ความคิดเห็นที่ 1
ปรายฟ้า บทที่ 20
ความเงียบเข้ามาครอบคลุมบรรยากาศภายในรถอีกครั้ง แม้ว่าต่างฝ่ายต่างก็มีเรื่องที่อยากจะไถ่ถามกันอยู่เช่นกัน เพียงแต่ติดที่ว่า ไม่มีฝ่ายใดกล้าที่ถามออกมาก่อนเท่านั้นเอง
สุดท้ายก็เป็นปรายฟ้าที่ถามออกมาก่อน...
พี่กฤษต์คะ ที่บอกว่าสัญญากับแม่ของฟ้าไว้น่ะ หมายความว่าไงเหรอคะ
อ้อ... เรื่องนั้นนะเหรอ ใบหน้าเข้มที่ยังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเอง ดูจะมีริ้วรอยของความตื่นเต้นจางๆ ปรากฏขึ้นเมื่อคำถามนั้นดังออกมา กฤษต์เงียบไปเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
ความจริงก็ไม่มีอะไรหรอก พอดีพี่เห็นว่าดึกแล้วน่ะ ก็เลยอ้างกับพี่สอเขาไปอย่างนั้น ขานั้นถ้าติดลมแล้วละก็ คงหาเรื่องปลีกตัวกลับลำบากนะ ก็เลยต้องแอบอ้างผู้ใหญ่เขาไป ฟ้าคงไม่ว่าหรอกนะ
อ้อ... เป็นงั้นไป ฟ้าก็งงว่าพี่กฤษต์ไปทันสัญญิง สัญญากับแม่ของฟ้าไว้ตอนไหนยังไงซะอีก ปรายฟ้าพูดพลางถอนหายใจเบาๆ พร้อมรอยยิ้มจางๆ โดยที่ไม่ทันสังเกตเห็นใบหน้าของชายหนุ่ม คู่สนทนาเลยว่าใบหน้านั้นซ่อนความจริงอะไรบางอย่างเอาไว้...
แต่ยังไงฟ้าก็ขอบคุณพี่กฤษต์มากๆ นะคะ ที่ต้องคอยมาลำบากตามรับตามส่งฟ้าอย่างนี้ ทั้งที่ความจริงแล้วก็ไม่ใช่หน้าที่อะไรของพี่กฤษต์เลย แถมบ้านพี่กับบ้านฟ้าก็ไม่ได้อยู่ ใกล้ๆ กันซะด้วยสิ
ไม่เป็นไรหรอกฟ้า พี่เต็มใจ น้ำเสียงเรียบง่าย หากแต่กลับฟังดูอบอุ่นเหลือเกินสำหรับคนฟัง ทำเอาเจ้าตัวเผลอยิ้มตอบรับออกไปกับเหตุการณ์เบื้อหน้าอย่างไม่ทันรู้ตัว แต่เมื่อรู้สึกตัว ว่าใบหน้าของตัวเองเปื้อนยิ้มจนเกินงาม ก็เลยต้องรีบเก็บรอยยิ้ม ก่อนจะเฉตามองออกไป ทางด้านนอกทดแทน
แต่แม้จะละสายตาไปจากคู่สนทนาของเธอ หากแต่ใบหน้าเพียงชั่วครู่ที่เขาหันมาสบตา พร้อมคำพูดสั้นๆ เหล่านั้น กลับยังดูเหมือนว่ายังลอยวนอยู่ในความรู้สึกได้อย่างน่าแปลกใจ
นานแค่ไหนแล้วนะ ที่เธอไม่ได้เห็นแววตา และรอยยิ้มที่อบอุ่นแบบนี้ คำพูดสั้นๆ แต่กลับฟังแล้วทำให้รู้สึกวางใจ และมั่นใจในตัวของเขาคนนั้นได้มากมายเหลือเกิน
ขอบคุณมากนะคะพี่กฤษต์ ... ขอบคุณ...
กฤษต์เงียบไปทั้งที่ความรู้สึกบางอย่างในหัวใจบอกกับเขาว่า... ... นี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ที่จะพูดในสิ่งที่เก็บกักเอาไว้ในหัวใจออกไปให้คนข้างๆ ได้รับรู้...
