รักสุด..สะดุดภู...(ครึ่งแรก)
ไอ้กฤษเดินช้า ๆ หน่อยโว้ย..น้องนิดยังนั่งอยู่นั่นเลย
เสียงแซวจากดนัย หรือที่เพื่อน ๆ เรียกกันว่า ไอ้หนึ่ง ลอยขึ้นมาทัก ทำให้กฤษณะชะงักฝีเท้า ขมวดคิ้วมุ่น
ชื่อผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาเป็นที่เฮฮาปาจิงโกะมากในหมู่เพื่อนฝูงนับตั้งแต่วันงานเลี้ยงศิษย์เก่าที่มหาวิทยาลัยจัด ทำไมน่ะเหรอ ก็นิตยดา หรือน้องนิดที่ดนัยเรียกนั่นน่ะ นินทาเขาเสียยับกลางงานเลี้ยงรุ่น
ความจริงเสียงเจ้าหล่อนก็ไม่ได้ดังเท่าไหร่ค่าที่มีเสียงดนตรีจากเวทีคอยกลบอยู่ แต่ดวงเขามันซวยเองที่บังเอิญเพื่อนกลุ่มเขาดันจองโต๊ะติดกับโต๊ะที่เจ้าหล่อนนั่งพอดี (อย่าคิดมากคุณพี่ขา ก็แม่เจ้าประคุณน่ะ จองตั้ง 5-6 โต๊ะ ไปจ๊ะกะโต๊ะคุณพี่มั่งก็ไม่แปลกหรอกเจ้าค่ะ หุหุ)
ตอนแรกเขาก็ฟังนิตยดาพูดอยู่บ้างเพราะออกสนใจว่าเธอพูดเกี่ยวกับชื่อคนที่เขารู้จัก แต่ไป ๆ มา ๆ ดันมีชื่อเขาเข้าไปติดบอร์ดสนทนาด้วยซะนี่
ทีนี้ล่ะ..แทนที่เขาจะฟังอยู่คนเดียว เพื่อน ๆ ที่นั่งโต๊ะนั้นก็พลอยหูผึ่งไปกันหมด และดนัยก็เป็นหนึ่งในใครกลุ่มนั้นด้วย
เขายังจำเหตุการณ์เมื่อเดือนที่แล้วได้ดี
ไอ้นายพี่กฤษณะน่ะนะ ยัยนั่นก็แค่ควงเล่นเท่านั้นแหละ ถึงพี่เขาจะหล่อจะรวย แต่ก็เป็นคนบ้านนอก น้องชมภูนุชขา น่ะเหรอจะจริงจังด้วย ไม่มีทาง!!
นั่นหนึ่งล่ะ..
ตอนเราอยู่ปีสองได้ยินว่า พี่แกหักหน้าพวกปีสองคณะเดียวกันตอนรับน้องซะเละเลย เรียกพวกปีสองมาว๊ากต่อหน้าเด็กปีหนึ่ง น้อง ๆ หดไปตามกัน พวกปีสองไม่ต้องพูดถึง ซีดเป็นไก่ต้มไปเลย..
ข้อสองนี่มีความจริงอยู่บ้าง แต่เล่าไม่ยักหมด ใครฟังคงไม่ได้มองเขาในแง่ดีแน่
รถของพี่กฤษสังเกตง่ายมั่กๆ สีแดงแปร๊ด....สงสัยกลัวโดนขโมยจากฝั่งไทยไปเขมร
นั่นแน่ะ รู้สีรถเขาซะอีก
พี่กฤษแกแปลก ๆ ด้วย คนอะไรจบมาได้เกียรตินิยมแท้ ๆ แต่ไม่ยักเรียนโทต่อ ต้องมีความลับอะไรแน่ ๆ คนมีเงินที่ไหนเรียนดีแล้วไม่เรียนต่อ จริงมะ?
การเรียนเป็นสิทธิส่วนบุคคลไม่ใช่หรือไงนะ เขาจะเรียนต่อหรือไม่เรียนเจ้าหล่อนจะมาหนักแทนเขาทำไมกัน
วันก่อนเห็นพี่เขาที่ห้างฯ ด้วยนะ เดินกับพี่ออ ที่เป็นเกย์น่ะ สงสัยอกหักเลยเปลี่ยนรสนิยม
ข้อนี้สิรับไม่ได้จริง ๆ เพื่อนที่นั่งอยู่ร่วมโต๊ะด้วยพากันไอแค่ก ๆ ไปตาม ๆ กัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากำลังพยายามเกลื่อนเสียงหัวเราะกันเต็มที่
และเขาคิดว่าคงตามมาอีก ฯลฯ ถ้าเพื่อนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นิตยดาไม่หันมาทักทายเขาซะก่อน ตอนที่เจ้าหล่อนทราบว่าเขาได้ยินทุกประโยคที่ตัวเองพูดนั้น สะใจเขาพิลึก
เพราะนิตยดานั่งหลังตรงตัวแข็งทื่อ แถมเงียบกริบอีกต่างหาก สาวช่างเจ๊าะแจ๊ะเมื่อครู่หายไปได้ไงก็ไม่รู้
เหตุการณ์คงจบแค่นั้นถ้าเพื่อนคนนึงของเขาไม่ดันไปรู้จักเพื่อนของนิตยดาเข้า และชวนมาภูกระดึงต้องรับปีใหม่ด้วยกัน
ไม่ไปดูน้องเขาหน่อยวะ ไอ้กฤษ ท่าทางเหนื่อยน่าดู
เอ็งเป็นคนชวนก็ไปดูเองสิวะ
อะฮ้า...ไม่ต้องมามั่วเลยไอ้กฤษ ข้าน่ะชวนแค่อาณัติกับแฟนเขาโว้ย น้องนิดน่ะฝีปากเอ็งไม่ใช่เหรอถึงต้องมานั่งจุ้มปุ๊กอยู่โน่น ไปเทคแคร์น้องเขาเลย หลอกให้เขามาก็เห็นใจเขาหน่อยสิวะ
กฤษณะถอนหายใจแรงๆ อยากจะบอกอยู่หรอก ว่าไม่เกี่ยวกับเขา แต่ก็พูดไม่เต็มปากนัก ก็จริง ๆ แล้วน่ะ เขาก็จงใจพูดยั่วให้นิตยดา มาภูกระดึงด้วยจริง ๆน่ะแหละ อยากให้เจ้าหล่อนตกหลุมพราง มาลำบากซะบ้าง ท่าทางเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อออกอย่างนั้น (เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อมีที่ไหน เหยียบขี้ไก่ก็ต้องเละดิ อิอิ / คนเขียน)
แล้วผิดจากที่คิดที่ไหน เดินมาไม่ถึงห้าร้อยเมตรด้วยซ้ำ ก็ทำท่าว่าจะจอดอยู่ตรงนั้นซะแล้ว...
