------------------
คุณตาหวาน
------------------
ต้นหญ้าเอื้อมฟ้า
กุหลาบสีชมพูระเรื่อ ๆ สะท้อนเข้าตาอย่างจัง ไม่เหมือนดอกกุหลาบสดเสียทีเดียว
จำได้ คุณครูเคยบอกว่า เขาเรียกว่า สี โอลด์-โรส ทีแรกก็สงสัย คุณครูคงจะเตรียมการสอนหนัก
จนไม่มีเวลาพัก ไม่รู้หรือไงนะ เขาเรียกว่า สี โอรส มารู้ทีหลัง ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่ฉันเองนี่ล่ะ
ที่เบลอไปเอง งานนิทรรศการวันนี้ ไม่ครึกครื้นเหมือนวันแรกที่มา ผู้คนดูเบาบางลง รู้สึกว่ายิ่ง
เดินมาใกล้ทางออก จะเจออะไรเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เยอะแยะ เต็มไปหมด ไม่รู้ฉันมาถูกงาน
หรือเปล่า หรือว่าถูกเพื่อนตัวดีหลอกว่าเป็นนิทรรศการทางจิตรกรรม ด้วยความโง่ ก็เลยเดินดุ่ม ๆ
เข้าไปถาม น้องคนที่ยืนเฝ้าซุ้มอยู่
วันนี้มันวันอะไรกันหรือคะ? ถึงมีจัดงานวิทยาศาสตร์ด้วย พอสิ้นคำถาม น้อง
เขาก็มองฉันแปลก ๆ ก่อนจะบอกฉันว่า วันนี้ 18 สิงหา วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ฉันฉลาดขึ้น
มาตั้งแยะ ไม่วายเดินไปเรื่อย ๆ แล้วเจอกับน้องคนรู้จัก
เสียงตะโกนเรียก พี่ ๆ ทางนี้ แว่วมาทางโสตประสาทซ้าย
คุณน้องมอหนึ่งสมัยเรียนนี่เอง ตอนนั้นฉันอยู่ มอสี่ ขึ้นมอปลาย น้องเขาอยู่
หนึ่งทับเก้า ห้องประจำของน้องเขาอยู่ติดกับห้องของฉัน เดินไปแกล้งน้องเขาอยู่บ่อย ๆ จน
ตัวเองก็รู้ดี ว่าพิษสงของน้องเขาไม่ใช่เล่น ขี้เล่นพอกัน หากไม่ใช่เพราะ ไปแอบชอบน้องสาว
คนหนึ่ง หน้าตาน่ารัก พูดเก่ง ที่วันนั้นมาถามคำถามฉัน ล่ะก็ อย่าเล้ย... ฉันคงไม่ได้ไปรู้จักน้อง
พวกนี้หรอก
เฮ่ย... น้องมาทำอะไรกันที่นี่เนี่ย ทักไปอย่างคุ้นเคย เข้าใจว่าน้องคงจำได้
อ้าว พี่ มาไม่ได้หรือไง มาเหตุผลเดียวกับพี่ แต่เหตุผลที่สองไม่เหมือนพี่นั่นแหละ
นั่น ๆ น้องเขายังวัยรุ่น ฉันนี่สิ (เกือบจะ)แก่แล้ว น้องเขาทำฉันงงอีกแล้ว ฉันหยุดหายใจไปหนึ่ง
วินาทีก่อนจะทบทวนคำพูดของน้องเขา
เออ ๆ แหม... ยังร้ายเหมือนเดิม น้องตัวเล็กสำรวจใบหน้าของฉันอยู่ครู่หนึ่ง
ฉันมองตามอย่างสงสัย ก็ไว้ใจได้ที่ไหนกัน
พี่... ตาหวานอ่ะ เป็นโรควิตกจริตไปซะงั้น ฉันถามกลับไปว่า นี่น้องชมพี่หรือว่า
อะไรน่ะ?
ชมค่ะ น้องอีกคนส่งสายตาหวาน ๆ ยิ้มแล้วค่อยยืนยันว่าชมจริง ๆ ฉันก็ยิ้มรับ
พี่ ๆ มาดูงานของหนูบ้างสิ
มาแล้วครับ!! ฉันไม่ได้เข้าใจผิดใช่ไหม ตะกี๊น้องเขาเรียกฉันให้ไปชมผลงาน
ทางวิทยาศาสตร์ของน้องเขา แล้วไอ้เสียงนี่มันใครกัน!?
