น้อง
1.
ฟ้าพึ่งซาเม็ดฝนไปได้ไม่นาน แสงแดดอ่อน ๆ เริ่มจับทอที่ขอบฟ้าไกล เสียงนกนานาชนิดดังไปทั่วทิศ คนเฒ่า คนแก่ ชาย หญิงรวมแม้กระทั้งเด็กเล็กต่างถือตะกร้าเดินกันเป็นทิวแถวยาวเรื่อยไปจนจรดตีนดอย เมื่อถึงตอนนั้นหละทุกคนต่างแยกย้ายกันหาทางขึ้นตามแต่ใครจะสะดวกและเหมาะที่สุด ทั้งจะไม่มีใครยอมเดินตามหลังใครเหมือนเมื่อครู่ เพราะการขึ้นไปเก็บเห็ดนั้นถ้าหากว่าเดินกันเป็นแถว หรือเดินตามกันแล้ว คนที่อยู่หน้าที่สุดมักจะได้ก่อน และได้เห็ดที่สมบูรณ์ดี ส่วนคนที่เดินตามหลังถัด ๆ ไปก็มักจะได้เห็ดไม่ดี ไม่สวย ถูกเหยียบย่ำจนไม่สามารถนำไปทำอะไรได้หรือบางครั้งมักจะเป็นเห็ดมีพิษ
เช้าในวันที่ฝนพึ่งหยุดตกอย่างนี้ชาวบ้านถิ่นนี้มักจะตื่นแต่เช้าเป็นพิเศษแทบทุกคน เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าเห็ดชอบออกได้ดีในบรรยากาศเช่นนี้ และมันก็ไม่เคยสร้างความผิดหวังให้ใครเลย และถ้าหากมีชาวบ้านคนใดที่โชคดีอยู่สักหน่อยก็จะได้เจอ ดงเห็ดโคน ที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีกเมื่อนำไปขายในตลาด มันก็ดูคุ้มค่ากับการที่ต้องตื่นแต่เช้าโดยแทบไม่ได้ลงทุนอะไรมากนัก นอกจากเดินและใช้สายตาที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์เท่านั้นเอง
พอเริ่มสายหน่อยหลังจากเก็บเห็ดเสร็จแล้ว ชาวบ้านก็จะพากันไปที่ลำคลองสายเล็ก ๆ ที่ไหลอยู่หน้าหมู่บ้านเพื่อไปจับปลา ยกยอ ทอดแห หรือช้อนกุ้ง ตามแต่ว่าใครจะสามารถหาด้วยวิธีการไหนได้สะดวกและถนัดกว่ากัน แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นกว่าที่ทุกครอบครัวจะได้กินข้าวเช้าก็เกือบ ๆ เที่ยงวันนั้นเลยทีเดียว
ฝ้าย
ฝ้ายเอ๊ย เสียงของชายชราดังขึ้นหน้าบ้านไม้เก่าชั้นเดียวที่ปลูกอย่างง่าย ๆ ติดตีนดอย
มีอะไรหรือพ่อหลวงถึงมาเรียกแต่เช้า ผู้ถูกเรียกตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เล็กน้อย
เพียงครู่เดียวประตูไม้บานเก่าก็เปิดออก แล้วใบหน้าของเด็กสาวแรกรุ่นก็โผล่ออกมา
ข้าจะขึ้นไปเก็บเห็ดบนดอย เอ็งจะไปกับข้าไหม ชายชราถามพลางดีดยาสูบที่มวนด้วยใบตองแห้งลงข้างแปลงผักที่ปลูกอยู่ริมรั้วบ้าน เห็นเขาว่าเห็นโคนออก ผู้สูงวัยกว่ากล่าวสำทับ แกรู้ดีว่าถ้าหากหลานรู้เรื่องเห็ดโคนออกเมื่อไร เธอก็มักจะตามแกไปด้วยทุกครั้งโดยไม่อิดออด เพราะนั่นหมายถึงว่าหลานสาวจะมัวแต่มองหาเห็ดโคนจนไม่สนใจเห็ดอื่น ๆ เลย
