกท่าน ๏ แวะมาตัดริบบิ้น          แล้วรีบ หายวับกลับเข้ากลีบ       เมฆคลุ้ม หากใจอยู่ในหีบ            ดังทศ- กัณฑ์แล เปิดกล่องคงได้กลุ้ม      เหี่ยวแห้งหดหาย ๚ ขอบใจศาลาไทยสองประการที่ได้เชิญมาเปิดกระทู้หนึ่ง และขอบใจที่เปิดทางให้ว่ามาตัดริบบิ้นอีกหนึ่ง ทำให้ไม่รู้สึกผิดที่ไม่ขยันมาตอบกระทู้ ช่วงนี้เหนื่อยมากครับ เหนื่อยทั้งกายและเหนื่อยทั้งใจ ง่วงมากด้วย (ยังอยู่ใน sleep mode)   แวะมาดูเห็นยัยหนูย้ำคำว่า “ศิษย์เอกครูหนอนฯ” ก็รู้สึกภาคภูมิใจมากกับคำคำนี้ แต่อาจผิดความหมาย คือไม่ได้หมายความว่าเป็นศิษย์ระดับยอดฝีของครูหนอนฯ แต่หมายถึงเป็นลูกศิษย์คนแรกบนถนนสายนี้ เคยเล่าให้ฟังแล้วในกระทู้ “ทบทวนกระสวนโคลง” ก่อนกำเนิดอาศรมเล็กน้อย ยังไม่มีเวลาฉายซ้ำ สรุป :  ศิษย์เอกในที่นี้ คือศิษย์ก้นกุฏิอันดับแรก ไม่ใช่อันดับหนึ่ง (ชั้นหนึ่ง) .... ราตรีสวัสดิ์ อิอิ ปล. โคลงของหิ่งห้อยยังอยู่ในภาวะ “ยงโย่” ถ้าว่างจะมาช่วยจับมือรำให้ ขอลาไปคร่อกก่อนนะครับ จากคุณ : lek Isara - [ 7 ส.ค. 47 23:27:07 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ร้อย ชู้หรือจะสู้                  ภรรยา ฮะฮา ร้อย กบพันเขียดหา            เทียบได้ ร้อย คนค่อยเดินมา            ค่อยค่อย ร้อย บ่อยบ่อยเข้าไว้           ไม่ช้ากว่าแสน ........................... คำโดย ..วาวา.. ภาพจากฟอร์เวิร์ดเมล์ จากคุณ : ..วาวา.. - [ 7 ส.ค. 47 23:34:02 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นโคลงของพ่อ :::อกนิษฐ์::: แล้วตาสว่างเลย จึงขอแปะสักโคลง (แปะ ในที่นี้หมายถึงวาง ไม่ใช่อาแปะหรือตาแป๊ะนะครับ) ๏ ร้อยกระทู้หมื่นบทเคล้า      คลำโคลง คลำเอกคลำโทโยง              หยดย้อย คลำบ่อยบ่อยจรรโลง            ตามกระ- สวนแฮ คลำกระทู้ครบร้อย               หมื่นแล้วยังหลง ๚ *** ช่วยกันจุดธูปเรียกครูหนอนฯ กันหน่อยนะครับ อาจเกิดปาฏิหารย์ได้ แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 47 00:04:03 แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 47 23:54:41 แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 47 23:45:26 จากคุณ : lek Isara - [ 7 ส.ค. 47 23:39:23 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ๏ ร้อยกระทู้หมื่นบทโอ้        อาศรม สมานจิตมิตรนิยม               ร่วมร้อย คำโคลงน่าภิรมย์                เพลินยิ่ง ฝึกหัดทีละน้อย                  ห่อนแคล้วเดินโคลง ๚ *** ฝันดีครับ จากคุณ : lek Isara - [ 7 ส.ค. 47 23:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คาราวะ อาจารย์ (เล็ก)  มะรู้ว่ารับเป็นศิษย์ (รำ) หรือยังคะ  __/ \__  ธุก่อนค่ะ            ๑  หนึ่ง  บทโคลงแต่งไห้          งดงาม ร้อย  กระทู้ถูกตาม                            ป่วนด้วย กระ  โดดใส่บ่ถาม                             เพราะซ่า  (Sun เอง) ทู้  นี่ Sun คงม้วย                              บ่พ้นมรณา แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 47 13:38:13 จากคุณ : Sunflower (หิ่งห้อยน้อยใจ) - [ 8 ส.ค. 47 01:15:31 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แอบไปเที่ยวมา  แป๋บเดียวก้อกระทู้ที่   100  แล้ว  คงต้องติดโคลงไว้ก่อนอ่ะ  เพราะเพิ่งกลับมาเหนื่อยมาก  สมองตื้อเรย... จากคุณ : กรวี - [ 8 ส.ค. 47 01:23:16 A:203.113.71.166 X:203.150.217.116 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อรุณสวัสดิ์ (๘.๑๕ น.) เมื่อคืนนี้ต้องขออภัยที่ออกอาการหมดเรี่ยวหมดแรงผ่านสื่อ(สะดือจุ่น) แต่พี่เล็กนอนหลับสบายนะครับ หลับยาวถึงเช้าเลย ตื่นมาตอนเจ็ดโมงกว่าแล้วนอนเล่นอีกหน่อย ไม่แน่ใจว่าจะโพสต์กระทู้นี้ได้ตอนกี่โมงนะครับ อยากจะคุยกันไปเรื่อยๆ ในบรรยากาศ(นอน)เต็มอิ่ม ปกติคนตั้งกระทู้มักจะมีหน้าที่ดูแลกระทู้และเข้ามาทักทายมิตรสหายและมาโต้ตอบ(มิใช่ตอบโต้)ทุกความเห็น แต่ตอนหลังๆ นี้พวกเราก็มีภารกิจมากขึ้น บางทีก็ขี้เกียจมากขึ้น ก็เลยหายหัว เอ๊ย หายตัวไปบ้าง (ถึงหายไปเลย) จึงเป็นหน้าที่ของพรรคพวกที่จะมาดูแลกันเอง โดยบอกต่อในลักษณะ ฉันเคยโดน(ผิดพลาด)มาแล้วเรื่องนี้ ขอทบทวนทำความเข้าใจสำหรับท่านที่เพิ่งผ่านเข้ามานะครับว่า อาศรมชาวโคลง นี้เป็นเหมือนชมรมเล็กๆ ก็ย่อมมีแนวปฏิบัติหรือกติกาของสมาชิกเล็กน้อย คือเเล่นกันตามกระสวนหรือเน้นเรื่องฉันทลักษณ์นั่นเอง คงเหมือนกับการเข้าเมืองตาหลิ่วน่ะครับ คงต้องหลิ่วตาตาม บ้านไหนใช้ช้อนกลาง เราก็ควรใช้ด้วยเช่นกัน ๑๐๐ กระทู้ที่มาถึง ณ จุดนี้ พี่เล็กไม่ได้แวะเวียนมาวางโคลงครบทั้งร้อยเหมือนแม่หนูจอมยุ่งหรอกนะครับ แต่ก็ดีใจและยินดีอย่างยิ่งที่วันนี้รู้สึกตัวว่า “เขียนโคลงเป็น” ส่วนจะให้เขียนได้ดีหรือเขียนได้เก่งนั้นคงต้องฝึกฝนต่อไป สิ่งที่รำลึกอยู่ในใจก็คือความการุณย์ของครูหนอนฯ “หนอนสุรา” ที่ทำให้พี่เล็กและน้องๆ หลายๆ คนเขียนโคลงเป็น ขออภัยอีกครั้งสำหรับคนใจน้อย Sunflower (หิ่งห้อยน้อยใจ) ที่พี่เล็กบังอาจไปติติงว่า “ยงโย่” ไม่รู้ป่านนี้น้อยใจเลิกคลิกกระทู้ไปหรือยัง มีคนมาแนะนำหรือยังก็ไม่รู้ ถ้าฉายซ้ำก็จออภัยนะครับ น้องหิ่งห้อยนี่คงนำหัวใจและมิตรภาพมาเต็มร้อย ก็อย่าเพิ่งเสียความรู้สึก เพราะพี่เล็กก็ลองทดสอบจริตดูเช่นกัน อิอิ ตอนนี้จะมาบอกว่ายงโย่หมายถึงอะไร ก็คงจะหมายถึงแรกเริ่มก็ไม่มีใครเก่งมาจากในมุ้งหรือเก่งมาแต่อ้อนแต่ออก แต่เมื่อมาปรับปรุงมารับคำแนะนำกันโดยยึดถือ “กระสวน” หรือ “ฉันทลักษณ์” และประสบการณ์ของเพื่อนๆ มาถ่ายทอดกัน เราก็จะเดินไปด้วยกัน หรือนั่งคุยในสำเนียงเดียวกันได้อย่างสนุกสนาน ซึ่งนับเป็นกติกาของชาวอาศรม ชมรมเล็กๆ แห่งนี้ อย่างไรก็ตาม พี่เล็กไม่คิดและไม่เคยพูดว่าคนนอกกรอบเขียนโคลงไม่เป็นนะครับ แต่ในที่นี้นิยมโคลงมีระบอบไม่มั่วครับ กลับมาถึงโคลงหิ่งห้อยอีกครั้ง ขอแนะนำดังนี้ครับ จากความเห็นที่ ๕ ขอบคุณที่อ่านแล้ว............ไม่ติ  งานน้อง จะส่งโคลงกลอนกวี...........มาใหม่ ตอบรับใส่ฤดี...................คำพี่  เอ่ยนา จะแต่งโคลงบทให้............สู่ผู้_พี่เอย ข้อผิดพลาด(ผิดแบบ) ได้แก่ ๑. สัมผัสสระตรงคำว่า ติ-กวี-ดี นั้น สระอิกับสระอี ไม่นิยมที่จะอนุโลมใช้กัน ๒. สร้อยโคลงตรงคำว่า “น้อง” ในบาทแรก เป็นเจตนัง ไม่นิยมเช่นกัน (ลองดูกระทู้ที่ผ่านมามีผู้แปะสร้อยโคลงไว้ให้แล้ว) ๓. คำว่า “มาใหม่” ผิด เอก และ โท ภาคบังคับ ๔. บาทสุดท้ายวรรคหลังไม่นิยมเว้นวรรค ควรเขียนติกันไปเลยเพราะมิใช่สร้อยโคลง (โบราณมีใช้บ้างแต่ปัจจุบันไม่นิยม) และจากความเห็นที่ ๔ ๏  ฝากรักจักฝากให้...................น้องเมีย ของเกลื่อนจากอาเสี่ย................ส่งให้ ฝากรักไว้ที่เฮีย.........................เมียเตะ  ส่งนอ รักฝากนิดหนึ่งน้า......................ซ่อนข้าง  หลังเมีย ๑. ตรงคำว่า “เสี่ย” รวมถึง เมีย,เฮีย และเมีย(ในบาทสุดท้าย) ไม่นิยมใส่วรรณยุกต์ และเรียกคำที่ไม่ใส่วรรณยุกต์ว่า “คำสุภาพ” ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “โคลงสี่สุภาพ” บางท่านอาจแย้งว่าทำไมคำที่ใส่วรรณยุกต์จึงไม่ใช่คำสุภาพทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นคำหยาบ พี่เล็กก็เกิดไม่ทัน ก็ขอบอกว่ามันไม่สุภาพก็เฉพาะในโคลงเท่านั้น และไม่ใช่คำหยาบคาย ขอเสริมว่า สุภาพแปลว่าเรียบร้อย แต่เมื่อมีไม้เอกไม้โทมาก็ดูไม่ค่อยเรียบร้อยมั้ง (ยิ่งพูดคงยิ่งผิด) อิอิ ๒. ตรงคำว่า “น้า” ผิดสองประการคือ .. ๒.๑ ไม่รับสัมผัสสระกับคำว่า “ให้” ๒.๒ คำว่าในที่นี้ “น้า” เป็นภาษาพูด (นะ) ไม่ใช่ภาษาเขียน ไม่นิยมเขียนในโคลง อาทิคำว่า จริงมั้ย(จริงไหม) ยัยหนู(ยายหนู) ไม่นิยมมาเขียนในโคลง ทั้งหมดที่วิจารณ์มานี้ด้วยความจริงใจและต้องการจรรโลงแบบแผนประเพณีและอนุรักษ์มรดกไทย มิได้มาตำหนิให้ได้เสียความตั้งใจ แต่เป็นการติเพื่อก่อ เพราะตนเองก็เคยผิดพลาดแบบนี้มาบ้าง เพื่อนๆ มิตรสหายก็เช่นกัน ตอนหลังเขียนโคลงกันได้พลิ้วสวยงามทั้งภาษา ลีลาและสาระ ขอให้เปิดใจกันนะครับ ท่านจะเขียนโคลงเป็นอย่างแน่นอน ตอนนี้ก็เกือบชั่วโมงแล้วที่พิมพ์กระทู้ ปล. ต่อไปพี่เล็กคงจะไม่มีเวลามาแนะนำใครอีกสักเท่าไร? ขอฝากให้เพื่อนสมาชิกช่วยสานต่อด้วยนะครับ ๙.๐๕ น. (๘ ส.ค. ๔๗) อิอิ มาแก้คำผิด ... พิมพ์ผิดอยู่หลายคำ แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 47 09:38:03 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 47 09:35:31 จากคุณ : lek Isara - [ 8 ส.ค. 47 09:17:55 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ๏ บอกกล่าวคราวเมื่อร้อย    กระทู้โคลง บอกเล่าความใยโยง           ยืดเยื้อ บอกบททุกชั่วโมง              ลิงหลับ บอกแขกเพราะเอื้อเฟื้อ       หิ่งห้อยเจ้าขา ๚ *** น้อง Sun (น้องหิ่งห้อย) อย่าเพิ่งม้วย ปังตอแถวนี้มีเยอะ สับๆๆๆๆๆ  อิอิอิ :oP ปล. ขออภัยกรอบข้างบนลืมวางโคลง จากคุณ : lek Isara - [ 8 ส.ค. 47 09:26:26 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ...เพื่อนนำทาง... o วัฏฏพิภพขยับเขยื้อน............หยุดยาก พลวัตรฉุดกระชาก..................ผลให้ เกิดปฏิพลวิบาก......................เกิดภพ ชาติแฮ พบวัฏฏทุกข์ชดใช้...................อดีตได้ประกอบกรรม o กี่กัปกัลป์กระหยับพ้น............เพรงกรรม์ ที่กมลถูกกรร...........................กระชับหมั้น กี่โกฏิกัปที่กัณณ์.......................ถูกเป่า กรรฐ์ถูกกันต์กบาลกระทั้น-.......กระแทกถ้วมธรณี o กรรมทรามยามผ่านผ้าย.........กรรมราม พานพบพลพรรคงาม................ผง่านแล้ กรรมรามกีดกรรมทราม..............ทรามห่าง พาลจึ่งพบพ่ายแพ้....................เหตุเผื้อนผงรหน + + + + + + + + + + สวัสดีครับคุณ lek และทุก ๆ ท่าน เอาโคลงมาร่วมฉลองครบรอบ ๑๐๐ กระทู้สามบทขอรับ จากคุณ : รมย์ บุริน - [ 8 ส.ค. 47 10:20:52 A:128.82.215.23 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 ได้เวลาคารวะอาจารย์เล็ก อิ ๆ ๆ (โมเม ว่ารับเป็นศิษย์ก้นกุฎิคนหนึ่งนะคะ) ขอบคุณพี่เล็กสุดหล่อ + พี่ศาลาไทยคนงาม  มาก ๆ เลยค่ะ (มะรู้ว่า Sun เข้าใจเพศถูกต้องหรือเปล่านะคะ) ฝากเนื้อฝากตัวช่วยจับมือรำหน่อยนะคะ  อิ ๆ ๆ ๆ ๆ ตะคืนนี้ก็นอนบ่ค่อยหลับ   กระส่ายกระสับ  เพราะอยากเก่ง             ฟื้นตื่นขึ้นมา Sun ก็เริ่มบรรเลง   ร่ายรำเพลงโคลงฉันท์กาพย์กลอน ๏ โอพี่หลุดที่ทั้ง              ผังโคลง Sun นี่เริ่มเซโซ               แย่แล้ว ขอพี่เพื่อนอย่าโถ            เลยน่า จะว่าถาว่าแก้ว                ใส่แล้วหลุดโคลง ๏  จะเอ่ยความเล่าแก้       ตัวไป บ่ค่อยถนัดเท่าไร             สิ่งนี้ ค่อยเรียนค่อยเขียนไป      มันบ่  ทันใจ ถ้าว่าจะแนะชี้                  บ่ลี้ดอกนาย ๏  อภัยเถิดนะพี่แก้ว         พลาดไป Sun เพิ่งหัดเขียนใน         บ่ฮู้ จับจดจึ่งจดไว                 ลงสู่  คอมนอ สัญญาว่าจะกู้                  ส่งขึ้นใหม่นา ๏  วันคืนผ่านล่วงล้ำ         เลยไป Sun นี่เขียนจากใจ           ค่อย (ค่อย) แก้ ขอเพียงพี่ห่วงใย             สอนสั่ง  น้องมา จะไม่มีท้อแท้                 จึ่งย้ำบอกไป ๏  Sun ซ่าผิดที่ถ้ำ          คำคม ครูโคลงเก่าอาศรม          เก่งล้ำ ขมาท่านแล้วซม             ซานซ่อน จะร่ายรำอีกซ้ำ               ต่อให้ยากนอ ๏  ส่งกุหลาบฝากไว้        แทนคำ  (ขอโทษ) ผองพี่อย่าใจดำ              ใส่น้อง ขอโทษที่กระทำ             การป่วน ใจจ่อจึงจดจ้อง               ส่องกล้องดูใจ มะรู้ว่าเข้าแก๊บบ้างหรือยังนะคะ  จาพยายามต่อไปค่ะ ตะว่า Sun หากุหลาบไม่เจอ  ใครก็ได้ช่วยเข้ามาแปะให้ทีได้บ่คะ  อิ ๆ ๆ ๆ มาแก้ตามคำแนะนำอีกรอบค่ะ แหะ ๆ ๆ รู้สึกจะแก้หลายรอบซะเหลือเกินอ่ะนะคะ  อิ ๆ ๆ ๆ แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 47 21:02:35 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 47 20:53:03 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 47 20:44:28 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 47 10:38:10 จากคุณ : Sunflower (หิ่งห้อยน้อยใจ) - [ 8 ส.ค. 47 10:35:12 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ๏อาศรมฯคมร่วมร้อย.......คำโยง รวมซึ่งหลากบทโคลง......หมื่นถ้อย ฝากไว้เพื่อจรรโลง..........มิตรมิ่ง   ด้วยสืบสานรักษ์ร้อย........แห่งนี้วรรณศิลป์๚๛ สวัสดีทุกๆคนค่ะ... แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 47 12:32:47 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 47 14:10:49 จากคุณ : กรวี - [ 8 ส.ค. 47 14:04:20 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มันไม่ง่ายนะเนี่ย  ขอติดไว้ก่อน ต้องมีเวลาและอารมณ์ ให้เวลามือใหม่สักวันสองวัน แล้วจะเอามาลงด้วย ชอบใจที่เอาผังโคลงมาลงไว้ให้ดูกันอีก จากคุณ : นัทตี้ - [ 8 ส.ค. 47 14:55:54 A:62.167.199.135 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 ๐  ร้อย  คนร่วมร่ายร้อย        คำเรียง กระทู้  ทุกกระทู้เกรียง           เกริกกระทู้ หมื่น  โศลกสี่แสนเสียง           คำสื่อ โคลง  เคร่งโคลงเคลงคู้         คึกครื้นอาศรม / จากคุณ : xxx(เฒ่า) - [ 8 ส.ค. 47 17:38:30 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ๏ ร้อยกระทู้ยังยากทิ้ง         อาศรม เพราะรักษ์จึงระทม             จิตแท้ อยากลิขิตโปรดชม             ฉันทลักษณ์ ก่อนเฮย เขียนส่งเดชนั่นแล้              พี่นี้เลิกสอน ๚ *** น้องหิ่งห้อย ล้อเล่นรึเปล่าครับ ? ถ้าจริงใจกรุณาอ่านคำวิจารณ์และคำแนะนำในความเห็นที่ ๑๘ นะครับ แต่ถ้าคิดว่าจะเขียนตามใจเพราะเป็นเว็บบอร์ดสาธารณะ ... พี่เล็กก็จนใจ ที่อาศรมฯ นี้มีครูคนเดียวคือครูหนอนสุรา ผู้จุดประกายและถ่ายทอดเคล็ดโคลง ส่วนอาจารย์ก็คงไม่มี ยิ่งอาจารย์เล็ก ยิ่งไม่ใช่เพราะใบ้หวยก็ไม่เคยถูก ปล. น้องหนูศาลาไทย ทำตามสัญญาด้วยนะ ครับ อาศรมไม่ใช่ของใครคนหนึ่ง จากคุณ : lek Isara - [ 8 ส.ค. 47 18:36:34 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แหะ ๆ ๆ ___/ \___  ธุค่ะ  พี่เล็ก ร้อยกระทู้อย่าทิ้ง         อาศรม ชอบพี่ที่ระดม             กล่าวให้ น้องหิ่งห้อยนิยม          ชมชื่น จะบ่เขียนเล่นไว้           พี่ได้สอนต่อ           จริงใจจริง ๆ ค่ะ  แหะ ๆ ๆ ฮิ ๆ ๆ ๆ ทีนี้หิ่งห้อยน้อย  ไม่ได้น้อยใจนะคะ อิ ๆ ๆ ๆ   แต่ว่าเป็น  หิ่งห้อยน้อยจริงใจแทนค่ะ แหะ ๆ ๆ ๆ ก็ ปริ้นต์ผังออกมาดูเหมือนกันค่ะ  ไม่ได้แกล้งนะคะ   ไม่ได้มีเจตนามาป่วนอาศรมเลยค่ะ จากคุณ : Sunflower (หิ่งห้อยน้อยใจ) - [ 8 ส.ค. 47 21:17:14 ]