แต่ด้วยความเป็นสาว(ไม่ค่อย)มั่นอย่างฉัน ก็เลยค่อย ๆ เดินออกมา คุณน้องเธอก็ยิ้ม
หน้าบานรับแขกที่ยืนชมงานอยู่อย่างภูมิใจ เอ!? แต่มันน่าเจ็บใจ น้องเขาเรียกฉัน ไม่ได้เรียกตา
บ้านั่นสักหน่อย!
ฉันเดินออกมาจากกลุ่มผู้คนที่มุงดูงานกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ออกมาที่ประตู
ด้านหลัง เขามีอาหารรองรับแขก แต่... เสียตังค์ ก้มมองที่หน้าท้องตัวเอง เสียงทะเลาะกันของผนัง
กระเพาะอะหารทำให้ฉันจำใจจ่ายไปห้าสิบบาท เพื่อสปาเก็ตตี้จานเดียว ไม่งั้น ฉันคงต้องไปนอน
ในโรงพยาบาลเพราะโรคกระเพาะเป็นแน่
กะเพราะรักเธอ คิก ๆ ก็เพราะรักเธอเหรอ... ฉันหัวเราะในลำคอ นึกถึงคำหวาน ๆ
เลี่ยน ๆ ของเพื่อนผู้ชายคนนึง เขาชอบพูดอะไรหวาน ๆ เสมอ มิน่าล่ะ... ตาคนนี้ตามจีบสาว ๆ
ไปทั่ว ฉันว่าเขาก็น่ารักดีเหมือนกัน น่ารักจนบางทีก็น่าโชว์ท่าเตะก้านคอฉบับสาวมั่นอย่างฉันให้
ดูเป็นบุญตาสักทีหนึ่ง
ได้สปาเก็ตตี้มาจานหนึ่งแก้หิวแล้ว ก็หาม้าหินนั่งกินอยู่คนเดียว
Close your eyes and I'll kiss you
Tomorrow I'll miss you
Remember I'll always be true
And then while I'm away
I'll write home every day
And I'll send all my loving to you
พริ้มตาหลับจูบประทับทาบใบหน้า
วันคืนผ่านจันทร์ลับฟ้าลาอีกหน
เวลานี้ช่างห่างไกลใจอีกคน
เรียงอักษร รัก ถึงคนที่ไกลตา
เสียงเพลงคุ้นหู... ออล มาย เลิฟวิ่ง ... ใช่แน่ ฉันถือจานสปาเก็ตตี้ขยับเข้าใกล้ประตูทาง
เข้าของงานเพื่อฟังให้แน่ชัด แต่แล้ว...
คุณครับห้ามนำอาหารเข้าไปในบริเวณงานครับ เสียงทุ้มของพนักงานรักษาความปลอด
ภัยเตือนฉัน... โธ่! เกือบจะเข้าได้อยู่แล้วเชียว ไม่เป็นไรไปนั่งกินที่ม้าหินตัวเดิมให้เสร็จค่อยเข้าไป
ก็ได้ หวังว่ามันคงจะมีเพลงโปรดของฉัน เล่นอยู่เรื่อย ๆ
เหงามั้ยครับ คุณตาหวาน เอ๋? ใครกันนะชื่อตาหวาน ชื่อหวานซะไม่มี ... ฉันคิดในใจ
พ่อหนุ่มนั่นคงตามจีบเธอไม่เลิกเพราะชื่อหวาน ๆ ของเธอแน่ ๆ ฉันยังคงก้มหน้าก้มตากินต่อไป
คุณตาหวาน หันมามองผมหน่อยซีครับ ว่าแล้วเชียว ว่าคู่นี้คงจะต้องงอนกันอยู่แหง ๆ
ฉันเดินหลีกไปดีกว่า ปล่อยให้เขาง้อกัน ปรับความเข้าใจกันให้เสร็จ
อ้าว! เดี๋ยวสิครับ คุณจะเดินหนีผมไปไหน เวรแล้ว... ไอ้คุณตาหวานเดินตามหลังฉัน
มาทำไม จะง้อ เก๊าะง้อ กันให้หมดเรื่องหมดราวกันไปซี่ อย่าเอาฉันไปมีเอี่ยวด้วยก็แล้วกัน ฉันรีบเดิน
ฝีเท้าคู่นั้นก็ตามฉันมาข้างหลัง ไม่ได้หันไปมอง เดี๋ยวเขาจะหาว่า เสือก ไปยุ่งเรื่องของชาวบ้านเขา
