CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ><><><My Mr. Right...คนที่ใช่ (ของฉัน) เมื่อไหร่จะมา><><><

    My Mr. Right...คนที่ใช่ (ของฉัน) เมื่อไหร่จะมา

    “มิคกี้ นี่แกจะใจร้ายไม่ช่วยฉันจริงๆ น่ะเหรอ” เจียระไนพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนขอร้องเพื่อนตามสูตรเดิมเป๊ะ แต่คราวนี้มันกลับใช้ไม่ได้ผลเหมือนที่แล้วๆ มา...เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะว่า...

    “ไม่ได้นะเจี๋ย เจี๋ยจะให้มิคกี้ไปทำเรื่องนั้นอีกแล้วน่ะเหรอ เจี๋ยลืมไปได้เลยนะ ยังไงผมก็ไม่ให้มิคกี้ช่วยเจี๋ยแน่ๆ” กุณฑลตอบแทนคนถูกขอร้องเสร็จสรรพ

    ‘เรื่องนั้น’ ที่เจียระไนอยากให้มุจรินช่วยคือเรื่องการเป็นตัวแทนเธอไปบอกปฏิเสธ (อย่างนุ่มนวล) กับหนุ่มที่เธอนัดซ้อนไว้ หรือก็คือหน้าที่ของผู้ช่วยสับรางรถไฟดีๆ นั่นเอง

    เรื่องมันมีอยู่ว่า...เจียระไน สาวเจ้าชู้ผู้ชอบหักอกผู้ชายเป็นว่าเล่นจนใครๆ พากันเรียกเธอว่า ‘ฮาร์ทเบรกเกอร์’ ขอร้องให้มุจรินช่วยเป็นตัวแทนเธอไปบอกปฏิเสธเขา เอ๊ย! ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าไปบอกปฏิเสธกัณฐี พี่ชายฝาแฝดของเขาต่างหาก ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของจอมกะล่อนอย่างกัณฐีเหมือนกัน เพราะ ‘เรื่องนั้น’ เขาและมุจรินจึงได้โคจรมาพบกันโดยบังเอิญ แล้วเรื่องอะไรเขาจะต้องยอมให้แฟนของเขาไปพบกับกิ๊กของเจียระไนด้วยล่ะ ในเมื่อมุจรินมีเขาอยู่แล้วทั้งคน

    “นะมิคกี้ นะๆ มีแกคนเดียวที่ช่วยฉันได้” เจียระไนยังคงออดอ้อนมุจรินไม่เลิกจนกุณฑลต้องขึงตาดุๆ ใส่

    มุจรินมองหน้าเพื่อนสนิททีมองหน้าแฟนหนุ่มทีด้วยความปวดหัว “เอ่อ...”

    ยังไม่ทันที่ ‘คนปวดหัว’ จะได้พูดอะไรกุณฑลก็ชิงพูดขึ้นมาก่อนว่า “ไม่ได้นะ มิคกี้มีแฟนแล้ว ไม่เหมาะที่จะทำเรื่องแบบนั้นหรอก ทำไมเจี๋ยไม่ลองขอให้วินช่วยแทนล่ะ” เขาหมายถึงวิน หรืออัศวิน เพื่อนกลุ่มเดียวกันกับเจียระไนและมุจริน ผู้ที่เคยช่วยให้เขาและมุจรินคืนดีกันนั่นเอง

    “นั่นสิ ตอนนี้มิคกี้คงช่วยเจี๋ยไม่ได้แล้วล่ะ เพราะกุณไม่ยอมแล้วมิคกี้ก็ไม่ชอบด้วย” แน่ล่ะ...ใครจะชอบยื่นมือเข้าไปสอดเรื่องแบบนี้ถ้าไม่จำเป็น

    ได้ยินคนรักพูดดังนั้น กุณฑลก็ยิ้มแป้นแก้มแทบปริ เขาค่อยๆ กระเถิบเข้าไปใกล้มุจรินและเอื้อมมือมาโอบเอวบางอย่างถือสิทธิ์