ความคิดเห็นที่ 27   ลุงเล็กเจ้าขา  แว้บเข้ามาดูรอบหนึ่งแล้วค่ะ  อ่านเพลินเชียว  เลยไม่ได้เขียนอะไรต่อ นี่เพิ่งไปข้างนอก  กลับเข้ามาบ้านมา  ก็รีบเข้ามาดูต่อเลยค่ะ  แหะ ๆ บ่ได้อู้เน้อ เลยถือโอกาสทักทายพี่ ๆ น้อง ๆ มิตรสหายที่แวะเวียนมาเยือนกันอีกเช่นเคย  ไล่มาตั้งแต่  พี่อกนิษฐ์ (๑๐) พักนี้คงอยู่บก  ไม่ออกทะเล  โคลงก็ไม่ออกทะเลเช่นกันนะคะ ขอบคุณที่ชมเรื่องโคลงหน้าบ้านพันทิปค่ะ  ตอนนี้เลยเหมือนกลายเป็นขาประจำของพันทิปไปแล้ว  คุณวาวา (๑๓)  เห็นร้อยโคลง ~ โคลงร้อย  แล้วนึกชอบใจ  ใครหลายคนเคยบอกว่า ดูท่าทางศาลาไทยจะเป็นเด็กเรียบร้อย  แต่พี่ ๆ อาศรมฯ ทราบดีว่า หนูศอโซดาซ่านั้น  กี่ร้อยก็เรียบ  คุณรมย์  บุริน (๒๐)  เจ้านี้ก็ขาประจำอาศรมฯ ไปแล้วอีกคน  โคลงสามบท  เท่ากับยกสามจอก ถือโอกาสยกสามเหยือกขอบคุณเช่นกัน  ไม่รู้เหมือนกันว่ายี่ห้อสิงห์หรือช้าง      พี่กรวี (๒๒)  สงสัยจะยังไม่หายมึนจากการเดินทางไกล  โคลงเกือบจะเข้าที่เข้าทางแล้วเชียว จนแล้วจนรอด  มาตกม้าเอาตอนวรรคสุดท้ายจนได้  โทหายไปไหนช่วยหาหน่อยเน้อ //wunk น้านัทตี้ (๒๓)  ตามฤกษ์สะดวกเลยค่ะน้านัท  เขียนมาแลกกันอ่าน  แลกกันติชมนะคะ รับรองไม่มีผิดหวัง  รับประกันด้วยหน้าตาและท่าทางของชาวอาศรมฯ ที่น้านัทได้สัมผัสแล้ว  คุณอา xxx (เฒ่า) (๒๔)  งานไหนงานนั้น  คุณอาไม่มีพลาด  เพียงแต่ขอให้ส่งข่าวเท่านั้น ได้อ่านโคลงไม่บ่อยนัก  แต่ทุกโคลงของคุณอา คับแน่นด้วยคุณภาพเหมือนเฮียคัมภีร์ฯ บอกนั่นล่ะค่ะ  มาถึงน้องใหม่ล่าสุด หิ่งห้อยน้อยใจ  ถ้าเป็นมือใหม่ก็ใจเย็น ๆ นะคะ  ลองดูตามลำดับดังนี้ โคลงสี่สุภาพโดยปกตินิยมเขียนกันที่ ๓๐ คำ  หรือ มีคำสร้อยที่ท้ายบาทแรกและท้ายบาทสามคือคำในวงเล็บ ถ้าไม่จำเป็น ไม่ต้องใส่สร้อยก็ได้ แรกหัดเขียนก็พยายามบรรจุความให้อยู่ในสามสิบคำไว้ก่อนจะดีมากค่ะ ๏ เสียงลือเสียงเล่าอ้าง          อันใด   (พี่เอย) เสียงย่อมยอยศใคร                 ทั่วหล้า สองเขือพี่หลับใหล                  ลืมตื่น   (ฤๅพี่) สองพี่คิดเองอ้า                       อย่าได้ถามเผือ ๚ะ โคลงสี่สุภาพยังบังคับอีกว่า  ต้องมีตำแหน่ง  "คำเอก"  คือคำที่วรรณยุกต์เอกกำกับเจ็ดแห่งดังตัวอย่าง ถ้าไม่สามารถหาคำเอกได้  ให้ใช้คำตายที่ไม่มีรูปวรรณยุกต์แทนได้  เช่น  กก   กด   กบ  เป็นต้น เสียงลือเสียงเล่าอ้าง        อันใด   (พี่เอย) เสียงย่อมยอยศใคร         ทั่วหล้า สองเขือพี่หลับใหล           ลืมตื่น   (ฤๅพี่) สองพี่คิดเองอ้า                อย่าได้ถามเผือ โคลงสี่สุภาพยังบังคับ  "คำโท"  คือคำที่มีวรรณยุกต์โทกำกับ  อีกสี่ตำแหน่งดังตัวอย่าง เสียงลือเสียงเล่าอ้าง               อันใด   (พี่เอย) เสียงย่อมยอยศใคร                 ทั่วหล้า สองเขือพี่หลับใหล                  ลืมตื่น   (ฤๅพี่) สองพี่คิดเองอ้า                       อย่าได้ถามเผือ นอกจากคำเอกและคำโทแล้ว โคลงสี่สุภาพยังบังคับตำแหน่งส่ง  "สัมผัสระหว่างบาท"  อีกสองชุดใหญ่คือ เสียงลือเสียงเล่าอ้าง              อันใด   (พี่เอย) เสียงย่อมยอยศใคร                ทั่วหล้า สองเขือพี่หลับใหล                  ลืมตื่น   (ฤๅพี่) สองพี่คิดเองอ้า                       อย่าได้ถามเผือ และ  คู่โท เสียงลือเสียงเล่าอ้าง       อันใด   (พี่เอย) เสียงย่อมยอยศใคร         ทั่วหล้า สองเขือพี่หลับใหล           ลืมตื่น   (ฤๅพี่) สองพี่คิดเองอ้า                อย่าได้ถามเผือ ลองไล่ดูตามลำดับนะคะ  ถ้าเขียนได้อย่างที่บังคับข้างต้นแล้ว  ก็เท่ากับเขียนโคลงสี่สุภาพได้หนึ่งบทค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 47 12:41:40 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 47 22:25:27 จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 8 ส.ค. 47 22:03:50 ]

ความคิดเห็นที่ 28   มาจารงานเบี่ยงคล้อย        แอบมอง เห็นกระทู้ร้อยกอง               เช่นนี้ ใจเอยอดเลียมลอง              รวมแต่ง...ได้ฤๅ จึงฝากโคลงวาทย์ชี้              ช่วยร้อยโคลงชู รีบฝากด้วยโคลงหนึ่งไปก่อนนะคะงานยุ่ง จากคุณ : ทิกิ_tiki (tiki_ทิกิ) - [ 9 ส.ค. 47 07:30:34 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มาสายอีกแล้ว (เลยพลายไปกระทู้นึง) T_T แต่ดีใจที่ไม่พลาดกระทู้ที่ร้อยค่ะ ^_^  @}---'---,---    @}---'---,---    @}---'---,---  ๏ ร้อย กรองเรียงพจน์พร้อม       พรรณนา  กระทู้  สืบส่งภาษา                   ขับร้อง  หมื่น   บทก่อปัญญา                 เกิดมิตร  โคลง  ร่ายเวทย์รวมพ้อง            ร่วมบ้านอาศรม๚ะ๛  @}---'---,---    @}---'---,---    @}---'---,--- จากคุณ : ไร้นาม - [ 9 ส.ค. 47 08:27:44 ]

ความคิดเห็นที่ 30 มาลงชื่อไว้ด้วยคน ในฐานที่โชคดีเกิดทันตอนเริ่มอาศรมครับ.. แม้เดี๋ยวนี้จะเป็นขาจร มาบ้างไม่มาบ้าง  บางช่วงก็หายหัว เอ้ย หายตัวบ้าง .. แต่ไม่เคยหายใจนะครับ .. (หายใจ ในที่นี้ เป็นภาษาลิเก อันเนื่องมาจากการเล่นคำว่าหายตัว .. ไม่ได้แปลว่า ไม่หายใจ นาครับ .. แฮ่) ร้อยกระทู้อาศรม.. นึกแล้วขนลุกซู่จริงๆ อยากแต่งโคลงส่งบ้าง แต่จนปัญญาและเวลา เหมือนจะมีแรงบันดาลใจ แต่ก็เหมือนไม่มี เรียกง่ายๆว่า หมดมุข อาศรมครบร้อยนี่เหมือนตัวเอง kae' อย่างไรไม่รุ .. (ขออภัย คำนี้ถ้าพิมพ์ไทยแล้วคำมันแสลงสะดือโค ฮิฮิ) ผมนั่งนึกถึงความหลัง อย่างกะตาแป๊ะในสภากาแฟสมัยเก่า นึกได้แต่เรื่องประทับใจในมิตรภาพของชาวอาศรมยุคแรกๆ ก่อนที่หน้าที่การงานจะทำให้ห่างไปเรื่อยๆ ไม่นึกว่าอาศรมที่มีมานานตั้งร้อยกระทู้ เพิ่งจะเป็นกลางเดือนนี้ที่ผมจะมีโอกาสได้ไหว้แม่ปูและเพื่อนปูรุ่นดึกบางส่วน (ถ้าไม่ติดภาระการงานเสียอีก) ไม่รู้จะบ่นบ้าอะไรต่อ ขอกราบครูหนอนงามๆมา ณ โอกาสกระทู้ที่ร้อยนี่ละกันครับ จากคุณ : หมีเซอะ - [ 9 ส.ค. 47 13:11:34 A:203.172.47.31 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 เกือบตายเลยเนี่ย ลอง ๆ ชิมลางดูนะ เพราะไม่ค่อยถนัดเหมียนกัน ไม่ดีก็ช่วยหน่อยนะ ฝากรักหวาน ๆ ยังไม่ได้อารมณ์ แต่เอาผังกลอนไปดูและลองแต่ง ปวดพระเฮดมาก เลยเอาความยากมาแต่งซะเลย คำโคลงนี้ยากแท้       เหลือใจ สัมผัสนอกและใน      ใช่กล้วย มิได้ง่ายดั่งใคร          เคยกล่าว โทเอกชมเชิญช่วย     แช่มชัด จัดวาง ผังโคลงมีช่วยชี้         กลไก ยังบ่รู้เท่าไร              แจ่มแจ้ง ฝีมืออ่อนสอนไป       เกลากล่อมด้วยนา ใคร่เรียนเพียรใช่แกล้ง  ล่อหลอกเอาใจ มีปัญหานิดหนึ่ง ไอ้บังคับเอกโทนี้นะ มันไม่จำเป็นต้องเป็นรูปเอกโทใช่ไหม ใช้เสียงเอกโทหรือสามัญแทนได้ใช่ไหม?  อย่างตัวอย่างเช่น กลอนของศรีปราชญ์ ที่ว่า ธรณีนี่นี้              เป็นพยาน เราก็ศิษย์มีอา-     จารย์ หนึ่งบ้าง เราผิดท่านประหาร   เราชอบ เราบ่ผิดท่านมล้าง     ดาบนี้  คืนสนอง เนี่ยทำให้พี่งงมาก ๆ เพราะกว่าจะหาตัวที่ใส่ไม้เอกและโทได้นี่ยากมาก เอ่ยปากพูดไล่เป็นคำ ๆ จนสามีว่าพี่เพี้ยนแล้ว ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อย แต่ว่าไอ้บังคับพ้องบรรทัดนั่นเหมือนกันกับของศรีปราชญ์เลย   ลอง ๆ เอาโคลงอันนี้วิจารณ์ให้หน่อย เพราะแต่งได้แค่บทเดียวหัวมันก็ไม่แล่นแล้ว ฝากรักผ่านฟากฟ้า            แดนไกล ภูเขาสูงเสียดใจ                ฝากด้วย ลำธารเอื่อยเอื่อยไหล        เฉกเช่น  เรียมเอย มองเหม่อเมินมอดม้วย       บ่กลับ  คืนมา คิดถึงจ้ะ จากคุณ : นัทตี้ - [ 9 ส.ค. 47 16:19:43 A:62.167.105.173 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 __/|\__  ธุค่ะ อ่า...............  หวัดดีค่ะพี่นัทตี้ พี่เล็ก พี่ศาลาไทย  และพี่ ๆ ทั้งหลายชาวอาศรม พี่นัทตี้เพิ่งหัดเขียนโคลงสี่สุภาพหรอคะ  เหมือน Sun เลยค่ะ  อิ ๆ ๆ ๆ ตะนี้ Sun ก็มีพวกแล้วจิ    @  ครบ  บทโคลงที่ร้อย       หมื่นความ ร้อย  ลู่ทางใคร่ถาม                 ไถ่ให้ กระ  ดาษที่เขียนข้าม               ยังอยู่ ทู้  ต่อจะขอใช้                        ใส่ด้วยคำโคลง แหะ ๆ ๆ ๆ ๆ ขอแปะโน้ตหน่อยนะคะ   ครือว้า..............  ก่อนอื่น  หิ่งห้อยน้อย  ขอบอกว่า  เข้ามาหัดรำในอาศรมด้วยความจริงใจ  จริง ๆ ค่ะ  และก็ดีใจมากที่ได้มีโอกาสอ่าน - ลิ้ม - ชิม - เสพ บทกวีเพราะ ๆ ในนี้นะคะ หิ่งห้อยน้อย  เริ่มหักเขียนกลอนแปดเมื่อปี 46 นี่เองค่ะ  เนื่องจากมีเพื่อนส่งลิงค์มาให้อ่ะนะคะ  ทีนี้ Sun ก็เลยสมัครเป็นสมาชิกตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาค่ะ  และก็เขียนไปเรื่อยเปื่อยตามประสาอ่ะนะคะ   http://www.baiya.com/viewmember_story.asp?id=1384&filter1=1 ไปอ่านงานเขียนเก่า ๆ ของ Sun ได้นะคะ  จะวิจารณ์ - วิจัย - วิเคราะห์  ก็ได้ตามสบายใจชอบเลยค่ะ ต่อมาเมื่อไม่นานมานี่เองก็มีสมาชิกของ ใบหญ้า  ท่านหนึ่งส่งโคลงสี่สุภาพมาให้อ่าน  Sun ก็รู้สึกชอบมาก  ก็เลยหัดเขียนบ้าง  ซึ่ง Sun ก็พยายามหาความรู้เอง (เพราะไม่รู้จะไปถามใคร)  ที่ห้องสมุดประชาชน จ.สิงห์บุรี - อ่างทอง - ลพบุรี - สระบุรี - นครนายก  แหะ ๆ ๆ เกือบทั่วภาคกลาง  บะ-แบบว่า Sun ไปทำงานตามจังหวัดต่าง ๆ ในภาคกลางอ่ะค่ะ  แต่ก็ไม่เจอวิธีเขียน  เจอแต่ประเภทเขียนเสร็จแล้ว  Sun ก็ใช้วิธีนั่งลอกใส่กระดาษ  แล้วมาถอดเป็นผังโคลงขึ้นมาเอง  แหะ ๆ ๆ ๆ ผลก็ออกมาอย่างที่เห็นนี่ล่ะค่ะ  จนนักเขียนท่านนั้นทนไม่ได้  ก็เลยส่งลิงค์ของอาศรมมาให้  พร้อมทั้งจดหมายน้อยแนบมาด้วยว่าให้ Sun ไปดูฉันทลักษณ์ที่ถูกต้อง  ซึ่ง Sun เองก็ไม่ได้รอช้า  รีบตามลิ้งค์นั้นไปทันใด  จากนั้นก็อ่า...........เอ่อ...........และก็เอ๋อ...........ค่ะ  เพิ่งจะรู้ว่าโคลงสี่สุภาพมีกฎข้อบังคับเยอะมาก  ซึ่ง Sun ก็ได้ปริ้นต์ออกมาศึกษาทำความเข้าใจด้วยตัวเอง  และก็ลองแต่งเองค่ะ  บะ-แบบว่ารำยังไม่เป็นท่าอย่างที่เห็นนี่ล่ะค่ะ  ต้องขอพี่ ๆ อาศรมทุกท่านช่วยจับมือรำหน่อยนะคะ  แหะ ๆ ๆ ๆ นี่หละตอนเรียนก็ตกวิทย์ - คณิต -อังกฤษ ตะทีนี้ก็ตกภาษาไทยเข้าไปด้วยแล้วค่ะ อิ ๆ ๆ ๆ ๆ (มะรู้ว่าจบมาได้ไงเนี่ย  สงสัยว่าโรงเรียนไม่อยากสอนเด็กโข่ง  ก็เลยให้จบ แหะ ๆ ๆ ๆ  อาจารย์ที่สอนบอกว่า  Sun เป็นพวกน้ำท่วมทุ่ง  ผักบุ้งโหรงเหรงอ่ะค่ะ  เวลาให้การบ้านไปย่อความทีไร  จะเปลี่ยนเป็นเรียงความไปซะทุกที อิ ๆ ๆ ๆ) อ่า...........  พี่เล็กขา  ปังตอ + อีโต้ในมืออย่าเพิ่งสับลงมานะคะ  ถ้าจะกรุณา  หิ่งห้อยน้อย ขอเปลี่ยนเป็นฆ้อนปอนด์จะได้ไหมคะ   (ตุ๊บตั๊บ ๆ ๆ ๆ ผลั่ก ๆ ๆ ๆ จุกแอ๊ก  แง่ง ๆ ๆ ๆ เอ๋ง ๆ ๆ ๆ อ้าว  ร้องไม่เป็นภาษาแล้วค่ะ)   ตะนี้หิ่งห้อยน้อย  จาขอลาไปรักษาแผลตามตัว 1 อาทิตย์นะคะ  (จริง ๆ แล้วจากลับไปหาแม่น่ะค่ะ)  แล้วจากลับมาหัดรำใหม่ค่ะ อาการบาดเจ็บก็ประมาณว้า.............. หัวแตกเย็บไป 30 เข็ม ไหปลาร้าหัก  ใส่เผือกอ่อน  เขียนกลอนลำบากมาก ๆ ขา 2 ข้างหักข้างละ 2 ท่อน  ใส่เผือกแข็ง  แขวนโตงเตงอยู่บนขื่อ คาดว่าอาการทั้งหลายเหล่านี้จะหายเป็นปลิดทิ้งภายใน 1 อาทิตย์  (แหะ ๆ ๆ ๆ รักษาหมอไหน (ฟะ) เนี่ย) จบแล้วก็ค่ะ  ขอจรลีก่อนนะคะ ป.ล.   1.  หิ่งห้อยน้อย  ไม่ได้เห็นอาศรมเป็นที่สาธารณะนะคะ  กลับเห็นว่า ณ ที่อาศรมนี้เป็นที่รวมพลคนรักการเขียน - อ่าน  แถมยังเป็นสถานที่ ๆ ให้ความรู้ด้วยค่ะ 2.  รู้สึกว่า Sun จะเข้ามาป่วนกระทู้โดยไม่ได้รับเชิญ แหะ ๆ ๆ ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ 3.  ถ้าอ่านแล้วเมลล์มาบอกด้วยนะคะ  Sunflower1973_16@hotmail.com  Sun จะได้เข้ามาลบข้อความทิ้งค่ะ   เพื่อแสดงความจริงใจ  Useser name :  หิ่งห้อยน้อยใจ  Pass word  เมลล์มาก่อนแล้วจาบอกให้นะคะ กะเดี๋ยวไม่เกิน 3 ทุ่มคืนนี้จะเข้ามาอ่านทู้อีกทีค่ะ ตะนี้ก็ได้เวลาจรลาจริง ๆ แล้วค่ะ จากคุณ : Sunflower (หิ่งห้อยน้อยใจ) - [ 9 ส.ค. 47 17:27:41 ]

ความคิดเห็นที่ 33 สืบเนื่องแต่ทู้ก่อน ชื่นสุนทรพจน์คัมภีร์ ตะวันพากเพียรดี แต่งหลายทีคงเก่งไกล เดอะแหลมเพรียบฟอร์มดุ   อารมณ์คุแต่งมาใหญ่ ขอขอบคุณด้วยใจ คนต่อไปนัทตี้เอง แต่งเล่นมาเป็นชุด ศาลารุดแก้ครื้นเครง พี่รมย์คนกันเอง เรียก"ทั่น"เหล็กทำไมกัน เนื่องแต่ต้นทู้ี้นี้ ขอหวัดดีคนขยัน หิ่งห้อยร้อยหมื่นพัน โคลงจำนรรค์แต่งมันดี หวัดดีอาจารย์เล็ก ขอเลขเด็ดซักหนึ่งที แลฝากโคลงพอมี ร่วมเครงครื้นร้อยหมื่นโคลง จากคุณ : เหล็กครับ - [ 9 ส.ค. 47 18:57:46 A:195.220.33.57 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 นิทานหิ่งห้อย หลับเนตรปรากฎแก้ว       ตาขวัญ ยิ้มอ่อนอ้อนจำนรรจ์        ยั่วเย้า ใคร่นิทร์สนิทฝัน             นิรันดร์ชั่ว กัปแฮ หากอัสสุพลั่งเร้า             มิอาจให้หลับฝืน เบิกเนตรในค่ำแล้ง          แสงดาว หากหิ่งห้อยพริ้งพราว       ทั่วฟ้า เพ่งพิศชั่วคืนคราว           คราโศรก สรดเฮย พลันโกรกลมเฉื่อยล้า      นิมิตพริ้งคติฝัน หิ่งห้อยโบยโบกข้าม        คืนหนาว คราค่ำสิ้นแสงดาว           สาดแจ้ง เฉกรักจรัสคราว              ชีพมืด หม่นนา รังสฤษฎ์ชีพเหือดแห้ง      กลับฟื้นคืนใส สู่โลกจักจั่นเจื้อย             แจ้วขาน แสนสรรพคีตขับศานต์      กระหึ่มก้อง ธารโตรกล่องไหลลาน      ระริกรื่น ชื่นเฮย ลมขับจิตคับข้อง              ปลุกห้าวพลังเหิม พรายมนตร์สนั่นเวิ้ง          จักรวาล บุญก่อแต่เพรงกาล           โปรดป้อง หิ่งห้อยเฉิดฉายฉาน          เรืองจรัส รัศมิ์นา เพื่อชีพร่ำไห้ร้อง              กลับพริ้งเพลินใส แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 47 16:13:23 จากคุณ : เหล็กละมุน (mildsteel) - [ 9 ส.ค. 47 19:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขออนุญาตลัดคิวตอบ น้านัทตี้ (๓๑) และ หิ่งห้อยน้อยใจ (๓๒)  ในคราวเดียวกันนี้ว่า โคลงสี่สุภาพ "คำเอก" คือ คำวรรณยุกต์เอก ~ ไม้เอก  หากหาไม่ได้จริง ๆ ใช้คำตายแทนได้ ส่วน "คำโท" ก็เช่นเดียวกัน  คือ คำวรรณยุกต์โท ~ ไม้โท  - - - งานนี้ทิ้งเรื่องเสียงไปเลย ดูแต่รูป ชื่อบอกว่าโคลงสี่สุภาพ  เพราะฉะนั้น  ถ้าจะให้สุภาพจริง ๆ เท่ากับว่า ตำแหน่งที่ไม่บังคับรูปวรรณยุกต์ ถ้าสามารถทำได้  ก็เป็นคำที่ไม่มีรูปวรรณยุกต์เลยจะดีมาก  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  "สัมผัสบังคับ" คำสุดท้ายบาทแรก  ที่ส่งไปยังคำสุดท้าย  วรรคแรก  ของบาทสอง และบาทสามนั้น ท่านว่าไม่ให้ปรากฏรูปวรรณยุกต์จึงจะได้ขึ้นชื่อว่าโคลงสี่สุภาพ ตัวอย่างโคลงสี่สุภาพ (เป๊ะ) ซึ่งเป็น "โคลงแบบ"  จากนิราศนรินทร์  ใช้เป็นตัวอย่างกันมาตลอด  ดังนี้ ๏ จากมามาลิ่วล้ำ      ลำบาง บางยี่เรือราพลาง        พี่พร้อง เรือแผงช่วยพานาง     เมียงม่าน  มานา บางบ่รับคำคล้อง         คล่าวน้ำตาคลอ ๚ะ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 9 ส.ค. 47 20:06:43 ]

