CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    Oo...ตุ๊กตาค้างฟ้า...oO

    ตุ๊กตาค้างฟ้า
    “ปลายฟ้า”

    หลานสาววัย 5 ขวบกว่า รบเร้าคุณยายขอให้ซื้อตุ๊กตาให้ใหม่อีกตัว ทั้งๆที่ครอบครองตุ๊กตาสวยๆอย่าง บาร์บี้และอีกหลายนามกว่าสิบตัว ไม่นับที่ “ขอลืม” เอ๊ยย ขอยืมจากบรรดาน้าๆ มาผนวกไว้ในกล่องของเล่นส่วนตัวด้วยน่ะนะ ….. ด้วยความรักหลาน คุณยายเผลอซื้อตุ๊กตาตัวใหม่ที่ “ยัยหลาน” ยืนยันว่า “ตัวนี้หนูยังไม่มีค่ะ” ให้จนได้ …นี่เป็นอาการของบรรดา “คุณยาย” ทั่วๆไป มักตามใจหลานจนเกินเหตุ… มากกว่าที่เคยเป็นกับลูกซะอีก
    ไม่นานมานี้ เพิ่งรับรู้ความจริงอย่างหนึ่งที่ทำให้ถึงกับน้ำตาซึม …เหตุเกิดขึ้นเพราะ “ยัยหลาน” (ลูกของหลานอา) คนเดิมนี่แหล่ะ มาเยี่ยมคุณยายที่บ้าน บ่นว่า “บ้านนี้ ไม่มีของเล่นเล๊ยย” ว่าแล้วก็ขอค้นของเล่นของลูกสาว “ปลายฟ้า” (เจ้าตัวไปเรียนต่อที่เมืองฝรั่ง) พบของเล่นในวัยเด็กของเขาเก็บสะสมไว้อย่างดีในหีบ กล่อง ลิ้นชักตู้ โดยเฉพาะ ตุ๊กตา “บาร์บี้” ที่มองปราดเดียว รู้เลยว่า เป็นตัวโปรด เพราะแยกอยู่ในกล่องหุ้มผ้าไหมจีน หรู ดูมีวรรณะ กว่าใครๆ ….
    “ยัยหลาน” หัวเราะ คิกคัก ว่าน้าสาวของเขามี “บาร์บี้” แค่ตัวเดียว เสื้อก็ไม่เห็นสวย แล้วเขาขอโทรฯไปบอกน้าสาวทันทีว่า จะแบ่งตุ๊กตาของเขาให้หนึ่งตัว….
    “ปลายฟ้า” อึ้ง…ไถ่ถามความหลัง ลูกสาวยืนยันว่า “มีตัวเดียวจริงแท้ค่ะ…แม่ขา”
    ก็ตอนโน้น ..ขอซื้อรุ่นใหม่ๆอีกซักตัว ...เป็นเพื่อนกับตัวเดิม เอาไว้เล่นคุยกัน ตอนอยู่คนเดียว แม่ก็ไม่ยอมซื้อให้ เสื้อผ้า เค้าทำออกมาแยกขาย สวยๆ ก็ไม่กล้าขอซื้อ “หนูก็ต้องตัดเย็บเอาเอง กระหยุก
    กระหยิก ขี้เร้..ขี้เหร่ ” โชว์โก้ๆ ประชันกับพี่ๆน้องๆไม่ได้เลย ( ลูกแฝดผู้น้อง..บ้านติดกัน..มีซะคนละหลายตัว เกือบทุกแบบ ….ก็ พ่อเขาอยู่ การบินไทย..ไปนอกบ่อย ) พยายามนึกทบทวน…ทำไมตัวเองใจร้ายขนาดนั้น แล้วก็อนุมานเอาว่า.. ตอนนั้นอาจไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อของฟุ่มเฟือยแบบเดียวซ้ำๆกันได้ อีกอย่างหนึ่ง ก็ต้องฝึก ต้องสอนลูกให้รู้ค่าของเงิน รู้จักมัธยัสถ์ เก็บออม แล้วไม่ตามใจลูกจนฟุ้งเฟ้อน่ะนะ….อืมม!! แต่มันจะขัดสนจนกระทั่งซื้ออีกซักตัวก็ไม่ได้ ….หรือว่าที่จริง..เรามัวแต่ทำงานจนไม่ได้ใส่ใจเขาเท่าที่ควร นึกไม่ออกว่าได้ทำร้ายจิตใจละเมียดละไม จินตนาการและความสุขของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆในโลกแห่งความฝันของเขา…ลูกคงเสียใจมากทีเดียว….แม่ขอโทษนะจ๊ะ
