CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ตำนานรักประกาศิต 1

    “ตำนานรักประกาศิต”
    ตอนที่- 1
    ณ ที่ใดสักแห่ง ที่ไม่มีคนบนโลกรู้จัก
    มีแสงสว่างสีทองอร่ามเล็กๆ สอดส่องประกายออกมาจากร่างกายอันเล็กๆของเจ้าหญิงองค์น้อย ที่ได้รับการกล่าวขานกันในนาม ‘เสาหลัก’ ของโลกแห่งนี้ แสงนั้นก็กำลังจะพุ่งตรงไป....
    “ช่วยด้วย นักรบในตำนาน มาช่วยโลกแห่งนี้ด้วยเถอะนะ” ทันใดนั้นเอง แสงสว่างสีทองก็พุ่งออกจาก มงกุฎอันน้อยของเธอ พุ่งขึ้นไปปรากฏ ณ ที่ใดสักแห่งที่กำลงัจะเกิดขึ้น ในไม่กี่นาที....
    ‘ไม่มีใครรู้ว่า เวลานั้นคือเวลาแห่งการปรากฏตัวของเหล่านักรบในตำนาน’
    .......
    ณ สยามเซ็นเตอร์พ้อยท์
    นักเรียนมัธยมต้นและปลายจากหลากหลายสถาบัน ต่างรวมตัวกันและเดินเลือกซื้อเสื้อผ้า ของประดับตกแต่งน่ารักๆ และในกลุ่มเหล่านั้น มีสาวน้อยอยู่คนหนึ่ง
    “ว้าว เนี่ยนะเหรอ เซ็นเตอร์พ้อยท์ โอ้โห ดีจังเลยเนอะที่มาที่นี้ เธอว่าม๊ยละ ฮะ”
    “นี่ อย่าทำเหมือนคนเข้ากรุงจะได้มั๊ย เฮ้อจริงๆเลยนะเธอเนี่ย” เพื่อนของสาวน้อย อายุ 14 กล่าวอย่างหน้ามู่
    “ก็แหม โจอี้ เพิ่งจะเคยมาที่นี้จะไปรู้อะไรละ ขนาดรถไฟฟ้ายังไม่เคยนั่งเลย ดูสิ ไปถ่ายรูปด๊าย มีใครเค้าถ่ายบ้างละ” เพื่อนของโจอี้อีกคนบ่นอย่างหน้ามู่เช่นกัน
    “สุดยอดเลย ได้ภาพสวยๆทั้งนั้น” สาวน้อยบริสุทธิ์และสดใสนาม โจอี้ พูดอย่างโด่งดัง จนทุกคนแถวๆนั้นต่างก็จ้องมองมาที่เธอราวกับว่าเธอเป็นสัตว์ประหลาด
    “อุ๊ย” เมื่อเธอหันหลังก็ไปชนกับเสา จนทำให้กล้องเธอเกือบหล่นลงไปกระทบกับพื้น
    “หวา” ทันใดนั้นก็มีมืออันเรียวยาวของเด็กสาวคนหนึ่ง มาช่วยเก็บกล้องเธอไว้
    “อ๊ะ นี่จ้ะ กล้อง ทีหลังระวังด้วยนะจ๊ะ” มีเด็กนักเรียน หน้าตาเคร่งขรึมผสมอ่อนโยนช่วยเก็บกล้องของโจอี้ไว้และเธอก็เดินไปพร้อมกับรอยยิ้มพิมใจ....
