ภายในห้องโถงกว้างใหญ่ ประดับประดาด้วยหินอ่อนสลักเสลาลวดลายงดงามวิจิตร เครื่องประดับและโต๊ะเก้าอี้ล้วนแต่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษ เรื่องความงดงามมิต้องเอ่ยอ้างถึง แค่วัสดุที่จัดทำขึ้นก็นับว่าล้ำค่าเหลือประมาณแล้ว
ไซเทียน เสี่ยวเหมย แห่ง "สามมารตลบเมฆ" และ "พ่อบ้าน" กู่อวยฮวย ยืนสำรวมอยู่เบื้องหน้าของหลี่เฉินเชียงอย่างสำรวม
"อาหยางกลับมาหรือยัง?" นี่คือประโยคแรกที่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งฉิกจับอิดเอ่ยปากออกมา
"ยังขอรับ ท่านหยางหลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจที่บู๊ตึ๊งก็เรียกระดมมือดีจากพรรคสาขาทั่วประเทศ ตอนนี้อยู่ในระหว่างเดินทางกลับมา คาดว่าคงใช้เวลาอีกไม่เกินสองวัน" ไซเทียนทำหน้าที่ตอบคำถามนี้เอง
"อืม..ยังอีกสองวัน ตอนนี้พวกเรามิสามารถนิ่งนอนใจได้ เช่นนี้เถอะ.."
"ไซเทียนรับคำสั่ง เจ้าจงนำกำลังส่วนหนึ่งออกไปจัดวางหลุมพรางกับดัก และตั้งป้อมค่าย ณ ริมฝั่งทะเลสาบไป๋หม่าอย่าให้พวกหอห้ากระบี่ เหยียบย่างถึงที่นี่ได้!!!" หลี่เฉินเชียงเวลานี้ทั้งดุดันและแข็งกร้าว เนื่องเพราะมันกำลังเปลี่ยนเอาความเศร้าหมอง ความเสียใจให้กลายเป็นพลัง หนึ่งนั้นมันเข้าใจว่าเวลานี้มิใช่เวลามาเสียใจ อีกหนึ่งคือ มันโทษว่าหอห้ากระบี่เป็นเหตุให้เกิดเรื่องทั้งหลายทั้งมวลขึ้น!!!
หากมิใช่หอห้ากระบี่ทำตัวเป็นเสี้ยนหนามของมันแล้ว เรื่องเช่นนี้คงไม่เกิดขึ้น เกี่ยมฮุ้นที่มักใหญ่ใฝ่สูงย่อมไม่มีโอกาสให้ฉกฉวย เมื่อนั้นความลับเรื่องที่มันเป็นผู้สังหารหลี่เทียนเล้ง ก็คงมิแพร่งพรายออกมา ตัวมันก็ไม่ต้องสูญเสียทั้งหลี่ฮูหยิน และหลี่ซังซังหลานสาวที่มันรักประดุจบุตรี!!!
หลี่เฉินเชียงนึกย้อนไปถึงเมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว วันนั้นมันใช้เกี่ยมฮุ้นล่อลวงให้หลี่เทียนเล้งออกมาภายนอก จากนั้นมันปรากฏตัวขึ้น บอกเล่าเรื่องราวที่มันพึงพอใจในตัว "หลี่ฮูหยิน" ทั้งยังรักเอ็นดูหลี่ซังซัง ดังนั้นออกปากขอ บุตรี และ ภรรยา ของอีกฝ่าย
หลี่เทียนเล้งมองดูพี่น้องร่วมสาบานผู้นี้ด้วยแววตาตื่นตะลึง มันนึกไม่ถึงคนผู้นี้จะหน้าด้านไร้ยางอายขนาดเอ่ยปากขอภรรยาและบุตรีของน้องร่วมสาบาน ในที่สุดถอนหายใจกล่าวว่า
"เราดูท่านผิดไป..."