พ่อหลวงไปคนเดียวเถิด วันนี้ฉันจะไปรับแม่กับน้องและว่าจะเลยไปดูพ่อหน่อย เธอกล่าวก่อนจะนั่งยอง ๆ ลงที่หน้าประตู พร้อมกับยกมือขึ้นขยี้ตาแรง ๆ สองสามครั้ง เพื่อขับไล่ความงัวเงีย
อันที่จริงเธอเองก็นึกเสียใจอยู่ลึก ๆ เหมือนกันเรื่องเห็ดโคน ถ้าไม่ติดว่าจะไปรับแม่ที่จะต้องออกจากโรงพยาบาลพร้อมน้องที่พึ่งคลอดแล้วละก็เธออาจจะมีค่าขนมกินไปอีกหลายมื้อโดยไม่ต้องไปแบมือขอเงินแม่ก็ได้
ชายชราพยักหน้าเหมือนพึ่งจะนึกได้ว่าลูกสาวแกนั้นอยู่ที่โรงพยาบาล อีกทั้งลูกเขยก็นอนป่วยกระเสาะกระแสะอยู่ที่เดียวกัน
อย่างนั้นข้าไปก่อนนะ ฝากดูพ่อแม่และหลานใหม่แทนข้าด้วยหละ ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย พูดจบก็ก้าวเดินช้า ๆ อ้อมรั้วบ้านมุ่งสู่ดอย ทิ้งไว้แต่เสียงมีดพร้าตัดกิ่งไม้ที่ยื่นก้านแตกกิ่งขึ้นรกครึ้มระหว่างทางให้ได้ยินเป็นระยะ ๆ
เธอเดินออกมายังบริเวณแปลงผักที่ปลูกอยู่ริมรั้วบ้านสำรวจดูดอกผลที่เธอลงมือปลูกไปเมื่อต้นเดือนที่แล้ว ตอนนี้ต้นมะเขือ พริก ตำลึง ฟักทอง และผักต่าง ๆ ที่เธอปลูกต่างแตกยอดชูใบเขียวสะพรั่งทั่วแปลง เธอยิ้มให้กับผลงานของตัวเองนิดหนึ่งก่อนจะเดินเลยไปที่รั้วหน้าบ้านที่ปลูกดอกดาวเรือง กุหลาบ และดอกไม้ต่าง ๆ เอาไว้ ต้นไม้ตรงนี้ก็ไม่ต่างไปจากแปลงผักนัก มันออกดอกสีแดง ส้ม เหลืองสลับกันไปจนสุดรั้วบ้าน แถมบางครั้งยามอากาศเย็น ๆ มันก็มักจะส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยมาให้เธอได้สูดดมพอชื่นใจอยู่บ่อย
ถึงตอนนี้เธออดที่จะนึกไปถึงคำชมของแม่ไม่ได้ที่ว่า เอ็งน่ะมันคนมือเย็นปลูกอะไรก็ขึ้นก็งาม แม่มักจะกล่าวชมเธอเช่นนี้เสมอ ๆ เมื่อเห็นเธอปลูกอะไร ๆ ก็ออกดอกให้ผลได้ยล-ชิมทุกครั้งไป
เฮ้ย
ฝ้ายไม่ขึ้นไปเก็บเห็ดด้วยกันหรือวะ เสียงของเด็กหญิงในวัยเดียวกันดังขึ้นจากกลุ่มชายหญิงที่เกาะกลุ่มกันเดินผ่านหน้าบ้านเธอเพื่อมุ่งไปยังดอย
ไม่หละ วันนี้จะไปรับแม่กับน้องที่โรงพยาบาล เธอตะโกนบอก
น้องเอ็งผู้หญิงหรือผู้ชายวะฝ้าย เสียงของหญิงวัยกลางคนร้องถามมาจากในกลุ่ม
หญิง เธอตอบพร้อมกับคิดถึงเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เนื้อตัวสีแดงอมชมพู ผมดำแต่ไม่ดกนอนหลับตาพริ้มอยู่ในห้องรวมกับเด็กแรกเกิดที่พึ่งคลอดออกมาใหม่ ๆ
