CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ความทรงจำที่เจ็บปวด (ของฉัน)..ฉันชื่อ " พรรณนา " ตอนที่ 20

    ตอน : ข้าวในนา




    แม้มันจะผ่านมาเกือบสองเดือน... ..

    แต่เหมือนอะไรๆ มันก็ไม่ดีขึ้นมา... .

    มันยังเหงา และเจ็บ

    และก็ยังคงคิดถึงพี่นัท อยู่อย่างนั้น ทุกวัน... .



    ในใจก็เฝ้าถามตัวเองว่า ยังไปรักเค้าอยู่ทำไม... ... ในเมื่อเค้าไม่รักเราแล้ว



    แต่ก็ไม่มีคำตอบจากหัวใจ... ..

    รู้แต่วันนี้ฉันยังรักพี่นัทอยู่เลย….

    คงเป็นเพราะรักครั้งแรก…มันถึงทำให้ฉันเป็นหนักถึงขนาดนี้…... ... รึเปล่า…


    ฉันไม่ทราบ…



    รู้แต่ มันคงเป็นกรรม ที่รักครั้งแรก ก็มารักคนผิด ซะแล้ว..



    แล้วอยู่ๆ วันนึงก็ไม่รู้ รู้สึกอะไรขึ้นมา……

    มันเหมือนนานแล้วที่ไม่ได้คุยกัน... .

    มันคิดถึงจนอยาก จะได้ยินเสียง……ขึ้นมาซะเฉยๆ ... ..


    แม้จะรู้ว่าไม่มีสิทธิ ในตัวพี่นัทอีกต่อไป…

    แต่มันก็เหมือน อยาก จะได้ยินเสียงพี่นัท อีกซักครั้ง... .

    เหมือนมันทำให้อุ่นใจ….

    ไม่ว่าจะเป็นฐานะใดๆ ก็ตาม... . แม้จะไม่ใช่ในฐานะแฟน…..อย่างแต่ก่อน….


    ฉันโทรไปหาพี่นัท ตอนเที่ยงคืน…..


    รู้สึกเหมือนใจสั่น….ตื้นเต้น ใจจดใจจ่อ กับ เสียงพี่นัทที่กำลังจะรับสาย...


    “ ฮัลโหล “ เสียงพี่นัทแหบ เหมือนคนหลับไปแล้ว แล้วตื่นมารับโทรศัพท์


    ฉันนิ่งไป..พูดไม่ออก….

    เหมือนแค่นั้น แหละ ฉันดีใจแล้ว…

    มีความสุขแล้ว ที่ได้ยินเสียงพี่นัทอีกครั้ง…

    เหมือนเป็นน้ำแค่หนึ่งหยด ที่หยดลงไปบนหัวใจที่แห้งแล้ง…

    แม้มันน้อยนิด แต่ก็รู้สึกชุ่มขึ้นมา

    พอแค่ให้หายร้าวใจ... ..


    “ ฮัลโหล..” เสียงฉันสั่นไปหมด มันแหบ และเบา ..

    เหมือนกำลังภายใน มันหายหุบเข้าไปหมด….


    “ ฮัลโหล…. ปลาอ๋อ…. “…..เสียงพี่นัทยังคงงัวเงียเหมือนเดิม

    มันฉันสั่นจนจับโทรศัทพ์แทบไม่อยู่….

    “ ค่ะ …. “ ฉันตอบไป เสียงสั่น ….น้ำตามันก็ไหลออกมา…

    มันเหมือนเป็นวันที่ ฉันตัดสินใจผิดอย่างแรง ที่โทรมาหาพี่นัท…


    “ อืมม….นอนแล้วอะ…….ทำไมปลายังไม่นอนอะคับ…พรุ่งนี้มีเรียนเช้า ไม่ใช่หรอคับ.. “


    ฉันร้องไห้ กระซิก ทั้งที่ถือหูโทรศัพท์ อยู่อย่างนั้น …

    จนต้องกดทิ้ง…..พี่นัทคงไม่ได้ดูเลย ว่าใครโทรเข้าไป…

    คงลบเบอร์ฉันทิ้งไปแล้ว…..หรือไม่ก็ใจจดจ่อ แต่พี่คนนั้น คนเดียว……


    ซักพัก พี่นัทก็โทรกลับมา…

    ฉันก็ร้องไห้…….