    เดี๋ยวพอมีหลาน “คุณยาย” จะประเคนให้เยอะๆ (ก็..ทดแทนกันได้ซะที่ไหนล่ะ)
    ภาพในอดีตผ่านเข้ามารบกวนจิตใจอีก ลูกชายคนโตก็คงมีความรู้สึกแบบเดียวกัน เพราะเวลาพาไปบ้านพี่สาว เขาจะวิ่งขึ้นไปขลุกอยู่กับพี่ชาย (ลูกโทนของพี่สาว) ด้วยว่า มีของเล่นมากเหลือเกิน วางรอบห้องนอน หุ่นยนต์แบบต่างๆ ทุกขนาด รถจำลองหลายรุ่น ตัวต่อ”เลโก้”
    (Lego) หลายกล่องเรียงเป็นตับ …………เดชะบุญ!! ลูกชาย หญิงของ “ปลายฟ้า” เติบโตเป็นคนดี มีสัมมาคารวะ เรียนดี ไม่เกเร …ทำให้พ่อ แม่ ภูมิใจ….กราบขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก..
    วกกลับมาเข้าเรื่อง “ตุ๊กตาค้างฟ้า” กันดีกว่า ก็หมายถึงแม่สาวสวยนาม “บาร์บี้” คุณแม่ที่มีลูกสาว ต้องรู้จักดี เธอเป็น ตุ๊กตาสัญชาติ อเมริกัน ที่ฉีกแนวตุ๊กตารุ่นก่อนๆที่มักทำเป็นหุ่นเด็ก “baby doll” แต่ “บาร์บี้”เป็นสาวสวย หุ่นดีตัวแรกๆ ตุ๊กตาสาวที่ดังเหมือนกันในเวลานั้น ชื่อ
    “ Ginny” ก็ประเภท อกแฟบ พุงใหญ่ “ จึงไม่แปลกที่ “บาร์บี้” ฮิตติดอันดับโด่งมานานที่สุด นับตั้งแต่บริษัท เมทเทล ( Mettel) ผู้ผลิตนำออกเปิดตัวครั้งแรกในงานตุ๊กตานานาชาติที่มหานคร นิวยอร์ค เมื่อ ค.ศ.1959 ถึงปัจจุบันอายุปาเข้าไป 45 ปี ถ้ามีชีวิตจริง ก็ต้องเป็น “คุณน้า หรือ คุณป้า บาร์บี้” แล้วหล่ะมั๊ง…แต่ที่ยังคงดังอย่างค้างฟ้า ไม่มีใครแซงได้..ก็ต้องยกนิ้วให้บริษัทผู้ผลิตที่สร้างภาพ ผูกเรื่องราวพัฒนาการความเจริญเติบโตของ “บาร์บี้” ราวกับมีชีวิตที่โลดแล่นเหมือนจริง ก้าวล้ำเข้าไปในจินตนาการของเด็กๆ จนกลายเป็นเสมือนบุคคลใกล้ชิดสนิทสนมของครอบครัว รูปลักษณ์ของเธอเริ่มในวัยดรุณีแรกรุ่น เติบโตเป็นสาวสวย วัยทำงาน จนเป็นสาวสวยอมตะ เรือนร่างของเธอ แฟชั่นเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของใช้ก็เปลี่ยนแปรไปตามสมัย สะท้อนถึง วัฒนธรรม ความนิยม ความนึกคิด และการใช้ชีวิตของ อเมริกันชน แต่ละยุค เช่น “บาร์บี้” ในชุดเต้นบัลเล่ต์ เล่นเทนนิส โบว์ลิ่ง ชุดปิ้งบาบีคิว ชุดยีนส์ พร้อมอุปกรณ์ เครื่องใช้ตามสมัยนิยมฯลฯ
    …แล้วใครเป็นผู้ให้กำเนิด “บาร์บี้” กันละหรือ ?
