จ้าวสมุทร ตอนที่ 51 -บุคคลปริศนา-
หวัดดี อู.. อาการเป็นไงบ้างจ๊ะ เสียงของนาฏฐาดังขึ้นพร้อมกับประตูห้องถูกเปิดออก และหลังจากนั้น นาฏฐา ต่อศักดิ์และเพื่อนร่วมชั้นเรียนของอูวดลนับสิบคนก็กรูเข้ามาในห้อง ราวกับฝูงอะไรสักอย่าง
อารดากล่าวทักทายเพื่อน ๆ ของอูวดล แล้วจึงเดินออกจากห้อง เพื่อให้อูวดลได้พูดคุยกับเพื่อนอย่างเต็มที่ และเธอจะได้ไปทำธุระอื่น ๆ ด้วย
การเยี่ยมเยียนตามมารยาทมีขึ้นเพียงห้านาทีแรก เริ่มจากนาฏฐาวางกระเช้าผลไม้ลงที่โต๊ะข้างเตียง และต่อมา อูวดลก็ต้องคอยตอบคำถามของเพื่อน ๆ ที่ถามเหมือน ๆ กันราวกับนัดเอาไว้ว่า อาการเป็นยังไงบ้าง.. ยังเจ็บยังปวดตรงไหนหรือเปล่า
แต่หลังจากห้านาทีแรกแล้ว จุดประสงค์ที่แท้จริงก็เริ่มเผยออกมา สังเกต หลายคนที่เปิดโทรทัศน์ดู หลายคนที่พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน และหลายคนที่ทานของเยี่ยมอย่างเอร็ดอร่อย มีเพียงต่อศักดิ์และนาฏฐาเท่านั้นที่ยังนั่งคุยกับอูวดล
รู้มั๊ย ตอนแรกที่รู้จากมาลาตีว่าเธอถูกรถชน ฉันก็คิดว่าอย่างมากก็คงแค่ แข้งราขาหักฟกช้ำดำเขียวนิดหน่อย ที่ไหนได้.. เล่นสลบไปตั้งวันนึงเต็ม ๆ พอรู้ว่าฟื้นฉันก็มาเยี่ยมเลย อาการเธอน่าเป็นห่วงมากเลยนะอู ตอนที่ยังไม่ฟื้นน่ะ นาฏฐาพูดรัวและเร็ว แต่อูวดลก็ยังพอจับความห่วงใยที่แฝงไว้ในน้ำเสียงได้
เออ.. ว่าแต่ว่าไปทำอีท่าไหนวะ ถึงได้ถูกรถชนจนสลบแบบนี้
อูวดลสะอึกเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามของต่อศักดิ์ เขาคิดว่าคงไม่ดีแน่ ถ้าจะบอกตามความจริง แต่ในระหว่างที่กำลังคิดหาเรื่องราวเพื่อโป้ปดอยู่นั้น ก็เหมือนมีสัญญาณจากสวรรค์ เพราะนาฏฐาขัดขึ้นเสียก่อน
ถามไม่เข้าเรื่องเลย ต่อ อย่างนี้น่ะเหรอจะเรียนแพทย์.. แค่เรื่องจิตวิทยากับคนไข้ก็ไม่ได้เรื่องเสียแล้ว
ต่อศักดิ์ขมวดคิ้ว แล้วพูดออกไปอย่างไม่เข้าใจ แล้วการที่ฉันจะถามสาเหตุว่าทำไมอูมันถึงถูกรถชนเนี่ย มันเกี่ยวข้องกับจิตวิทยาคนไข้ตรงไหนไม่ทราบ.. หา..ยัยนาฏ
นาฏฐาสะอึกบ้าง แต่ก็รีบเอาตัวรอดได้อย่างรวดเร็ว ช่างมันเถอะน่า.. เออ อาจารย์รุจินามาเยี่ยมเธอหรือยังล่ะ อู
มาเมื่อตอนบ่าย อูวดลยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ มาถึงก็ถามอาการ แล้วก็พูดซ้ำ ๆ ว่า ถ้าไหวก็หาหนังสือมาอ่านบ้างนะ จะได้เรียนทันเพื่อน.. เฮอะ.. คิดดูสิ ฉันอยู่ในสภาพแบบนี้ยังจะให้ฉันอ่านหนังสืออีก
ก็แหงล่ะ ต่อศักดิ์เสริม ฉันว่าอาจารย์เค้าคงเห็นว่าแกร่าเริงดี ไม่มีคราบของคนเจ็บ ก็เลยไม่อยากให้เวลาเสียไปโดยเปล่าประโยชน์น่ะสิ อีกไม่นานก็สอบแล้วนะโว้ย
ตั้งสองเดือน นาฏฐาแย้ง แล้วฉันก็ไม่เห็นว่าเวลาที่เสียไปกับการรักษาตัวมันจะเปล่าประโยชน์ตรงไหน นาฏฐาพูดจบก็หันมามองหน้าอูวดลชั่วครู่ แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น
แต่เธอก็ไม่มีคราบของคนเจ็บเลยนะอู.. ฉันว่า.. ถ้าเอาผ้าก๊อตบนหัวและก็เฝือกที่ขาออก นายก็คงจะเหมือนคนธรรมดาทั่วไปจริง ๆ นะ
เหรอ อูวดลขมวดคิ้ว ตรงไหน