    “ นา ขอโทษ…..ฮือ….ฮือ…..นาขอโทษจริงๆ … “

    “ คือ…….มันคิดถึง…… “

    “ นา ทำไม่ได้…… “


    ความอดทนของฉัน ที่ต่อสู้กับการที่จะต้องตัดใจ

    ไม่ให้รักพี่นัท ที่มีมาเกือบสองเดือน….

    ต้องพังลงมาหมด….


    มันเหมือน สปริง ที่ไปบีบบังคับ มันเอาไว้

    ให้มันหด ขดตัวอยู่อย่างอึดอัด……

    เมื่อเผลอไป คลายมันเพียงนิด

    มันก็ดีดตัวหนีไป…..


    พี่นัทบอกให้ฉันทำใจ….ฉันต้องทำให้ได้

    เป็นคำสั่งจากคนที่เคยรักกัน ก่อนที่จะวางหูไป….


    หลังจากวันนั้น เหมือนวันที่ฉันพยายามนับมาทุกวัน

    ต้องกลับมาเริ่มนับใหม่อีก….

    แต่มันก็คืนสภาพกลับมาเร็ว….

    ไม่เหมือนคราวก่อนที่พึ่งเลิกกันใหม่ๆ ….

    หลังจากวันนั้น มา….ฉันก็ไม่โทรไปหาพี่นัทอีก….



    เวลา หลังเลิกเรียน

    เป็นเวลาที่ใจหายวาบทุกวัน

    เพราะเคยเป็นเวลาที่ฉันต้องไปหาพี่นัท


    หวังว่าเค้าคนนั้น คงดูแลพี่นัท……เหมือนที่ฉันเคยดูแล


    หลังจากไม่มีที่ไป….ไม่มีบ้านพี่นัท

    ฉันเลยกลับบ้านตั้งแต่เย็น….

    อาบน้ำ….นอนปล่อยอารมณ์ อยู่บนเตียง….


    เสียงกลอง ของน้าชัย เป็นสิ่งที่กลับมาได้ฟังเหมือนเดิม…

    แต่มันหนวกหูเหลือเกินในเวลานี้…ไม่ฟังเพลินเหมือนก่อน….

    น่าอิจฉา น้าพิมจัง…..น้าชัยคงรักน้าพิมมาก…

    ไม่เคยเปลี่ยนใจไปรักคนอื่น…..

    ไม่เหมือนรักของฉัน….แค่ปีเดียว ทุกอย่างก็จบ…



    ฉันเปลี่ยนเป็น ไปนั่งเล่นที่สนามเด็กเล่นในหมู่บ้านแทน…

    เพราะทนหนวกหูเสียงกลองของน้าชัยไม่ไหว….


    ฉันชอบไปนั่งชิงช้า…ไกวมันไปมาเบาๆ …

    นั่งมองอะไรเรื่อยเปื่อย….

    ฉันจะไปนั่งอยู่แบบนั้น เกือบทุกวัน….


    มีพี่ ม.6 อยู่คนนึง อยู่คนละโรงเรียนกัน

    ชอบขับมอเตอร์ไซด์ มาเวียนๆ ๆ ๆ …. แล้วก็ยิ้มให้ฉัน….

    เค้าก็ขับของเค้าอย่างนั้น เกือบทุกวัน….


    จนฉันรู้สึกขำ..ว่าเค้าทำอะไร…

    ตอนแรกก็รู้สึกรำคาญ…แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร….

    เพราะฉันปล่อยใจไปกับ ภาพเก่าๆ มากกว่า…

    เลยเห็นเค้าเป็นแค่ วัตถุอะไรบางอย่าง ที่มันผ่านไป ผ่านมา…..


    เวียนอยู่ได้สามสี่วัน บางวันก็มากับ เพื่อน…

    แล้วสุดท้าย เค้าก็จอดรถ ลงมาคุยด้วย….


    เค้าก็มาแนะนำตัว….ว่าเค้าชื่อ ข้าว….