ดี
ผู้หญิงนะซิดีเลี้ยงง่ายไม่เหมือนผู้ชายหรอก อ้ายผู้ชายน่ะพอเลี้ยงโตหน่อยก็ริอาจเที่ยวผู้หญิง ติดยา ติดเหล้า ตีกันมั่งให้เดือนร้อนไม่วายเว้น เอ็งไม่ต้องไปดูที่ไหนไกลหรอกฝ้ายเอ๋ย
ดูตัวอย่างในหมู่บ้านเรานี่ก็พอแล้วจะมีเด็กผู้ชายดี ๆ สักกี่คนเชียว มันเป็นอย่างที่ข้าว่าไหมล่ะ
หา หญิงวัยกลางคน ๆ เดิมพูดขึ้นพร้อมกับพยักหน้าให้เธอเหมือนเป็นเชิงขอความเห็นในเรื่องที่หล่อนพูดอยู่
เธอยิ้มและพยักหน้าให้แทนคำตอบก่อนจะก้มลงเด็ดดอกดาวเรืองและดอกกุหลาบสองสามดอกก่อนจะเดินเข้าบ้าน
สาธุ
หลวงพ่อขอให้แม่ พ่อ น้อง และทุกคนสบายดีด้วยเถิด เธอยกดอกไม้ขึ้นจรดกลางหน้าผากก่อนจะวางมันลงตรงหน้าพระพุทธรูปไม้ขนาดย่อมบนหิ้ง
2.
ตึกไม้สองชั้นฝังตัวอยู่ในสภาพเก่า ๆ ยามสายของวันนี้คราคร่ำไปด้วยผู้คนไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ สาวหนุ่มหรือคนแก่ที่ต่างนั่งบ้างยืนบ้างเบียดเสียดเพื่อรอคอยฟังชื่อของตัวเองจากลำโพง ใบหน้าของทุกคนล้วนถูกตบแต่งด้วยความมัวหมองเนื่องจากความเจ็บป่วยของโรคภัยที่ตนได้รับ
เธอเดินขึ้นบันไดที่อยู่ระหว่างตัวตึกไปยังชั้นสอง เดินเลี้ยงขวาหน่อยก็ถึงห้องโถงใหญ่ซึ่งกว้างมากพอที่จะบรรจุเตียงคนไข้ได้หลายสิบเตียง
ทันทีที่เด็กหญิงเดินเข้าห้องผู้ป่วยรวมได้เพียงครู่เดียวเธอก็รู้สึกเหม็นกลิ่นที่อบอวนไปทั่วห้องอย่างรุนแรงทั้งกลิ่นเหงื่อไคร้ กลิ่นปฏิกูล กลิ่นยาคละคลุ้งไปทั่วจนเธอเกือบสำรอกเอาสิ่งที่พึ่งกินไปเมื่อเช้านี้ออกมา ดีที่เธอรีบวิ่งมาถึงหน้าต่างด้านในสุดก่อน เธอชะโงกหน้าออกนอกหน้าต่างสูดลมหายใจลึก ๆ อยู่เพียงครู่เดียวก็รู้สึกว่าอาการเริ่มดีขึ้นจึงค่อย ๆ หันกลับมามองยังเตียงด้านหลังที่ผู้เป็นแม่นอนหลับอยู่
เธอนั่งลงบนเก้าอี้ข้าง ๆ เตียงปรายตามองดูน้ำเกลือจากขวดที่หยดเป็นจังหวะช้า ๆ ผ่านจากขวดสู่สายยางก่อนจะค่อย ๆ ไหลสู่หลังมือแม่
แล้วก็อดสะท้อนใจอยู่ลึก ๆ ไม่ได้กับภาพที่เห็น เธออยากถาม อยากรู้ว่าแม่เป็นอย่างไรบ้างในเวลานี้เจ็บ หรือยังปวดที่ไหน ตรงไหน อย่างไร
