ตอน : ความเจ็บ ที่จบไปเมื่อวาน
มันเป็นบทเรียนราคาแพงบทที่สอง
..
หลังจากบทแรก
.
อย่าตามใจผู้ชาย
..
มาถึงบทเรียนนี้
..
อย่าเมาเวลาอกหัก ช้ำรัก
กับผู้ชายสองต่อสอง
โดยไม่มีเพื่อนรู้ใจ (ไปด้วย)
มารู้ก็สายเกินไป..ได้แต่จำไว้เป็นบทเรียน
.
หลังจากเลิกกับพี่ข้าววันนั้น
.ฉันก็เลิกดื่มเบียร์
..
ไม่อยากยุ่งกับผู้ชายคนไหนอีก
.
มันรู้สึกเข็ดขยาด
กลัวไปเลย
..
ฉันต้องใช้เวลาหลายเดือน
เกือบหนึ่งปี
ในการที่จะทำใจ ให้ฟื้นคืนสภาพ
.
จากวันที่เลิกกันกับพี่นัท ตอนขึ้น ม.5 เทอมต้น มาจนถึงตอนนี้ ปิดเทอมปลาย ขึ้น ม.6
ก็ไม่มีอารมณ์เศร้า มาเป็นฐานของอารมณ์ประจำวัน...อีกต่อไป
เหมือนมีใครมาตั้งเวลาเอาไว้
..
ว่าให้ฉันเจ็บ ถึงวันเมื่อวานเท่านั้น
.เป็นวันสุดท้าย
.
เช้าวันนี้ เป็นวันที่เปลี่ยนไป อย่างเห็นได้ชัด
.
เป็นวันที่มองฟ้าใส
. ได้เต็มตา
.
ดูมันใสสะอาด
ไม่รู้สึกว่ามีม่านสีขุ่นในใจ มาขวางกลางอยู่
ใจที่หดหู่ หายไปซะเฉยๆ
.จนฉันงง
รู้สึกเหมือนตื่นขึ้นมา
.
แล้ว แผลที่เคยเจ็บ
แผลที่เคยตกสะเก็ด
.
หลุดลอกออกไป
.
จนรู้สึกดีใจ
ที่เวลาอาบน้ำ ไม่ต้องกังวลกับมันอีก
..
ผู้ชายที่ฉันเคยรัก
..มาก
ผู้ชายที่เข้ามา เพราะอุบัติเหตุทางใจ
.
พอกันที
..
สุดที่รัก จากอินเตอร์เนท
เทพบุตรสุดหล่อ จากดาวอังคาร
.
อัศวินม้าขาว
.(ข้าว) ผู้ฉวยโอกาส
.
เหลือไว้แค่เป็นบทเรียน
มีผู้ชาย อีกหลายคนที่เข้ามาในเวลาที่ผ่าน
.
บางคนเป็นคนน่ารัก
นิสัยน่าคบ
.
บางคนติงต๊อง ตลก น่าคุยด้วย
.
แต่บางคน ก็เหมือนใครบางคน
ที่เคยรักมากในอดีต ที่ผ่านมา
..
แต่เหมือนฉันปิดตัวเอง
ไม่เปิดประตูบานนั้น
.ให้ใครเข้ามาย่ำ
..
เหมือนมันไม่มีค่าอีกต่อไป
..
พอปิดเทอม เวลาว่าง มันก็มีมากจน น่าเบื่อ
..
ตื่นเช้าขึ้นมา
.
ก็นั่งชันเข่าขึ้นมากอด
..อยู่บนเตียง
.
พิงหัวไว้กับฝา
เหมือนรอเวลาให้ร่างกายตื่นพร้อม
.. เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
เหม่อมอง ออกไปนอกหน้าต่าง
..
มองภูเขาซึ่งเห็นอยู่ไกลๆ
.
มองต้นไม้ที่โดนลมโกรก
.
กับฝูงนก ที่บินย้อนแสง มาจากทางทิศตะวันออก
มองถนนที่รถวิ่งไปวิ่งมา อยู่ปากซอย
ร้านข้าวแกง ที่คนออแน่น หน้าร้าน
.
นั่งมองอยู่อย่างนั้น
..เพลินเหมือนเป็นภาพยนต์
ซักผ้าหมดไปสองตะกร้า กับล้างจาน ที่น้องทานข้าวเช้า ทิ้งเอาไว้
กวาดบ้านเสร็จทั้งสองชั้น
..เหงื่อท่วมจนมอมแมมไปหมด
นี่ขนาดยังไม่ถูเลย
.