สะดุดขาตัวเองอย่างจัง จานสปาเก็ตตี้ที่ยังกินไม่หมดหล่นแตก เพล้ง! อยู่ที่พื้น หน้าเบ้
อายคนทั้งงาน เสียงหัวเราะคิกคักของผู้ชายดังมาจากข้างหลัง ไอ้บ้าเอ๊ย! ง้อแฟนตัวเองไม่ได้ แล้ว
มาหัวเราะใส่คนอื่น แหม... รู้งี้มันน่าเข้าไปขัดจังหวะการง้อเสียแต่ทีแรกจริง ๆ จะได้ไม่ต้องมานั่ง
หัวเราะฉันอยู่แบบนี้
รองเท้ามีส้นที่ฉันไม่ค่อยถนัดที่จะใส่มันเท่าไหร่นัก ทำเอาขาฉันแพลง คุณแม่นะคุณแม่
บอกแล้วว่าไม่ชอบใส่รองเท้าแบบนั้น ยังจะยัดเยียดให้หนูใส่อยู่ได้ เป็นไง แล้วอีกจะกระโปรงสีฟ้า
หวาน ๆ สีนี้อีก ฉันร้องโอดโอย... มันเจ็บจี๊ดเลยที่ข้อเท้า ลุกก็ไม่ได้ แล้วนี่มาตัวคนเดียว ยังต้องมารับ
เคราะห์ไปเต็ม ๆ เห็นทีพรุ่งนี้คงต้องไปสะเดาะเคราะห์ที่วัดสักหน่อย
ฝีเท้าที่ตามมาติด ๆ แล้วหยุดหัวเราะ ก้าวออกมาจากกลุ่มคนที่มุงอยู่ ฉันหันไปสบสายตากับ
เขาพอดี จ้องหน้ากันอยู่นาน สาวเจ้านึกแค้นที่เขาหัวเราะเยาะใส่เธอ อีกฝ่ายก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยให้
กรรมมีจริงนะ คุณตาหวาน อยู่ดีไม่ว่าดี เดินหนีผม คุณตาหวานเลยต้องสะดุด... รัก ผมเข้า
ไปอย่างจัง เห็นมั้ยล่ะ!? ห๊า! อะไรนะ ฉันชักไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรนักว่าหูฉันยังรับรู้ได้ดีอยู่ ฉันยิ้มแหยๆ
คิดในใจ ตานี่คงบ้าไปแล้วแน่ ๆ
เจ็บมั้ยครับ? เสียงอ่อยลงจากเมื่อครู่
ไม่เจ็บม้าง ฉันลากเสียงยาว แล้วเหล่สายตาไปที่ตัวการของเรื่องวุ่นวาย ในใจทั้งแค้น
ทั้งด่าไปด้วย เจ็บจะแย่อยู่แล้ว!
งั้น... เสร็จผมล่ะ ฉันขมวดคิ้ว คนขายาวก้าวเข้ามาอุ้มฉันไปนั่งที่เก้าอี้ไม้หน้างาน
จะประจานฉันหรือไงกัน!?
น้อง ๆ สามคนที่ฉันเดินไปคุยด้วยที่ซุ้มวิทยาศาสตร์เดินป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้น จู่ ๆ ก็เดินมาที่
ทางเข้า ตะโกนเรียกฉันเสียงดัง เวรแล้วไหมล่ะ สายตานับสิบคู่หันมามองกันเป็นตาเดียว จะทำให้แตก
ตื่นกันทำไมเนี่ย
พี่ ตาหวานนน!!! เป็นอะไรน่ะ โอ๊ย ไอ้น้องเอ๊ย เรียกเบา ๆ ก็ได้ยิน อยู่ใกล้แค่ศอกเดียว
โดนคนแกล้ง
สมน้ำหน้า หนูว่าแล้วเชียวว่าพี่ต้องเป็นคนซุ่มซ่าม น้องคนหนึ่งทำท่าล้อเลียน
อ้าว ๆ ไอ้น้อง มาว่าพี่ได้ไงกัน นู่น ตัวการอยู่นู่น ฉันโบ้ยไปทางคนที่กอดอกยืนมองฉัน
อย่างมีความสุข ท่าทางจะโรคจิต มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น
น้องว่าพี่ควรจะจัดการยังไงกับพี่ตาหวานของน้องดี หือ? ตานั่นพูดเป็นเชิงขอความคิดเห็น
แต่ใครจะไปรู้ อาจจะมีอะไรแอบแฝง เชื่อไม่ได้พอกัน
ฉันไม่ได้ชื่อตาหวาน!!