"หึ มิเพียงดูเราผิด เจ้ายังมิเข้าใจเราอย่างถ่องแท้อีกด้วย หากเจ้ายินยอมตามที่เราขอ สถานะของเจ้าก็จะยังอยู่เช่นเดิม มิเพียงเท่านั้น หากเจ้าพึงพอใจต่อสตรีใด เราล้วนสามารถจัดหาให้แก่เจ้า ขอเพียงส่งมอบ "นาง" และซังเอ๋อให้แก่เราเท่านั้น!"
หลี่เทียนเล้งนิ่งงัน ในที่สุดมิสามารถกล่าวอันใดได้
หลี่เฉินเชียงมองดูอีกฝ่าย กล่าวว่า
"เจ้าน่าจักรู้ เราผู้นี้หากประสงค์สิ่งใด ล้วนต้องได้!" จบคำไม่รีรอให้อีกฝ่ายตอบคำ ชิงจู่โจมเข้าใส่
หลี่เทียนเล้งเห็นเช่นนั้นได้แต่กลั้นใจจู่โจมตีโต้กลับมา มันย่อมรู้ดีว่าพลังฝีมือของมันเป็นรองอีกฝ่าย ดังนั้นสู้พลาง ถอยหนีพลาง มองหาหนทางรอด
คนทั้งสองต่อสู้กันนับร้อยกระบวนท่า โดยหลี่เฉินเชียงเป็นฝ่ายรุกไล่แต่เพียงถ่ายเดียว ที่จริงแล้วหากมันลงมืออย่างสุดกำลัง หลี่เทียนเล้งคงมิอาจต้านทานได้เกินห้าสิบกระบวนท่า แต่นี่ดูเหมือนว่ามันมิต้องการชีวิตของอีกฝ่าย เพียงคิดไล่ต้อนให้อีกฝ่ายจนมุมยอมรับความพ่ายแพ้เท่านั้น และในที่สุดมันก็ค่อยๆ ไล่ต้อนจนหลี่เทียนเล้งถอยร่นไปติดริมหน้าผาใหญ่ได้ในที่สุด
"น้องเรา เปลี่ยนใจตอนนี้ก็ยังมิสาย เราผู้พี่รักเอ็นดูเจ้าประดุจน้องร่วมสายเลือด อย่าให้เรื่องเพียงเท่านี้ มาทำลายความสัมพันธ์อันดีของเราจะดีกว่า!" ผู้ยิ่งใหญ่แห่งฉิกจับอิดพยายามเกลี้ยกล่อม
"หน้าด้านไร้ยางอาย!!! หึ รักประดุจน้องในไส้ แต่กลับคิดแย่งชิงบุตรภรรยาของเรา ท่านคิดว่าเราเป็นอะไร อยู่ๆ จะให้ยกบุตรภรรยาให้ผู้อื่น หากมีใครรู้เข้าคงประณามเราเป็นตัวบัดซบโง่งมอันดับหนึ่งแล้ว!" หลี่เทียนเล้งตอบโต้กลับ มือสองข้างป้องที่หน้าอก เตรียมลงมือจู่โจม
ตัวมันนั้นเห็นข้างหน้าเป็นหลี่เฉินเชียง ด้านหลังก็เป็นหุบเหว หนทางที่คิดจะหลบหนีถูกปิดตาย ในที่สุดมิอาจถอยหนีได้อีก จึงตัดสินใจสู้ตาย ดังนั้นมือข้างหนึ่งลอบล้วงเข้าไปในอกเสื้อ หยิบยาพิษร้าย "ซาเลอปี่" มาเตรียมไว้ อีกมือร่ายรำเพลงมวยไม้ตาย ซัดฟาดออก เป็นกระบวนท่าลวง
หลี่เฉินเชียงเห็นเช่นนั้น รีบซัดฟาดฝ่ามือออกต้านรับกระบวนท่าของหลี่เทียนเล้ง จังหวะนั้นเองหลี่เทียนเล้งฉวยโอกาสซัดยาพิษเลื่องชื่อแห่งพรรคฉิก ซึ่งตัวมันเองเป็นผู้ร่วมคิดค้นเข้าใส่ร่างของพี่ร่วมสาบานที่คิดคด ประมุขฉิกจับอิดเดิมทีมิคิดสังหารน้องร่วมสาบานผู้นี้ เพียงต้องการสยบอีกฝ่ายแล้วกักขังเอาไว้ เท่านี้มันก็จะสมมาดปรารถนา ทว่าเวลานี้เห็นจวนตัวได้แต่ลงมือโดยไม่ออมยั้ง ฝ่ามือที่ตวัดออกย้อนกลับมา ดึงพลังกลับดีดสะท้อนยาพิษเข้าใส่ร่างของฝ่ายตรงข้าม หลี่เทียนเล้งเห็นไม่ได้การ แปรเปลี่ยนกระบวนท่าจากลวงให้กลายเป็นจริง สุดท้ายแม้ตนเองโดนยาพิษเข้าเต็มที่ ทว่ายังสามารถซัดฟาดฝ่ามือเข้าใส่ต้นขาขวาของหลี่เฉินเชียงคราหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือรอยบาดแผลที่เป็นเครื่องพิสูจน์ความผิดของอีกฝ่ายนั่นเอง!