    มันทำให้ฉันต้องหันไปมองเค้า..ว่ามันมีอะไรในตัวเค้า ที่แปลกชาวบ้านรึเปล่า…

    พ่อกับแม่เค้าถึงตั้งชื่อ ออกมาแปลกปานนั้น …

    ก็ไม่มีอะไร ….เค้าเป็นคนไม่หล่อ ( เข็ดคนหล่อไปแล้ว ) แต่น่ารัก…เหมือนการ์ตูนญี่ปุ่น…ทำผมตั้งๆ

    นา..ข้าว..ฉันนึกเล่นๆ ในใจ มันฟังดูขำดี…

    เค้าถามฉันว่า ฉันชื่ออะไร….

    ฉันนิ่งไปพักนึง….

    บอกว่าชื่อ คนอกหัก….

    พูดไปเล่นๆ แต่ความรู้สึกเหมือนสะท้อนมาจากใจ…..

    “ เปล่า ชื่อ นา… “ ฉันตอบตามหลังไป

    เค้าก็ยิ้ม…..

    “ ข้าว ต้องพึ่งนานะ ถึงจะมีชีวิตขึ้นมา “

    “ ชื่อเธอ มีค่าสำหรับพี่นะ…. “

    มันเหมือนสะดุดใจฉันอย่างจัง กับคำว่า มีค่า….

    ฉันคงเป็นโรคจิต…ที่รู้สึกดี จนสะเทือนใจกับคำบางคำ

    คงเป็นเพราะฉันเคยแต่ถูกทอดทิ้ง..เหมือนคนไม่มีค่า..มาตั้งแต่เด็ก….


    มันทำให้ฉันรู้สึกดี และรู้สึกอยากจะคุยกับเค้าขึ้นมาทันที…..


    เค้าถามว่าฉันเป็นอะไร….เค้าผ่านมา เห็นฉันนั่งซึมทุกวัน…

    ฉันก็บอกไปตรงๆ ว่า พึ่งเลิกกับแฟน…..

    หน้าฉันเริ่มเครียด และซึมลงไปทันที ที่กลับมาพูดถึงมันอีก

    พี่เค้าก็บอกว่า…บางทีการที่ได้พูดมันออกมา มันทำให้อะไรๆ ดีขึ้น….

    มันเป็นการเยียวยาอย่างนึง…..

    “ พี่คิดเองไม่เป็นหรอก…อ่านในหนังสือมา…. “ ….พี่เค้าออกตัว


    หน้าตาเค้า ขี้เล่น ไม่น่าเชื่อ ว่าจะพูดอะไรเป็นสาระได้….


    ฉันไม่ได้ชอบเค้านะ…..ไม่แม้แต่นิดเดียว…..แต่มันก็ดี….

    ทำให้เวลาเหงา มันลดลง…..


    เค้าแวะมานั่งกับฉันทุกวัน ที่ชิงช้า ตรงนั้น …..

    บางวันฉันก็ไม่ได้พูดอะไรมาก กับพี่เค้า….

    ได้แต่นั่งเหม่อ ปล่อยใจ ให้ลอยไปเหมือนเดิม…..


    รู้จักกันจนเริ่มสนิท… ( และยิ่งสนิท ที่มารู้ทีหลัง ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้อง กับ เพื่อนที่เรียนห้องเดียวกันกับฉัน…. )

    เค้าก็มาชวนไปนั่งรถเล่น….

    ฉันนั่งคิดอยู่พักนึง….แล้วก็ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์พี่เค้าไป….

    พี่ข้าว พาฉันขี่รถเที่ยว…..

    ผ่านถนนเส้นเดิม…..ทุ่งหญ้าตรงนั้น …

    ความหนาวมันก็เข้ามาจับหัวใจอีก…

    เหมือนมอเตอร์ไซด์ กำลังวิ่งผ่านเข้าไป ในแดนสนธยา….ที่มีหมอกควัน หนา และเย็น..

    ปกคลุมถนนอยู่เต็มไปหมด…..

    จนฉันต้องหลับตา ไม่หันไปมองที่ตรงนั้น …..

    รู้สึกขนลุกซู่ และน้ำตาซึมทันที ที่ได้กลิ่นหญ้าข้างทาง…..