ในความรู้สึกของเธอ แม่เป็นผู้หญิงแกร่งและมีความอดทนสูง นับตั่งแต่จำความได้เช้ามาเธอก็เห็นแม่ออกไปเก็บเห็ดบนดอย พอสายลงมาหน่อยก็ไปจับปลาถ้าได้ปลาตัวใหญ่ก็ทำกินเป็นกับข้าว แต่ถ้าได้ปลาซิว ปลาสร้อยแม่ก็จะหมักทำปลาร้าใส่ไหเพื่อไว้กินวันหน้า เสร็จจากการหาปลาแม่ก็จะให้ข้าวหมู รับจ้างทำไร่ สวนแล้วแต่ว่าใครจะมีอะไรให้แม่ทำแม่ก็จะรับทำหมด ดูเหมือนว่าวันทั้งวันแม่จะหมกหมุ่นอยู่กับงานและงาน แต่กระนั้นก็เถิดมันไม่ได้ทำให้เวลาของแม่ที่มีเพื่อเธอลดน้อยเลย แม่มักจะกลับมากินข้าวเย็นดูแลอบรมเธอได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องเสมอ
นี่ถ้าพ่อไม่มาป่วยไปอีกคนแม่ก็คงจะไม่ลำบากขนาดนี้ เพราะเมื่อตอนที่พ่อไม่ได้ป่วยพ่อก็แบ่งเบาภาระต่าง ๆ ในบ้านได้มากโขอยู่เหมือนกัน แม้ว่าพ่อจะกินเหล้าเกือบทุกวัน แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่พ่อจะหยุดทำงานอันเนื่องมาจากกินเหล้าเลย นอกเสียจากว่าพ่อจะป่วยจริง ๆ
คิดมาถึงตอนนี้ร่ำ ๆ น้ำตาจะไหลออกมา แต่เธอก็พยายามฝืนเอาไว้ เธออยากเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งเหมือนแม่ เธอย้อนทบทวนว่ามีครั้งไหนบ้างที่เธอเคยเห็นแม่ร้องไห้ ยิ่งย้อนเท่าที่ความทรงจำที่เธอมีเกี่ยวกับแม่ก็ได้คำตอบในใจว่าไม่เคยเลยที่แม่จะร้องไห้ให้ใครเห็นแม้แต่ลูกตัวเอง
แต่สัมผัสหนึ่งที่เธอรับรู้ได้ไม่ยากเมื่อแม่มีความทุกข์ก็คือดวงตาของแม่คู่นั้นที่เหม่อลอยไปบนท้องฟ้า บ่อยครั้งที่เธอเห็นแม่นั่งอยู่ริมขอบหน้าต่างแล้วมองเหม่อออกไป เธอรับรู้ได้ทันทีว่าแม่กำลังมีความทุกข์วิตกหรือกังวลใจไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่งขึ้นมา
ฝ้ายมาเมื่อไร เสียงเอื่อย ๆ ของหญิงวัยกลางคนที่นอนอยู่บนเตียงถามขึ้น
เด็กหญิงสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงเรียกนั้นอาจเป็นเพราะความคิดของเธอกำลังโลดแล่นอยู่ในห้วงของความเศร้า
แม่มักจะเป็นเช่นนี้เสมอ ๆ หลับง่าย ตื่นง่าย อยู่ง่าย กินง่ายดู ๆ แม่ต่างกับพี่ น้องคนอื่น ๆ ของแม่มากอย่างไม่น่าเชื่อว่าเกิดจากท้องเดียวกัน พี่ น้องของแม่ล้วนแต่เป็นคนหัวสูงทั้งนั้นอยากได้โน่น อยากได้นี่ถึงขนาดเป็นหนี้เป็นสินคนอื่นมาเพื่อที่จะได้สิ่งของตามที่ตนอยากได้มาสนองตัญหาของตัวเองก็ยอม คิดอีกทีอาจจะเป็นไปได้ที่ว่าแม่เป็นพี่คนโตจึงมีนิสัยเช่นนี้ แม่มักจะเล่าถึงเรื่องราวในอดีตที่แม่เลี้ยงน้อง ๆ ให้เธอฟังอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเสียสละอะไรต่าง ๆ หรือแม้กระทั้งถูกน้อง ๆ เอาเปรียบก็มีมาก แต่ถึงกระนั้นแม่ไม่เคยแสดงความน้อยเนื้อต่ำใจอะไรให้เธอรู้สึกเลย แถมบางเรื่องยังเป็นเรื่องที่สนุกขบขันสะอีก