หลี่เฉินเชียงหลังได้รับบาดเจ็บพลันขบกรามกรอด คำรามออกมา สะบัดเท้าซ้ายถีบร่างของหลี่เทียนเล้งที่ถูกพิษร่วงลงสู่หุบเหวลึก!!! ท้ายที่สุดยังติดตามลงสู่ก้นหุบเหว พบร่างไร้สติของอีกฝ่ายค่อยๆ จมดิ่งลงในธารน้ำแข็งอันเย็นเยียบจึงค่อยจากมา!
ทว่าเรื่องราวในจดหมายของเกี่ยมฮุ้นกลับกล่าวว่า หลี่เฉินเชียง สังหารหลี่เทียนเล้งแล้วโยนซากศพของมันลงสู่หุบเหว ทั้งนี้เพื่อให้หลี่ฮูหยิน เห็นว่าอีกฝ่ายมีเจตนาสังหาร และทำลายซากศพของผู้เป็นสามี เพื่อกลบเกลื่อนร่องรอย เหตุการณ์ที่แท้จริงกลับเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง
"นายท่าน เหล่าหญิงรับใช้มาแล้ว!" เสียงของโฮ่วฮง ทำให้หลี่เฉินเชียงกลับคืนสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง เวลานี้ไซเทียนจากไปแล้ว โฮ่วฮงชักนำสตรีสาวสองคน ซึ่งเป็นหญิงรับใช้ประจำตัวหลี่ฮูหยินเข้ามา
ทั้งสองพอเห็นประมุขพรรค ก็พากันคุกเข่าคำนับ
"พวกเจ้าบอกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แก่เรา!" หลี่เฉินเชียงกล่าวพลางเพ่งสายตาดุดันไปยังสาวใช้ทั้งสอง
"ร...เรียนท่านประมุข ผู้..ผู้น้อย ติดตามฮูหยินไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม จากนั้นพอกลับมา..ฮูหยินก็..ก็...เก็บตัวเงียบอยู่ภายในห้อง..."