    “โห ดูท่าจะอัจฉริยะนะเด็กคนนั้น” เมื่อโจอี้คืนสติก็วิ่งถลาไป
    “ถ้างั้น ชั้นจะไปขอบคุณเขาซักหน่อย” โจอี้วิ่งตามไปแต่ทว่าก็มีกลุ่มนักเรียนสาวประมาณ 10 กว่าเดินตัดหน้าเธอ
    “หวา”
    “ตัวเล็กฝ่าไม่ได้” เพื่อนของโจอี้กล่าว
    “ต๊ายตาย นั่นเป็นชุดนักเรียนของโรงเรียนของพวกลูกเศรษฐีนี่”
    “จริงด้วย ดูผู้หญิงที่อยู่หน้าดิ สวยยังกับนางงามเลยดู” และในขณะนั้นเอง วินาทีที่ไม่มีใครคาดคิด
    โจอี้ เด็กสาวตัวเล็กใจร่าเริง กับเด็กสาวใสแว่นหน้าตาเรียบร้อย และเด็กสาวที่สวยราวกับนางงาม ก็จ้องไปบนฟ้าพร้อมกันทั้ง 3 คนและในวินาทีนั่นเอง
    “คว้าง” ทันใดนั้นเอง แสงสว่างอันเจิดจ้าก็พุ่งตรงลงมา สาดแสงกระทบกับพื้นแผ่นดินและห้างร้านบริเวณนั้น
    “อ๊า” พวกผู้คนต่างตื่นตระหนก ทันใดนั้นเอง ทั้ง 3 คนดังกล่าวก็รู้สึกถึงว่าใครกำลังเรียกพวกเธออยู่
    .... “ช่วยโลกของข้าด้วยเถอะ นักรบในตำนาน โปรดมาช่วย แฟรี่เวล แห่งนี้ด้วยเถิดนะ” ร่างขององค์หญิงตัวน้อยพูดออกมาจากฟากฟ้า ผมสีทองที่สวยงาม พร้อมกับน้ำเสียงราวกับเป็นนกการะเวกที่กำลังร้องเพลง แต่น้ำเสียงกลับดูเศร้าหมอง พร้อมกับการเรียกขาน นักรบในตำนานจากองค์หญิง และแล้วทั้ง 3 คนก็หายตัวไป
    “อ๊า” “อะไรเนี่ย” บริเวณรอบๆของเด็กสาวทั้ง 3 คนแปรผันเปลี่ยนแปรไปซะแล้ว พวกเธอกำลังจะตกจากฟากฟ้าอันไกลสูงและกว้างใหญ่ โดยตอนนี้ความคิดกลายเป็นสีขาวโพลนไปเสียแล้ว ได้แต่หวาดกลัว
    “อุ๊ย” ร่างของเด็กสาวทั้ง 3 ค่อยๆล่อนลงมาอย่างช้าๆ และลงสู่เรือสำเภาลำใหญ่ลำหนึ่ง
    “ที่ไหนกันเนี่ย” เด็กสาวหน้าตาสละสวยถาม
    “ภูเขาไฟ มหาสมุทร ปราสาทก้อนเมฆ” โจอี้ทวนในสิ่งที่เธอมองเห็น
    “ที่นี่มันที่ไหนกันเนี่ย!!!!!!!” โจอี้ตะโกนลั่นฟ้า
    ..........
    มีชายหนุ่มร่างใหญ่ หน้าตาคมเข้ม แววตาที่แสนเข้มมีเสน่ห์ ผมค่อนข้างยาวยืนอยู่ ณ ที่ใดสักแห่ง สิ่งที่เขากำลังจ้องมองอยู่คือ กระจกบานใหญ่ ที่กำลังมองเรือสำเภาขนาดใหญ่ที่มีเด็กสาวทั้ง 3 คนตกลงมา
    “นักรบในตำนาน คงมาแล้วสินะครับท่าน ‘มาคาโตะ’” มีเสียงของใครคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังบุรุษลึกลับนาม ‘มาคาโตะ’ กล่าวถึง นักรบในตำนาน
    “หึ เจ้าหญิง ‘โร้ส’ มีพลังขนาดเรียกนักรบในตำนานมาเชียวรึ” บุรุษลึกลับคนดังกล่าวพูด
    ......