    มุจรินนิ่วหน้าน้อยๆ เมื่อมือปลาหมึกของกุณฑลไต่เกาะแกะแถวเอวเธอ รวดเร็วปานสายฟ้าแลบ...หญิงสาวหยิกหมับที่หลังมือเขาเพราะไม่ชอบให้เขาทำประเจิดประเจ้อในที่สาธารณะอย่างนี้

    “โอ๊ย!” กุณฑลสะดุ้งปล่อยมือจากเอวของมุจรินโดยอัตโนมัติ เขาคลำหลังมือป้อยๆ พร้อมทั้งตัดพ้ออย่างไม่จริงจังว่า “มิคกี้ใจร้ายอ่ะ”

    “ช่วยไม่ได้นะ มิคกี้เคยบอกกุณแล้วว่าอย่ามาโอบเอวมิคกี้ในที่สาธารณะ” มุจรินขึงตาดุๆ ใส่กุณฑลก่อนที่จะเลิกสนใจเขาและหันไปพูดกับเจียระไนต่อ “ทำไมเจี๋ยไม่ลองขอให้วินช่วยล่ะ”

    “จะบ้าเหรอมิคกี้ ขอให้วินช่วยเนี่ยนะ!” เจียระไนร้องเสียงสูง ดวงตาเบิกกว้าง “คงต้องรอให้โลกแตกก่อนละมั้งถึงจะขอร้องให้วินช่วยได้ แล้วถึงวินยอมช่วย หนุ่มๆ ฉันก็กระเจิงหมดน่ะสิ เรื่องแบบนี้ใครเค้าให้ผู้ชายไปทำแทน” ไม่อยากจะบอกว่าดีไม่ดีเธอจะโดนอัศวินตำหนิเอาได้ อย่างเมื่อคราวเรื่องของมุจรินกับกุณฑล เธอก็โดนอัศวินเทศน์ไปหลายกัณฑ์ เหตุเพราะหาเรื่องยุ่งไม่เข้าเรื่องให้เพื่อน

    “อะไร ใครนินทาอะไรเรา” เสียงของคนที่ถูกพูดถึงดังมาแต่ไกล

    ทั้งหมดหันไปมอง เมื่อเห็นว่าใครเดินเข้ามาใกล้ สามหนุ่มสาวก็เต็มใจรูดซิปปิดปากเงียบหยุดพูด ‘เรื่องนั้น’ ไปโดยปริยาย

    “แน่ะ พอเราก็มาก็เงียบกันเลยเหรอ อย่างนี้แสดงว่ากำลังนินทาอะไรเราจริงๆ น่ะสิ” อัศวินวางหนังสือกองโตลงบนโต๊ะหินอ่อนและมองหน้าเพื่อนทุกคนด้วยสายตาจับผิด

    “เปล่านะ พวกเราไม่ได้นินทาอะไรวินสักหน่อย” เจียระไนชิงปฏิเสธขึ้นมาเป็นคนแรกแต่ก็ไม่อาจจะกลบพิรุธที่เกลื่อนไปทั่วใบหน้าได้

    “จริงหรือเปล่ามิคกี้” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามคนที่ปากแข็งน้อยกว่า

    “คือ...คือว่า...” มุจรินอึกอักไม่กล้าบอกความจริงกับอัศวิน เธอหันไปขอความช่วยเหลือจากเจียระไนซึ่งอีกฝ่ายก็ได้แต่มองเธอตาปริบๆ ช่วยอะไรไม่ได้

    “เจี๋ยขอให้มิคกี้ช่วยสับรางให้อีกแล้วล่ะสิ” เห็นสีหน้าของมุจรินและเจียระไนแล้ว อัศวินก็รู้คำตอบได้ในทันที

