CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ควายน้อยกลอยใจ2

    ควายน้อยกลอยใจ

    ....โป๊ก.... กระเป๋านักเรียนใบใหญ่ ถูกเจ้าของเอาฟาดหัวคนที่ฟุบหลับอยู่บนโต๊ะ
    “ โอ้ย ไอ้เก๊กฮวย เห็นหัวฉันเป็นกลองยาวรึงัย” ศศิชางัวเงียตื่นขึ้นมา ว๊ากใส่คนหน้าทะเล้น
    “ แล้วแกเป็นคนหรือเป็นผีว่ะ วันๆเอาแต่นอน”ฝ่ายชายไม่ยอมแพ้
    “ ถ้าฉันเป็นผีจริงๆนะ จะมาหลอกแกคนแรกเลย คอยดู” ก่อนที่จะมีมวยคู่สำคัญเกิดขึ้น กรรมการห้ามมวยเสียงหวานก็ผ่านมาพอดี
    “ พี่ไข่ตุ๋นคะ” น้องน้ำตาลหญิงสาวร่างสมส่วน นักกีฬาว่ายน้ำหญิงประจำโรงเรียน และแขกประจำห้องเดินมา
    “ ว่างัยคะ น้ำตาล” มือที่กำลังจะดึงเปียศศิชาชะงักทันที
    “ น้ำตาลแข่งว่ายน้ำประจำเขตได้ที่ 1 ค่ะ”
    “ จริงๆ เหรอเก่งจังเลย ” คนตัวสูงขยี้หัวรุ่นน้องเสียงหวาน
    “ ก็เพราะมีพี่ไข่ตุ๋นคอยฝึกให้นั่นแหละค่ะ ”
    “ ชมกันไปชมกันมาน่ารักจังเลยนะคะ ”ศศิชาเดินมาร่วมวงด้วย หวังจะหาคำพูดแสบๆ มาพูดให้นายเก๊กฮวยหน้าแตกต่อหน้าสาวสวยที่แอบปลื้มเพื่อนอยู่
    “ น่ารักอยู่แล้วล่ะคะ น้องพูดเพราะ ไม่ด่าแว้ดๆเหมือนแก”
    “ อ๋อ! แน่นอนอยู่แล้ว น้องน้ำตาลเค้าชอบแกส่วนฉันน่ะเกลียดแก ”ศศิชาผลักอกคนปากไม่ดีจนเกือบเซถลาไปชนสาวน้อยช่างตื้อหน้าห้อง
    “ ขอโทษนะน้ำตาล ” ชายหนุ่มมองร่างเล็กที่เดินไปหลับต่ออย่างเข่นเขี้ยวและ หันมาขอโทษ คนสวยที่เอาแต่ยืนหน้าแดง
    “ ไม่เป็นไรค่ะ ว่าแต่...พี่ไข่ตุ๋นมีรางวัลให้น้ำตาลมั้ยน้า ” คนสวยเอียงคอพูดคุย คนอื่นอาจจะมองภาพการออดอ้อนของน้องน้ำตาลว่าน่ารักแต่สำหรับศศิชาอยากจะชกคอที่เอียงๆให้ไม่มีโอกาสได้กลับมาตรงอีกเลย
    “ น้องสาวทั้งคน แข่งกีฬาได้ที่ 1 ทำไมจะไม่ได้ แล้วอยากได้อะไรละคะ”
    “ น้ำตาลอยากกินไอติม ”
    “ โอเค! เลิกเรียนแล้วพี่ไปหาที่ห้องนะ ” คนสวยยิ้มกว้างดีใจแล้วเดินกลับไปที่ห้อง
    ศศิชาบอกไม่ให้พ่อมารับเพราะอยากจะแก้เซ็งด้วยการเดินซื้อซีดีที่เธอเล็งไว้มานาน มันเป็นเพลงที่กำลังฮิตอยู่ตอนนี้ และเธอก็โปรดปรานมันมากด้วนสิ เธอเริ่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น ผ่านหน้าร้านไอศกรีมมีชื่อร้านหนึ่ง แล้วตาก็ไปสะดุดกับภาพชายหนุ่มที่เธอคุ้นเคยนั่งทานไอศกรีมกับสาวน้อยร่างบางสมส่วนคนเดียวกับเมื่อเย็น ท่าท่างหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างมีความสุข ต่างจากเวลาที่คุยกัยเธออย่างสิ้นเชิง ศศิชาจึกจักในลำคอบ่งบอกว่าเธอรำคาญใจ ทันใดนั้น ขาสั้นๆก็ก้าวยาวๆ ไปที่กระจกใสๆ ตำแหน่งเดียวกับตำแหน่งตัวต้นเหตุ แล้วมือเล็กๆ ก็เคาะกระจกลงไปไม่ยั้ง
    ...ก๊อก ก๊อก ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...