อ้าว แล้วคุณชื่ออะไร?
ไม่บอก ฉันสะบัดหน้าใส่
งั้นผมกับน้อง ๆ ตั้งให้ใหม่ว่า ตาหวาน ทั้งสามคนก็พยักหน้า เออออไปด้วย ...คิดจะตั้งก็ตั้ง
กันดื้อ ๆ ไม่ถามความเห็นส่วนบุคคลกันบ้างเลย ตาบ้านั่นกระซิบสองสามคำกับน้อง ๆ แล้วน้องเขาก็เดิน
ออกไป
สักพักเดินเข้ามาพร้อมกับนมสองกล่อง ส่งให้เขา แล้วเขายื่นต่อให้ฉัน
นี่ครับ... ฉันสงสัย มียาพิษรึเปล่า ให้กินทำไม?
ฉันไม่รับของจากคนแปลกหน้า
เปล่า นี่คุณ เคยดูโฆษณามั้ย... เขาบอกว่า รักใครให้ดื่มนม ประโยคหลังเขาแสดงท่าทาง
แล้วพูดเหมือนในโฆษณา
แหวะ!
แพ้ท้องหรือครับ ขอโทษที สงสัยผมต้องไปซื้อหนังสือ คุณพ่อมือใหม่มานั่งอ่านก่อนนะ
คุณตาหวาน ไอ้... ไอ้... โว้ยยย!!! ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี?! ฮึ่ม!! อย่าให้ได้ล้างแค้นนะ
ก็บอกว่า ไม่ได้ชื่อตาหวาน เอ๊ะ!!! แล้วใครท้อง! กับคุณน่ะเหรอ! คนอย่างคุณใครจะรักลง!?
ฉันขยับขา จะยืนขึ้น ไม่ได้รู้เจ็บอะไรเล้ย โกรธจนตัวชา มาหาว่าฉันท้อง! ท้องกับตานี่น่ะนะ ใครจะเอากัน?!
ใบหน้าของสาวเจ้าแดงอย่างเห็นได้ชัด พ่อหนุ่มของเราก็เลยสลด ท่าจะโกรธจริง
ขอโทษ เสียงนุ่มนั่น...
แค่ล้อเล่นหน่อยเดียว ไม่ได้ตั้งใจจะให้โกรธ ใครจะเชื่อ!?
มินจังอย่าโกดริคกี้เลยนะคับ ฉันตกใจมองหน้าเขาอย่างพินิจพิจารณา ... ริกกี้เหรอ?
เขานั่งลงคุกเข่า จับมือฉัน ไม่ได้จะขอแต่งงานหรอก แต่ขอเหมือนกัน ... ขอโทษ
อ้ะ ริคกี้ให้มินจังเก็บไว้ ห้ามเอาไปโยนใส่ถังขยะน้า ถึงแม้ว่าใครจะว่าดอกกุหลาบสีขาวแทน
อะไรก็ตาม แต่ริคอยากให้มันแทนความผูกพันของเรา ดอกกุหลาบสีขาว ดอกเดียว เขายื่นให้ฉัน ฉันแปลก
ใจไม่น้อย คนคนหนึ่งที่ไม่ได้เจอกันมานานแสนนาน แต่ฉันจำถ้อยคำ คำพูดที่เขาพูดคุยกับฉันได้เป็นอย่างดี
อื้อ ฉันรับปาก
แต่ริคทำยังงี้ทำไม? รู้มั้ยว่ามินไม่ชอบ ทำไมริคกี้ไม่บอกมินจังดี ๆ ฉันตัดพ้อแบบเด็ก ๆ
เก๊าะ ตะก่อน เวลาริคกี้ทำยังงี้ ริกกี้ไม่เคยเห็นมินจังโกดนี่คับ มินจังชอบยิ้มหวานให้ แล้วก็
หัวเราะ ริคกี้อยากเห็นมินจังยิ้มแบบนั้นอีก
แต่คราวนี้ ริคกี้ขอโทษนะคับ ริคกี้จะไม่ทำอีก ถ้ามินจังของริคกี้ไม่ชอบ เจออย่างนี้ ฉันโกรธ
ไม่ลงหรอก จะจ้างสักกี่แสนกี่ล้าน ฉันก็โกรธคนคนนี้ไม่ลง เพียงแต่... เขาหายไปนานจนน่าน้อยใจ
เท่านั้นเอง
ริคหายไปไหนมา? ไม่รู้เหรอว่ามินคิดถึง