    “ก็ทำนองนั้น” มุจรินยอมรับออกไปตรงๆ เพราะรู้ดีว่าคงปกปิดความจริงจากอัศวินไม่ได้แน่

    “ทำไมเจี๋ยชอบหาเรื่องให้มิคกี้อยู่เรื่อยเลยนะ รู้ทั้งรู้ว่ามิคกี้มีกุณแล้วทั้งคน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิ ไม่เห็นด้วยที่เจียระไนจะยืมมือเพื่อนจัดการเรื่องคู่นัดของตัวเองเลยแม้แต่น้อย

    “เปล่านะ เจี๋ยแค่เล่าให้มิคกี้ฟังเท่านั้นเอง” เจียระไนแก้ตัวน้ำขุ่นๆ และหันไปบอกมุจรินปลงๆ ว่า “งั้นก็ไม่เป็นไรหรอกมิคกี้ เดี๋ยวเจี๋ยหาทางแก้ตัวกับพี่อยุทธ์เองก็ได้” พูดจบก็สะบัดหน้าใส่อัศวินอย่างแสนงอน

    “จะไปแล้วเหรอ” มุจรินถามเมื่อเห็นเจียระไนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

    “อื้อ เจี๋ยมีนัดตอนหกโมง ถ้าไม่ไปตอนนี้เดี๋ยวจะสาย” สาวสวยหันมายิ้มเก๋ให้เพื่อนพร้อมทั้งโบกมือลา

    สองหนุ่มหนึ่งสาวที่เหลือโบกมือตอบ เมื่อร่างระหงของเจียระไนลับตาไปแล้วไป อัศวินก็ตกอยู่ในห้วงแห่งความคิดอย่างช่วยไม่ได้

    ...เฮ้อ...เธอจะรู้ไหมนะว่าเขาชอบเธอ...ชอบมานานแล้ว...

    คิดแล้วก็อดที่จะหนักใจไม่ได้ อัศวินรู้ดีว่าตัวเองไม่อาจจะเทียบกับหนุ่มๆ ที่เข้ามาจีบเจียระไนได้แม้แต่ปลายก้อย เขาเป็นเพียงผู้ชายธรรมดา ไม่มีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจ หน้าตี๋ๆ ของเขาก็พอไปวัดไปวาได้ แต่ไม่อาจจะทาบรัศมีคู่แข่งหน้าหล่อที่แวะเวียนเปลี่ยนหน้ามาให้เจียระไนเลือกได้เลย ส่วนสูงร้อยเจ็ดสิบหกของเขาอาจจะน้อยไปสำหรับสาวสูงชะลูดถึงร้อยเจ็ดสิบสองอย่างเจียระไน การเรียนของเขาก็งั้นๆ แต่กีฬานั้นไม่ได้เรื่องสักนิด อย่างนี้ก็ไม่แปลกหรอกถ้าเจียระไนจะไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา

    บางครั้งเขาก็อดที่จะน้อยใจลึกๆ ไม่ได้ที่เธอปฏิบัติกับเขาเพียงแค่เพื่อน แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเขาไม่เคยบอกเธอและไม่กล้าบอกเธอว่าเขาชอบเธอ เพราะกลัวว่าถ้าบอกไปแล้ว แม้แต่ความเป็นเพื่อนที่เจียระไนมีให้ก็จะไม่เหลือ

    ...เขาควรจะทำยังไงดี ปล่อยเธอไปอย่างนั้นน่ะเหรอ...หรือว่าถึงเวลาที่เขาจะต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่เขาจะเสียเธอไป...

    ...เอ๊ะ! เมื่อกี้เธอบอกว่าจะไปที่ไหนนะ...

    ความคิดบางอย่างผุดวาบขึ้นมาในสมอง อัศวินตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน
    ><><><><><><><><><><
    มีต่อค่ะ

    จากคุณ : มิถุนายน - [ 3 ก.ย. 47 00:58:16 ]