CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ***มหาสงครามแอตลีเซีย****บทที่ 23 ยกแรก***

    บทที่  23  ยกแรก

                       ธงสีน้ำเงินผืนใหญ่โบกสะบัดอยู่เหนือกองทัพที่ริมแม่น้ำยาไซก้า  กษัตริย์หนุ่มนั่งอยู่บนหลังม้าอย่างสงบเงียบแต่ในใจกำลังลิงโลดเพราะพระองค์เฝ้ารอเวลานี้มาช้านาน  เวลาที่จะได้เผชิญหน้ากับศัตรูคนสำคัญ  กษัตริย์อาเรสผู้สังหารพระบิดาของพระองค์เมื่อหลายสิบปีก่อน

                          นับแต่ที่กษัตริย์เฮอร์มีซิสได้ครองราชย์เมื่อเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมาสถานการณ์ในแอตลีเซียก็ดูจะสงบลงไป  ทั้งนี้เป็นเพราะทั้งสองฝ่ายต้องใช้เวลาในการบำรุงกองทัพและจัดเตรียมเสบียงเพื่อการรบในระยะยาว  มันจึงกลายเป็นช่วงสูญญากาศของสงครามที่ความสงบเป็นเพียงการรอเวลาให้ทัพทั้งสองกลับมาปะทะกันอีกครั้ง  ซึ่งก็คือวันนี้

                        หลังจากเฝ้ารอดูว่าฝ่ายตรงข้ามจะโจมตีพระองค์หรือไม่อยู่เป็นเวลานานโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นกษัตริย์เฮอร์มีซิสก็ตัดสินใจที่จะยกทัพข้ามแม่น้ำยาไซก้าไปยังทุ่งราบกาตาบันเพื่อทำการรบกับกษัตริย์อาเรสเป็นครั้งแรก  อย่างน้อยที่สุดในวันนี้หากพระองค์ไม่อาจเอาชนะได้ก็จะเป็นโอกาสวัดฝีมือของกษัตริย์อาเรสในการคุมทัพที่ว่ากันว่าเป็นผู้ชำนาญการรบแบบพยุหยุทธ

                         จาเกลีนขยับม้าของตนเข้ามาใกล้ ๆ กับอาชาสีเลือดของเจ้าเหนือหัวอย่างช้า ๆ  เขารู้สึกเป็นห่วงกับการออกรบขององค์กษัตริย์แม้จะไม่ใช่สมรภูมิแรกของพระองค์ก็ตาม  เขาเชื่อมั่นว่าพระองค์จะสามารถทำได้เช่นทุกครั้งที่ผ่านมาแต่สิ่งที่ต่างออกไปในวันนี้คือการรบในที่ราบซึ่งเรียกได้ว่ายังไม่เคยเกิดขึ้นจริง ๆ ในสงครามตลอดสามปีมานี้  

                       ทุกศึกที่ผ่านมากลอุบายของจาเกลีนจะสามารถช่วยให้ฝ่ายของตนกำชัยชนะได้อย่างไม่ยากเย็นนัก  แต่ในการรบบนสถานที่ว่างโล่งเช่นนี้ทำให้กลอุบายต่าง ๆ ไม่อาจถูกเลือกใช้ได้มากนัก  มันจึงเป็นการรบที่จะชนะกันด้วยยุทธวิธีทางทหารอย่างแน่นอน  ซึ่งสิ่งนี้เองที่ทำให้เขารู้สึกกังวลอยู่ในใจลึก ๆ เพราะเป็นสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามชำนาญ

                       จาเกลีนสูดลมหายใจเบา ๆ ก่อนจะกล่าวเตือนเจ้านายของตนอีกครั้ง  “ขอให้พระองค์ทรงพระทัยเย็น  กษัตริย์อาเรสชำนาญพื้นที่และการรบเช่นนี้  หากพระองค์ผลีผลามอาจตกอยู่ในอันตรายได้และที่สำคัญอย่าถูกล้อมเพราะที่นั่นเป็นพื้นที่ของศัตรูเข้าง่ายแต่ออกยาก”

                       “ไม่ต้องห่วงข้าหรอกน่า  จาเกลีน”  กษัตริย์หนุ่มยิ้มอย่างสบายใจ  “ข้าจะระวังอย่างดีและจะทำตามแผนที่วางเอาไว้ทุกประการ”

                         “ขอพระองค์โปรดระลึกไว้เสมอว่าถึงวันนี้เราอาจแพ้ศึกแต่เราจะได้เปรียบ  ดังนั้น”

                          กษัตริย์เฮอร์มีซิสสอดขึ้นก่อนที่เสนาธิการคนสนิทจะกล่าวจบ  “ข้าจะไม่ไล่ล่าเจ้าอาเรสในวันนี้แน่นอนแม้ในใจจะประสงค์เช่นนั้นก็ตาม”

                       “เช่นนั้นก็เป็นบุญของประชาชนแล้วพะยะค่ะที่พระองค์ทรงห่วงพระวรกายเช่นนี้”

                      “แล้วตอนนี้ข่าวของพี่ฮามาคิสล่ะเป็นเช่นไรบ้าง”

                       “ท่านดยุคเตรียมพร้อมเคลื่อนทัพแล้วเพียงรอให้เราทำตามแผนเท่านั้น”

                        “ท่านแน่ใจหรือว่าทัพตะวันตกของพวกมันจะยกทัพมาที่กาตาบันนี้”  

                         “พะยะค่ะ  ยังไงมันก็คงหมายจะเอาชนะเราในวันนี้แน่นอนและที่สำคัญเมื่อกองทัพของเราที่ไมโนอานไม่มีความเคลื่อนไหวมันคงไม่อาจรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้”

                        “เช่นนั้นก็ดี”  กษัตริย์เฮอร์มีซิสเหลือบมองผ่านจาเกลีนไปยังหญิงสาวผมแดงใบหน้าสะคราญผู้เป็นที่รักของพระองค์  “ท่านอยู่ที่นี่กับเนเฟรูก็ขอจงระวังไว้ด้วยข้าไม่รู้ว่ามันจะมีเวทย์หนกลใดหรือไม่”

                         “ไม่ต้องห่วงพะยะค่ะขอพระองค์โปรดวางใจ”

                          ไม่ช้าไดนาดูร์ก็ควบม้าของตนตรงมายังกลางทัพอันเป็นที่ซึ่งแม่ทัพใหญ่กำลังเฝ้ารอเขามารายงานความพร้อมของกองทัพที่จะเคลื่อนทัพสู่เบื้องหน้าและบัดนี้เวลานั้นก็มาถึง  เวลาที่กษัตริย์เฮอร์มีซิสเฝ้ารอมาตลอดชีวิต

                         “ส่งสัญญาณ  เคลื่อนทัพ”

                        กษัตริย์เฮอร์มีซิสออกคำสั่งอย่างขึงขังในขณะที่ธงแม่ทัพโบกสะบัดไปข้างหน้ากองทัพใหญ่ราวสี่หมื่นนายก็เริ่มเคลื่อนทัพลงไปในแม่น้ำยาไซก้าที่ยังมีน้ำไม่มากเนื่องจากเพิ่งจะผ่านฤดูหนาวมาไม่นาน  

                            ***********************************************************

    แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 47 14:44:10

    จากคุณ : Jack o'lanturn - [ 17 ส.ค. 47 14:16:33 ]