    บนเรือสำเภาขนาดใหญ่ “ที่ไหนกันเนี่ย แล้วเรือนี่จะพาเราไปไหน” เด็กสาวแว่นหน้าตาเรียบร้อยกล่าว
    ทันใดนั้นเอง เรือก็ล่อนลงจอด ณ บนภูเขาที่มีทุ่งหญ้าที่ชอุ่มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ราวกับเป็นป่าในมรสุมเขตร้อน ทั้ง 3 เดินออกมาจากเรืออย่างงฉวยอย่างบอกไม่ถูก
    “ที่เนี่ยคงไม่ใช่เมืองไทย” เด็กสาวคนเดิมพูด
    “คงอย่างนั้นแหละย่ะ!!!” เด็กสาวหน้างามพูดอย่างอารมณ์เสียผสมหงุดหงิด
    “เนี่ยไม่ใช่หรอก เพราะตอนที่ฉันเห็นบนเรือ มีภูเขาไฟ มหาสมุทร แล้วก็ปราสาทก้อนเมฆ”
    “ทำไงดีละ อาทิตย์หน้าชั้นต้องไปเป็นเชีร์ลีดเดอร์ด้วย ไปไม่ได้ใครจะรับผิดชอบ” หญิงสาวใบหน้างามวุ่นจิต
    “อ๊ะ ขอแนะนำตัวก่อนนะ”
    “นี่เธอเวลาอย่างเงี้ย ยังจะมาแนะนำตัวอยู่อีก บ้ารึเปล่า” เด็กหน้าสวยพูดอย่างอารมณ์เสียเช่นเดิมกับโจอี้
    “แต่ชั้นก็เห็นด้วยนะ” เด็กสาวอีกคนยิ้ม “บ้าทั้งคู่เล๊ย”
    “เวลาแบบเนี่ย มีเรา 3 คนเท่านั้นที่หลุดเข้ามาในนี้ เพราะฉะนั้นต้องรู้จักกันเอาไว้นะ”
    “ก็ได้ๆ” เด็กสาวหน้างามยอม และเธอก็แนะนำตัวของเธอเอง
    “ชั้นชื่อ พิชพร อยู่ชั้น ม.3 เรียก แก้ว ก็ได้” แก้ว กล่าวอย่างหน้าตางดงาม
    “ชั้นชื่อ ชอาภา ชั้นม.2 เรียกชั้นว่า อาม ก็ได้” อาม หญิงสาวหน้าตาเรียบร้อยคนนั้นนามว่า อาม นี่เอง
    และแล้ว เด็กสาวตัวเตี้ย ก็ยืด อก กล่าวออกมา “เรียกฉันว่า โจอี้นะ อยู่ชั้นม.2 จ้ะ”
    แก้ว กับ อามตาค้าง “เธอเนี่ยนะอยู่ม.2 ไม่น่าเชื่อ!!!” โจอี้เริ่มปวดเศียรเวียนเกล้า ดูท่าเจ้าตัวก็ยังคงกลุ้มๆกับเรื่องความสูงอยู่เหมือนกัน
    “เล่นอะไรกันอยู่” ทันใดนั้นก็มีเสียงชายบางคนกล่าวดังก้องป่า
    ทั้ง 3 หันกลับไปมองต้นเสียงว่ามาจากไหนทันทีทันใดที่ได้ยินเสียง
    และแล้ว ชายที่ตัวเตี้ยพอๆกับโจอี้ก็ปรากฏตัวขึ้น เขามีไม้เท้าอันยาวถืออยู่ ดูแล้วน่าเลื่อมใส แววตาที่คมเฉียบ ราวกับว่ามีอะไรจะมาบอกทั้ง 3 สาว ชุดของเขาเป็นผ้าสีขาวพร้อมเครื่องประดับมากมาย ทั้งลูกปัดที่ร้อยอยู่บนคอเสื้อและดูท่าอาจจะเป็นผู้ ‘ขมังเวท’ ก็เป็นได้
    ทว่า เขาเป็นใครมาจากไหนไม่มีใครทราบ เป็นมิตรหรือศัตรูกับทั้ง 3 สาวกันแน่
    “คุณเป็นใครคะ” โจอี้ถาม
    “ข้าคือ ราชครู เป”
    “ราชครู เป เหรอ” เขาเป็นใครกันแน่......