ความคิดเห็นที่ 36  โคลงของน้านัทตี้  ขออนุญาตแก้เป็นตัวอย่างดังนี้ คำโคลงนี้ยากแท้       เหลือใจ สัมผัสนอกและใน      ใช่กล้วย มิได้ง่ายดั่งใคร           เคยกล่าว โทเอกชมเชิญด้วย     แช่มช้อยจัดวาง ผังโคลงมีช่วยชี้                 กลไก ยังบ่รู้เท่าไร                        แจ่มแจ้ง ฝีมืออ่อนสอนไป               เกลากล่อม  ด้วยนา ใคร่พากเพียรใช่แกล้ง     ล่ออ้อนเอาใจ บทแรกแก้ "ช่วย" เป็น "ด้วย" เพราะเป็นตำแหน่งบังคับคำโท  จริง ๆ จะใช้ "โทโทษ" ก็ได้ แต่ยังไม่ขอพูดถึงตรงนี้  ประเดี๋ยวธาตุไฟจะแตกซ่าน  จนอาจจะท้อไม่อยากเขียนอีก และแก้ "ชัด" เป็น "ช้อย" ด้วยเหตุผลเดียวกัน  คือเป็นตำแหน่งบังคับคำโท บทที่สองแก้ "เรียน" เป็น "พาก" เพราะเป็นตำแหน่งบังคับเอก  ศาลาไทยใช้ "พาก" ซึ่งเป็นคำตายแทนคำเอกได้ และแก้ "หลอก" เป็น "อ้อน" ด้วยเหตุผลเดิมกับบทต้น  คือเป็นตำแหน่งบังคับคำโท อนึ่งโคลงศรีปราชญ์ที่ถามมานั้น  มีหลายสำนวนและไม่ยืนยันว่าสำนวนไหนถูกต้อง บ้างว่าบาทต้นขึ้นด้วย "ธรนีภพนี้เพ่ง   ทิพยญาณ  หนึ่งรา..." แต่สำนวนที่น้านัทตี้กล่าวถึงนั้นคงหมายถึง ธรณีนี่นี้                     เป็นพยาน เราก็ศิษย์อาจารย์     หนึ่งบ้าง เราผิดท่านประหาร   เราชอบ เราบ่ผิดท่านมล้าง     ดาบนี้คืนสนอง โคลงบทนี้ใช้ "ก็" แทนเอก  ซึ่งถือเป็นข้อยกเว้นบางประการ  แต่จะยังไม่พูดถึงตอนนี้ เพราะถ้าให้สี่สุภาพเป๊ะแล้ว  คือ  เอกเจ็ด  โทสี่  ตามฉันทลักษณ์มาก่อนในเบื้องต้นค่ะ มาถึงบทหลัง ฝากรักผ่านฟากฟ้า              แดนไกล ภูเขาสูงเสียดใจ                    ฝากด้วย ลำธารเอื่อยเอื่อยไหล          เฉกเช่น  เรียมเอย มองเหม่อเมินมอดม้วย        บ่กลับ  คืนมา ฝากรักผ่านฟากฟ้า            แดนไกล ภูว่าสูงเสียดใจ                   ฝากด้วย ลำธารเอื่อยเอื่อยไหล        เฉกเช่น  เรียมเอย มองเหม่อเมินมอดม้วย      บ่ย้อนคืนมา แก้ "เอก" และ "โท" อย่างละหนึ่งนะคะ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 9 ส.ค. 47 20:11:35 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ช่วยวิจารณ์ให้น้าอ่านหน่อยสิ ว่าที่เขียนไปนั้นพอใช้ได้บ้างไหม และถ้าไม่ดีตรงไหน ช่วยแก้มาเป็นตัวอย่างให้น้าดูหน่อย ขอบใจมากจ้ะ เพราะถ้าดูอย่างที่ศาลาไทยเขียนบอก ท้ายบาทหนึ่ง สอง สอาม(ข้างหน้า)ที่น้าเขียนมา เช่น ใจ ใน ใคร /ไก ไร ไป/ไกล ใจ ไหล  แบบนี้ก็คงใช้ได้เช่นกันใช่ไหม เพราะมันไม่มีวรรณยุกต์ คือมันข้องใจน่ะยังไม่กระจ่างดี จากคุณ : นัทตี้ - [ 9 ส.ค. 47 20:23:03 A:62.167.105.173 X: ]

ความคิดเห็นที่ 38 อ้าว พิมพ์เสร็จเปิดอ่านดูขอความของคุณที่เขียนไว้ ดันมาเจอคำตอบพอดี  โอเค ขอบใจจ้ะ จากคุณ : นัทตี้ - [ 9 ส.ค. 47 20:25:28 A:62.167.105.173 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39  มาถึง หิ่งห้อยน้อยใจ ~  ท่าทางชื่อจะถูกใจเจ้าเหล็กฯ วานช่วยปลอยหน่อยล่ะกันเน้อ อย่าเพิ่งน้อยใจหนีไปไหนเสียก่อน  นาน ๆ หนูศ. โซดาซ่าอย่างศาลาไทยจะร่ายยาวแบบนี่ เอิ้ก ๆ   @  ครบ  บทโคลงที่ร้อย       หมื่นความ ร้อย  ลู่ทางใคร่ถาม               ไถ่ให้ กระ  ดาษที่เขียนข้าม           ยังอยู่ ทู้  ต่อจะขอใช้                        ใส่ด้วยคำโคลง ถ้าเทียบผังแล้ว  เท่ากับติดอยู่แค่คำว่า "ข้าม" คำเดียว  เพราะสัมผัสบังคับตำแหน่งนี้ ท่านว่าให้ "งดรูป"  คือใช้คำที่ไม่มีวรรณยุกต์มารับสัมผัสกัดนั่นเอง  ลองแก้เป็น ครบ  บทโคลงที่ร้อย         หมื่นความ ร้อย  ลู่ทางใคร่ถาม         ไถ่ให้ กระ  ดาษที่เขียนตาม     ยังอยู่ ทู้  ต่อจะขอใช้                   ใส่ด้วยคำโคลง คราวนี้ก็ได้เอกเจ็ดโทสี่ ครบผัง ส่งสัมผัสสุภาพ  แถมด้วยกระทู้หน้าบาทอีกต่างหาก ๏ ครบหมดดังที่แจ้ง          แถลงลักษณ์ ลองนั่งตรองตามทัก         ถี่ถ้วน เอกโทแค่เบาหนัก             บางแห่ง เสียงอย่าพึงขาดห้วน       แต่งแล้วทวนเสมอ ๚ะ  ลองค่อย ๆ เขียน  แล้วอ่านทวน  ไม่ต้องรีบร้อน  ติดขัดก็ส่งมาช่วยกันดูนะจ๊ะ แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 47 23:26:31 แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 47 20:37:25 จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 9 ส.ค. 47 20:26:05 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ร้อย ใจเรียงสู่ถ้อย.............ธารโคลง กระทู้ .ครบร้อยจรรโลง........ร่วมรู้ หมื่น ..ล้านพจน์เชื่อมโยง......ประหนึ่งญาติ มิตรเฮย โคลง ..หมื่นร้อยกระทู้..........ทบกระทู้ร้อยสหายฯ แหะ แหะ ขอรับ อาการข้าพเจ้าทำท่าร่อแร่ งานรุมเร้า กาย-ใจรุมร้อน ทว่า ! อย่างไรก็ต้องแวะมาอาศรมฯ ขอรับ แหะ แหะ หยอดคำ อ้อน พี่เล็ก แม่ปู+โคชรา เพื่อเก็บคะแนนตุนไว้ก่อน ขอรับ อิอิ แหะ แหะ ขอรับ สวัสดี ขอรับ เพื่อนพ้องน้องพี่ ทุก ๆ ท่าน ดีใจและดีใจ ยังเห็นชื่อใหม่ ๆ เข้ามามากมาย ดีใจที่เห็นพี่เล็ก และศิษย์พี่ศิษย์น้อง ช่วยกัน “จับมือรำ” กันอย่างต่อเนื่อง คิดถึง ครูหนอนสุรา ที่กรุณารับบทครู อย่างมิรู้เหน็ดเหนื่อย เช่นเดียวกับ พี่เล็ก และอีกหลาย ๆ คน ไม่เว้นแม้แต่ ผช.ปู ที่รับบทบาทคุ้ย-แคะ-แกะ-เกา เช่นนี้แหละ ขอรับ อาศรมฯ ร่วมกันแลกเปลี่ยน ช่วยกันเรียน ช่วยกันรู้ ช่วยกันต่อเติม ณ สวนอักษรแห่งนี้ แหะ แหะ ขอรับ ขออนุญาตอีกนิด สำหรับมิตรใหม่ อาศรมฯ ยินดีมากมายเสมอ เมื่อมีมิตรใหม่แวะเวียนมาร่วมพูดคุย-แลกเปลี่ยน ยินดีมากมายเสมอ เมื่อมิตรใหม่เข้ามาร่วมเขียน มิตรภาพย่อมต่อเติมมิตรภาพ ขอรับ แหะ แหะ ขอรับ ปล. ถึง คุณ Sunflower (หิ่งห้อยน้อยใจ) คคห.๓๒ แหะ แหะ ขอรับ ลุยเขียนต่อเลย ขอรับ อ่านให้ละเอียดให้ชัดเจนก่อนเขียน เขียนเสร็จแล้วก็อ่านซ้ำ ทบทวนซ้ำ จนแน่ใจว่า ไม่พลาด จากนั้น ก็ลุยต่อเลย ขอรับ แหะ แหะ ไม่นานนักก็คงฉลุย อย่าเพิ่งถอดใจ ไปเสียก่อนล่ะ แหะ แหะ แบบว่า ถัดจากการ “จับมือรำ” ให้รำเป็นแล้ว ก็ยังมี มือมีด-มือชำแหละ ของ อาศรมฯ รออยู่ ขอรับ อะจ๊ากกกกกกกกกกก เผ่นก่อนล่ะ ขอรับ เดี๋ยวข้าพเจ้าจะถูกไม้ตะพด อิอิ ไปล่ะ ขอรับ แหะ แหะ ขอรับ จากคุณ : นายทิวา - [ 9 ส.ค. 47 21:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 41 __/|\__  ธุค่ะ  พี่ศาลาไทย, พี่นัทตี้, พี่เหล็กละมุน, พี่ทิวา & ฯลฯ ค่ะ แหะ ๆ ๆ หิ่งห้อยน้อย...  เข้ามาแล้วตามสัญญาค่ะ  เครื่องคอมบ้านเพื่อนต่อเน็ทยาก + โหลดช้า  ก็เลยเข้ามาหลัง 3 ทุ่มนิดหน่อยค่ะ  วันนี้มะมีโคลงมาแปะนะคะ  ตะว่าจะมาขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณค่ะ พี่เหล็กละมุน 33 & 34 หิ่งห้อยน้อยใจ  ได้ปริ้นต์ออกมาเก็บใส่แฟ้มไว้อย่างดีเลยค่ะ  อิ ๆ ๆ ๆ เอาไว้ศึกษาดู  (แบบว่าเป็นพวกครูพักลักจำอ่ะค่ะ) พีศาลาไทย  39  อ้อ........  ค่ะ  โคลงสี่สุภาพนี่มีแบบว่า.....  บังคับให้ใส่และก็ห้ามใส่วรรณยุกต์ด้วยหรอคะ  แล้วถ้าสลับตำแหน่งระหว่าง เอก กะโทจะได้หรือเปล่าคะ ? พี่ทิวา  40  ขอบคุณค่ะ  กะ-ก้อ  สู้ ๆ ค่ะ ยังไม่ท้อนะคะ  ถือคติที่ว่า  ด้านได้(วิชา)  อายอด(ความรู้) ค่ะ อิ ๆ ๆ ๆ จาพยายามต่อไปค่ะ แหะ ๆ ๆ ๆ ๆ ตะว่าไม่รู้จะผ่าได้ถึงด่านไหนอ่ะนะคะ  ครือว่าศัพท์ภาษาไทย ใน ปั๊กกะตืน (สมุดโน้ต) มีน้อยอ่ะค่ะ  บางทีอ่านโคลงที่พี่ ๆ เขียนมายังต้องแปลไทยให้เป็นไทยเลยค่ะ  (บางทีแปลมะออกอิ๊กตะหาก)  แหะ ๆ ๆ ๆ คารวะทุกท่านด้วยความจริงใจค่ะ จากคุณ : Sunflower (หิ่งห้อยน้อยใจ) - [ 9 ส.ค. 47 21:53:56 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ร้อย รอบร่วมรื่นร้อย...................รสกวี กระทู้ ทุกกระทู้มี........................รสร้อย หมื่น บทจรดวจี......................... จารจิต โคลง เคร่งรอยเข้มคล้อย.............เคลื่อนเคลิ้มเติมสมัย กว่าปีที่แวะเวียนมาอ่านและอดร่วมลองเขียนด้วยไม่ได้ อาจไม่นานนับแต่แรกเริ่ม แต่หลายท่านในที่นี้ ถือเป็นครูผม ขอบคุณที่มีกระทู้ดีๆ ให้ค่าเช่าเวลาทุกครั้งมีจุดหมาย จากคุณ : วิญญาณอสัญญา - [ 9 ส.ค. 47 22:18:18 ]

ความคิดเห็นที่ 43 สวัสดีและฝันดีทุกท่านนะครับ จำนรรจ์ จ การันต์ นะเหล็กละมุน *** หิ่งห้อยสู้ๆ ศาลาฯสู้แค่ตายนะ  .......... ราตรีสวัสดิ์ อิอิ ปล.  กลุ่มสะดือจุ่น ... พุธนี้เจอกันที่โรงเตี๊ยมเพื่อกำหนดการเดินทาง :oP จากคุณ : lek Isara - [ 10 ส.ค. 47 00:07:42 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ...ร้อยกระทู้หมื่นโคลง... o ร้อย เรื่องหลากรสร้อย.........รวงฝัน กระทู้ ครบหมื่นโคลงหรรษ์.......ห่างเศร้า หมื่น ความคิดวิจิตรบรร-..........เจิดสู่ โคลง วิศิษฏ์คละเคล้า.............หมื่นล้านอารมณ์ + + + + + + + + + + มาขอรับสิงห์เพิ่มอีกเหยือกครับคุณศาลาไทย ^__^ จากคุณ : รมย์ บุริน - [ 10 ส.ค. 47 04:25:43 A:128.82.214.168 X: ]

ความคิดเห็นที่ 45 ๏ ร้อยรจนา ณ          อาศรม กระทู้ภิรมย์ปวง        ประพันธ์ หมื่นมติคมคำ           วิชา โคลงพิบูลนันท          ประดับสยาม ๚ะ๛ ... ... ... ยินดีกับภาคที่ 100 ค่ะ... ^__^ จากคุณ : ไกลถิ่น - [ 10 ส.ค. 47 09:33:22 A:24.0.29.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 46 สวัสดีครับพี่เล็กและทุกท่าน ถ้าเริ่มนับกระทู้ตั้งวันที่ 12 กันยายน 2544 “หนอนสุราอาศรม ชมรมคนเขียนโคลง” เป็นกระทู้แรก ก็ครบ 100 ตามลำดับ แต่ถ้านับกระทู้โคลงยุคก่อนอาศรมฯ ซึ่งเป็นสุดยอดกระทู้ที่ต้องเก็บไว้ให้ได้ ก็นับว่าเลยหลักหมื่นโคลงไปไกลแล้วละครับ “ร้อยกระทู้หมื่นโคลง” ชื่อนี้ถูกใจจริง   และถูกใจมากที่พี่เล็กเจียดเวลามาเปิดกระทู้ที่ 100 ให้ ขอบคุณ “ศาลาไทย” ที่เป็นผู้ยืนหยัดและมีส่วนมากที่สุดที่ทำให้อาศรมฯมาถึงวันนี้ได้  ทำให้ผมมี ที่หลบเร้นจากงานและสังคมที่รีบเร่ง และเป็นที่ส่วนตัวที่ผมยังเก็บไว้ชื่นชมเงียบ ๆ     รออ่าน “โคลงชุด” ที่มีผู้บอกว่าจะเขียน  สงสัยโกงเวลาทำงานไม่ได้  ฮี่ฮี่.. เห็นกระทู้ของ “Sunflower (หิ่งห้อยน้อยใจ)” หลายกระทู้แล้วขำสุด ๆ ไปเลย  นึกถึงกระทู้แรก “หนอนสุราฯ” ที่ผมอาสาเฝ้าก็วางกระทู้ถี่ยิบแบบนี้แหละครับ  “Sunflower (หิ่งห้อยน้อยใจ)” ต้องอยู่ต่อไปอีก 100 กระทู้ อ่าน “นิทานหิ่งห้อย” (34) โดยคุณ เหล็กละมุน (mildsteel) แล้วต้องบันทึกเก็บไว้อ่านอีกหลาย เที่ยว ขอคารวะมา  ณ  ที่นี้   ที่วางโคลงฉียบขาดได้ถูกเวลา กลับจากขอนแก่นเมือสามทุ่มกว่าวันอาทิตย์ เครื่องฯผิดเวลาไปเกือบชั่วโมง ถึงกรุงเทพสี่ทุมกว่า ตั้งใจจะวางโคลงฉลอง 100 กระทู้ แต่ก็ง่วงเสียก่อน เมื่อวานก็อาชีพเดิม คือประชุม ๆๆๆ  วันนี้พอมี โอกาส(โกงเวลา) เขียนบ้างแล้วยังไม่เสร็จ  ขอเสนอหน้ามารายงานตัวหน่อย กลัวตกกระทู้ที่ 100 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 10 ส.ค. 47 12:34:23 ]

ความคิดเห็นที่ 47                ตะลุงร้าง ๑ ๏ เคยปี่กลองโหม่งฆ้อง         ตะลุงประชัน ว่าอ่อออข่มขวัญ                   ข่มไว้ นายตะลุงเริ่มโรมรัน              ร่ายบท หวังเชิดรูปฤษีใช้                   เวทย์ล้างอาถรรพ์ ๚ะ ๒ ๏ ยังมิทันตั้งหลัก                  ปักเมือง นุ้ย,เท่ง เริ่มฝืดเคือง             หลบหน้า ตะลุงยุครุ่งเรือง                    ตกอับ หนังใหญ่โรงใหม่คว้า            เท่ง,นุ้ย มิเปลืองแรง ๚ะ ๓ ๏ เลือดแดงไหลท่วมท้น         ทุ่งพระเมรุ แม่ธรณีไหวเอน                     อกสะอึ้ง ชาละวันใหญ่กะเกณฑ์            พลหลบ คมมีดอาบน้ำผึ้ง                    หมดสิ้นความคม ๚ะ ๔ ๏ ตั้งเป้าสี่ร้อยข่ม                   พรรคเดียว นะพ่อ เสียงประกาศขมวดเกลียว        กล่อมสะบั้น เหล่าจิ้งจกสร้านเสยียว            ยอมสยบ มิสยบตลบเชิงชั้น                   ดูดทั้งประเทศสยาม ๚ะ ๕ ๏ หนังใหญ่นิยามใหม่เน้น        หนึ่งโรง แค่ตะลุงยกโขยง                   ขยับข้าง นายตะลุงที่ฟุ้งโขมง               หมดท่า ฆ้องปี่กลองโหม่งร้าง              ยุคสะล้อซอซึง ๚ะ๛ จอมยุทธเมรัย    ๑๐ สิงหาคม ๒๕๔๗ เอาโคลงชุดมาวางฉลองครบ ๑๐๐ กระทู้อาศรมฯ ขอรับ แล้วก็ขอแว่บไปทำงานต่อ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 47 14:17:21 จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 10 ส.ค. 47 14:09:18 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขบคิดโคลงร่วมร้อย   ลานตา แม่เฮย ขอชื่นชมนานา           ช่างสร้าง ร้อยเรียงเรื่องภาษา     งดงาม นาแม่ แลบ่ขาดฤาร้าง           ที่รู้      โคลงกลอน           จากคุณ : แวะมาอีกแล้ว...แย่จัง - [ 10 ส.ค. 47 15:42:07 A:203.147.16.102 X: ]

ความคิดเห็นที่ 49 ยามบ่ายๆ ฟ้าครึ้มๆ บอสก็ไม่อยู่มันช่างสำราญดีแท้เชียว เลยมีเวลาแว่บมาเขียนอะไรเหล้นๆ นิดหน่อย โดยเฉพาะอยากฝากถึงน้องใหม่ คือ น้านัทตี้ และ Sunflower (หิ่งห้อยน้อยใจ) เป็นพิเศษ ในส่วนน้านัทตี้ จากการที่จอมยุทธฯ ได้อ่านงานร้อยกรองของน้า โดยเฉพาะที่กระทู้ "บันทึกลงใจจากคนไกลบ้าน" http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2949077/W2949077.html ซึ่งจอมยุทธฯ ก็ได้แต่อ่านเพราะยังแจมไม่ออก แหะ แหะ ก็คงต้องยอมรับว่าน้านัทตี้ไม่ใช่มือใหม่ด้านร้อยกรองเป็นแน่แท้ ฉะนั้นคงไม่ใช่งานยากสำหรับ การเขียนโคลง ขอให้แม่นฉันทลักษณ์เท่านั้นเอง แต่มี หนูศ. โซดาซ่า เป็นที่ปรึกษารับรองว่า น้านัทตี้ไปฉลุยแน่ ส่วน Sunflower (หิ่งห้อยน้อยใจ) จากการที่ได้อ่านทั้งโคลงและกลอน ที่เขียนไว้ทั้งที่นี่และที่ baiya ก็ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่ามีความเป็นตัวของตัวเองและความเป็นธรรมชาติอยู่มากๆ อ่านแล้วจอมยุทธฯ ต้องอมยิ้มไปด้วย แล้วก็ต้องบอกอย่างเดียวกับศาลาไทยว่า ค่อยๆอ่าน ค่อยๆศึกษา และค่อยๆเขียน แล้วความสำเร็จจะมาเยือน ขอรับ เห็นงานของ ไกลถิ่น ที่ความเห็น ๔๕ ดูเหมือนรูปโคลงอะไรสักอย่าง ที่จอมยุทธฯก็ยังนึกไม่ออก ยังไงถ้าไกลถิ่นผ่านมา ก็ช่วยให้ความกระจ่างหน่อยจ้า ยังทักทายไม่ถ้วนทั่ว แต่ก็ต้องขอตัวจรลีก่อนขอรับ จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 10 ส.ค. 47 15:43:46 ]