ไม่รู้สิคับ มินจังยังไม่บอกริคกี้เลย แล้วริคกี้จะรู้ได้ยังงายอะ เขาชักทะเล้น ขึ้นทุกวัน ๆ
เก๊าะ... มินจังคิดถึงริคกี้จังที่สุดเลยยย ถ้อยคำคลับคล้ายคลับคลาเหมือนเมื่อก่อน ตอนเด็ก ๆ
เราคุยกันแบบนี้ และทุกครั้งเขาจะมีเพลงมามอบให้ฉันเสมอ ฉันมักจะชอบเรียกเขาว่า ดีเจริคกี้จัง เพลง
เพราะ ๆ คำหวาน ๆ ที่บางทีคนอื่นอาจจะว่า เลี่ยน แต่ฉันว่าน่ารักดีออก ไม่ได้ใส่ใจ เพราะฉันรับเขาได้เสมอ
มิน! ริคมีอะไรจะสารภาพล่ะ
มาไม้ไหนอีกล่ะคราวนี้ ฉันชักไม่ไว้ใจตาริคกี้อีกแล้ว
ก็ริคลืมบอกมินไปว่า วันนี้มินของริคสวยที่สุดเลยนะคับ สวยสมกับที่ริคเดินทางมาหามิน
ฉันเปลี่ยนจากใบหน้าแดงจัด เหลือเพียง หน้าสีชมพูระเรื่อ เหมือนกับดอกกุหลาบที่ฉันเห็นเมื่อเดินชม
นิทรรศการ
ริคต้องรีบกลับรึเปล่าจ๊ะ? ฉันถามมีแววกังวล
อืม... ก็นิดหน่อยนะ ริคอยากมาเห็นหน้ามิน... พักนี้ ริคกี้เหนื่อย ริคกี้อยากเห็นมินจังยิ้ม
เหรอ... อืม
แต่ริคสัญญาว่าถ้างานของริคสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ริคจะกลับมาพบกับมินอีก มินเหนื่อยมั้ย
ความห่วงใยพรั่งพรูออกมาทางสายตาอันอ่อนโยน
ก็... พักนี้เรียนหนัก ปีหนึ่งก็รู้สึกเหนื่อย ๆ แต่ก็อดทนนะ
จ้ะ ริคเป็นกำลังใจให้มินจังนะ คิดถึงมินจังที่สุด
ริคไปก่อนนะ คุณพ่อโทรมาตามแล้ว ริคจะรอจนกว่าฟ้าจะมีเวลาให้เราพบกันใหม่อีกครั้ง
ริคจะรอวันนั้น
ลืมไป ริคบอกแล้วว่ามินจังเป็นคนตาหวาน น้อง ๆ เขาถึงเรียกไง
จำได้... ครั้งหนึ่งเขาเคยบอกว่าฉันเป็นคนตาหวาน และเขาก็ทั้งอ่อนหวาน และอ่อนไหว
คงพอกับฉัน แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันชื่นชมมากคือความเข้มแข็ง และกำลังใจที่มีให้เสมอ เขาเป็นคนบอกฉัน
เองว่า ให้ใช้เวลากับตัวเองให้มาก ไม่ต้องสนใจใครให้มากนัก เพราะตัวเราเองที่รู้และเข้าใจตัวเอง
มากที่สุด
ลาก่อนนะครับ คุณตาหวาน อีกครั้งที่มินจังของริคกี้เป็นคุณตาหวาน
เสียงเปียโนดังมาจากข้างในงาน นั่นมันเพลง...
Till I see you again
จนกว่าฉันจะพบคุณอีกครั้ง...
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จบ
แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 47 22:16:27
แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 47 22:13:45
แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 47 22:06:00
แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 47 22:04:17