    “ข้าคือราชครูเป เป็นผู้ช่วยองค์หญิงโร้ส ที่เป็น เสาหลัก ของแฟรี่เวล”
    “เสาหลัก แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกเราละ”
    ราชครูเป ทำหน้าเศร้าและกล่าวต่อไปว่า
    “ตอนนี้ ที่แฟรี่เวลแห่งนี้กำลังตกอยู่ในอันตราย เพราะ เสาหลักแห่งแฟรี่เวล นาม องค์หญิงโร้ส ถูกมาคาโตะจับตัวไป” ราชครูเปกล่าว
    “หา” ทั้ง 3 สาวตาค้างและไม่รู้จะพูดว่าอย่างไรนอกจากคำว่าหา
    ราชครูเปเริ่มเล่า “เมื่อก่อน แฟรี่เวลแห่งนี้ ร่มเย็นเป็นสุขมาก ด้วยพลังอธิษฐานของเสาหลัก แต่มาคาโตะ จับตัวองค์หญิงไปขังไว้ที่ไหนสักแห่ง พวกนักเวทย์ไศยศาสตร์ ต่างเข้าไปช่วยองค์หญิง แต่กลับไม่มีใคร สู้มาคาโตะได้เลยสักคน” ราชครูเปกล่าว
    “ทำไมละคะ”
    “เพราะว่า ผู้ที่จะกอบกู้โลกนี้ และสามารถช่วยองค์หญิงโร้สได้มีเพียง นักรบในตำนาน เท่านั้น และพวกเจ้านี่แหละ ก็คือ นักรบในตำนาน”
    3 สาวรู้สึกว่าอะไรต่อมิอะไรเริ่มจะไม่เข้าหลักวิทยาศาสตร์แล้วที่นี่มันคือที่ไหน และพวกเธอจะกลับไปได้อย่างไร และ เวทย์มนต์อะไรนั่นหมายความว่าอย่างไร
    “นี่ พาพวกเรากลับซะดีๆเถอะ” แก้วตะคอก
    “ไม่ได้ จนกว่าพวกเจ้าจะสามารถช่วย ‘องค์หญิงโร้ส ให้สมความปรารถนา’ แล้วเวลานั้นเจ้าจึงจะกลับโลกของเจ้าได้” ราชครูเปกล่าวอย่างน่าทึ่ง
    แก้ว ทำหน้าโมโหและเคร่งเครียด “ทำไมต้องเป็นชั้นด้วยน๊า” แก้วหงุดหงิดมาก อาม ก็เงียบไม่พูดอะไรจนกระทั่ง ราชครูเป กลับก้มหน้าและคุกเข่า
    “ขอร้องละ ช่วยองค์หญิงด้วยเถอะ องค์หญิงโร้ส เป็นเสาหลักของโลกเรา” 3 สาวหันมอง
    “องค์หญิงจะอธิษฐานให้แฟรี่เวล สงบสุข ที่แฟรี่เวลแห่งนี้ความคิดทางด้านบวก จะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในโลก” ราชครูเปกล่าว
    “ตกลง! ชั้นจะเป็นนักรบในตำนานและจะช่วยองค์หญิงโร้สให้” โจอี้พูดอย่างบริสุทธิ์และสดใส
    “นี่เดี๋ยวก่อน เรื่องคอขาดบาดตายแบบนี้ตัดสินใจไม่ได้หรอกนะ อย่าชุ่ย!” แก้วดุ
    “นี่เธอก็ช่วยคิดด้วยสิ” อาม ตกใจเมื่อแก้วตะคอกใส่เธอ
    และราชครูเปก็กล่าวขึ้น “พวกเจ้านะไม่มีทางเลือกหรอก ถ้าเจ้าไม่ช่วยแฟรี่เวล แห่งนี้ พวกเจ้าก็จะกลับโลกของเจ้าไม่ได้” ทั้ง 3 ยืนอย่างงงวย.....
    ....... ณ ที่ๆ มาคาโตะอยู่ อีกครั้ง ..........
    “ท่านมาคาโตะคะ ชั้นขออาสาไปเองค่ะ” มีเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งกล่าว
    มาคาโตะเหล่ตามอง และกล่าวขึ้น “ก็ดีเหมือนกัน ฟรูเอซ” ทันใดนั้นม่านน้ำตกก็แหวกออก
    “ไปจัดการซะ อย่าให้กลายเป็นเรื่องใหญ่” มาคาโตะกล่าว
    “รับทราบคะท่าน” ฟรูเอซพูด พร้อมกับรอยยิ้มที่งดงาม รูปร่างอันสุดเปรี้ยว แต่หารู้ไม่ว่าเธอนี่ก็คือ ผึ้งดีๆนี่แหละ และแล้วร่างของฟรูซเอซก็หายวับ เพื่อที่จะไปจัดการกับนักรบในตำนานต่อไป...... (มีต่อ)

    จากคุณ : ความสุข - [ 22 ส.ค. 47 14:38:51 A:203.157.29.230 X:203.157.14.247 ]