ความคิดเห็นที่ 50 แหะ แหะ ขอรับ งานพอกหางข้าพเจ้าจนลามถึงตลอดตัว กระนั้น ก็ยังแอบแวบเข้ามาอาศรม ขอรับ เข้ามาเห็น คคห.๔๕ ของ คุณไกลถิ่น ที่เขียนโคลงโบราณ ซึ่งไม่บังคับเอกโท เสียดายที่คุณไกลถิ่น ไม่ได้เขียนบอกว่า เป็นโคลงโบราณชนิดใด ข้าพเจ้าเข้าใจเอาเองว่า น่าจะเป็น โคลงมหานันททายี กระมัง ขอรับ เห็นแล้วก็ตื่นตาตื่นใจ ขอรับ แหะ แหะ ขอรับ อาศรมฯมีโคลงหลากชนิดมาวางหลากหลาย ให้ได้แลกเปลี่ยนกันอยู่เสมอ ขอรับ น่ายินดีมากมาย ขอรับ แหะ แหะ ขอรับ อันที่จริง โคลงมี “รูป” แล “แบบ” หลากหลายชนิด แต่โดยมากจะคุ้นเคยกับโคลงสี่สุภาพ และโคลงดั้น ซึ่งในอาศรมฯที่ “จับมือรำ” ในเบื้องต้น ก็ยึดเอาแบบ “โคลงสี่สุภาพ” เป็นฐานรากสำหรับมือใหม่หัดรำ โดยเชื่อว่า ถ้าฐานรากแน่น การต่อยอด ก็ย่อมเป็นไปโดยมั่นคงไม่แกว่งไกว ขั้นถัดจากนั้น ก็ขยับขยายตามแนวทางของแต่ละคน แหะ แหะ ขอรับ มือใหม่หัดรำ เช่นข้าพเจ้า ก็ปรับฐานเช่นนี้ ขอรับ อิอิ และเพื่อไม่ให้ มือใหม่หัดรำ ธาตุไฟแตกซ่าน เหมือนเช่นที่ข้าพเจ้าเคยเป็น ก็เลยขออนุญาต คัดลอกแลนำผังโคลงโบราณ จากเวบร้อยกรองของไทย http://thaiarc.tu.ac.th/poetry/index.html ที่มีเนื้อหาคัดย่อมาประกอบการศึกษา ณ อาศรมฯ แห่งนี้ ด้วยขอรับ แหะ แหะ ขอรับ เชิญทัศนาร่วมกัน เพื่อประโยชน์ของการเรียนรู้ร่วมกัน ขอรับ หมวดโคลง http://thaiarc.tu.ac.th/poetry/khloong/index.html คัดจาก: หลักภาษาไทย ของ กำชัย ทองหล่อ โคลง คือคำประพันธ์ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีวิธีเรียบเรียงถ้อยคำ เข้าคณะ มีกำหนดเอกโท และสัมผัส แต่มิไดบัญญัติ บังคับ ครุลหุ โคลงแบ่งออกเป็น ๓ ชนิด คือ โคลงสุภาพ โคลงดั้น และโคลงโบราณ โคลงสุภาพ แบ่งออกเป็น ๗ ชนิด คือ   ๑. โคลง ๒ สุภาพ   ๒. โคลง ๓ สุภาพ   ๓. โคลง ๔ สุภาพ   ๔. โคลง ๔ ตรีพิธพรรณ   ๕. โคลง ๕ หรือมณฑกคติ (ปัจจุบันไม่นิยมแต่งกันแล้ว) ๖. โคลง ๔ จัตวาทัณฑี ๗. โคลงกระทู้ โคลงดั้น แบ่งออกเป็น ๖ ชนิด คือ ๑. โคลง ๒ ดั้น   ๒. โคลง ๓ ดั้น   ๓. โคลงดั้นวิวิธมาลี ๔. โคลงดั้นบาทกุญชร   ๕. โคลงดั้นตรีพิธพรรณ   ๖. โคลงดั้นจัตวาทัณฑี โคลงโบราณ มีลักษณะคล้ายโคลงดั้นวิวิธมาลี แต่ไม่บังคับเอกโท มีบังคับแต่เพียงสัมผัสเท่านั้น เป็นโคลงที่ไทยเรา แปลงมาจากกาพย์ ในภาษาบาลี อันมีชื่อว่า คัมภีร์กาพยสารวิลาสินี ซึ่งว่าด้วยวิธีแต่งกาพย์ต่างๆ มีอยู่ ๑๕ กาพย์ด้วยกัน แต่มีลักษณะเป็นโคลงอย่างแบบไทยอยู่ ๘ ชนิด เพราะเหตุที่ไม่มีบังคับเอกโท จึงเรียกว่า โคลงโบราณ นอกนั้น มีลักษณะเป็นกาพย์แท้ แบ่งออกเป็น ๘ ชนิด คือ ๑. โคลงวิชชุมาลี ๒. โคลงมหาวิชชุมาลี ๓. โคลงจิตรลดา   ๔. โคลงมหาจิตรลดา   ๕. โคลงสินธุมาลี   ๖. โคลงมหาสินธุมาลี ๗. โคลงนันททายี ๘. โคลงมหานันททายี ......................................... ข้อบังคับ หรือบัญญัติของโคลง การแต่งโคลง จะต้องมีลักษณะบังคับ หรือบัญญัติ ๖ อย่าง คือ ๑. คณะ   ๒. พยางค์   ๓. สัมผัส   ๔. เอกโท   ๕. คำเป็นคำตาย   ๖. คำสร้อย คำสุภาพในโคลงนั้น มีความหมายเป็น ๒ อย่าง คือ   ๑.หมายถึง คำที่ไม่มีเครื่องหมาย วรรณยุกต์เอกโท   ๒.หมายถึง การบังคับคณะ และสัมผัส อย่างเรียบๆ ไม่โลดโผน ฉะนั้น คำสุภาพใน ฉันทลักษณ์ จึงผิดกับคำสุภาพใน วจีวิภาค เพราะในวจีวิภาค หมายถึง คำพูดที่เรียบร้อย ไม่หยาบโลน ไม่เปรียบเทียบ กับของหยาบ หรือไม่เป็นคำ ที่มีสำเนียง และสำนวนผวนมา เป็นคำหยาบ ซึ่งนับอยู่ในประเภทราชาศัพท์ ........................................... อันนี้ แถมอีกนิดหน่อย ขอรับ อิอิ โคลงโบราณ http://thaiarc.tu.ac.th/poetry/khloong/index.html#bowlarn ผังโคลงโบราณ http://thaiarc.tu.ac.th/poetry/khloong/bowlarn/index.html หวังใจว่า จะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อย ขอรับ แหะ แหะ ขอรับ สวัสดี ขอรับ จากคุณ : นายทิวา - [ 10 ส.ค. 47 15:45:30 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เหม่อโค้งคิริข้น             ไกลลับ หมอกเรี่ยรอบประดับ      โอบไว้ แข็งแกร่งและนุ่มจับ       จิตวุ่น หวั่นแฮ สะท้านสะทกอกให้         สะอึกอื้นอาวรณ์ ตราบขุนคิริข้น               ขาดสลาย แลแม่ (นิราศนรินทร์) รักบ่หายตราบหาย          หกฟ้า สุริยจันทรขจาย             จากโลก ไปฤา ไฟแล่นล้างสี่หล้า           ห่อนล้างอาลัย หากขุนคิริข้น                มิสลาย ไยรักกลับเหือดหาย       หดได้ สุริยะ ฤ ขจาย               แสงส่อง ล้างแล่นรติให้               มอดเพี้ยงเถ้าธุลี หวังขุนคิริข้น                ขาดสลาย หากรักจักฉานฉาย         สถิตมั่น หวังสูรย์ลับโลกคลาย     แสงส่อง ป้องรักก่อกอบปั้น          หยัดเนิ่นนิรันดร์นาน จากคุณ : เหล็กละมุน (mildsteel) - [ 10 ส.ค. 47 17:22:07 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ผมมีปัญหากับภูมิประเทศที่นี่มาก ภูเขาน่ะแข็งแกร่งแต่ดูทีไรกลับหวั่นไหวอ่ะ อิอิ พูดไปก็นึกถึงคำของพี่เสก (ซี้กัน อิอิ จริง ๆ แล้วหมายความว่าผมอ่านงานของอาจารย์เสกสรรค์ จนรู้สึกคุ้นเคยเป็นกันเองกับงานเขียนของท่านอ่ะ) พี่เสกเคยเขียนทำนองว่า (จากความจำนะครับ) ไป่ปีนสู่ภูสูง มิไยไม่เหนื่อยและเหน็บหนาว แต่ใครเล่าอาจใกล้ชิดฟากฟ้าได้เพียงนี้ อิอิ เชียร์คุณหิ่งห้อย ละก็ขอบคุณพี่เล็กที่แก้คำผิดให้นะครับ จากคุณ : เหล็กครับ (mildsteel) - [ 10 ส.ค. 47 17:23:31 ]

ความคิดเห็นที่ 53 อาศรมครบร้อยกระทู้แล้ว กระผม ก็ยังไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาแต่งโคลง กลอน เลย ช่วงนี้งานหนักมาก เหนื่อยครับ ไว้มีโอกาส ค่อยมาแจมใหม่ วันนี้แค่มาทักทาย...จุ๊บ จุ๊บ จากคุณ : นัวเนียร์แสนซน - [ 10 ส.ค. 47 18:30:10 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ร้อย......กอง กองละร้อย............หลายกอง กระทู้.....กระเท่เร่ รอง................รับไว้ หมื่น......เม็ดกรวดทราย ทอง......ถมเพชระ..รัตน์ฤา โครง.....กระดูกร้องไห้...............เหือดสิ้น "ศิลปวรรณ" จากคุณ : กวินทรากร - [ 10 ส.ค. 47 18:45:00 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ร้อย....พันแสนหมื่นล้าน......บทกวี กระ....หน่ำอาศรมทวี..........ท่วมท้น ทู้.......ผันผ่านไม่รี-............โหลดเต็ด หรือ....รื่นอกเอ่อล้น...........เอ่อแล้วสโมสร ๚ จัก.....ยกแก้วร่วมด้วย........อวยชัย สู้.......เพื่อเขาต่อไป..........ทุกกระทู้ เมีย....บ่นช่างเมียใคร.........เดี๋ยวเบื่อ   เองนา ตน.....อยากฝากข่าวรู้.........ครบร้อยคอยเสมอ  ๚ จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 10 ส.ค. 47 18:45:13 ]

ความคิดเห็นที่ 56 #51,52 สวัสดีครับท่าน mildsteel แถวนี้ไม่มีภูใหญ่ให้หวั่นไหว ฮิฮิ ขอยืมรูปนอกเรื่องครับผม ..ภูใหญ่.. ๐ ภูใหญ่ยัดใส่ไว้...........ในภาพ สามมิติเหลือระนาบ........แค่นี้ ภูใหญ่ฤเราทราบ............ภูเล็ก จึ่งบอกจิตบ่งชี้...............ว่าข้ามหึมา + + + + + + + + + + รมย์ บุริน ๑๐ ส.ค. ๔๗ จากคุณ : รมย์ บุริน - [ 10 ส.ค. 47 19:21:29 A:128.82.214.168 X: ]

ความคิดเห็นที่ 57 สวัสดีครับ คัมภีร์ฯ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณพร้อมกับคำขออภัย ที่เฮียคลำฯ ได้ฝากของดีผ่านยัยหนูฯ มาให้พี่เล็ก แต่จนแล้วจนรอดยังไม่ได้เจอะกับแม่หนูฯ เลยครับ ไม่ใช่แม่อีหนูที่ไหนนะครับ แม่ศาลาไทยน่ะ อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้ (๑๑ สิงหาฯ) คงจะได้รับมาแน่ๆ ถ้ายัยหนูไม่ลืม ... ขอขอบคุณอีกครั้งครับ กระทู้นี้เป็นไฟท์บังคับ ขณะพี่เล็กขับรถอยู่เมื่อเช้าวันเสาร์ มีโทรจิตมาขอร้องให้เปิดกระทู้ให้หน่อย เมื่อเสร็จธุระจึงแวะเข้าที่ทำงานและได้ตั้งกระทู้ขึ้นอย่างที่เห็น แล้วก็วุ่นวายกับภารกิจต่างๆ ต่อไป แต่ชีวิตยังเป็นสุขนะครับ แม้จะเหนื่อยขึ้น ชราขึ้น(นิดหน่อย) ครอบครัวก็แฮปปี้ลูกสาวก็ได้งานใหม่ อิอิ ครับ ... อาศรมฯ ของเราคงไม่ได้เขียนโคลงอย่างเดียว แม้บางท่านจะเมาลูกเดียว ... ฮ่าๆ ก็ยังไปกันได้ ร้อยกระทู้หมื่นโคลง ... มันมาจากร้อยพ่อพันแม่ ... ร้อยจิตร้อยใจ ... มาร้อยเรียงเป็นโคลง ... จนเคลงบ้าง ตั้งใจเขียนบ้าง ... ไม่ตั้งใจเขียนบ้าง ... ใช้สมองและจินตนาการบ้าง ... ใช้อารมณ์และความคะนองบ้าง ... ก็ว่ากันไป บนอินเตอร์เน็ตก็เป็นเช่นนี้ ต้องเลือกเสพ ต้องใช้สมองและวิจารณญาณในการวิจารณ์ อย่าด่วนสรุปด้วยอัตตาตนเอง กระทู้อาศรมไม่ใช่งานประกวดคำโคลง ไม่ใช่การเอาเป็นเอาตายหรือเอาชนะคะคานกันในชั้นเชิงโคลงหรือฝีมือ แต่มาฝึกหัดกันตามกรอบของโคลง เล่นกันตามกระสวน ตรงนี้ก็จุดยืนของชาวอาศรมฯ บางท่านเพิ่งมาอาจไม่ทราบ ร้อย      ใจร้อยจิตร้อย             เรียงคำ กระทู้     ครบหนึ่งร้อยกำ-         หนดได้       หมื่น      บทหมื่นโคลงจำ-        นรรจ์สู่ กระดานแฮ โคลง     สี่สุภาพใช้                 แบบเค้าโคลงครู ๚ ๏ เสียงฦๅเสียงเล่าอ้าง            อันใด  พี่เอย เสียงย่อมยอยศใคร                ทั่วหล้า สองเขือพี่หลับใหล                  ลืมตื่น ฤๅพี่ สองพี่คิดเองอ้า                       อย่าได้ถามเผือ ๚ โคลงครู จาก “ลิลิตพระลอ” ปล. ถึงเจ้าเหล็กฯ : คำว่า “เสกสรร” ไม่ต้องใส่โคการันต์นะจ๊ะ อิอิ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 47 11:22:49 จากคุณ : lek Isara - [ 10 ส.ค. 47 19:51:53 ]

ความคิดเห็นที่ 58   พักนี้แว่วยินพี่อาศรมฯ หลายท่านบ่นว่างานเยอะเป็นภูเขา  ศาลาไทยเลยกลายเป็นเด็กกวาดอาศรมฯ ตามระเบียบ กระทู้ครบร้อย  ผู้มาเยือนก็มากหน้าหลายตา  ถ้าให้พูดอย่างสำนวนจีน  ก็เหมือนงานเลี้ยงที่เหล่าชาวยุทธมุ่งหมายมา ผู้มาเยือนต่างมีจุดประสงค์แตกต่างกันไป  เจ้าบ้านจะรับรองได้ดีแค่ไหน  ก็สุดแล้วว่าจะต้องจุดประสงค์ของแขกหรือไม่ ศาลาไทยโดนพี่ ๆ อาศรมฯ ล้อว่าเป็นเด็กชงเหล้า  งานนี้เลยได้แต่ยกเหล้า  ยกน้ำชา มารับรองตามควรนะเจ้าคะ ขออนุญาตทักทายมิตรสหาย  ไว้แค่นี้ก่อน  แล้วจะกลับมาอภิปราย เอ้ย ทักทายรายบุคคลอีกคราวนะคะ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 10 ส.ค. 47 20:41:22 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ๏ ร้อย  กรองมิตรร่วมร้อย        ลิขิต กระทู้  กระทบกระทียบปลิด      ปลดทิ้ง หมื่น   แสนกรวดทรายพิศ        เพียงแผ่น ผาพ่อ โคลง  บ่นสะบัดสะบิ้ง             บ่อาจเอื้อมเป็นกวี ๚ะ๛       จากคุณ : โมโน - [ 11 ส.ค. 47 01:50:21 ]

ความคิดเห็นที่ 60 กลับเข้ามาดูอีกที... ถึงได้รู้สึก ประหลาด... ไกลถิ่น ปล่อยโคลงโบราณกลางอาศรมไปซะแล้ว แหะ ๆ ๆ เกรงใจชาวอาศรมจังค่ะ... ^_^'' ... ... ... เมื่อทิวากรจรมา โลกหล้าก็สว่างกระจ่างพลัน ฮิ ๆ ๆ ^-^ เจอคำถามจอมยุทธเมรัย #49 แล้วก็เจอคำตอบทั่นทิวา ใน #50 ขอบคุณหลาย ๆ จ้า... ทั่นทิวาเข้าใจถูกเป๊ะเลยค่ะ ไกลถิ่นเลียน "โคลงมหานันททายี" ฮิ ๆ ๆ... ^_~ (แต่ เหมือนหรือไม่นี่เป็นอีกเรื่อง... :p) แว้บ... จากคุณ : ไกลถิ่น - [ 11 ส.ค. 47 03:44:19 A:24.0.29.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 61 ไกลถิ่น ถ้านับวรรคท้ายเป็นลูกเก็บ ก็กลายเป็น นันททายี นะเจ้า อืม... แต่งหนึ่งโคลงเรียกได้ สี่ชื่อ โคลง โคลงโบราณ โคลง- นันททายี โคลงมหานันททายี เบียร์จอกนั้น ขอแล้วกันนะครับ ^__^ จากคุณ : รมย์ - [ 11 ส.ค. 47 06:14:16 A:128.82.215.23 X: ]

ความคิดเห็นที่ 62 ปล. จาก ปล. ใน คคห. 57 ปล. ถึงเจ้าเหล็กฯ : คำว่า “เสกสรร” ไม่ต้องใส่โคการันต์นะจ๊ะ อิอิ จากคุณ : lek Isara  - [ 10 ส.ค. 47 19:51:53 ] เรื่องนี้ คุณ lek Isara  คงต้องติดต่อ คุณ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ด้วยตัวเองละกระมังคะ อิอิ มีลิ้งค์ เกี่ยวกับ "เสกสรรค์" มาฝากด้วยค่ะ http://www.praphansarn.com/talk/ttalk64.asp http://www.thaiwriter.net/review/other/sspk14.html http://www.thaitopic.com/mag/pol/seksun43.htm http://skyd.org/html/hot/SriburapaAward46.html .....................ฯลฯ................................... มีโคลงเสียหน่อย ตามธรรมเนียม "ร้อย" เอยร้อยร่องเรื้อ                      ลงรอย "กระทู้" กระถดและถอย                   แถกบ้าง "หมื่น" คำค่าควรคอย                       หรือเปล่า "โคลง" เก่าโคลงใหม่คว้าง                บ่อยครั้งอางขนาง ................. คำโดย ..วาวา.. ภาพ 'จารย์เสก จากไหนก็จำไม่ได้แฮะ แหะๆ แก้ยับไปเยย.... แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 47 07:08:25 แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 47 07:04:12 จากคุณ : คนชอบ "เสกสรรค์" (..วาวา..) - [ 11 ส.ค. 47 07:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ร้อยกระทู้หมื่นโคลง ------------------------------------------------------ ร้อย               เรียงคำศัพท์ซ้อง                   ลายสือ กระทู้           เทิดอักขระลือ                         ล่องฟ้า หมื่น            บทต่างถ่องถือ                         ฉันทลักษณ์ โคลง           คล่องคำเกริกกล้า                     เกียรติกล้าทุกสมัย ร้อย            กว่าร้อยชีพซึ้ง                          เสกโคลง มิตร           ร่วมจิตจรรโลง                         อักขระร้อง หมื่น         โคลงหมื่นใจโยง                        คำร่าย ใจ              รักคำเคี่ยวคล้อง                        กระหึ่มฟ้าอาศรม. สอง          ท่านบอกแบบให้                       ฝึกฝน ครู             เคี่ยวชั้นเชิงจน                         แต่งได้ เดิน          โคลงคล่องโคลงดล                   โคลงพากย์ นำ             เรื่องผูกเรื่องใช้                         ศัพท์สร้างโวหาร. *ด้วยความกรุณาของ "ครูหนอน" และ "พี่เล็ก" เสียงโคลงที่ไม่ได้ความของผมก็ค่อยๆ เข้ารูปเข้ารอย. ปัจจุบันผมสามารถพูดคุยกับเพื่อนๆ  ในเรื่องของโคลงและร้อยกรอง อย่างเป็นสุข,  ที่สำคัญกว่านั้น ผมสามารถบันทึกเรื่องที่ประทับใจในชีวิตประจำวัน ในรูปของโคลงได้อย่างง่ายดาย (แม้จะยังไม่ใช่งานชิ้นเลิศก็เถอะ).  และคิดว่า วิชาโคลงคงติดตัวผมไปจนตาย. ผมสามารถบอกท่านทั้งหลายได้ว่า ผมได้ความรู้โคลงทั้งหมดจากที่นี่. ฝึกเป็นจริงเป็นจัง กับทั้งสองท่านที่นี่. ผมเกิดที่นี่.  เพื่อนบางคนไม่สามารถเอ่ยอ้างได้เหมือนผมเพราะ หลายคนเขียนโคลงเป็นมาก่อนเข้าอาศรมฯ. ความรู้และทักษะที่ได้จากอาศรมฯ ทำให้ผมมีความมั่นใจและเป็นสุขที่ได้เขียน โคลง. ผมเรียกสิ่งทั้งหมดนี้ว่า "ความประทบใจ" หมายเหตุ - ผมได้ประมวลบทบาทของอาศรมฯ และบันทึกไว้บางส่วน. อีกวันสองวัน จะนำมาวางเพื่อรำลึกย้อนหลังไปสู่อดีตอันไร้เดียงสา. จากคุณ : Ar@p - [ 11 ส.ค. 47 08:50:20 ]