เห็นแม่หลับฉันเลยไม่อยากปลุก เธอพูดพลางยื่นมือไปลูบไล้แขนแม่ที่เหยี่ยวย่น และหยาบกร้านไปมา แม่เป็นงั้ยบ้าง
ดีขึ้นบ้างแล้วหรือยัง เธอถามอย่างอ่อนโยนทั้งน้ำเสียงและแววตา ในใจจุกตันไปด้วยน้ำที่พร้อมจะทะลักไหลออกมาจากสองตา แต่ก็ใช้ความพยายามอย่างที่สุดเพื่อสะกดมันเอาไว้ เธอไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจไปมากกว่านี้
ผู้ถูกถามยิ้มและพยักหน้าให้แทนคำตอบ
พ่อหลวงอยู่บ้านหรือ
ไม่อยู่
ไปดอยเก็บเห็ด
พ่อหลวงว่าเห็ดโคนออก
แล้วทำไมไม่ไปกับพ่อหลวงล่ะ จะได้เอาไปขายที่ตลาด ผู้เป็นแม่ถามพลางนึกในใจว่าถ้าไม่ได้มานอนคลอดลูกอย่างนี้แล้วล่ะก็ป่านนี้คงได้เดินเก็บเห็ดจนเพลิน หรือไม่ถ้าโชคดีได้เห็ดมากก็คงอยู่ที่ตลาดร้องตะโกนขายเห็ดแล้วก็ได้ เพราะนั่นหมายถึงนอกจากลูกสาวจะได้กินอาหารรสชาดิใหม่ที่ไม่ต้องหาจากในลำคลองแล้ว ก็คงได้กินขนมที่ชอบบ้างหรือไม่ก็พอเหลือมาเป็นค่ารักษาพยาบาลผู้เป็นสามีก็ได้ - - นางคิด
มารับแม่กับน้องน่ะเลยไม่ได้ไป แล้วกะว่าจะเลยไปดูพ่อด้วย เธอบอกแววตายังคงจ้องอยู่บนใบหน้าซีดขาวราวไข่ต้มของผู้เป็นแม่
อึม
เดี๋ยวไปดูพ่อก่อนนะ
สักพักพยาบาลจะมาถอดสายน้ำเกลือให้แม่แล้วเราก็กลับได้ ตอนนี้ไปดูพ่อเขาก่อนเถิด เป็นอย่างไรบ้างแล้วก็ไม่รู้ แม่ไม่ได้ไปดูมาหลายวันแล้ว นางคิดถึงสามีที่นอนป่วยอยู่ที่ตึกข้าง ๆ เขานอนป่วยมาหลายอาทิตย์แล้วหมดค่ายา ค่ารักษาไปก็ไม่น้อยไม่มีที่ท่าว่าจะดีขึ้นหรือทุเลาลง พลางคิดไปถึงบ้านที่เอาไปจำนองเพื่อมารักษาตัวเขา และเอามาเป็นค่าคลอดลูกของนาง นี่ก็ใกล้วันนัดจ่ายค่ายาหมออีกแล้วไม่รู้ว่าจะไปหาเงินมาจากที่ไหน มองซ้ายหรือขวาก็มืดพอ ๆ กัน ไหนจะเรื่องของใช้ของลูกที่เกิดใหม่ ยิ่งคิดยิ่งปวดหัวแทบอยากจะนอนตายเสียที่นี่
ตอนนี้เลย
ไปเถิดไปดูพ่อเขาได้แล้วเดียวแม่จะตามไป นางย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นว่าลูกสาวยังไม่ทำตาม
เดี๋ยวไปเจอกันข้างล่างนะแม่ เธอเอ่ยปากบอกก่อนที่จะเดินอ้อยอิ่งจากไป
จากคุณ :
แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
- [
13 ส.ค. 47 11:24:39
]