    พี่ข้าว ขี่รถพาฉันไปนั่งทานอะไรเล่นๆ ที่ร้านอาหารริมบึง…

    มันเป็นร้านเรือนไม้ ปลูกแบบง่ายๆ ปลูกยื่นลงไปในบึง…

    ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทุ่งหญ้าริมเนินเขาตรงนั้น ..

    นั่งมองจากร้าน..ยังเห็นทุ่งหญ้า ทุ่งนั้น อยู่เลย.…

    ฉันพยายามไม่หันไปมอง...

    แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองมัน... .

    นั่งมอง…มอง….แล้วมันก็เหงาซึมขึ้นมาอีก….


    ระหว่างรออาหาร พี่ข้าว ก็บอกให้ฉันเล่าให้ฟัง….

    ฉันก็คิดอยู่พักนึง….แล้วฉันก็เริ่มเล่า…..

    ไม่ได้ลำดับเหตุการณ์..ไม่ได้เล่าแต่ต้นจนจบ…..แต่เล่าไปเรื่อยๆ

    ตามความรู้สึกที่เกิด….เหมือนพูดมันไปเรื่อยเปื่อย….


    เล่าไปฉันก็ร้องไห้อีก…โชคดี ที่ยังช่วงเย็น…

    ในร้าน ไม่ค่อยมีคน….แขกคงยังไม่เข้า….


    เหมือนอะไรๆ มันก็กลับมาเหมือนพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน….


    มันทำให้ฉันเครียดจนปวดหัว….ทั้งๆ ที่กำลังระบาย…


    พี่ข้าว ถามฉันว่า ทานเบียร์มั้ย…..

    ฉันก็ส่ายหน้า….บอกว่าฉันยังเด็ก..ฉันดื่มไม่เป็น….

    แต่พี่เค้าก็ยื่นแก้วมาให้…..


    เหมือนมันเบื่อๆ เซ็งๆ อยู่แล้ว …เผื่อมันจะดีขึ้น…..

    ฉันเลยดื่มมันเข้าไป….


    มันขมจนขนลุก และก็เย็นซ่าจนบาดคอ….


    “ เนี่ยหรอ….เครื่องดื่มที่ผู้ชายชอบ….ไม่เห็นมันจะอร่อยตรงไหนเลย…. “ …..ฉันนึกในใจ

    ดื่มไปได้ซักครึ่งแก้ว….มันก็รู้สึกมึนๆ เบาๆ สบาย…..

    เหมือนทำให้ความเจ็บที่มี..มันชา และเบาบางลง….

    อืมม….ฉันรู้แล้ว ว่าทำไมผู้ชายชอบ…..

    นึกออกเลยว่า ทำไมคนอกหักในหนัง ถึงได้เมาจนหัวราน้ำ….

    ฉันดื่มจนหมดแก้ว…..แล้วก็เล่าๆ ๆ ..

    เล่าจนไม่รู้จะเล่าอะไร….แล้วมันก็สบายขึ้นจริงๆ …..เหมือนที่พี่ข้าวบอก ตอนนั่งเล่นที่สนามหญ้า

    ฉันเริ่มรู้สึกเมา..เหมือนภาพที่เห็น เปลี่ยนเป็นภาพในฝัน….

    มันเคลิ้มๆ …..หูอื้อจนดังวี๊………

    มันเบาสบายจริงๆ ….


    ระหว่างที่ขี่รถกลับ…..ฉันหันไปมองทุ่งหญ้าตรงนั้น …..

    เหมือนมันอยู่ในฝัน…..เห็นฉันกับพี่นัทนั่งอยู่…..

    ฉันเผลอไปกอดเอวพี่ข้าว และซบลงที่หลังเค้า โดยไม่รู้ตัว…

    เหมือนเค้าเป็นพี่นัท…ที่กำลังขี่รถไปส่งฉัน ในวันรักกันใหม่ๆ ….


    เค้ามาส่งฉันที่บ้าน…..

    ยิ้มให้….แล้วก็บอกว่า พรุ่งนี้เจอกันที่เดิมนะ….

    ฉันก็ยิ้มให้….ทั้งมึนๆ

    แล้วก็เข้าบ้านไป…

    ทิ้งตัวลงบนเตียง…แล้วก็หลับยาวไปเลย…….


    Zzzzzz……….

    จากคุณ : sonydiver - [ 2 ก.ย. 47 11:41:44 ]