ความคิดเห็นที่ 64        ๏๏๏ หมื่นถ้อยกระทงโคลง ๏๏๏                  ๑  ปฐมกาล ๏ ปฐมกาลมีแอ่งเวิ้ง                  อวกาศ หลายหมื่นโลกธาตุ                    นับมิถ้วน ทางช้างเผือกลอยพาด               สะพานสู่  ดาวเอย คือจักรวาลหลากล้วน                 ล่วงล้านอสงไขย  ๚ ๏ ปฐมธาตุคือฝุ่นฟ้า                   ฝนทราย รวมกลุ่มหลอมละลาย                 เรื่อยร้อน                           เกิดรูปก่อร่างขยาย                     ใหญ่มหึ-  มาเอย                   ลอยเรื่อยลุกาลย้อน                    ยิ่งพื้นจักรพาฬ  ๚ ๏ ปฐมโลกเริ่มเมื่อล้าน                 ล้านปี เกิดเมื่อดาวอัคนี                         ใหญ่โน้น ดึงดูดหมู่ดาวทวี                          แรงเหวี่ยง เป็นหนึ่งจักรภพโพ้น                     แผ่เวิ้งเวียนวง     ๚                          ๒  ปฐมการ ๏ ปฐมการมีก้อนกรวด               เกรอะกรัง เม็ดใหญ่เม็ดน้อยยัง                  เกลื่อนกลิ้ง ใครหนอเก็บกรวดหวัง                แสงวูบ  วาวเอย ล้างฝุ่นเปื้อนเปรอะทิ้ง                เทิดเพี้ยงพลอยมณี    ๚ ๏ ปฐมธาตุแห่งเพื่อนแก้ว            โคลงกลอน หล่นเกลื่อนผกายรอน                 แหลกสิ้น                         ใครหนอชื่อครูหนอน                   หนอนสุ-   ราเอย ตัดแต่งเจียรนัยชิ้น                      กรวดช้อยโชนแสง  ๚ ๏ ปฐมโลกโคลงหมื่นรู้                รวมหลอม           เป็นหนึ่งอาศรมฯหอม                  มิเหือดแห้ง แม้ดาวหมื่นดวงงอม                    ง่วงหล่น หมื่นหิ่งห้อยจักแจ้ง                     แจ่มจ้าอาศรม   ๚                   ๓  มัชฌิมกาล ๏ ดาวเคราะห์คือโลกนี้               อนันตกาล เป็นหนึ่งดาวบริวาร                     วิเวกว้าง   เวียนวนนับเนิ่นนาน                    นานเนิ่น   หมุนรอบสุริยะคว้าง                   ลิ่วเคว้งคืนวัน  ๚ ๏ ดาวโลกลอยเรื่อยเลี้ยว             โลมหาว   บอกหนึ่งตำนานหนาว                  เหน็บเนื้อ   วันหนึ่งจักถึงคราว                       ควรดับ แสงหรี่โรยราเรื้อ                        โลกร้างเลือนหลง ๚                  ๔  มัชฌิมกานท์ ๏  อาศรมโคลงหนึ่งน้อย             นับกาล แม้หมื่นคำกรองขาน                   โศลกคล้อง หมื่นโคลงมุ่งคิดนาน                   แสนคาบ เกิดหนึ่งโคลงเพื่อนพ้อง               พี่น้องรวมเสนอ  ๚ ๏ ใดโคลงขับเรื่อยร้อง                  เลอะเลือน เพี้ยนแผกฉันทลักษณ์เบือน           บิดบ้าง โหดห่ามฤหื่นเสมือน                     มนมั่ว                       อโหสิกรรมขออ้าง                       ออกป้องปุถุชน  ๚                     ๕  ปัจฉิมกาล ๏ ชีพแรกธรรมชาติโอ้               อัศจรรย์                             บังเกิดจุลชีวัน                             ว่ายวุ้น แตกรูปต่อร่างผัน                         พันธุ์แผก                       เรียกสัตว์ชั้นต่ำคุ้น                       ร่างเคล้าโคลนตม     ๚ ๏ ยุคหินยามก่อนย้อน                 โยงสมัย ผ่านยุคโลหะไกล                        เก่าล้ำ มนุษย์แรกอยู่ใน                         ดงเถื่อน                           กินอยู่สืบพันธุ์ซ้ำ                         ซากไร้ภัยเบียน  ๚                           ๖  ปัจฉิมการ ๏ โคลงแรกเขียนอ่านโอ้               อหังการ                             หวังเทียบรอยเท้าพาล                   พี่น้อง เข่นเคี่ยวข่มโคลงหาญ                   ห้าวโหด                         คล้ายอึ่งอ่างเบ่งท้อง                      อวดท้าเทียมกระบือ  ๚ ๏ หินกรวดหมื่นก้อนก่อ                 กองพูน ก้อนหนึ่งโอ่ตนปูน                         เปรียบแก้ว เมินหมิ่นพี่น้องสูญ                         เสียสติ เพียงกรวดผิวผ่องแผ้ว                    แผกเพี้ยนพลอยงาม  ๚                    ๗  ปัจฉิมกรรม ๏ กรรมใดเคยก่อกล้ำ                    เกินการ ศิษย์พี่ เพื่อน น้อง พาล                  พลาดพลั้ง คัมภีร์บุราณหาญ                           เห็นโทษ อโหสิกรรมหมื่นครั้ง                       เข่าค้อมขอขมา  ๚ ๏ ปัจฉิมโคลงเบ่งอ้าง                    อาศรมฯ รินร่ายสุขทุกข์ถม                         ท่วมถ้อย       ร้อยกระทู้หมื่นโคลงคม                  คำหนึ่ง คือหมื่นใจน้อยน้อย                      กราบน้อมหนอนสุรา  ๚ ..... ศิษย์โข่ง คัมภีร์โบราณ น้อมเขียนกราบครูหนอนสุรา........     ..... เนื่องในวาระ อาศรมชาวโคลงครบร้อยกระทู้........  ..........................๑๑  สิงหาคม  ๒๕๔๗ .......................... แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 47 09:38:36 แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 47 09:23:47 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 11 ส.ค. 47 09:14:36 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ฮิฮิฮิ ............ กร๊อบบบบบบบบบบ !!!! หน้าแหกแตกละเอียด ขอขอบพระคุณคุณวาวา เกี่ยวกับเรื่องชื่อ “อาจารย์เสกสรรค์” ที่ถูกต้อง ขออภัยเจ้าเหล็กละมุน และกราบขออภัยอาจารย์เสกสรรค์ มา ณ ที่นี้ด้วยครับ สวัสดี จากคุณ : lek Isara - [ 11 ส.ค. 47 11:03:19 ]

ความคิดเห็นที่ 66 อาพี #๖๓ : "ความประทบใจ" คืออะไร? ... ฮือๆ เกิดไม่ทัลล์ ปล. ถึงวาวา ไปลิ้งแรกประพันธ์สาส์น  http://www.praphansarn.com/talk/ttalk64.asp พบชื่อหัวข้อ     นักเขียนรางวัล "ศรีบูรพา"     เสกสรร ประเสริฐกุล หนูก็เลยงงนิดๆ .... แต่ไม่เป็นไร พอเข้าใจคำว่า “ชื่อเฉพาะ” ฮ่ะ! จากคุณ : lek Isara - [ 11 ส.ค. 47 11:17:27 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ๏ดุจสายฝนจากฟ้า.. .......แดนไกล หยาดหยดในหฤทัย............แห่งข้า หลั่งยิ่งหลั่งโลมไหล...........ชื่นฉ่ำ  จิตต์แฮ ดั่งสั่งฟ้าไม่ล้า.......................จักพร้อมอยู่เสมอ๚ ๏มอบความรักเพื่อพร้อม............สู้ทน แม้จักต้องเหนื่อยจน...................หม่นไหม้ จิตแน่นหนักเกิดผล.....................คุณประโยชน์  มากแฮ ดับซึ่งทุกข์โลมไล้.......................จิตต์นี้สุขสนอง๚๛ จิต    เป็นจุดที่รวมรวมไว้ซึ่งกำลังใจ   และเป็นตัวแปรในการจักเกิดผลมากมาย  การกระทำทุกอย่างของมนุษย์ย่อมส่งผลมาจากจิต   จิตมุ่งมั่นอย่างไรการกระทำย่อมเป็นเช่นนั้น แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 47 14:27:12 จากคุณ : กรวี - [ 11 ส.ค. 47 12:30:08 ]

ความคิดเห็นที่ 68 +++ ๑๐๐ กระทู้อาศรมฯ +++ ๏ อักษรอาจเสกสร้าง...........ศิลปะ ปรุงจัดวัจนะ.......................เนื่องร้อย เรียงวางหว่างระยะ............ระยังกระ-.........สวนแฮ เกษมโสตสดับถ้อย...............สะดักถ้ากถาแสดง ฯ ๏ ดังเครื่องสังคีตครั้ง.........ขึ้นประโคม กระหึ่มกรรณกระโหม.........หาสหั้น หากโคลงค่อยบรรโลม.........ร้องขับ เสนาะศัพท์โคลงสะบั้น........สะบัดพ้นดนตรี ฯ ๏ อาศรมฯ อันเสกสร้าง........เสียงโคลง บทต่อบทตามโยง................อยู่ยั้ง ด้วยจิตมิตรจรรโลง.............จึงร่วม..........ใจแล จากเริ่มจนลุครั้ง..................ครบร้อยคอยสาน ฯ ๏ สมสถานสถิตแท้.............สถิระ ผู้ลุ่มหลงอักขระ.................รจน์ร้อย ร่วมใจใช่ภาระ...................พึงเลี่ยง เพื่อสืบสานพ้นร้อย.............ผ่านร้อยฤๅสูญ ๚ะ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๔๗ ============================================== อาศรมฯ ถึงร้อยแล้วหรือ ? เมื่อคืนได้รับข่าวอันน่ายินดีจากทั่นจอมยุทธฯ หนูศาลาไทย และนิรนาม ว่ากระทู้อาศรมฯ ถึง ๑๐๐ แล้ว วฤกห่างหายไปนาน เพราะภารกิจรัดพุง เอ๊ย รัดตัว เลยไม่รู้เรื่องนี้ จึงมัวแต่คิดจะ "ฝากรัก" อยู่เชียว แหะ ๆๆ ในฐานะศิษย์หลังห้องของครูหนอนฯ คิดถึงสมัยเข้ามาหัดเขียนโคลงที่นี่ ได้รับคำชี้แนะจากครูและพี่น้องผองเพื่อน จนทำให้ทุกวันนี้วฤกเขียนโคลงได้ดีขึ้น เขียนโคลงได้มากขึ้น จนแทบจะไม่ได้เขียนคำประพันธ์ประเภทอื่นเลย ในวาระนี้ ... วฤกจึงขอส่งโคลงเนื่องในโอกาสครบร้อยกระทู้อาศรมฯ เพื่อรำลึกถึงมิตรภาพและน้ำใจที่ชาวอาศรมฯมีให้แก่กัน และหวังว่าสมาชิกทุกรุ่น จะช่วนกันสืบสานตำนานอาศรมนี้ไว้นาน ๆ จากคุณ : วฤก (วฤก) - [ 11 ส.ค. 47 12:39:04 ]

ความคิดเห็นที่ 69                    เพียงเปิดใจ ร้อย คำจับใส่ไร้                     ใจโยง กระทู้ เก่ากระทู้ใหม่โขมง         อวดอ้าง หมื่น คำสู่บทโคลง                  หมื่นบท โคลง ก็ยังเคว้งคว้าง                สะเออะเพ้อกรูกวี กี่โคลงกี่กระทู้ผ่าน                   ยังเคลง ทุเร-ศทุรังตัวเอง                      อกสะท้อน กบในกะลาละเลง                     มิรู้โลก ยิ่งย่ำยิ่งยอกย้อน                     ยิ่งย้อนอหังการ โวหารวาทะใช้                         เชือดเฉือน กระทบกระทั่งหลงเลือน             ขนบสิ้น คมโคลงประทุเสมือน                เครื่องประหัต ผิดถูกกรูฉะดิ้น                        ไม่รู้อินทร์พรหม เพียงอารมณ์ขณะนั้น                เผลอไผล ใจก็ลืมเปิดใจ                          ปรับแก้ ใครเก่งจากหนไหน                   กรูเก่ง กว่าพ่อ ใจเปิดค่อยรู้แพ้                        สงบรู้โลกสวย แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 47 14:06:19 จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 11 ส.ค. 47 14:05:14 ]

ความคิดเห็นที่ 70 มาวางเพิ่มอีกบทเจ้าค่ะ ต้อนรับวันแม่... (จริงๆ คือส่งการบ้านเก่าที่พลาดกระทู้ "ฝากรัก" ไป) ๏ ฝาก  ดวงใจมอบไว้              แทนคุณ   รัก    ที่ท่านการุณ                ประดุจฟ้า   ให้    เติบใหญ่ใต้บุญ            เย็นร่ม เสมอเอย   แม่   โอบอุ้มเลี้ยงข้า             แต่น้อยจนโต ๚ จากคุณ : ไร้นาม - [ 11 ส.ค. 47 14:09:44 ]

ความคิดเห็นที่ 71   แล้วก็เป็นอย่างที่บางคนแอบแซวจริง ๆ ศาลาไทยยังโกงเวลาทำงานไม่ได้  จริง ๆ แอบเห็นบางคนวางไปก่อนแล้ว ว่าแล้วก็ขออภิปราย เอ๊ย ทักทายรายบุคคล สำหรับมิตรสหายที่แวะมาเยือนในกระทู้ ๑๐๐ ของอาศรมชาวโคลงนะคะ ขอโทษคุณ p_jung (๑) จริง ๆ ศาลาไทยไม่ได้ทักตั้งแต่ต้น  เห็นชื่อบ่อย ๆ ชักเริ่มคุ้นแล้วล่ะค่ะ มาอ่านบ่อย ๆ นะคะ คุณทิกิ_tiki (tiki_ทิกิ) ~ ๒๘  ว่างก็แวะมาเสมอ  ยินดีค่ะ เจ้าไร้นาม ~ ๒๙  จนป่านนี้ยังไม่เจอกันเลยอุ๊เอ๊ย... พี่หมีเซอะ ~ ๓๐ หนู ศ. นับถอยหลังขึ้นเหนือแล้วเน้อ  หายหัวไม่เป็นไร  อย่าให้หัวหายนะคะ น้านัทตี้ ~ ๓๑  หนู ศ. ตอบไปแล้วนะคะ  ถ้ามีสงสัยเพิ่มเติมว่ามาได้เล้ย อิ ๆ หิ่งห้อยน้อยใจ ~ ๓๒ รายนี้ก็ตอบแล้วเหมือนกัน  วันนี้หายไปไหนหว่า  ชักคิดถึงแล้วสิ เจ้าเหล็ก ~ ๓๓ - ๓๔  รายนี้ก็ขาขยันเขียน (เป็นพัก ๆ) ว่างแล้วเหรอจ๊ะ  พักบ้างก็ดีเน้อ ... เป็นห่วง น้านัทตี้ ~ ๓๗-๓๘ ผ่าน อิ ๆ พี่ทิวา ~ ๔๐  ยังจะกลัวตะพดใครหว่า  ก็ถือตะพดอยู่ในมือ  หนู ศ. ยังแหยงอยู่เลยเจ้าค่ะ หิ่งห้อยน้อยใจ ~ ๔๑  อันนี้ก็อ่าน แล้วก็ผ่าน  รอโคลงอันใหม่มาให้หัดรำนะจ๊ะ พี่วิญญาณอสัญญา ~ ๔๒  นี่ก็ขาประจำ  แต่ไม่ค่อยเห็นบ่อย หลัง ๆ มาทุกกระทู้ ปลื้มจริง ว่าแต่ ... รูปละคะ ลุงเล็ก ~ ๔๓  พักนี้ได้ยินลุงราตรีสวัสดิ์บ่อย ๆ น่าจะจับไปร้องเพลงเบิร์ด-เสก เอิ้ก ๆ คุณรมย์ บุริน ~ ๔๔  ให้ตามขอ ได้เลยค่ะ คุณไกลถิ่น ~ ๔๕  ขอบคุณสำหรับโคลงค่ะ  งานนี้ศาลาไทยรอดตัว  มีคนช่วยเฉลย ๆ แบบให้แล้ว เฮียคัมภีร์ ~ ๔๖  ยังโกงเวลาไม่ได้  ปล่อยให้คนขี้โกง (ทำแก้มป่องประกอบ) วางโคลงไปก่อนแล้ว พี่จอมยุทธฯ ~ ๔๗  นาน ๆ วางโคลงชุดที  เข้มขลังอลังการงานสร้าง (ชมไปงั้นแหละ) ทีแรกนึกว่าจะออกแนวหนุ่มหนังตะลุงออกอาการน้ำตาซึมเสียอีก อิ ๆ คุณแวะมาอีกแล้ว...แย่จัง ~ ๔๘  ขอบคุณค่ะที่แวะมา  แวะมาบ่อย ๆ สิคะ ไม่แย่หรอก นะ ๆ พี่จอมยุทธฯ (อีกแล้ว) ~ ๔๙  งานนี้อ่านกันตาแฉะอีกแล้ว แต่ชอบ ... ขอบคุณค่ะ พี่ทิวา (อีกแล้วเหมือนกัน) ~ ๕๐  ยาวดีจริง ๆ น้องใหม่จะธาตุไฟแตกไหมเนี่ย แต่ยังงัยก็ขอบคุณที่ช่วยค้นนะคะ เจ้าเหล็ก ~ ๕๑-๕๒  โคลงนายแน่มาก  ภาพได้ใจจริง ๆ งัยก็รักษาสุขภาพด้วยล่ะ พี่เดียร์-นัวเนียร์แสนซน ~ ๕๓  ว่างก็มา  ไม่ว่างก็ไม่เห็นหน้า  เป็นที่รู้กันอยู่แล้วนี่เจ้าคะ เอิ้ก ๆ คุณกวินทรากร ~ ๕๔  ร้อยกองกองละร้อย  งี้ที่เขียนมาก็ไม่ครบกองสิคะ แค่เศษกอง ... คุณจอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร ~ ๕๕ ศาลาไทยยกมาให้อีกหนึ่งเหยือกเจ้าค่ะ คุณรมย์ บุริน (อีกที) ~ ๕๖  โชคดีแถวนี้ไม่มีใครใหญ่ มีแต่เด็กกะผู้ใหญ่ ลุงเล็ก (อีกรอบ)  ~ ๕๗  ขอบคุณโคลงแบบที่คัดมาให้อ่านอีกครั้ง  "เสียงฦๅเสียงเล่าอ้าง" นี่ดังจริง ๆ นะคะ ขออนุญาตทักทายกันสั้น ๆ แค่นี้  เชิญได้ตามอัธยาศัย  ใครอยากให้ยกเบียร์ ยกเหล้า บอกได้ ส่วนยกน้ำชาเอาไว้ก่อน จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 11 ส.ค. 47 20:18:59 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ๏ โคลงสี่สุภาพ ๏ ..๏ เทิดทูนพระแม่ฟ้า.............ปวงชน-  สยามเฮย วโรกาสมิ่งมงคล....................ครบแล้ว หกรอบนอบนบกมล...............ถวายแม่-  หลวงนา ทรงสวัสดิ์พิพัฒน์แพร้ว...........ตราบพ้นพันวสันต์ ๚ ..๏ บารมีพระมากล้น.............ไพศาล ทรงกอปรเกื้อกิจการ..............ใหญ่น้อย งานเย็บปักถักสาน.................ทรงส่ง-  เสริมแฮ ทวยราษฎร์ขอร่วมร้อย...........จิตน้อมถวายพระพร ๚ะ๛  ๏ กาพย์ยานี ๑๑ ๏   ..๏ เทิดทูนองค์แม่ฟ้า............ผู้เมตตาของปวงชน วโรกาสมิ่งมงคล...................เฉลิมพระชนมพรรษา เวียนครบบรรจบวาร...............หกรอบผ่านล่วงกาลมา ทวยราษฎร์ทั่วพารา...............ทั้งเทพไท้ถวายพระพร ๚ ..๏ เจ็ดสิบสองวสันต์ล่วง.........ธ  ทรงห่วงเอื้ออาทร มวลหมู่ประชากร...................หากทุกข์ร้อนจักร่มเย็น ทรงเกื้อกูลกอปรการ..............ทุกถิ่นฐานไร้ลำเค็ญ เสริมศิลป์สร้างศาสตร์เป็น........ปราศยากเข็ญทุกผู้คน ๚ ..๏ บารมีแผ่ไพศาล...............สุขสำราญทุกปวงชน คราวเสด็จทุกแห่งหน..............บันดาลดลพ้นผองภัย เย็บปักถักร้อยเลิศ.................งานบังเกิดทั่วแดนไทย หัตถกรรมล้ำวิไล...................ฟื้นฟูให้ได้ดำรง ๚ ..๏ ด้วยเดชาบารมี.................คุณพระศรีรัตนะจง- อภิบาลคุ้มครององค์...............พระผู้ทรงเปี่ยมเมตตา ขอจงทรงพระเจริญ................อภิวัฒน์เกินพันวัสสา ทรงเป็นมิ่งขวัญหล้า...............ของไพร่ฟ้านิรันดร์เทอญ ๚ะ๛ แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 47 12:01:24 จากคุณ : จังงัง - [ 11 ส.ค. 47 23:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ขอถามอะไรหน่อยนะ พี่ได้ไปอ่านโคลง "ตะลุงร้าง" ของจอมยุทธเมรัย อยู่ที่ คคห 47 เนี่ยอ่านแล้วนับคำไปด้วย ทำไมข้างหน้านั้นที่จริงเขาให้ใช้ได้ 5 คำใช่ไหม แล้วทำไมคุณจอมยุทธเมรัยใช้ข้างหน้าถึง 6 คำ (หรือว่าท่านจะเมาเมรัย) โคลงเพราะดีนะ แต่ว่าที่ถามเพราะไม่เข้าใจว่าใช้หกคำในท่อนแรกได้ด้วยหรือ? เช่น นายตะลุงเริ่มโรมรำ     ร่ายบท หวัดเชิดรูปฤษีใช้     เวทย์ล้างอาถรรพ์ ฯลฯ อธิบายให้อ่านกันหน่อยได้ไหม เพราะสงสัยและงงอยู่เนี่ย ว่ามันเอายังไงกันแน่ห้าหรือหก จากคุณ : นัทตี้ - [ วันแม่แห่งชาติ 01:44:50 A:62.167.205.176 X: ]

ความคิดเห็นที่ 74 ไม่เห็นคุณศาลาไทยทักพี่หมอวฤกของบ้างครับ ขอบคุณคุณศาลาไทยครับสำหรับความรู้   ผมแอบโกยอีกตามเคย ขอหื้อแอ่วเมืองเหนือม่วนๆ เน้อ...... จากคุณ : คนอุดรฯ - [ วันแม่แห่งชาติ 02:52:22 A:80.41.196.236 X: ]