    “บาร์บี้” มีชื่อจริงว่า Barbie Millicent Roberts เกิดจากแรงบันดาลใจของสองสามี ภริยา Ruth และ Elliot Handler ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Mattel นี่แหล่ะ Ruth ไปประเทศเยอรมัน แล้วซื้อตุ๊กตารูปลักษณ์ผู้ใหญ่ ชื่อ Lilli ฝากลูกสาวชื่อ Barbara ( ที่มาของชื่อ “บาร์บี้”) ซึ่งคงจะเป็นปลื้มมากๆ ปี 1958 สองสามี ภริยาก็เลยขอให้บริษัท Mattel ซื้อลิขสิทธิ์ ตุ๊กตา Lilli (สร้างจากตัวการ์ตูนในหนังสือพิมพ์รายวัน เพื่อการศึกษาเรื่องของสรีระ) มอบให้ Jack Ryan ดัดแปลงรูปลักษณ์ใหม่ ส่งไปผลิตที่ประเทศ ญี่ปุ่น ซึ่งค่าแรงถูกกว่า ลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้ราคาขายไม่แพงเกินไป ออกมาเป็น บาร์บี้ ตัวแรกที่มีลักษณะโดดเด่น คือ สาวสวย เซ็กซี่ หุ่นดี สูง 11 ? นิ้ว หนัก 11 ออนซ์ อกโต เอวคอด ในชุดว่ายน้ำ สีขาว ดำ สวมแว่นกันแดด ตุ้มหูห่วงกลมสีทอง รองเท้าส้นสูง คอ แขน ขา หมุนบิดได้ด้วย…ว้าวว!!
    …. ……ชีวิตเหมือนนิยายน้ำเน่า…..แรกๆ ..บาร์บี้ถูกรังเกียจ บรรดาแม่ๆ ไม่ยอมซื้อ ซ้ำยัง
    ว่าร้าย กระแนะกระแหน
    “ …เซ็กซี่ ไม่เห็นน่ารักเลย”
    “…โป๊..เวอร์…ไม่มีใครแต่งตัวแบบนี้จริงๆได้หรอก”
    “….ไม่ใช่ตุ๊กตาสำหรับลูกๆ แต่เป็นของพวกพ่อๆ” ?( Daddy’s doll )
    ….แต่ ฮึ ..ตุ๊กตาจะดัง…..ไม่มีใคร หรือ อะไร ฉุด รั้งได้ “บาร์บี้” กลายเป็น “แม่เหล็ก” สำหรับเด็กหญิงน้อยๆ จนถึงสาวๆ ทั่วโลก ถึงกับมี บาร์บี้ ปลอมๆเยอะแยะ เกลื่อนตลาดซึ่งหลายตัวทำสวย ใช้ได้ แต่ไม่มีชื่อใดๆในสมองและตรึงใจเด็กๆได้เท่า “บาร์บี้” ต้นตำหรับ
    นั่นเป็นเพราะ บริษัท Mattel สร้างเรื่องราว สอดใส่ความคิด ความรู้สึก ค่านิยม ให้กับ “บาร์บี้”อย่างชาญฉลาดน่าติดตาม “บาร์บี้” มีผ้ารัดเอว (Girdle) กางเกงผ้ายืดรัดแนบเนื้อ
    (Tights) และอื่นๆพร้อมสาวตามสมัยนิยม ไม่มีน้อยหน้าใคร และแล้ว เพื่อให้ชีวิตสมจริง ในปี ค.ศ. 1961 บริษัทฯ ก็เผยโฉม พ่อ แม่ ของ “บาร์บี้” ออกมา Robert และ Margaret Roberts จากเมือง
    Willows รัฐ Wisconsin ตามด้วยแฟนหนุ่มหล่อสูงสง่า มาดดี ของเธอ คือ Ken (ตั้งชื่อตามลูกชายครอบครัว Handlers อีกแหล่ะ) ซึ่งแรกพบกันในงานปาร์ตี้ ก็ต้องตา ถูกใจ กลายเป็นแฟนตามค่านิยมของวัยรุ่นยุคนั้น ใครไม่มีเพื่อนชายถือว่าไร้เสน่ห์ ต่อมาในปี 1963 เพื่อนสนิทหน้าตกกระของ “บาร์บี้”ชื่อ”Midge”ก็ออกมาเติมเต็มให้เรื่องราวของ ตุ๊กตาอมตะนี้สมบูรณ์ ยิ่งขึ้น….