    “ แหวะ!จะอ๊วก”คู่หวานตรงหน้ามองเธอเหมือนอยากจะถามว่า ..เป็นไรมากมั้ย..
    แต่ในความรู้สึกของชายหนุ่มกลับมีอะไรบางอย่างที่ชื่อว่า *ความสงสัย* ก่อตัวขึ้นและยากที่จะหาคำตอบ

    อากาศวันนี้ช่างเย็นสบายสมกับเป็นปลายฝนต้นหนาวจริงๆ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้อารมณ์ของ
    ศศิชาเย็นเหมือนอากาศเลยสักนิด กลับขุ่นมัวลง ยิ่งนาฬิกาใกล้บอกเวลาเลิกเรียนมากขึ้นเท่าไหร่ อารมณ์หงุดหงิดก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นเท่านั้น เพราะเธอรู้ว่าจะต้องมีหน้าหวานๆ โผล่เข้ามาเรียก
    พี่ไข่ตุ๋นคะช่วยตรงนี้นิด พี่ไข่ตุ๋นขาช่วยตรงนั้นหน่อย ฟังแล้วเซ็งเป็นบ้า เฮ้ย! นั่นงัย
    มัน มา อีก แล้ว!
    “ พี่ไข่ตุ๋นขาช่วยสอนการบ้านเลขให้น้ำตาลหน่อยสิคะ”
    “ เอ่อ... พี่ไม่เก่งวิชานี้หรอก สู้คนนู้นไม่ได้ ” พูดพลางหันหน้าไปหาคนนู้น
    ชายหนุ่มนึกหมั่นไส้ หน้างอๆ มือใหญ่ดึงเปียเล็กๆ จึงทำให้ คนนู้น เซถลาไปตามแรงดึง พร้อม
    กับหันควับขว้างค้อน และแว้ดใส่
    “ พ่อมารับแล้วเว้ย ขอโทษนะคะน้องน้ำตาลไว้วันหลังละกัน ” ประโยคแรกจงใจพูดกับคนมืออยู่ไม่สุข
    “ ไม่เป็นไรค่ะ พี่ผักบุ้งเดี๋ยวน้ำตาลให้พี่ไข่ตุ๋นสอนให้ก็ได้” สาวน้อยยิ้มหวานเหมือนกับจะบอกว่าขอบคุณค่ะพี่บุ้งที่เปิดโอกาสให้น้ำตาล
    “ โอเคค่ะ ถ้างั้นพี่ขอตัว ” พูดจบ ศศิชาหยิบกระเป๋า เดินปึงปังออกไป ตามมาด้วยกริยาที่ลุกลี้ลุกลนของนภัส
    “ เฮ้ย ! รอเดี๋ยว...ไรว่ะ พี่ไปก่อนนะน้ำตาล ” นภัสทำกริยาอย่างเดียวกับศศิชา ทำเอาสาวหวานยิ้มเก้อ ค้างไปซะอย่างนั้น
    “ แกจะรีบไปไล่ควายที่ไหนว่ะ ” ขายาวๆ วิ่งไล่ตามคนขาสั้น แทบไม่ทัน
    “ เรื่องของฉัน แล้วแกไม่ไปสอนเลขน้องน้ำตาลสุดสวาทเหรอ ”
    “ แกก็รู้ว่าฉันไม่เก่งเลข ขืนสะเออะไปสอนอายตายเลย ”
    “ ที่แท้ก็กลัวอายสาวนี่เอง ”
    “อย่าพูดมากน่า แกรีบๆเดินเลยฝนลงเม็ดแล้ว” ชายหนุ่มเอากระเป๋านักเรียนของตัวเองบังฝนให้คนหน้าบูด โดยไม่ห่วงว่าตัวเองจะเปียกหรือไม่
    “ แล้วนี่เดินตามมาทำไม”
    “ ใครบอกว่าฉันเดินตามแกมา ฉันจะกลับบ้านต่างหาก” กระเป๋าที่บังฝน ถูกเอามาตีหัวแต่คราวนี้เบากว่าทุกครั้ง
    “ ก็กลับไปสิ ”
    “ ไหนว่าพ่อมารับแล้ว ” สองร่างหยุดยืนพร้อมกันที่ประตูหน้าโรงเรียน