ความคิดเห็นที่ 75 ร้อย     มาลัยแค่คล้อง           เพียงหน กระทู้   ไต่ถามความฉงน        เหงือกปลิ้น หมื่น    ทะลึ่งสัปดน               ลักเพศ โคลง   กระดูกกระเดี้ยวดิ้น      กระดุบแท้โคลงเคลง ๚ ไปเจอพลพรรคสะดือจุ่นมาเมื่อกลางดึกยังคึกไม่หาย ขากลับขับรถผ่าน กระเทียมดองเดินได้ ..อืมม์ โลกเปลี่ยนไป มีการแสดงออกที่ไร้ขอบเขต โฆษณาล้วงประตูหลังเพื่อเอาของแต่งบ้านยังออกทีวีได้ ยุคน้ำมันแพง รถยนต์ใหม่ลดราคาลงคันละหลายหมื่น เต๊นท์รถนั่งตบยุง อะฮั้นเลย ... โคลงเคลง :oP *** คุณคัมภีร์ฯ ครับ ขอบคุณจริงๆ ในของฝาก ถูกใจมาก และ(ชุดนี้) ยังไม่เห็นที่ไหนมาก่อน ประทับใจที่สุดก็เพลง My Sweet Lady ของ John Denver ได้เห็นการจับคอร์ดทุกจุด อิอิ และที่สำคัญคือได้เคลียร์ปัญหาคาใจว่าเนื้อเพลงท่อนดังต่อไปนี้มาจากเพลงอะไร ? ... I wish you could know how much I love you .... นึกไม่ออกมาหลายปีจริงๆ ถามเพื่อนๆ ก็บอกว่าคุ้นๆ แต่จำกันไม่ได้ ... โล่งจริงๆ :o) ปล. ทริปเจียงใหม่ครานี้ จะเกาให้ฟังกัน My Sweet สะดือจุ่น ..... Lady ราตรีสวัสดิ์ แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 47 09:21:55 จากคุณ : lek Isara - [ วันแม่แห่งชาติ 03:48:38 ]

ความคิดเห็นที่ 76 #73 คุณนัทตี้ เขาเรียกว่า "ลูกเก็บ" อะครับคุณนัทตี้ อะไรที่ออกเสียงกึ่งเสียง เช่น ตะลุง ฤษี นี่จะนับเป็น หนึ่งหรือสองคำก็ได้ขอรับ ถ้าอยากรวบเสียงโคลง ก็ให้นับเป็นสองเช่น "เจดีย์ระดะแซง" (นิราศนรินทร์) ระดะ จะนับเป็นหนึ่งหรือสองก็ได้ แต่ในที่นี้นับเป็นสองครับ "บังอบายเบิกฟ้า" (นิราศนรินทร์) อบาย จะนับเป็นหนึ่งหรือสองก็ได้ แต่ในที่นี้นับเป็นสองครับ ถ้าอยากยืดเสียงโคลง ก็ให้นับเป็นหนึ่งเช่น "นายตะลุงเริ่มโรมรำ" (จอมยุทธเมรัย) ในที่นี้ ตะลุง นับเป็นหนึ่ง การนับเป็นหนึ่งทำให้คำพอดีห้า แล้ว ยังทำให้คำว่า เริ่ม อยู่ในตำแหน่งเอกด้วย "หวังเชิดรูปฤษีใช้" (จอมยุทธเมรัย) ในที่นี้ ฤษี นับเป็นหนึ่ง การนับเป็นหนึ่งทำให้คำพอดีห้า ลูกเก็บเป็นอาวุธมาตรฐานของชาวโคลงครับ จากคุณ : รมย์ บุริน - [ วันแม่แห่งชาติ 06:46:41 A:128.82.215.23 X: ]

ความคิดเห็นที่ 77 ร้อยหนึ่งนับว่าน้อย......................อีกนาน ดอกใหม่ค่อยผลิบาน...................หลากล้น กิ่งก้านส่งอาหาร.........................ให้ดอก ศิษย์พี่ยืนลำต้น.........................เติบกล้าอาศรม ขอแสดงความยินดีกับผู้ก่อตั้ง ศิษย์พี่ ศิษย์น้องของอาศรมโคลงทุกท่านครับ จากคุณ : วิชชา (วิชชา) - [ วันแม่แห่งชาติ 17:25:29 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ตอบคำทวงขอน้องหนู... ด้วยว่าอ่าน โคลงในกรอบ ๕๑ ของเหล็กละมุนแล้ว อดคิดถึงบทนี้จากทวาทศมาสไม่ได้ ขอนำมาวางไว้ ตราบสิ้นสุริเยศฟ้า...................ดินหาย ก็ดี ยังพระยศยังสถาน...................อย่าแคล้ว ตราบสุเมรุคีรีทลาย.................ทบท่าว ลงแฮ คงคอบบุญท้าวแผ้ว.................แผ่นฟ้าภพไตร ตราบโสมตามแต่งฟ้า....................บ่หาย ห่างแม่ คำมั่นคงมิสาย...............................ดอกหล้า หากเมฆกีดหมอกกราย...................หลัวมืด มิดนอ รอเถิดลมหนาวหน้า........................ขับฟ้าสดใส ฮิฮิ ขอให้สนุกสนานสำราญทุกท่านครับผม แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 47 18:40:19 จากคุณ : วิญญาณอสัญญา - [ วันแม่แห่งชาติ 18:37:57 ]

ความคิดเห็นที่ 79 โคลงคุณ คัมภีร์โบราณ ให้ใครคนหนึ่งเป็นอึ่งอ่าง แต่ไม่รู้ว่าให้ใครอีกคนเป็น วัว นะครับ ในที่ๆมีจุลชีวัน อาศัยนี่ผมว่ามันต้องเป็นที่ๆ สกปรก มากๆนะครับ   แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 47 21:31:56 จากคุณ : กวินทรากร - [ วันแม่แห่งชาติ 21:29:17 ]

ความคิดเห็นที่ 80 มีคนบ่นว่าเขียนโคลงนาน ๆ แล้ว จะติดจังหวะและเสียงจนเขียนกลอนที่เคยเขียนได้ ไม่เหมือนเดิม ผมก็ชักจะแหยง ๆ อยู่เหมือนกัน  ก่อนนี้ครูหนอนสุราเคยเปิดกระทู้ กลอนมีเล่นกลบทด้วย ตอนนั้นผมเขียนกลอนอยู่บ้างแล้วและเคยเล่นกลบทตามโจทย์ ที่ครูหนอนฯวางให้เหมือนกัน วันนี้มีเวลาว่างตั้งแต่ตอนเย็น ดูถ่ายทอดงานเฉลิมฯไปพร้อมกับได้ลองทบทวนกระบวน ท่าจังหวะกลอนไปด้วย  แฮฟรูปเอาจากกระทู้ที่ผ่านมาซึ่งเจ้าของต้องไม่ทราบแน่ ๆ   แล้วเขียนโดยใช้รูปกระตุ้นต่อมกลอน..ก็พอทน... ที่ใช้รูปนี้เพราะเห็นมีผู้แจ้งไว้ที่ด้านบนว่า “ลีลาวดี” ที่กล่าวกันว่าเป็นนามพระราชทาน ใช้เรียกแทนชื่อ “ลั่นทม” เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง  เลยเจาะจงใช้ “จำปา” แทน อดคิดไม่ได้ว่า อาศรมชาวโคลง ยังผลัดกันเฝ้ามาได้จนร้อยกระทู้ ทำไมไม่มีใครคิดเปิด “อาศรมชาวกลอน” ไว้ทบทวนกระบวนท่ากลอนบ้าง  ผมคิดดัง ๆ ไว้ตรงนี้พร้อมกับขอออกตัวไว้ก่อนว่า     คงเป็นหลักให้ไม่ได้ เพราะเวลาว่างไม่ค่อยตรงกับชาวบ้านเขา  (ทำยังกะว่ามีคนจะเปิด “อาศรมชาวกลอน” แล้วงั้นแหละ...) เขียนกลอนได้แล้วหาที่ลงไม่ได้ ก็ต้องมาเปลืองกระทู้ชาวโคลงนี่อยู่ดี ถ้ามีกระทู้กลอน ที่เป็นอาศรมชมรมคนเขียนกลอน เราคงจะมีงานกลอนดี ๆ ไว้อ่านอีกนับพันบทเลย จำปาเจ้าเอ๋ย ไยนิ่งเฉยกลีบเฉาฤๅเจ้าขา คิดถึงกิ่งก้านเก่าเจ้าร่วงมา หรือห่วงหาคนหายไปหลายคน คนไปเที่ยวเขาปล่อยคนคอยท่า ปาดน้ำตาเปียกแต้มร่องแก้มหม่น เคยเที่ยวเหนือหลายคราวหนาวพอทน ไม่หนาวจนจืดเจื่อนเหมือนใจใคร อยู่กรุงเทพฯงานท่วมไร้เพื่อนเที่ยว อยู่ป่าเขียวปีนเขาสนุกได้ เห็นน้ำตกไหลแตกอย่าแปลกไป มันรี่ไหลใจแตกแปลกเหมือนคน ดอยสุเทพเจดีย์สีทองทาบ เคยไปกราบนมัสการนานนานหน บันไดนาคเชิงดอยหงอยพิกล คงทุกข์ทนอยากเที่ยวออกเลี้ยวเลื้อย แม่ปิงล่องผ่านป่าภูผาเปลี่ยว ช่างคดเคี้ยวครืนครางเลือนลางเรื่อย น้ำแม่เคยเชี่ยวไหลไยเนิบเนือย หรืออ่อยเอื่อยแอบเร้นเหมือนเช่นเธอ จำปาเจ้าเอย มือนี้เคยเคลียเคล้ากลีบเจ้าเสมอ พบเอื้องดอยกลางดงคงละเมอ ลืมคนเซ่อใจซื่อแล้วหรือไร... จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ วันแม่แห่งชาติ 23:51:19 ]

ความคิดเห็นที่ 81 จับไก่ไข้หวัดนก เมื่อคืนเขียนกลอนมาแทรกอาศรมฯไว้ เห็นกระทู้ของคุณ กวินทรากร (79) เห็นมีชื่อผม คัมภีร์โบราณ นึกว่าทักทายกันตามปกติของคนเขียนโคลง พออ่านดูอีกครั้ง ก็ต้องขอบคุณ คิดว่าน่าจะเป็นการตักเตือนว่าผมได้ปล่อยไก่อะไรออกไปอีกแล้ว ซึ่งถ้าคุ้นเคยกับอาศรมฯนี้ มากขึ้นก็จะทราบว่ากระบวนท่าปล่อยไก่นี่ผมชำนาญที่สุด การนำเรื่องในนิทานอีสปหรือคำพังเพยมาใช้ในบทร้อยกรอง เช่น เรื่อง “วัวกับกบ”  หรือ “อึ่งอ่างกับแม่”  ผมใช้เพี้ยนไปเป็น ควาย เนื่องจากสะใจส่วนตัวอย่างหนึ่ง อีกอย่างก็จำมาผิด   อย่างไรก็ตามตัวละครต่าง ๆ ในนิทาน ท่านอีสปคงใช้เป็นตัวแทนหรือสัญลักณ์ แสดงถึง ลักษณะเด่นหรือนิสัยใจคอมากกว่า เช่น หมาป่า แสดงความก้าวร้าว  กระต่าย ตกใจง่าย เต่า เชื่องช้า  ตอนเป็นเด็กเคยเห็นอึ่งอ่างพองตัวบ่อย ๆ ตื่นเต้นดี ส่วนกบมันกระโดดเร็วมาก ตามไม่ค่อยทัน  และเลี้ยงควายมาบ้าง ... ส่วนเรื่อง “จุลชีวัน” ใช้เป็นความหมายรวม ๆ กันไปครับไม่ได้มุ่งจะให้เป็นวิชาการถึงกับจะ ระบุว่า เป็น รา   ยีสต์   ไวรัส    หรือแบคทีเรีย  ที่บอกว่าใช้ในความหมายรวม ๆกันไปนั้นก็ได้ มาจากตำราทางพุทธศาสนาที่กล่าวถึง  “โยนิ (กำเนิด) 4 ” ขอคัดมาตามนี้ กำเนิด  แบบหรือชนิดของการเกิด ๑. ชลาพุชะ สัตว์เกิดในครรภ์ คือคลอดออกมาเป็นตัว เช่น คน โค  สุนัข ๒. อัณฑชะ สัตว์เกิดในไข่ คือออกไข่เป็นฟองก่อนแล้วจึงฟักเป็นตัว ๓. สังเสทชะ สัตว์เกิดในไคล(ของสกปรก) คือเกิดในของชื้นแฉะและหมักหมม เน่าเปื่อย ขยายแพร่ออกไปเอง เช่นสัตว์เซลเดียว หนอนบางชนิด ๔. โอปปาติกะ สัตว์เกิดผุดขึ้น คือเกิดผุดเต็มตัวในทันใด ไดแก่ เทวดา สัตว์นรก มนุษย์บางพวก  เปรตบางพวก ท่านว่า เกิดและตายไม่ต้องมีเชื้อหรือซาก ปรากฏอยู่ (จากหนังสือ พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ข้อ 170 หน้าที่ 157-158) ผมเจตนาถึงสัตว์ประเภทที่  ๓  สังเสทชะ  โดยภาพรวม ขอบคุณ คุณ กวินทรากร มา  ณ  โอกาสนี้ด้วยครับ ป.ล. มาอ่านกลอนทวนดูก็เห็นบกพร่องเยอะเหมือนกัน ว่าจะหาเรื่องให้หลายบทกว่านี้         แต่อยากดูบอลโอลิมปิคมากกว่าเลยรีบจบ.... แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 47 10:19:55 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 13 ส.ค. 47 09:42:08 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ๏ ร้อยกระทู้หมื่นบทชี้          สำนึก มวลมิตรมาจารึก                 ต่อเหนื้อง เป็นที่พักที่ฝึก                     ฝนหัด โคลงแฮ หาใช่มาสร้างเหรื้อง             เพื่อให้คนหมั่น ไส้เฮย   *** ตรงคำว่า หมั่น นั้นเป็นตำแหน่งคำสุภาพที่ไม่ควรใส่วรรณยุกต์ แต่ถ้าจำเป็นก็ใช้ได้โดยเติมสร้อยมาช่วย เพื่อไม่ให้หยุดชะงักเวลาอ่านทำนองเสนาะ ครูหนอนฯ เคยสอนไว้โดยยกตัวอย่างโคลงของท่านจันทร์ ... แต่จำไม่ล่ายแล้ว ส่วนคำว่า ‘เหนื้อง’ และ ‘เหรื้อง’ คือ โทโทษ ใช้แทนคำว่า “เนื่อง” และ ”เรื่อง” ในตำแหน่งบังคับโท ท่านที่ทราบแล้วคงไม่รำคาญนะ เขียนบอกไว้เผื่อคนไม่ทราบน่ะ ในโลกนี้คงมีอยู่บ้าง ไม่ใช่เรื่องแปลก ความจริงก็ไม่ได้คิดจะมาตัดริบบิ้นอย่างเดียวนะ แต่ไม่ค่อยมีเวลามาประดิดประดอยคำอย่างแต่ก่อน แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 47 15:19:08 จากคุณ : lek Isara - [ 13 ส.ค. 47 11:46:17 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ๏ ตำนานจุลชีพน้อย       นมนาน วิวัฒน์นับกัปป์กาล         เนิ่นแล้ สู่ปลานกคชสาร           สัตว์ใหญ่ กำพืดมนุษย์ที่แท้          กระจิดวุ้นเซลเดียว ๚ะ๛ จากคุณ : โมโน - [ 13 ส.ค. 47 12:51:29 ]

ความคิดเห็นที่ 84 นิรนามไปค้นดูกระทู้เก่าเพื่อรื้อฟื้นความจำ ก็พบว่าเริ่มรู้จักพี่เล็กและครูหนอนสุราในกระทู้ W590170 ฉันทลักษณ์นั้น สำคัญไฉน ???  (๕ พ.ค. ๒๕๔๓) โดยพี่เล็กแนะนำฉันทลักษณ์ต่างๆของร้อยกรอง (พี่เล็กไม่ไห้เรียก "ครูเล็ก") จากนั้นครูหนอนสุราเข้ามาเล็กเช่อร์เทคนิคทั่วไปในการเขียนโคลงกลอน เช่น เขียนแล้วอ่านออกเสียงดังๆ หรือให้หาต้นแบบโคลงกลอนชั้นดีมาอ่านมาศึกษา ไม่ใช่เอาแต่อ่านกลอนสมัครเล่นในถนนนักเขียนเพียงอย่างเดียว เป็นต้น จากนั้นครูหนอนฯ เริ่มแนะนำเทคนิคการเขียนที่ละเอียดยิ่งขึ้นโดยวิเคราะห์งานกลอนของเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ แล้วคาบเกี่ยวไปถึง สุนทรภู่ และ อังคาร กัลยาณพงศ์ ด้วย จุดนี้ทำให้นิรนามเริ่ม "หูผึ่ง" เพราะความรู้ที่นิรนามมีอยู่มีแค่ "ผังกลอน" เท่านั้น (อันนี้อยากย้ำว่า ก่อนมาถนนนักเขียนนิรนามรู้จักโคลงกลอนแค่ แผนผังฉันทลักษณ์ เท่านั้น) พอขึ้นกระทู้ภาค 2 คือ W592700 ฉันทลักษณ์นั้น สำคัญไฉน ? ภาค ๒ นิรนามจึงเข้าไปเขียนว่า     ความคิดเห็นที่ 13     มาลงชื่อว่าติดตามอ่านด้วยความตื่นใจตั้งแต่กระทู้อันก่อน     จากคุณ : นิรนาม - [10 พ.ค. 19:35:51]   จากนี้นิรนามจึงเอากลอนที่แปลจากกลอนฝรั่งมาให้พี่เล็กและครูหนอนฯ วิจารณ์และชี้แนะ ปรากฏว่า เข้าทางพอดี เพราะทั้งสองท่านสารภาพว่า "ชอบแก้" ส่วนนิรนามตอนนั้นกำลังนิยมชมชอบการ "ให้แก้" ก็เลยเข้าขากันพอดี การวิจารณ์ชี้แนะครั้งนั้น ทำให้มีการอภิปรายกันเรื่อง "สัมผัสเฝือและสัมผัสเลือน" นิรนามจึงได้ "วิชา" ที่สำคัญติดตัวมา ซึ่งช่วยให้ไม่เขียนกลอนที่อ่านสะดุดขัดหู (ถ้าไม่เผลอ) ความจริงในกระทู้นี้ครูหนอนฯ กำลังเล็กเช่อร์เรื่อง "แต่งโคลงตำรับประมวญมารค" แล้วกำลังตรวจการบ้านกระทู้โคลง "ทุ-สุ-มุ-ดุ" ของนักเรียนโคลง แต่นิรนามยังไม่ได้สนใจ เพราะรู้สึกว่ายาก พอครูหนอนฯ เปิดกระทู้ใหม่แล้วเล็กเช่อร์อย่างยาวชื่อกระทู้ว่า W599048 อ่านโคลงตำรับประมวญมารค (๑๙ พ.ค. ๒๕๔๓) มีหัวข้อต่างๆคือ ตอนที่ ๑ โคลงแบบฉบับ ตอนที่ ๒ สุดยอดโคลงสี่ ตอนที่ ๓ โคลงกลอน-นวัตกรรม ของ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ตอนที่ ๔ โคลงของสุนทรภู่ ต้นแบบของ น.ม.ส. ตอนที่ ๕ โคลงสี่สนุกสนาน ตอนที่ ๖ ฟังด้วยหู ดูด้วยตา โคลงเจ้าฟ้ากุ้ง นิรนามก็นั่งเฉยไม่ไหว เริ่มหัดเขียนโคลงอย่างจริงจังตั้งแต่นั้น แล้วก็เกาะติดกระทู้ของครูหนอนฯ มาตลอด มีการเขียนโคลงเป็นการบ้านส่ง และก็เขียนโคลงออกไปแจมในกระทู้ต่างๆ (ตอนนั้นหนูศอ-ศาลาไทย ตั้งกระทู้หารัก เอ๊ย หาเพื่อนเขียนโคลงต่อเนื่องหลายต่อหลายกระทู้) ก่อนกำเนิดอาศรมชาวโคลง จะมีกระทู้ชุด W1038187 ทบทวนกระสวน “โคลง” (๓๐  ก.ค. ๒๕๔๔ ซึ่งพี่เล็กประมวลความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการเขียนโคลงเอาไว้ และ “จับมือรำ” น้องใหม่ผู้อยากเขียนโคลง โดยมีครูหนอนฯ ร่วมเขียนเล็กเช่อร์สำหรับระดับแอดวานซ์ และตรวจการบ้านเหมือนเดิม นักเรียนที่เรียนการแต่งโคลงได้ตั้งกระทู้ต่อเนื่องเป็น ภาค ๒ และ ๓ (ในกระทู้ภาค ๒ ดูเหมือนจะเริ่มมีชื่อ "คัมภีร์โบราณ" และ "วฤก" เป็นครั้งแรก) พอถึงคราวจะขึ้นกระทู้ภาค ๔ ครูหนอนก็ตั้งกระทู้เองชื่อตามเนื้อหาเล็กเชอ่ร์ คือ W1052992 ทบทวนกระบวนท่า โคลงเบ่ง (๑๐ ส.ค. ๒๕๔๔) จากนั้นก็มีภาคต่อ W1061418 ทบทวนกระบวนท่า โคลงเบ่ง (ต่อ) (๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔) W1074237 ครูหนอน ฯ ผ้าคาดศีรษะคร่ำเคร่งในห้องทำงาน นิรนามแอบตั้งวงเหล้า (๒๗ ส.ค. ๒๕๔๔) W1087001 ชักวนเพื่อน ๆ ตั้งวงเหล้าในห้องเรียน บทกวี ภาค 2 อิอิ (๕ ก.ย. ๒๕๔๔) แล้วคุณคัมภีร์โบราณก็ตั้งกระทู้วงเหล้าภาคต่อเป็น "หนอนสุราอาศรม" W1096103 ๏ ๏ ๏ หนอนสุราอาศรม ชมรมคนเขียนโคลง ๏ ๏ ๏ (๑๒ ก.ย. ๒๕๔๔) กระทู้ "หนอนสุราอาศรม" มีภาคต่อไปอีก ๑๘ กระทู้ เมื่อขึ้นภาค ๑๙ เปลี่ยนชื่อกระทู้เป็น W1222724 อาศรม ชมรมคนเขียนโคลง ภาค ๑๙ ตอน ชมรมคนหัดโคลง (๑๑ ธ.ค. ๒๕๔๔) แล้วเปลี่ยนอีกครั้งเมื่อขึ้นภาคที่ ๒๑ W1234821 อาศรมชาวโคลง ภาค ๒๑ ตอน น้ำใจชาวโคลง (๑๙ ธ.ค. ๒๕๔๔) ชื่อกระทู้ว่า "อาศรมชาวโคลง" ก็ใช้มาจนถึงปัจจุบัน . . . . . ขอขอบคุณ พี่เล็ก และ ครูหนอนสุรา เป็นที่ยิ่งสำหรับความรู้และการชี้แนะต่างๆ ที่เคยมีให้นิรนาม ซึ่งกล่าวได้ว่า ความรู้เดิมที่นิรนามมีอยู่ ก็มีเพียงแค่ "แผนผังฉันทลักษณ์" ของโคลงกลอนเท่านั้น ไม่มีความรู้ในเชิงโคลงกลอนนอกจากนี้ จวบจนเมื่อได้เข้ามาในกระทู้ของพี่เล็กและครูหนอนสุรา จึงได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากมาย ซึ่งเป็นความรู้ที่จะติดตัวตลอดไป และสำหรับเพื่อนชาวอาศรม ที่แวะเวียนกันเข้ามาสังสรรค์สมาคมมิได้ขาด ทำให้กระทู้สืบต่อมาร่วมร้อยกระทู้ อีกทั้งยังได้ค้นคว้าสาระความรู้มาเผยแพร่สู่กัน อันเป็นประโยชน์แก่การพัฒนาการเขียนโคลงกลอน นิรนามขอขอบคุณเพื่อนชาวอาศรมในฐานะที่ได้ประโยชน์จากตรงนี้มิน้อยเช่นกัน . . . . . จากคุณ : นิรนาม ณ ถนนฯ - [ 13 ส.ค. 47 13:04:54 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ..กะต้ำดักปลา... o เตร็จเตร่เร่ร่อนไร้.............รัถยา เกยหาดกุ้งกั้งปลา..............ติดกะต้ำ หนอับไป่อาจหา.................หนออก พลันพบบุรุษพร้ำ................พลิกกะต้ำนำหน + + + + + + + + + + รมย์ บุริน ๑๓ ส.ค. ๔๗ จากคุณ : รมย์ บุริน - [ 13 ส.ค. 47 14:26:56 A:128.82.214.168 X: ]