    คิดว่าเรื่องจะ แฮปปี้ เอนดิ้ง เหมือนเจ้าชาย เจ้าหญิง ในนิทาน …. Barbie และ Ken รักกันมานานหลายปี ออกมาในชุดแต่งงานเกือบทุกปี .…….จู่ๆ ก่อนวันวาเลนไทน์ปี 2004 บริษัทก็ออก “บาร์บี้” รูปลักษณ์ใหม่ เป็น “บาร์บี้” ผิวคล้ำ ควงคู่มากับหนุ่มใหม่ชื่อ “Blaine” นักเล่นกระดานโต้คลื่น ชาวออสเตรเลีย หล่อ หุ่นดี ผิวคล้ำ ท่าทางคล่องแคล่ว ดูมีเสน่ห์ อ้าว Ken หายไปไหน ?….
    ข่าวสังคมซุบซิบว่า”บาร์บี้” ทิ้ง Ken ไปควงหนุ่ม Blaine เป็นแฟนจริงจัง ไม่ใช่แค่ “กิ๊ก”ซะแล้ว…. Ken อกหัก !….. โถ!! หลายคนอุทานสงสาร Ken ผู้สุขุม นุ่มนวล (..แต่ มัวงุ่มง่าม คบหาเป็นแค่แฟน แล้วไม่ขอ “บาร์บี้” แต่งงานจริงๆซะที ..เฮ้อ) … และแล้วก็พากันปลอบใจว่า Ken คงหาแฟนใหม่ได้ไม่ยาก เพราะ หล่อๆอย่างนี้ นิสัยก็แสนดี ตุ๊กตาสวยๆในตู้ตามร้านของเล่นก็มีออกมากมาย คง “ปิ๊ง” เข้าซักคนหล่ะ…
    เป็นธุระของ “ปลายฟ้า” และสาวน้อย สาวใหญ่ที่ต้องติดตามเรื่องราวชีวิตสนุกๆของ “บาร์บี้” กันต่อไป จะได้รับรู้ตอนจบของเธอ หรือว่า จะ บ๊าย บายจากโลกไปก่อน เดาไม่ได้จริงๆละก๊า….อย่างไรก็ตาม ที่หยิบเอาเรื่องนี้มานำเสนอ ก็เพียงแค่ อยากให้สติ บรรดา แม่ๆ ที่ทำงานไม่ลืมหู ลืมตา ให้ความสำคัญดูแลลูกไม่ใช่เฉพาะในด้านความเป็นอยู่ การเรียน แต่ขอให้เจียด เวลา จริงจังศึกษา หยั่งลึกเข้าไปถึง ด้าน จิตใจ ความรู้สึก ควบคู่กันไปด้วย จะได้ไม่ต้องนั่งเสียใจภายหลัง อย่าง “ปลายฟ้า” ซึ่งยังโชคดีกว่า คุณแม่คนหนึ่งที่มาเผยเรื่องราวน่าเศร้าในรายการหนึ่งทางโทรทัศน์
    คุณแม่คนนี้เลี้ยงดู บำบัดรักษาลูกชายผู้ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ กลายสภาพเป็นเจ้าชายนิทรา แทบไม่มีความหวัง ว่าจะกลับสู่สภาพเดิม ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จนอายุ 17 ปี ด้วยมานะ อดทน พลังแห่งรัก คุณแม่พร่ำพูดคุยกับลูก ให้กำลังใจ แม้ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใดๆ บัดนี้ลูกของเธอมีอาการดีมหัศจรรย์ สามารถเดินด้วยการพยุง พูด เขียน อ่านได้พอควรช่วยตัวเองได้มากขึ้น บอกว่า ถ้าหาย เดินได้เอง เขาจะบวชให้แม่ …..
    ตรงที่ “ปลายฟ้า” น้ำตาไหลพราก ก็คือ คุณแม่บอกอยากย้อนเวลา เพื่อที่จะหา
    ของใช้ ซื้อของเล่นที่ลูกอยากได้ แต่คุณแม่ไม่ยอมซื้อให้ก่อนที่เขาจะกลายสภาพเป็นเจ้าชายนิทรา ทั้งที่เขาเป็นเด็กดี เรียนเก่ง สอบได้ที่หนึ่งทุกเทอม ……เธอเสียใจ.เวลาผ่านเลยไปแล้วจริงๆ











    (ข้อมูลอ้างอิงจาก www.maddogproduction.com// ds _ barbie.html)

    จากคุณ : “ปลายฟ้า” - [ 27 ส.ค. 47 18:12:33 A:211.28.98.158 X: ]