ไหวหรือเปล่านิด นี่ยังไม่ถึงเศษหนึ่งส่วนสี่เลยนะอย่าเพิ่งมาจอดสิ
เสียงหัวเราะคิกคักของเพื่อนสาวทำเอานิตยดาตวัดสายตาขึ้นมองค้อน ทั้งๆ ที่ยังหอบเพราะความเหนื่อย
ก็ฉันไม่ได้มาเป็นครั้งที่สาม ที่สี่ เหมือนเธอกะแฟนเธอนี่ จาได้ชินชาซะเหลือเกิน
กวินายิ้มกว้าง รับคำกระทบของเพื่อนสาว อาณัติคนรักของกวินาเดินมาสมทบหลังจากซื้อน้ำเย็นให้นิตยดาเพื่อคลายเหนื่อย ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ได้ช่วยเกี่ยวกับอาการเหนื่อยแทบขาดใจของนิตยดาซักเท่าไหร่ ก็เหนื่อยกับกระหายน้ำน่ะ มันเรื่องเดียวกันที่ไหนล่ะ อากาศก็เย็นอยู่แล้วยังเอาน้ำเย็นมาให้อีกไม่รู้อีตาณัติแกล้งเธอหรือเปล่า
ยัยนิด ฉันน่ะเตือนเธอแล้วนะ ว่ามันลำบาก อยากมาเองนี่ นี่คิดจะพิสูจน์อะไรอยู่รึเปล่า อาณัติพูดขึ้นพร้อมกับยื่นขวดซึ่งบรรจุน้ำเย็นใสสะอาดอยู่ข้างในให้เพื่อนสาว
ฮึ!! นิตยดาไม่รับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธด้วย เพราะเรื่องราวเป็นยังไงทั้งอาณัติและกวินาต่างก็รู้ดี เพราะอยู่ในเหตุการณ์ทั้งคู่
พี่ดนัยชวนไปภูกระดึง นิดไปมั้ยจ๊ะ
นิตยดาจำคำเอ่ยชวนของกวินาได้ดี ในงานศิษย์เก่า เมื่อเดือนที่แล้ว ใครจะไปคาดคิดว่าคนที่เธอนั่งนินทาอยู่น่ะ นั่งอยู่ใกล้เธอแบบที่เรียกว่าหลังพิงกันก็คงจะได้ แถมรุ่นพี่ทั้งโต๊ะนั่นยังสนิทกับอาณัติซะอีก หมอนี่ก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าเธอกำลังลำบากใจ พอเจอหน้าคนรู้จักก็เม้าส์แตกกระจุย ถึงบรรยากาศจะหายเครียดไปแล้วแต่เธอก็ยังไม่กล้ามองหน้า พี่กฤษณะ ที่ถูกเธอนินทาซะยับเยิน
พอถูกเพื่อนสาวชวนไปเที่ยวภู ก็เลยลังเล เพราะรู้ว่าพี่กฤษจะไปด้วยนั่นเอง
ไม่ไหวมั้งครับน้องแนช ก็น้องนิดน่ะตัวบางอย่างกับอะไร คงเหมาะจะไปเดินชอปปิ้ง ต่างประเทศมากกว่า จะมาลุยเขาลุยภูแบบพวกพี่
เธอตวัดสายตาขึ้นมองคนพูดทันที เป็นครั้งแรกในคืนนั้นที่เธอกล้าสบตาพี่กฤษแบบตรงๆ และพบสายตาคมเข้มนั้นมองเธออยู่ก่อนแล้ว แปลกมากๆ ทั้งๆ สายตาเขาไม่บ่งบอกความรู้สึกอะไรแท้ๆ แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกว่า ที่เขาพูดน่ะ กำลังดูถูกเธออยู่กลายๆ นะ
หลังจากนั้นเธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองหลุดปากตกลงมาเที่ยวภูกระดึงได้ยังไง เลยต้องรีบไปแคนเซิลตั๋วเครื่องบินไปฮ่องกงในเทศกาลปีใหม่แทบไม่ทัน (วางแผนไปชอปปิ้งต่างประเทศจริงๆ ด้วย >__<)
แต่ถ้ารู้ว่าจะต้องมาทนตกระกำลำบากแบบนี้ยอมเสียหน้าไม่มาดีกว่า ฮือๆ คนก็เยอะยังกะมด แถมต้องแบกของเองอีก จะจ้างลูกหาบเขาก็บอกว่า ต้องรอพรุ่งนี้ของถึงจะถึงยอดภู ใครจะไปรอไหว ลำบากๆๆๆๆ โค-ตร
จากคุณ :
wayo
- [
30 ส.ค. 47 19:01:37
]