ความคิดเห็นที่ 86 ปุจฉาท่านนิรนามฯ ครับผม อะไรคือสัมผัสเฝือ อะไรคือสำผัสเลือนขอรับ จากคุณ : รมย์ บุริน - [ 13 ส.ค. 47 14:39:04 A:128.82.214.168 X: ]

ความคิดเห็นที่ 87 ตอบแทนนิรนามได้หรือเปล่าครับ ๑) สัมผัสเลือน : พระยาอุปกิตศิลปสารบอกว่า หมายถึงสัมผัสที่อยู่ใกล้กันหลายคำ จนทำให้เลอะเลือนไปหมด ตัวอย่างที่ยกไว้คือ โอ้เจ้าพวงบุบผามณฑาทิพย์ สูงลิบลิบเหลือหยิบถึงตะลึงแหงน ในกรณีนี้ไม่รู้ว่าจะใช้ " ลิบ" หรือ "หยิบ" รับสัมผัสกันแน่ เลยเป็นสัมผัสเลือน ๒) สัมผัสซ้ำ หมายถึงการใช้คำเสียงซ้ำกันมารับสัมผัสในกลอนบทเดียวกัน ตัวอย่างเช่น ถ้าฉันเป็นนักกลอนกระฉ่อนชื่อ คนนับถือทั่วหล้าพากล่าวขวัญ ฉันคงคุยฉอดฉอดตลอดวัน คงมีขวัญที่จะฝันเสกสรรกลอน ๓) สัมผัสเกิน หมายถึงการใช้คำที่มีเสียงสระหรืออักษรอยู่ชิดติดกันในวรรค ซึ่งนักกลอนรุ่นใหม่ ๆ ไม่นิยมใช้ ตัวอย่างเช่น ไม่เคยคิดบิดเบือนว่าเพื่อนเบ่ง ถึงเพื่อนเก่งเคร่งครัดไม่ขัดขวาง จะคิดแปลกแหวกออกไปนอกทาง ใจก็วางอย่างนั้นไม่ผันแปร ๔) สัมผัสแย่ง...หมายถึงมีคำที่เสียงสระเดียวกันมาตัดหน้าชิงรับสัมผัสก่อนคำตำแหน่งรับสัมผัส ตัวอย่าง เป็นนักเรียนไม่พอริก่อรัก มันดีนักหรือไฉนใคร่ขอถาม ถ้ามันงามหรือทำให้เรียนได้ความ ฯ ๕) สัมผัสเผลอ หมายถึงการเผลอใช้คำที่มีเสียงยาวไม่เท่ากันมารับสัมผัสกัน ตัวอย่าง เพราะลงเรือรีบล่กเลยตกน้ำ ไม่ได้ความเปียกปอนผ้าผ่อนเปื้อน (น้ำกับความ .. เสียงยาวไม่เท่ากัน) ทั้งหมดนี้คัดมาจากหนังสือ "กลอนและวิธีเขียนกลอน" ของช่อประยงค์ ครับผม จากคุณ : วฤก - [ 13 ส.ค. 47 19:04:48 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ศาลาไทยมั่วแต่วุ่นกับงานจนไม่เป็นอันมาตอบกระทู้  พอสะสางเรียบร้อยก็รีบเร่เข้ามาอาศรมฯ ก่อน ขอบคุณเฮียคัมภีร์ฯ (๘๐) ที่ช่วยเติมเชื้อให้อยากเขียน "อะไร" ขึ้นมาอีกหน่อย  แม้ไม่มากอย่างเคย แต่พอไหว ดวงจำปาเจ้าเอ๋ย ใช่นิ่งเฉยกลีบเฉาดอกเจ้าขา คิดถึงกิ่งก้านเก่าเราร่วงมา ใครถามหาใครหายไปหลายคน คนไปเที่ยวใช่ปล่อยให้คอยท่า ซับน้ำตาเปียกแต้มเถิดแก้มหม่น อยากเที่ยวเหนืออีกคราวหนาวพอทน แถมมีฝนฝากจำฉ่ำใจใคร หนีกรุงเทพฯ งานซาพาเพื่อนเที่ยว ท่องป่าเขียวปีนเขาสนุกได้ ชมน้ำตกไหลแตกดูแปลกไป เหมือนคำไหลชวนปากแตกใช่แปลกคน ดอยสุเทพเจดีย์สีทองทาบ อยากไปกราบนมัสการนานนานหน บันไดนาคชวนเดินเพลินพิกล คงทุกข์ทนขาแข้งไร้แรงเลื้อย แม่ปิงล่องเลาะป่าภูผาเปลี่ยว ช่างคดเคี้ยวเถื่อนถิ่นระรินเรื่อย น้ำเคยเชี่ยวไหลช้ามาเนิบเนือย ใช่อ่อยเอื่อยแอบเร้นเช่นคำเธอ ดวงจำปาเจ้าเอย หวังมือเคยเคลียคลอล้อเสมอ ถึงเอื้องดอยกลางดงหลงละเมอ ใช่ลืมเผลอชายเกือบโสดโกรธไม่ลง... จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 13 ส.ค. 47 20:41:07 ]

ความคิดเห็นที่ 89   พี่หมอโมโน  ~ ๕๙   ต้องยกฉายา "มีดเดียว" ให้เสียแล้ว  อ่านโคลงเดี่ยวของพี่หมอทีไร  ได้ใจทุกที คุณไกลถิ่น ~ ๖๐ ผลัดกันเขียน...เวียนกันอ่าน...วานกันชม...ผสมโรงบ้างลางทีนะคะ เอิ้ก ๆ คุณรมย์ ~ ๖๑ อย่างคุณรมย์เป็นต้น  ผสมโรงของแท้เลยค่ะ คุณวาวา ~ ๖๒ ขอบคุณค่ะ เกลอ ~ ๖๓ วันนี้ขอตัวไม่ตอบเป็นโคลงหนึ่งวัน  เพราะยังฉ่ำกับกลอนที่เพิ่งเขียนไปข้างบ่น  จริงแล้วหาเรื่องอู้ เฮียคัมภีร์ฯ ~ ๖๔ คาวระเลยค่ะ  กับโคลงชุดนี้  ไม่กล้าเขียนมาประชันแล้ว  กลัวโคลงเดือดจะกลายเป็นโคลงดับ  เอากลอนไปแทนแล้วกัน ลุงเล็ก ~ ๖๕, ๖๖ แลกเปลี่ยนค่ะลุง พี่กรวี ~ ๖๗ คราวนี้ครบเป๊ะ เอกเจ็ด โทสี่ เย้ ๆ  เอาอีก เขียนมาอีก นะคะพี่ไหม พี่หมอวฤก ~ ๖๘ ชักสงสัยแล้วสิว่าคนเป็นหมอเขียนโคลงเก่งหมดทุกคนหรือเปล่า  นี่ก็อีกราย - - - อ่านแล้วทึ่งจริง ๆ ว่าแต่เจอกันคราวหน้าจะอวดโลโก้ใหม่นะคะพี่หมอ ดราฟเองกับมือหนู ศ. โซดาซ่าเลยค่ะ พี่จอมยุทธ ~ ๖๙ อ่านแล้วคิดถึงเพื่อนเก่าของศาลาไทยคนหนึ่งค่ะ  เธอหายไปพักใหญ่  ว่าง ๆ จะชวนเธอมาอีกนะคะ เจ้าไร้นาม ~ ๗๐ สงสัยต้องนัดทานมื้อเย็นกันสักวันแล้วละอุ๊ ... คิดถึงแก้มป่อง ๆ นั่นจัง เอิ้ก ๆ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 13 ส.ค. 47 20:55:32 ]

ความคิดเห็นที่ 90 หวานใจจังงัง ~ ๗๒ ฝีมือเหมือนเดิมจริง ๆ   หวานใจศาลาไทยคนนี้   น้านัทตี้ ~ ๗๓ คุณรมย์ (๗๖) เธอกรุณาช่วยในเบื้องต้นแล้ว  ไว้เราหลังไมค์กันอีกนะคะน้านัท  รับรองหนูไม่แย่งไมค์ อิ ๆ คุณคนอุดรฯ ~ ๗๔ ตอบแล้วนะคะ  แหะ ๆ มันเยอะจัด  เลยตอบช้าไปหน่อย ท่าทางจะ "วัยรุ่นเซง" เอิ้ก ๆ แล้วจะเที่ยวเผื่อค่ะ ลุงเล็ก ~ ๗๕ ศาลาไทยก็เป็นได้แค่เด็กชงเหล้าอย่างเคยล่ะค่ะลุง  งานนี้จะอัพเกรดมาช่วยลุงแกะคีย์ดีกว่า คุณรมย์ ~ ๗๖ ขอบคุณอีกคราวค่ะ คุณวิชชา ~ ๗๗ ขอบคุณมากค่ะสำหรับโคลงกำลังใจบทนั้น  คุณวิชชาเป็นอีกท่านที่แวะเวียนมาไม่ได้ขาด ฉ่ำน้ำมิตรจริง ๆ ค่ะ พี่วิญญาณอสัญญา ~ ๗๘ ขอบคุณสำหรับโคลง  รอว่าเมื่อไหร่จะได้ยลรูปของฝากนั้นเสียที  ปล่อยให้รอนานมีงอนเน้อ คุณกวินทรากร ~ ๗๙ เฮียคัมภีร์ฯ ตอบแล้วนะคะ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 13 ส.ค. 47 21:04:22 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ทั่นวฤกมาตอบด้วยก็ดีครับ เพราะที่ผมไปค้นจากกระทู้เก่าก็เขียนอภิปรายกันอยู่หลายกรอบ ของทั่นวฤกมาจากตำราอีกเล่ม เอามาดูประกอบกันก็จะได้เข้าใจง่ายขึ้นครับ . . . . . ตอบคุณรมย์ บุริน ในกระทู้เก่ามีการอภิปรายกันหลายคน และอ้างถึงตำราอีกสองสามเล่ม ผมขอคัดมาเฉพาะข้อเขียนของคุณหนอนสุรา กลอนต้นเรื่องของผม                  เถอะหัวใจใสพิศุทธ์ที่ทรุดล้า                  หยัดเงยหน้า เช็ดน้ำตา ลบคราบสลด                  ทุกเวลานาทีที่งามงด                  ขีดกำหนดทุกชะตาด้วยมือนี้                  ..........                  ความคิดเห็นที่ 31                  จุดที่พี่เล็กยกมา ศัพท์เทคนิคเรียกว่าสัมผัสเลือนครับผม                  คำรับสัมผัสนอกควรมีแห่งเดียว เนื้อความจึงจะเด่น และเสียงไม่สะดุด                  ถ้ามี ๒ แห่งอย่างที่คุณนิรนามแต่งมา จะเกิดอาการสัมผัสเลือน                  ผลเสียคือทำให้เนื้อความอ่อนลงและเสียงสะดุด                  ของแถม คำรับสัมผัสนอกควรใช้คำที่มีความหมาย อย่าใช้คำเชื่อม                  เช่น นี้ นั้น จึง ว่า ฯลฯ                  จากคุณ : หนอนสุรา  - [16 พ.ค. 11:41:25]                  ..........                  ความคิดเห็นที่ 37                                    ... ลักษณะสัมผัสเลือน มักเกิดกับวรรคคู่ คือวรรคที่ ๒ และ ๔                  ปกติสองวรรคนี้รับสัมผัสนอกด้วยคำที่ ๓ (ช่วงแรกของวรรค)                  ถ้าคำที่ ๕ (ช่วงกลางของวรรค) ในวรรคเดียวกันใข้สระเดียวกัน                  เรียกว่าสัมผัสเลือนครับ ...                  จากคุณ : หนอนสุรา  - [18 พ.ค. 09:58:38]                  .......... สัมผัสเลือนในกลอนที่นิรนามแต่งคือ ล้า-หน้า-ตา . . . . . จากคุณ : นิรนาม ณ ถนนฯ - [ 13 ส.ค. 47 21:10:45 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ส่วนสัมผัสเฝือ                  ความคิดเห็นที่ 42                  จุดที่พี่เล็กยกมาศัพท์เทคนิคเรียก สัมผัสเฝือ                  อธิบายเพิ่มเติม กลอนแบบสุนทรภู่ (เน้น เฉพาะแบบสุนทรภู่ เท่านั้น)                  วรรคคู่ (๒ กับ ๔) มีสัมผัสในที่เป็นสระคู่เดียว แต่มีได้ ๒ แบบ                  คือคำท้ายช่วงกลาง (คำที่ ๕) สัมผัสสระกับคำแรกของช่วงหลัง (คำที่ ๖)                  เรียกว่าสัมผัสชิด                  หรือคำท้ายช่วงกลาง (คำที่ ๕) สัมผัสสระกับคำที่สองของช่วงหลัง (คำที่ ๗)                  เรียกว่าสัมผัสแทรก                  ในวรรคคู่นี้ ถ้าเพิ่มสัมผัสสระเข้ามาระหว่างช่วงแรกกับช่วงกลาง                  จะเกิดข้อผิดพลาด ๒ ลักษณะ                  คำท้ายช่วงแรก (คำที่ ๓) สัมผัสสระกับคำแรกช่วงกลาง (คำที่ ๔)                  เกิดอาการ สัมผัสเฝือ                  คำท้ายช่วงแรก (คำที่ ๓) สัมผัสสระกับคำสุดท้ายของช่วงกลาง                  (คำที่ ๕) เกิดอาการ สัมผัสเลือน                  .......... จากคุณ : นิรนาม ณ ถนนฯ - [ 13 ส.ค. 47 21:31:33 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ขอบคุณครับคุณวฤกที่คัดเรื่องราวเกี่ยวกับสัมผัสมาเปิดหู เปิดตากระผม ท่านนิรนามฯ ขอรับ ขอบคุณสำหรับตัวอย่างที่ยกมาสำหรับ สัมผัสเลือน แต่ว่าสัมผัสเฝือนี่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี สำเหตุ ที่ถามก็คือ คำว่าเฝือ แปลว่า รก ก็ได้ แปลว่า คลุมเครือ ก็ได้ ถ้าสัมผัสเฝือมีความหมายเหมือนสัมผัสเลือน ผมก็เข้าใจ แล้วขอรับ แต่ถ้าไม่ช่วยชี้แจงนิดนึงครับ ^__^ จากคุณ : รมย์ บุริน - [ 13 ส.ค. 47 22:00:05 A:128.82.214.168 X: ]

ความคิดเห็นที่ 94 หมื่นโคลงร้อยกระทู้...............ร้อยใจ ร้อยเรื่องร้อยเรียงใน.............ที่นี้ อาศรมเพื่อนโยงใย..................สันต์สุข สานสืบร่วมแนะชี้..................รักษ์ร้อยโคลงครู. วันแม่หนูอีกตั้ง..............หลายเดือน วันแม่แม่เคยเยือน.............ถิ่นหล้า คำแม่ที่ตักเตือน..............สอนสั่ง คำแม่ทุกถ้อยช้า...............ชัดแจ้งแจ่มเสมอ. ย่อง ๆ มาเคาะสนิมเสร็จ แล้วรีบพริ้วกายจากไปอย่างรวดเร็ว จากคุณ : รสา รสา - [ 13 ส.ค. 47 22:00:18 ]

ความคิดเห็นที่ 95 อุ๊บ ไม่ได้รีเฟรชหน้าจอ นึกว่าตอบจบแล้วในความเห็นที่ ๙๑ ขอบคุณท่านนิรนามฯ มากครับ จากคุณ : รมย์ บุริน - [ 13 ส.ค. 47 22:05:28 A:128.82.214.168 X: ]

ความคิดเห็นที่ 96 ร้อย...คำคนนับร้อย                 พันพันธุ์ กระทู้...อยากมีส่วนปัน           เสียบไส้ หมื่น...คนหมื่นใจกระสัน         เกลียดชอบ โคลง...แถกรับประทานไว้      ยกโอ้อวดหาง จากคุณ : ช้องนาง. - [ 14 ส.ค. 47 07:26:09 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ร้อย  ศรัทธาท่าท้า...........................ทบทยอย กระทู้  กรุ่นบุญถดถอย.....................ถ่อยถ้อย หมื่น  ยำย่ำย้ำรอย...........................เลือนสติ โคลง  เพริศพลอยพล่อยพร้อย............ภาพฉะนี้ดีหรือ?? จากคุณ : เด็กชายไมตรี - [ 14 ส.ค. 47 09:04:16 A:202.183.170.47 X: ]

ความคิดเห็นที่ 98 ขอบคุณที่เตือนสติครับ จากคุณ : โมโน - [ 14 ส.ค. 47 09:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ร้อย...คำคนนับล้าน        พรรณนา กระทู้...ย่อมโดยสาธา-    รณะคล้อย หมื่น...เถิกหมื่นล้านพา     น้อยจิต โคลง...หนึ่งย่อมนับน้อย   มติต้องตามกัน จากคุณ : ไทรแก้ว - [ 14 ส.ค. 47 11:01:37 A:203.172.47.23 X: ]

ความคิดเห็นที่ 100 ร้อย  ปราชญ์เปลืองเปรื่องเปลื้อง       ปัญญา กระทู้  ถ่อยถอยเถิดนา                    น่าน้า หมื่น  ใครใคร่ไคล้หา                      โหมโทษ โคลง  ร่ำลาล่าล้า                           เรื่องร้ายกลายดี   สวัสดีครับ  คุณหมอโมโน คิดถึงครับ  คิดถึงทุกท่านด้วยครับ   อ่านโคลงที่ 83 แล้วอึ้ง  แหะแหะ วางโคลงเดี่ยว เล่นโคลงชุดผมเหี่ยวไปเลย อยากเชิญเปิดกระทู้ถ้าว่าง  หมายตาคุณ รมย์  บุริน ไว้ ไม่ทราบพร้อมหรือไม่  คนจะไปเที่ยวคงมีข้ออ้าง ผมก็แวบไปมาครั้งละวันสองวัน  อวยพรผมหน่อย... หนังเครื่องฯในประเทศบ่อย จนเบื่ออาหารกล่อง จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 14 ส.ค. 47 11:12:20 ]

ความคิดเห็นที่ 101 มาเป็นคนที่ 101  พอดี แอบอ่านอยู่นะครับ แต่ไม่ได้วางโคลงไว้เลย ช่วงนี้พลังสร้างสรรค์ไม่ค่อยมี ตรวจเรื่องสั้นที่เด็กเขียนส่งมากไปหน่อย จินตนาการต่าง ๆ ก็เลยถูกดึงออกไปหมด เฮ้อออออ   แย่จังเรา จากคุณ : ปะหล่อง - [ 14 ส.ค. 47 11:26:37 A:203.113.51.73 X: ]

ความคิดเห็นที่ 102 ๏ ชมรมรวมพี่น้อง              เกลียวกลม กระทู้สถิตอาศรม               ครบร้อย แรงริษยาถม                     ทับจิต พอหลุดปากหลุดถ้อย          กลับต้องมัวหมอง  ๚ ๏ ครรลองไทยจึ่งต้อง         ขันติ ธรรมฤๅ ขันแตกจนเผลอปริ             ปากบ้าง กลายเป็นถ่อยชะชิ             ตัวป่วน สบายแฮ กำสากมาอวดอ้าง              เปรียบถ้อยเสียดสี ๚   ๏ ความดีถึงตกน้ำ              ช่างมัน ความชั่วพาสุขสันต์             ช่างแย้ง ความสุขต่างหากฉัน            ช่างฝึก หัดเฮย ความรักษ์มิอาจแสร้ง          ปิดตู้ปิดตา ๚ ๏ ใครมาดีเล่นด้วย             หรรษา หากแอบจิตมิถยา              ห่อนใกล้ กรลิขิตบาทา                    ลบออก ขาดสติคนไส่ไคล้              ไป่ต้องแยแส ๚ ขอบคุณอาร์พีและนิรนามที่ให้เครดิต สงสารช้องนางที่เป็นแพะ เราเล่นกันดีๆ เล่นมานานและจะเดินไปอีกตราบนานเท่านาน แต่มีคนที่หมั่นไส้ เข้ามาโจมตี(อย่างแรง) แล้วหาโอกาสซ้ำ(ถ้ามี) ผมไม่สนใจหรอกนะครับว่าใครจะมองหรือว่าพวกเราอย่างไร ? และไม่คิดว่าที่ผ่านมาจะเป็นผลงานอะไร เราทำตามธรรมชาติ รักกันก็คบกัน ไม่รักกันก็เลิกคบกัน แต่ไม่เคยไปก้าวก่ายราวีใคร เราอยู่ในอาศรม เราไปสร้างความแค้นอะไรให้ใครก็ช่วยบอกกันด้วย ใครจะว่า “เขียนด้วยมือลบด้วยเท้า” ผมไม่สน! ไม่ได้ทำบุญเอาหน้า เมื่ออำนาจใฝ่ต่ำมันทำให้มีคนเข้ามาตี ปุถุชนอย่างเราๆ ก็ตอบโต้บ้าง “โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า” แต่ผมทั้งโง่และบ้า จึงรำพึงมาอย่างใจเย็น ผมรู้อย่างเดียวว่า ผมเขียนโคลงเป็นก็ที่ กลุ่มห้องสมุด แห่ง pantip นี้ เริ่มจากผังโคลงของ คุณนก สกุณา สหายเก่าก่อนจะมีถนนักเขียนซะอีก แล้วก็เขียนโคลงตามแผนที่ (แผนผัง) แบบห้วนๆ จนพบ ครูหนอนสุรา โดนตบโดนแต่งไม่กี่น้ำ ก็พอจะมีปัญญามาหลอกน้องๆ ให้รักษ์โคลงได้ อาศรมไม่ใช่ของใครกลุ่มเดียว ร้อยกระทู้หมื่นโคลง มาจากการร่วมใจ ขอฝากบันทึกกระสวนโคลงจากกระทู้เก่าๆ สำหรับมือใหม่ ที่นี่ครับ ... http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=lekpage&topic=5 ปล. ผมไม่ชอบให้ใครมายกยอปอปั้น เพราะธาตุแท้ผมมันเป็นอย่างนี้จริงๆ ฮิฮิ                           จากคุณ : lek Isara - [ 14 ส.ค. 47 11:27:42 ]