ก็หน้าของเธอยังสดใสอยู่เลย นาฏฐาตอบ เธอดูสดชื่น พูดจาได้ร่าเริงตามปกติ อย่างนี้ล่ะมั้ง อาจารย์รุจินาเลยคิดว่านายน่าจะอ่านหนังสือ ทบทวนวิชาไหว
งั้นเหรอ อูวดลพูดด้วยน้ำเสียงขมขื่น ฉันไม่รู้หรอกนะว่าฉันจะสดใสอย่างที่พวกนายบอกหรือเปล่า แต่พวกนายเชื่อเหอะ ถ้าฉันก็บอกว่า ฉันยังเจ็บอยู่ตลอดเวลา.. และถึงแม้ว่าฉันก็ออกจากโรงพยาบาลไปแล้วก็ตาม ฉันก็คงเจ็บอยู่นั่นเอง
อูวดลเบือนหน้าหนีออกไปทางระเบียง เขาเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าต่อศักดิ์กับนาฏฐาไม่มีทางเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด แต่ทั้งสองก็ไม่ได้ปริปากถามอะไรต่อ ภาพริ้วเมฆบาง ๆ สลับกับท้องฟ้าที่ส้มปรากฏอยู่ด้านหลังผ่าม่าน ดวงตะวันยามเย็นกำลังหย่อนตัวลงที่ขอบฟ้าไกลลิบ เป็นสัญญาณถึงความพร้อมของพระจันทร์ที่กำลังจะลอยขึ้นเหนือขอบฟ้าอีกด้าน อูวดลหลับตาพริ้ม.. ความเจ็บปวดในจิตใจที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้นัยน์ตาของอูวดลเริ่มชื้นแฉะขึ้นมาอีกครั้ง
.
พวกเรากลับก่อนนะ อู นาฏฐาพูดขึ้นในครึ่งชั่วโมงต่อมา อูวดลไม่มีเรี่ยวแรงตอบโต้อะไรทั้งนั้น นอกจากพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ หลังจากนั้น เพื่อน ๆ ก็ออกไปจากห้องจนหมด
อูวดลอยู่คนเดียวไม่นาน อารดาก็เข้ามาในห้อง พร้อมกับเลื่อนรถเข็นรมณีย์เข้ามาด้วย อูวดลรีบชันกายลุกขึ้นทันทีเมื่อรู้ว่ารมณีย์เข้ามา แต่ก็ทำไม่ได้เพราะทันทีที่หัวพ้นจากหมอน เขาก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที
ไม่ต้องลุกหรอกลูก รมณีย์พูดพร้อมกับใช้มือดันล้อรถเข็นให้เข้าใกล้เตียงอูวดล น้ำตาของรมณีย์คลอเบ้าเมื่อเห็นสภาพของลูกชาย
เจ็บมากไหมลูก
ทันทีที่เห็นน้ำตาของรมณีย์ จิตใจของอูวดลก็เหมือนจะเข้มแข็งขึ้นมาเล็กน้อย ผมไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก.. แค่นี้สบายมากอยู่แล้ว อูวดลพูดไปอย่างนั้นเอง ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้ว ความเจ็บปวดนั้นกำลังเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ
วันหลังอย่าประมาทอีกนะลูก รมณีย์พูดด้วยเสียงสั่นเครือพร้อมกับยื่นมือทั้งสองข้างมากุมมือซ้ายของอูวดลเอาไว้ แม่รักลูกมากนะ.. และแม่ก็คงจะไม่มีทางทำใจได้ถ้าต้องเห็นลูกในสภาพแบบนี้อีก.. รับปากกับแม่นะลูก รับปากว่าลูกจะไม่เป็นแบบนี้อีก
ครับ อูวดลก้มหน้ารับคำ ความเศร้าโศกที่ส่งผ่านมาทางรมณีย์ทำให้อูวดลรู้สึกสับสน ระหว่างความแค้นที่มีต่อไซโซกับความรักที่มีต่อรมณีย์
อูวดลรับปากกับรมณีย์ว่าจะไม่ประมาท.. แต่การไม่ประมาทของอูวดล หาใช่การหลีกเลี่ยงที่จะพบกับไซโซไม่
ในเมื่อโชคชะตามันเล่นตลกมาตั้งแต่ต้น.. ก็ปล่อยให้มันโลดแล่นไปตามบทบาทแปลก ๆ ต่อไปก็คงจะไม่เสียหาย
แต่ถึงกระนั้น อูวดลก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า.. รมณีย์กับอารดาจะต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องตลก ๆ พวกนั้นอีก
จากคุณ :
Waasuthep
- [
29 ส.ค. 47 23:00:58
A:203.113.81.9 X:
]