พ่อเลี้ยงกับน้องนิว ก็ออกไปข้างนอก ตั้งแต่ฉันยังไม่ออกมาจากห้องนอน
อืมมมม
ไม่ต้องมาช่วยฉันหรอก
.. ดีซะอีก
จะได้ถูบ้านสะดวก
ไม่เกะกะ
. รกรำคาญลูกตา
.
ฉันหมายถึงพ่อเลี้ยงนะ
..
ไม่ได้หมายถึงน้อง
..
เที่ยงแล้ว
.สองคนนั้นก็ยังไม่กลับ
ฉันเอาเงิน ห้าสิบบาท ที่แม่วางไว้ให้บนหัวเตียง
ไปซื้อ มาม่า มาต้ม
..
ไม่ได้จะประหยัด อดอยากอะไร..
แต่ชอบทาน
.
ช่วงบ่ายเป็นเวลา อิสระของฉัน
บางทีก็นอนเล่นอยู่บนเตียง
แต่ก็นอนได้ไม่นาน
เดี๋ยวน้าชัย ก็คงตื่นแล้ว
..
เสียงกลองอันน่ารำคาญ ก็จะเริ่มบรรเลง
กลอง เป็นเครื่องดนตรีอาภัพ
.
เวลาไม่เล่นกับเครื่องดนตรีอื่นๆ
มันก็ไม่มีอะไรต่าง
จากเสียงหนวกหูทั่วไป
มันก็หนวกหู พอๆกับร้านซ่อมมอเตอร์ไซด์นั่นแหละ
.
มีอยู่วันนึงฉันหนวกหูมาก
มันรำคาญจนทนไม่ไหว
.ฉันนอนบ่นพึมพำคนเดียวอยู่พักใหญ่
เอาหมอนมาอุดหู พลิกไปพลิกมา หลายรอบแล้วก็ไม่หาย
.
เลยเปลี่ยนกิจกรรมช่วงบ่าย เป็นไปร้านหนังสือแทน
.
ร้านหนังสือเปิดใหม่ อยู่เลยร้านอินเตอร์เนทไปหน่อย
.
ใจหายเหมือนกัน ที่เดินผ่านร้านนั้น
.แม้มันจะจบไปแล้วเป็นปี
.
คนที่ฉันเคยรัก
.เจอกันในนั้น
..
ฉันเลยชอบไปร้านหนังสือ
.ไม่ชอบไปร้านเนท เหมือนเมื่อก่อน
ฉันชอบอ่านหนังสือ
มีคำที่เป็นกำลังใจ มากมายอยู่ในนั้น
.
ประโยคบางประโยค
.. ไม่เคยได้ยิน .
ไม่เคยได้อ่าน ที่ไหนมาก่อน
.
มันเหมือนเป็นเครื่องหมายบอกทาง
..
เป็นแสงสว่างส่องใจ
.
ให้มองเห็นอะไรๆ
.
ท่ามกลางหมอกหนาแห่งอารมณ์
.
ฉันชอบอ่านนิทานสำหรับเด็กมากกว่า
มันใสๆ ไม่มีพิษมีภัย
ไม่มีคำพูดใดๆ มาทำให้สะเทือนใจ
..อ่านแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ในบางตอน
บางตอนฉันก็ร้องไห้
.จนต้องบอกตัวเองว่า
นี่มันนิทานนะ
ไม่ใช่เรื่องจริง
ยืนอ่านจนเมื่อย ปวดขาไปหมด
..
และนั่นก็คือ นาฬิกา บอกเวลากลับบ้าน
.
เสียงกลองเงียบไป
.
เสียงเพลงดังข้ามกำแพงรั้วมาแทน
..
.
เป็นเพลงฝรั่งที่ฉันไม่รู้จัก
มันเพราะดี
.
กำลังฟังอยู่เพลินๆ
..
พ่อเลี้ยงกับน้องนิว ก็กลับบ้านมา
..
ฉันเลยกลับขึ้นห้องไป
.
ถ้าเอาพ่อเลี้ยง ออกไปจากความจริง ได้เหมือนเอาใครบางคน ออกจากความทรงจำ
ชีวิตฉันคงดีขึ้นกว่านี้
..
จากคุณ :
sonydiver
- [
4 ก.ย. 47 23:28:32
]