    “ ไหนว่าจะกลับบ้าน ” คนตัวเล็กย้อนกลับทันที
    “ ฝนมันตก เดี๋ยวแกจะไม่สบาย ฉันต้องอยู่เอากระเป๋าบังฝนให้แกก่อน”
    “ ขอบใจนะ” เป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกันมาที่เธอพูดดีๆกับเค้า
    “ พอดีพรุ่งนี้มีสอบเลข ถ้าแกเป็นอะไรไป ฉันจะลอกใคร”น่านไม่มีทางที่คนอย่างนายเก๊กจะทำอะไรโดยไม่หวังผล
    “ไอ้เก๊ก...” ก่อนที่ศศิชาจะหลุดปากโต้ตอบอะไรออกไป รถยุโรปคันคุ้นตาก็เลี้ยวเข้ามาจอดเทียบฟุตบาทตรงหน้าประตูโรงเรียนพอดี
    “ ฝากไว้ก่อนนะแก ” ศศิชาเข้นเขี้ยว และเดินไปที่รถพ่อ
    “ เพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆ ใช่นายเก๊กฮวยรึเปล่าลูก” พ่อถามทันทีที่ประตูรถฝั่งลูกสาวปิดลง
    “ค่ะ” ศศิชามองคนตัวโตที่ไม่ยอมเดินไปไหนซะที จะรอให้ฝนสาดจบเปียกจนเปียกทั้งตัวหรือไง หรือ อยากเป็นพระเอกมิวสิค
    “ ฝนตกอย่างนี้แม่ว่าเราไปส่งเค้าที่บ้านดีกว่ามั้ยจ๊ะ ลูกผัก ” แม่เธอย้ายไปทำงาน
    ข ส ม ก ตั้งแต่เมื่อไหร่
    “ ไม่ต้องหรอกค่ะ บ้านเค้าอยู่ไกล ”
    “ ยิ่งไกลยิ่งหน้าเป็นห่วง ลูกผักลงไปเรียกเพื่อนเถอะ ” แม่บังคับทันที
    “ ค่ะคุณแม่ ” ศศิชากัดฟัน จำยอมทำตามคำสั่งของแม่ เพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยขัดใจแม่ได้เลยซักครั้ง จึงต้องกวักมือเรียกให้นภัสเดินมาหาที่รถ
    “ พ่อเราจะไปส่ง ” ศศิชาหวังว่าจะได้ยินคำปฏิเสธ
    “ ขอบคุณครับ ” นภัส เดินขึ้นมานั่งที่รถทันทีโดยไม่มีอาการเคอะเขิน เค้าแนะนำตัวเองกับ พ่อ-แม่ เธอเองโดยไม่สนใจเธอ
    “ เวลาอยู่ที่โรงเรียนลูกผักเป็นยังงัยบ้างจ๊ะ ลูกไข่ตุ๋น” แล้วแม่เธอเป็นอะไร รู้จักเค้าไม่ถึง สิบนาที ก็ไปนับเค้าเป็นลูกซะแล้ว
    “ ไม่เคยโดดเรียน ตั้งใจเรียน ไม่เคยกินขนมในห้อง ไม่เคยอ่านการ์ตูนโดยเฉพาะวิชาเลข ผักบุ้งเค้าจะตั้งใจเรียนเป็นพิเศษที่สำคัญไม่เคยหลับในห้องเลยครับ ”
    “ ขอบใจจ๊ะ ” ศศิชาระงับอารมณ์นับ 1-100 ก็ที่ไอ้เก๊กพูดออกมามันตรงข้ามกับความเป็นจริงทุกอย่างเลยนี่นา
    “ ชอบอาร์เซนอลหรอ ”สติ๊กเกอร์ทีมสุดโปรดของพ่อเธอแปะอยู่กลางกระเป๋านักเรียนเค้า
    “ ใช่ครับ แต่หาคนที่ชอบทีมเดียวกันไม่ได้ ผักบุ้งเค้าชอบแมนยู ”
    “ เด็กผีน่ะซิ พ่อนะเหนื่อยจะตาย เวลาเชียร์บอลกับยัยบุ้ง ”