ความคิดเห็นที่ 103 สวัสดีครับ พี่เล็ก   นึกว่าอยู่เชียงใหม่โน่นแล้ว  ทุกวันเสาร์ เวลา 11 – 12 .00 น. ต้องคอยดูรายการ โลกเครื่องเสียง กับวิจิตร  บุญชู ทาง TTV 1 มีช่วงแนะนำแผ่นดีวีดีคอนเสิร์ทด้วย วันนี้เป็นแผ่นของ George Benson ชุด ABSOLUTELY  LIVE  เปิดเพลงที่ 3    Beyond the sea  (ร้องไว้หลายคน) ชุดนี้มีอยู่พอดี  ถ้าชอบ jazz  ก็ขอแนะนำครับ จะออกไปดูกล้องดิจิตอลมาลองเล่น  งานไอที. ที่แล้วไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ  ไปก่อนนะครับ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 14 ส.ค. 47 12:25:08 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ๏ ขลุ่ยร่ำยามดอกท้อ...........กลีบเผย ขับกล่อมลำนำเปรย.............เพรียกฟ้า แสงจันทร์แจ่มดุจเฉลย.........โศลกทัก-  ทายแฮ ลมลู่แมกไม้ท้า...................แซกซ้อนเสียงผสาน  ๚ ๏ สุขโศกโลกมากล้น...........ชิงชัง ยศศักดิ์ยุทธจักรยัง..............ยุ่งด้วย วางดาบขับขลุ่ยขลัง.............เสนาะโสต เคียงแม่นางตราบม้วย...........สุขล้นพันทวี  ๚ ๏ เป็นมารคนครั่นคร้าม.........บูรพา นามแฮ โอ้..!! ช่างตั้งสมญา.............ดั่งแกล้ง ชมจันทร์ร่ำสุรา...................เริงสุข จริงเวย มิคิดสู่โลกแล้ง...................หลบลี้ชนผอง ๚ะ๛   มังกรหยก ตอน ..ตามหาแม่อีหนู (อึ้งย้ง) ..กิ..กิ.. แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 47 12:46:34 จากคุณ : จังงัง - [ 14 ส.ค. 47 12:35:11 ]

ความคิดเห็นที่ 105 เห็นชื่อเพลง Beyond the sea แล้ว อดรนทนไม่ได้ ... เพลงโปรด นะครับ พอดี มี Link เพลงนี้ ของ Bobby Darin คาดว่า พอฟังแทน George Benson http://www.minibite.com/oldies/somewhere.htm ... Beyomd the sea Bobby Darin Somewhere beyond the sea Somewhere waiting for me My lover stands on golden sands And watches the ships that go sailing Somewhere beyond the sea She's there watching for me If I could fly like birds on high Then straight to her arms I'd go sailing It's far beyond the stars It's near beyond the moon I know beyond a doubt My heart will lead me there soon We'll meet beyond the shore We'll kiss just as before Happy we'll be beyond the sea And never again I'll go sailing I know beyond a doubt My heart will lead me there soon We'll meet beyond the shore We'll kiss just as before Happy we'll be beyond the sea And never again I'll go sailing No more sailing So long sailing Bye bye sailing ... เรื่อง อื่นๆ .. (ไว้คุยกัน...) ฝากถึง ศาลาฯ ถ้านำเพลงนี้ลง แผ่นได้ ทำด้วย นะ ... จากคุณ : วลี.. - [ 14 ส.ค. 47 13:01:31 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ๏ ลำปางเชียงใหม่พร้อม      เชียงราย รอหน่อยมิตรสหาย             อย่าพ้อ นัดกันว่ากรีดกราย              วันพุธ หน้าแฮ เคยขี่รถสามล้อ                  รอบแคว้นไทยงาม ๚ *** สวัสดีครับ คุณคัมภีร์ ... ที่บ้านพี่เล็กไม่มี TTV 1 มีแต่ TV 3,5,7,9,11 และ ITV อิอิ แต่ก็เป็นแฟนอีตาจ๊อด เบนสัน (สันเฉียงเล็กน้อย) สมัยก่อนชอบเพลง It's All The Games ของตะแกมาก ชุด แอบโซ่หลุด ไหล พี่เล็กมีเป็น MP3 นะครับ (จุ๊ๆ อย่าให้นายทิวามาเห็น เพราะแกไม่ชอบ MP3 ซะจริงๆ) เพลง Beyond the sea  นี่ผมชอบของปู่แฟร้งค์ และทุกๆ ค่าย (ฝรั่ง) ที่ร้องเพลงนี้เลยครับ ขนาดของเก่าๆ (เช่นชุดรวมเพลงเก่า /MP3) เสียงไม่ค่อยดีแต่ท่วงทำนองระรื่นหูมาก ส่วนเรื่องทริปเจียงใหม่ ก็เดินทางวันพุธหน้าครับ นัดกันเรียบร้อยแล้ว ขอส่งข่าวถึงชาวคณะหน่อยนะครับว่า .. เพื่อนพี่เล็กที่อยู่แม่สายนั้นย้ายไปเชียงแสนแล้ว และวันเสาร์อาทิตย์หน้าก็มาอบรมที่เชียงใหม่ สวนทางกัน แต่วันที่เราขึ้นเชียงใหม่เพื่อนพี่เล็กอยู่บ้านที่แม่ริม ถ้าผ่านอาจขอแวะทักทายนิดหน่อย (หรือโทรนัดให้มารายงานตัว อิอิ) ขากลับจากเชียงของไปเชียงราย เพื่อนบอกว่ารถวิ่งชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ถ้ามีเวลาอยากชวนไป ม.กระเหรี่ยงรวมมิตร อยากให้ไปขี่ช้างกระเหรี่ยง ล่องเรือในแม่น้ำกก ถ้ารีบกลับก็ไปแวะทักทายอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ที่วัดร่องขุ่นเลยก็ได้ *** นานๆ ไปเที่ยวทั้งทีไม่น่ารีบกลับนะ ... สละเวลาอีกสักครึ่งวันจะได้ภาพสวยๆ อีกเป็นกระบุง ปล. รีเฟรชเจอเนื้อเพลงของอีตาวลี ... ถ้าไม่ลืมจะลงแผ่น Audio CD หลายๆ เวอร์สั้น เอ๊ย เวอร์ชั่นให้ฟังในรถ แล้วขากลับก็จับฉลากให้ไปเลย หรือใครเอาโน้ตบุ๊กไปก็ Copy ได้เลย ไม่ใช่ค่ายเพลงไทยไม่โดน ตุ้บ-สับ แน่ อิอิ จากคุณ : lek Isara - [ 14 ส.ค. 47 13:23:36 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ๏ ไมตรีรินจอกให้          มิตรสหาย บ้างดื่มเพียงผ่อนคลาย     ดับร้อน บ้างสำลักเจียนตาย        แดเดือด คนยื่นจอกยังอ้อน          ฉ่ำน้ำใจเสมอ ๚ะ ปิดงานไม่ได้  หัวไม่แล่น  แว้บมาเขียนโคลงให้มิตรสหาย  กระทู้นี้วิ่งเร็ว  ศาลาไทยตามตอบไม่ทัน  คืนนี้จะพยายามมาตอบต่อ แจ้งข่าวถึงเฮียคัมภีร์ฯ ว่า เช็คหลังไมค์ด้วยนะคะ  "หนีเที่ยวไม่ได้มีไว้อ้าง"  เพียงแต่ถ้าให้คนใหม่ ๆ เฝ้ากระทู้บ้างคงผ่อนแรง แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 47 14:46:26 แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 47 14:44:56 จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 14 ส.ค. 47 14:42:30 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ด้วยปรารถนาให้เกิดสันติสุขในการอยู่ร่วมกัน จึงขออณุญาตุฝากกลอนไว้ที่อาศรมโคลงนะครับ         ด้ามขวานทอง โอ้ขวานทองของไทยใครคิดแบ่ง อยากตัดแต่งด้ามใหม่ทำไมหรือ ตัดด้ามแข็งแรงเขยื้อนสะเทือนมือ คนจับถือเจ็บปวดรวดร้าวราน คิดบั่นทอนบ่อนเซาะบ่มเพาะเชื้อ กัดกร่อนเนื้อลุกลามปลายด้ามขวาน ให้หลุดแยกแตกง่ายไม่เสียดทาน กระบวนการทำลายจากภายใน แม้นทำได้หมายคิดไม่ผิดพลาด ตัดด้ามขาดสมจิตพิสมัย ได้ยึดกุมด้ามกำอิ่มหนำใจ แต่สูญเสียเพียงใดจงใคร่ครวญ ความรุนแรงแบ่งแยกย่อมแตกร้าว สัมพันธ์ยาวถูกสับไม่กลับหวน ความเจ็บช้ำย้ำเตือนเหมือนชนวน ยกขบวนสู้กันต่างบรรลัย                                       จากคุณ : วิชชา - [ 14 ส.ค. 47 17:25:53 A:202.29.32.176 X:202.29.32.5 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ปล.  คุณศาลาครับ  ผมจะรออยู่ที่ลำปางด้วยความระลึกในดวงหทัย  ว่าแต่ว่า  จะไปสังสันทน์กันที่ไหนเหรอครับ  จะได้ตามไปถูก  (ความจริงผมมีร้านแนะนำด้วย  บรรยากาศดี  พนักงานเสิร์ฟก็เป็นลูกศิษย์ผมทั้งนั้น)  อย่าลืมติดต่อมานะครับ  ผมเมลไปหาคุณแล้ว  พร้อมกับทิ้งเบอร์โทรไว้ให้ด้วย จากคุณ : ปะหล่อง - [ 14 ส.ค. 47 20:07:30 A:203.113.51.68 X: ]

ความคิดเห็นที่ 110 #100 ท่านคัมภีร์โบราณ สวัสดีครับท่านคัมภีร์โบราณ เคยได้ยินชื่อในอาศรมฯ พักนี้ได้เห็นงานท่านบ่อย ๆ ต้องยอมรับว่าเป็นหนึ่งในบุรุษผู้มีจินตนาการสูง แหะแหะ คิดได้ยังไงอะครับ จากจักรวาลว่างเปล่า มาสู่อาศรมฯ และท่านหนอนสุรา สุดยอดครับ เรื่องเป็นคนเฝ้ากระทู้ก็ต้องขอผลัดผ่อนไป เนื่อง- จากภารกิจการเรียนขอรับ เป็นขาแจมจึงสะดวก กว่าด้วยประการทั้งปวงครับผม อันนี้คือคำอวยพรตามคำขอของท่านขอรับ + + + + + + + + + + ..คำอวยพรให้ท่านคัมภีร์ฯ.. o ไปเรือหรือรถเขรื้อง.......เรือเหาะ หลับสบายกับเบาะ...........ปรับแบ้ ปลอดภัยห่างพาลเกาะ......กวนกิจ ชีวิตก็ฟ้อแฟ้....................ไป่ท้อแท้ใจ + + + + + + + + + + รมย์ บุริน ๑๔ ส.ค. ๔๗ จากคุณ : รมย์ บุริน - [ 14 ส.ค. 47 21:13:10 A:128.82.214.168 X: ]

ความคิดเห็นที่ 111 แล้วคนนอกอาศรมแถมไม่สันทัดโคลงอย่างผม จะอยู่ในโปรแกรมนี้หรือเปล่า จากคุณ : เวทย์ - [ 14 ส.ค. 47 21:13:29 A:202.28.26.96 X: ]

ความคิดเห็นที่ 112 ถ้ามีเวลาอยากชวนไป ม.กระเหรี่ยงรวมมิตร อยากให้ไปขี่ช้างกระเหรี่ยง ล่องเรือในแม่น้ำกก ถ้ารีบกลับก็ไปแวะทักทายอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ที่วัดร่องขุ่นเลยก็ได้ โอเชมิวสิค ลุงเล็ก ...รีบมาลงคะแนนเลยเนี่ย ..555 จากคุณ : จังงัง - [ 14 ส.ค. 47 22:27:13 ]

ความคิดเห็นที่ 113 • I Only Have Eyes For You ๏ ดึกดื่นคืนไร้ซึ่ง         แสงดาว ม่านเมฆมืดฤๅพราว      พร่างฟ้า แสงจันทร์ส่องแวววาว   วับวาบ แต่เนตรฉันเบิกอ้า        อาจเอื้อมเพียงเธอ ๚ Are the stars out tonight? I don't know if it's cloudy or bright I Only Have Eyes For You, Dear. The moon maybe high but I can't see a thing in the sky, 'Cause I Only Have Eyes For You. I don't know if we're in a garden, or on a crowded avenue. You are here And so am I Maybe millions of people go by, but they all disappear from view. And I Only Have Eyes For You. ครับ ... ควันหลงลำนำเพลงรัก ... อีกครั้ง เมื่อตามลิ้งค์ของวลีไปก็ได้เรื่องเลย (ใจแตก .. ลืมแก่) http://www.minibite.com/oldies/eyesforyou.htm เรียนคุณลุงเวทย์ (ขออนุญาตเรียกตามน้องๆ) วันที่นัดสรุปโปรแกรมกัน มีน้องๆ กล่าวถึงคุณลุงเวทย์ด้วยนะครับ แม้ผมจะไม่คุ้นเคยก็ขอฝากเนื้อฝากตัวไปกับชาวคณะด้วยนะครับในทริปนี้ คงได้แวะเยี่ยมเยียนคุณลุงและคารวะเพื่อเป็นศิริมงคลในการเดินทางด้วยน่ะครับ ปล. ถึงนังหมีเซอะ! ... ตอนนี้พี่เล็กสะกดคำว่า “แก่” เป็นภาษาไทยได้แล้วนะ เพราะลูกเรียนจบแล้ว ไม่สะเทือนซางแล้ว ยอมรับสภาพโดยทฤษฎี เอ๊ย โดยดุษฎี อิอิ   แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 47 22:57:47 จากคุณ : lek Isara - [ 14 ส.ค. 47 22:27:19 ]

ความคิดเห็นที่ 114 อ้าว! racing กับจังงัง ... พลาดไปแค่เสี้ยววินาที (ตอนโพสต์ข้อความ) ปล. ถ้าชาวคณะฯ จะไป ม.กะเหรี่ยงรวมมิตรก็ยินดีเลย ที่บ้านเพื่อนมีงูยักษ์ให้อุ้มแล้วมีแอคคอเดี้ยนให้เล่นด้วย อิอิ จากคุณ : lek Isara - [ 14 ส.ค. 47 22:39:19 ]

ความคิดเห็นที่ 115 สวัสดีครับชาวอาศรมฯ ทุกท่าน คิดไปคิดมากินข้าวแดงแกงร้อนที่อาศรมฯ มากว่าครึ่งปี วันนี้เห็นเพื่อน ๆ ไม่ว่างด้วยภาระกิจต่าง ๆ และเพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณชาวอาศรมฯ ที่เผื่อแผ่ความรู้ความบันเทิงมากมาย ตกลงว่าผมจะเปิด กระทู้ที่ ๑๐๑ ขอรับ + + + + + + + + + + อาศรมชาวโคลง ภาค ๑๐๑ "จินตนาการกับคู่โท" + + + + + + + + + + จากคุณ : รมย์ บุริน - [ 15 ส.ค. 47 01:03:36 A:128.82.215.23 X: ]

ความคิดเห็นที่ 116 นั่งทำงานไปบ้าง  เขียนกลอนไปบ้าง  กว่าจะรู้ตัว...ก็จวนจะได้ทักทายแสงแรกของวันใหม่แล้ว รอให้คุณรมย์มาช่วยเฝ้าอาศรมฯ ถัดไป  ขออนุญาตทักทายมิตรสหายที่ยังค้างคากันอยู่ เฮียคัมภีร์ฯ ~ ๘๐, ๘๑, ๑๐๐, ๑๐๓ เพิ่งเขียนกลอนเสร็จไปหนึ่งชุด  กำลังชั่งใจว่าจะวางให้อ่านในถนนฯ หรือเก็บไว้อ่านคนเดียวดี พักนี้ยิ่งรู้สึกเหมือนมีปัญหาทำอะไรไม่ค่อยถูกใจ  สงสัยคงต้องอยู่เฉย ๆ นิ่ง ๆ เสียบ้างคงดี ลุงเล็ก ~ ๘๒, ๑๐๒, ๑๐๖, ๑๑๓, ๑๑๔ สังเกตว่ามีหลายความเห็น  แต่ละความเห็นโคลงจะค่อย ๆ ยาวขึ้น  จนได้ชุดใหญ่ใน คคห. ๑๐๒ พี่หมอโมโน ~ ๘๓, ๙๘ โคลงเดียว  มีดเดียว  อยู่หมัด  อีกตามเคย  ลีลาแบบนี้  ว่าง ๆ จะขอไปฝึกด้วย (เลียนแบบ) พี่นิรนาม ~ ๘๔, ๙๑, ๙๒ ศาลาไทยเองถึงแม้จะมีพื้นด้านร้อยกรองอยู่บ้าง  แต่ต้องยอมรับว่า "ครูหนอนสุรา" เป็นครูอีกท่านที่ศาลาไทยเคารพนับถือมาตลอด  หนังสือทุกเล่ม  กลเม็ดทุกอย่างที่สอน สามารถนำมาปรับใช้ได้ในชีวิตทุกวันนี้  แม้กระทั่ง "รามเกียรติ์...ตำราบริหารฉบับไทย" ที่เห็นหนังสือทุกครั้งก็ยังระลึกถึงอยู่เสมอ  ...ศาลาไทยเด็กหญิงหน้าห้อง...สายตาสั้น...มาค่ะ (ตอนนั้นหนูศอ-ศาลาไทย ตั้งกระทู้หารัก เอ๊ย หาเพื่อนเขียนโคลงต่อเนื่องหลายต่อหลายกระทู้) มีแอบแซวนอกรอบอีกต่างหาก  แต่ตอนนั้นขยันเขียนจริง ๆ ไม่เหมือนตอนนี้  ขยันอู้แทน   คุณรมย์ ~ ๘๕, ๘๖, ๙๓, ๙๕, ๑๑๐, ๑๑๕ รออยู่ว่าจะต่อกระทู้ตอนไหนนะคะ  ตอนนี้ศาลาไทยคุยกับมิตรสหายพลาง ๆ ก่อนก็แล้วกัน พี่หมอวฤก ~ ๘๗ ขอบคุณมากค่ะ  เป็นเกร็ดความรู้สำหรับผู้มาเยือนท่านอื่น ๆ รวมถึงศาลาไทยด้วยค่ะ พี่รสา ~ ๙๔ หายไปพักใหญ่  คิดถึงจังค่ะ  กลับมาก็เขียนโคลงมาร่วม  ดีใจจริง ๆ รอว่าเมื่อไหร่จะกลับแผ่นดินแม่เสียทีนะคะ ช้องนาง ~ ๙๖ เด็กชายไมตรี ~ ๙๗ ขอบคุณตรีเพชรประดับบทที่นำมาร่วมกระทู้ด้วยค่ะ คุณไทรแก้ว ~ ๙๙ "หมื่น...เถิกหมื่นล้านพา     น้อยจิต" เล่นเอาศาลาไทยแอบคลำหัวตัวเองป้อย ๆ เลยค่ะ พี่ปะหล่อง ~ ๑๐๑, ๑๐๙ ขอบคุณมากค่ะ  ได้รับข้อความทางอีเมล์เรียบร้อยแล้ว  จะรีบติดต่อกลับไปนะคะ หวานใจจังงัง ~ ๑๐๔, ๑๑๒ อยากเขียนโคลงตอบ  แต่คงต้องรอไว้ก่อนนะจ๊ะ อาวลี ~ ๑๐๕ แจกงานหนูศออีกแล้ว  จะลองดูก็แล้วกันนะคะ คุณวิชชา ~ ๑๐๘ ขอบคุณอีกครั้งคราว  กำลังตั้งท่าจะไปร่วมกระทู้กลอนอยู่พอดี  ฝากถึงมิตรท่านอื่นด้วยเลยค่ะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2957754/W2957754.html อาเวทย์ ~ ๑๑๑ ต่อให้อาไม่อยากอยู่  หนูศอก็จะใส่โปรแกรมให้อยู่ค่ะ เอิ้ก ทีนี้ก็เหลือแต่ว่าเมื่อไหร่คุณรมย์ จะเปิดกระทู้ใหม่ให้นะคะ  ศาลาไทยอาจจะห่างหายไปบ้างคงไม่ว่ากัน พักนี้อย่างที่บอก ทำอะไรไม่ค่อยเข้าตากรรมการ  ไม่ใคร่ถูกใจคนอยู่บ่อย ๆ ... หยุดทำเสียบ้างคงจะดีกว่า ... จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 15 ส.ค. 47 04:45:13 ]

ความคิดเห็นที่ 117 เจ้าหมูรมย์ ไหงยังไม่เปิดกระทู้อ่ะ  ให้สาวๆรอนานนะไม่ดีน่ะ...  หรือหากมีปัญหาไรปรึกษาได่น่ะ  แต่ค่าปรึกษา  ชม  ล่ะ   500  เนี่ยราคากันเออองน่ะเนี่ย  หุหุหุ... จากคุณ : กรวี - [ 15 ส.ค. 47 13:57:18 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ลิงค์กระทู้ใหม่ค่ะ อาศรมชาวโคลง  ภาค  ๑๐๑ ๏๏๏จินตนาการผ่านคู่โท๏๏๏http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2962103/W2962103 จากคุณ : กรวี - [ 15 ส.ค. 47 15:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ลุงเล็ก....ไม่อ๊าววววววววววววว ไม่เอางู จากคุณ : จังงัง - [ 15 ส.ค. 47 21:40:56 ]

ความคิดเห็นที่ 120 อาศรมชาวโคลง ภาค ๑๐๑ ๏ ๏ ๏ จินตนาการผ่านคู่โท ๏ ๏ ๏ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2962103/W2962103.html จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 23 ส.ค. 47 23:03:23 ]