แต่ความรู้สึกอีกด้านกลับดึงรั้นคำพูดเหล่านั้นให้ติดอยู่แค่ปลายปาก... ไม่ใช่เพราะไม่กล้าพูดในสิ่งที่เขารู้สึก แต่เป็นเพราะไม่แน่ใจในสิ่งที่เขากำลังจะพูดออกไป...
ไม่แน่ใจ... ว่ามันถึงเวลาที่เหมาะสมจริงๆ แล้วหรือยังที่เขาจะพูดเรื่องออกไป ไม่แน่ใจ... ว่าสำหรับปรายฟ้า เรื่องของใครบางคนที่มีความหมายในวันเก่าๆ นั้น จะจางหายไปบ้างหรือยัง ไม่แน่ใจ... ว่าตัวเขานั้นทำให้ปรายฟ้ามั่นใจได้บ้างหรือยังว่าเขานั้นสามารถปกป้องคุ้มครองเธอได้
สุดท้ายเสียงเพลงที่ปรายฟ้าร้องออกมา ก็ทำให้เขาตัดสินใจนิ่งเงียบไม่พูดสิ่งเหล่านั้นออกไป ก็อย่างที่เพลงว่าไว้นะแหละ เขาในตอนนี้ก็คงเป็นได้แค่ไม้ขีดไฟก้านเล็กๆ เพียงก้านเดียวเท่านั้น หากรีบจุดตัวเองเมื่อไหร่ไม่นานนัก แสงนั้นก็คงมอดดับไป แล้วก็คงมีแต่ตัวเขาเท่านั้น ที่จะเลือนหายไปสายลมแหล่งกาลเวลา
บางทีการเฝ้ารอและเฝ้าเพาะบ่มความรู้สึกเหล่านี้ไว้อีกสักพักก่อนน่าจะช่วยทำให้อะไรๆ ดีกว่านี้บ้าง อย่างน้อยในวันข้างหน้า เขาอาจมีโอกาสที่จะเป็นได้มากไปกว่าไม้ขีดไฟก้านเล็กๆ เพียงก้านเดียว
และตัวเขาเองก็เชื่ออยู่ลึกๆ ว่าถึงขณะนี้ปรายฟ้าเองก็คงพอเข้าใจในความรู้สึกบางส่วนของเขาเช่นกัน เพราะอย่างนั้นคงไม่จำเป็นเท่าไหร่นักที่จะต้องพูดมันออกไปในตอนนี้ให้ต้องอึดอัดใจกันไปทั้งสองฝ่าย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง... ในเวลาที่ขนาดตัวเขาเองที่ควรจะเป็นคนพูดยังสับสนและยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ ต่างๆ นานามากมายขนาดนี้
บางทีการปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงใจที่มีให้กัน น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า และอาจทำให้ปรายฟ้าเอง สบายใจมากกว่าที่จะต้องมากังวลกับความรู้สึกที่เขามีให้ในขณะนี้จนมากมายเกินไป
แม้ว่าจะยังไม่ได้พูดมันออกไป แต่อย่างน้อยแค่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกที่มีให้คนข้างๆ ได้รับรู้บ้าง... แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วนี่นา ไม่เร่งร้อน รีบเร่งจนเกินพอดี การทำแบบนี้อาจจะเป็นทางออกที่ดีกว่า ในเมื่อเวลาของเขาก็ยังคงเหลืออยู่บ้าง อย่างน้อยก็อีกปีครึ่ง...
คงมีสักวันแหละน่า... ที่เขาคิดว่าเขาพร้อมพอ ที่จะเสนอตัวเข้าไปดูแลหัวใจคนข้างๆ คนนี้ได้อย่างเต็มที่ แล้ววันนั้นเขาจะเสนอตัวเข้าไปแทนที่คนคนนั้นที่มีความสำคัญกับความทรงจำของเธออย่างมากมาย ให้ได้
... รออีกหน่อยนะหัวใจ... รออีกนิด... อีกไม่นานหรอก.... ไม่นาน....
===========================================================================
ยอมให้เธอล่วงเกินหัวใจก็พอ... ที่เหลือรอเวลา... ไว้วันหนึ่ง ฉันสัญญา....
.... ฉันจะเป็นของเธอ....
===========================================================================
จากคุณ :
นายนิรันดร์
- [
31 ส.ค. 47 00:01:00
]
|
|
|