    “ แปลว่าคุณพ่อชอบทีมเดียวกับผมหรอครับ ดีใจจัง ” มัน...ไอ้เก๊ก มันกำลังทำคะแนนแย่งความรักจากพ่อไป
    “ ดีๆ เจอคอบอลทีมเดียวกัน คืนนี้ก็จะมีเตะนี่ ”
    “ หรอครับ ผมเองก็จำไม่ค่อยได้ ผักบุ้งมะรืนนี้แมนยูมีเตะจำได้มั๊ย ” คุยกับพ่อเธอ และประโยคหลังยังเผื่อแผ่มายังเธอ
    “ เออ จำได้เว้ย ” ในที่สุดขีดจำกัดความอดทนของศศิชาก็หมดลงทันที ทำไมเธอต้องฝืนใจพูดดีๆ กับไอ้เก๊กฮวยด้วย
    “ ลูกผัก ” เสียงแข็งๆ ของแม่ก็ดังมาจากด้านหน้ารถ
    “ ขอโทษค่ะคุณแม่ ”ศศิชายิ้มแหยๆ อยากตบปากไอ้เก๊กฮวยแรงๆ
    “ ทีหลังผักบุ้งก็อย่าลืมตัวอีกนะ ” อ้าวเอาเข้าไป ไอ้เก๊กหันมาสมโรงสั่งสอนเธออีก
    “ เจ้าค่ะ คุยกันตามสบายนะคะ คุณพ่อ คุณแม่ คุณไข่ตุ๋น คุณหนูผักบุ้งจะนอน ”ศศิชาเอาหมอนปิดหน้าตัวเองแล้วพิงกระจก หารู้ไม่ว่าภาพนี้น่าเอ็นดูสำหรับคนข้างๆนัก ความจริงเธอก็ไม่ได้หลับหรอก แค่ขี้เกียจฟังไอ้เก๊กคุยกับพ่อแม่เท่านั้น
    ตลอดเวลาที่ศศิชาได้ยินเสียงคนสามคนคุยกัน เดี๋ยวก็มีเสียงจากทางหน้ารถหัวเราะ หรือบางทีก็เป็นเสียงหัวเราะของคนข้างๆ หน้าบูดๆ ของศศิชาภายใต้หมอนเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวและเธอก็ผล็อยหลับไปจริงๆ
    “ บุ้ง ” เสียงของพ่อปลุกให้ศศิชาตื่น
    “ อ้าว ถึงบ้านแล้วหรอคะ ” ศศิชางัวเงีย หันไปมองข้างๆ ซึ่งตอนนี้ว่างเปล่า
    “ พ่อไปส่งนายไข่ตุ๋นแล้วเห็นบุ้งหลับก็เลยไม่อยากปลุก ”
    “ น่ารำคาญ ไปซะได้ก็ดี ” ศศิชาย่นจมูก
    “ ขี้บ่น รีบไปอาบน้ำเลย เดี๋ยวไม่สบาย ” พ่อขยี้หัวเธอเบาๆ
    “ รับทราบค่ะ คุณพ่อ เฮ๊ย หายไปไหนว่ะ ” จังหวะที่ศศิชาก้าวลงจากรถ เธอเหลือบไปเห็นประตูรถซึ่งปกติจะมีรูปเธอแปะอยู่เต็มกระจก บัดนี้รูปตรงกลางได้หายไป....
    “ อะไรหายหรอลูก ร้องซะดังเชียว “
    “ กะ..... กะ..... ก็ รูปบุ้งอ่ะพ่อ รูปตรงกลาง ”
    “ ฮ่าๆๆ รูปนู้ดของลูกน่ะหรอ ” พ่อนึกถึงรูปลูกสาววัยแรกเกิดตอนกำลังอาบน้ำ
    “ แน้ พ่อแกล้งบุ้งใช่ม้า ” เธอพูดพร้อมกับยกนิ้วชี้หน้าพ่อ
    “ ก็แหม พ่อแค่เอาไปให้โมเดลลิ่งเอง ” พ่อพูดทั้งๆที่ ไม่รู้เหมือนกันว่ารูปมันหายไปไหน
    “ มีลูกสาวสวยก็อย่างงี้แหละน้า ” เธอลอยหน้าลอยตาตอบ
    “ ไปๆ อาบน้ำได้แล้ว ” พูดพร้อมกับรุนหลังลูกสาวจอมแสบที่กำลังจะอ้าปากพูดไม่หยุด

    จากคุณ : mkสุกี้ - [ 15 ส.ค. 47 16:12:12 A:203.118.82.175 X: ]