"กล่าวต่อไป"
"ห...ลังจากนั้น ข้า...พ...ข้าพเจ้ากับอาลิ้มก็ยกน้ำโสมเข้าไปให้นาง ...เห็นนางเหม่อลอย จากนั้นฮูหยินใช้พวกเราทั้งสองไปยังโรงครัวเพื่อจัดเตรียมอาหาร แล้ว...แล้ว...หลังจากนั้นเกิดอันใดขึ้น..ผู้...ผู้น้อยมิทราบเรื่องทั้งสิ้น!" หญิงรับใช้ละล่ำละลักคำพูดออกมาอย่างอยากลำบาก ท้ายที่สุดเมื่อพูดจบประโยคถึงกับถอนหายใจออก คล้ายกับการถ่ายทอดคำพูดเหล่านี้กระทำได้ยากเย็นยิ่งนัก
"ดี!!! ...ทำได้ดีมาก!!!!...เราใช้พวกเจ้าดูแลฮูหยิน พวกเจ้ากลับทอดทิ้งนางไว้ตามลำพัง!!!" หลี่เฉินเชียงขบกรามจนขึ้นเป็นสันนูนเด่น
"นายท่านไว้ชีวิต ...นายท่านโปรดเมตตาด้วย!!!" หญิงรับใช้ทั้งสองก้มลงกราบกราน ร่ำร้องขอชีวิต ทว่าเพียงพึ่งกล่าวจบประโยค ร่างของพวกนางก็พลันลุกเป็นไฟ
"กรี๊ดดดดด..." หญิงรับใช้ทั้งสองร่ำร้องออกมา ในที่สุดร่างไหม้เป็นตอตะโกไปตรงนั้น
โฮ่วฮง เสี่ยวเหมย และกู่ฮวยฮวย ได้แต่ก้มหน้านิ่งอยู่ กระทั่งลมหายใจยังมิกล้าระบายออกมาแรงนัก
"อากู๋อยู่ที่ใด?" หลี่เฉินเชียงพลันถามขึ้น อากู๋ที่มันกล่าวถึงย่อมเป็น เซียนแพทย์เทวะ
"ภายในสำนักวุ่นวายตลอดเวลา มีคนพบเห็นมันเข้าๆ ออกๆ โรงครัวขอรับ" กู่ฮวยฮวยเป็นผู้ตอบคำถามนี้
ประมุขพรรคฉิกจับอิดนิ่งไปเนิ่นนาน ค่อยกล่าวว่า
"มันพึ่งทุเลาจากบาดเจ็บ รอดพ้นจากความตายมาได้อย่างหวุดหวิด อาจทำให้สมองได้รับความกระทบกระเทือนไปบ้าง การศึกครั้งนี้ พวกเรายังคงมิช่วงใช้มันจะประเสริฐกว่า"
ทั้งสามคนก้มศีรษะนิ่งมิกล่าวอันใด พวกมันย่อมเข้าใจ หลี่เฉินเชียงมิได้กล่าววาจากับพวกมัน
"อาเหมย เจ้านำจดหมายนี้ไปยังเชิงเขาด้านตะวันตก ส่งให้แก่เหวินคัง เรียกมันกลับมาสำนัก"
"โฮ่วฮง ส่วนเจ้า เผาวัดเจ้าแม่กวนอิมให้กับเรา!!!"
"ฮวยฮวย เจ้าดูแลความเรียบร้อยที่นี่"
"ผู้น้อยรับคำสั่ง!" ทั้งสามรับคำ
กล่าวจบ หลี่เฉินเชียงก็เดินออกจากห้องโถง โดยมิสนใจคนทั้งสามอีก
"พี่ฮง ประมุขไปที่ใด?" เสี่ยวเหมยอดถามขึ้นไม่ได้
โฮ่วฮงถอนหายใจออกมา กล่าวว่า "น้องสาม ประมุขเมื่อใช้พวกเราไปทำอันใด ก็จงไปทำ อย่าได้ยุ่งเกี่ยวเรื่องของท่านจะดีกว่า" กล่าวจบ เดินจากไปอีกผู้หนึ่ง
เสี่ยวเหมยได้แต่ติดตามออกไปอีกผู้หนึ่ง ภายในห้องโถงหลงเหลือเพียงกู่ฮวยฮวยคนเดียว "พ่อบ้าน" ผู้นี้ย่อมรู้ว่าประมุขของตนไปยังที่ใด หากมันเข้าใจไม่ผิด หลี่เฉินเชียงผู้เป็นประมุขเวลานี้ต้องไปยัง "เรือนฟังเสียงฝน" อย่างแน่นอน...
แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 47 14:51:38
จากคุณ :
ทีมแต่งนิยาย
- [
19 ส.ค. 47 17:03:58
]