ควายน้อยกลอยใจ
เช้าอากาศสดใสวันนี้ นภัสมาซ้อมว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำของโรงเรียนอย่างทุกวัน ขณะที่เขากำลังซ้อมอย่างขะมักขะเม้นอยู่นั้น ศศิชาก็วิ่งกระหืดกระหอบมาแล้วก้มหน้าลงไปคุยข้างๆสระ
เฮ๊ย! แอบดูผู้ชายแก้ผ้าหรอนภัสหยุดไหว้น้ำแล้วเอามือกอดอกเหมือนกับว่าหวงเนื้อหวงตัวซะเต็มประดา
บ้าดิ !เย็นนี้แกว่างมั๊ย
ว่าง ทำไมหรอความจริงนภัสไม่ได้ว่างอย่างที่บอกหรอกเพราะนัดกับน้องน้ำตาลไว้ แต่กับผู้หญิงคนนี้อะไรก็ยอม
ว่าจะชวนไปซื้อของขวัญวันเกิดให้เบนซ์ซะหน่อย พอดีวันนี้ลืมเอาตังค์มาเผื่อว่ะ ยืมหน่อยดิศศิชาแบมือขอตังค์
เบนซ์ไหนว่ะ
ก็เบนซ์ที่เคยเป็นเพื่อนสนิทฉันตอนม.ต้น แต่ว่ามันเพิ่งกลับมาจากอังกฤษ ตอนแรกก็ว่าจะไม่ซื้ออะไรให้หรอกเพราะไม่เคยซื้ออะไรให้ผู้ชายซักที แต่ว่าเบนซ์อ่ะดิดันซื้อผ้าเช็ดตัวลายแมนยูมาให้ ฉันก็เลยต้องซื้อกลับเป็นมารยาทน่ะศศิชาร่ายยาว
ไม่มี ไม่ว่างแล้ว นภัสพูดแล้วหันหลังกลับไปว่ายน้ำตามเดิม
เฮ๊ย แก ไหนตะกี้บอกว่าว่างไง ศศิชาลุกขึ้นตะโกนโหวกเหวกโวยวาย
เย็นนี้ฉันมีนัดกับน้องน้ำตาลแล้ว ตะกี้ที่บอกว่าว่าง เพราะว่าลืม คนใจน้อยตะโกนตอบจากอีกฝั่งหนึ่งของสระเพราะไม่อยากใจอ่อนเช่นทุกครั้ง
แล้วฉันจะไปกับใครอ่ะหญิงสาวหน้าสลดลงบ่นกระปอดกระแปด
เรื่องของแกชายหนุ่มว่ายน้ำต่อโดยไม่สนใจคนข้างสระที่หันหลังกลับไปที่ตึกเรียน
พอร่างบางลับตาคนในน้ำก็หันไปมองหญิงสาวที่ตะโกนโหวกเหวกเมื่อกี้ แล้วคิดในใจว่า
ใครจะอยากไปซื้อของเป็นเพื่อนให้ผู้ชายอีกคนล่ะ!
ชั่วโมงสุดท้ายก่อนเลิกเรียน อาจารย์ไม่เข้าสอนจึงเป็นโอกาสของทุกคนที่จะหาเรื่องเล่นกัน บ้างก็เม้าท์ บ้างก็อ่านการ์ตูน แต่นภัสก็ทำกิจกรรมเดิมๆที่ทำอยู่เป็นประจำนั่นก็คือหยิบกีตาร์ตัวโปรดออกมาเกาเล่น ขณะที่เขาหยิบปิ๊กกีตาร์ออกมาจากกระเป๋าตังค์ น้องน้ำตาลก็เดินเข้ามาเรียกเพื่อคอนเฟิร์มเรื่องนัดหมายตอนเย็น กระเป๋าตังค์สีน้ำตาลถูกวางไว้บนโต๊ะลวกๆแล้วเขาก็เดินออกไปหาแขกประจำ ศศิชาหันไปมองภาพหลังห้องด้วยหางตา แล้วทำเสียงจึกจักในลำคอ ทันใดนั้นปีศาจร้ายตัวเดิมก็กลับเข้าร่างของเธออีกครั้ง มือเล็กๆหยิบกระเป๋าตังค์ใบสีน้ำตาลบนโต๊ะข้างหลังแล้วยัดใส่กระเป๋านักเรียน หน้าบูดๆกลับอมยิ้มอย่างมีเลศนัย ปีศาจตัวน้อยๆออกจากร่าง มีนางฟ้ากลับเข้าไปแทนที่ นภัสเดินกลับเข้ามาแล้วทำหน้างงๆ เพราะตั้งแต่เช้าหลังจากคุยกันที่สระว่ายน้ำ เขายังไม่เห็นรอยยิ้มของเธออีกเลย เอ๊ะ! หรือว่าเขาพูดแรงเกินไปหรือเปล่า.....
นภัสควานหากระเป๋าตังค์สีน้ำตาลที่เค้าใช้อยู่เป็นประจำ มันหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เค้าหามันอย่างว้าวุ่นใจ เพราะวันนี้เป็นวันที่เค้ากับน้องน้ำตาลไปเที่ยวกันแล้วก็ไปเลี้ยงพิซซ่าตามสัญญา พอจะจ่ายเงิน มือใหญ่ล้วงเข้าไปในกระเป๋าข้างขวา ข้างซ้าย กระเป๋าหลัง ไม่มี! ตบแล้วตบอีก ก็ได้ผลเหมือนเดิม เค้ายอมจำนน บอกให้น้องน้ำตาลจ่ายเงินไปก่อนแล้วนั่งรถย้อนกลับมาที่โรงเรียนเพื่อหากระเป๋าตังค์อีกครั้ง และผลที่ได้รับก็เหมือนเคย เอ...ครั้งล่าสุด เค้าจำได้ว่าวางไว้บนโต๊ะ แต่พอน้องน้ำตาลมาก็ลืมสนิท แล้วก็เป็นอย่างที่เห็น ไอ้พจน์น่าจะรู้บ้าง โทรไปถามมันดูดีกว่า
สวัสดีครับ ขอพูดกับบุ้งหน่อยครับ พูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
ใครจ๊ะ เสียงหวานๆของแม่ศศิชาถามซะเค้าขนลุก
ไข่ตุ๋นครับ คุณแม่หรอครับ สบายดีรึป่าวครับ
สบายดีจ๊ะ แล้วลูกล่ะ.... ต่อจากนั้นประโยคสนทนามากมายที่แสดงความสนิทสนมคุ้นเคยของคนทั้งคู่ก็ออกมาจากปากของแม่ศศิชาและนภัส จนเวลาผ่านไปซักครู่แม่ศศิชาก็เรียกลูกสาวมารับโทรศัพท์
อ้าว ของผักหรอคะ นึกว่าของคุณแม่ซะอีก ศศิชาทำหน้าเหลอหรา
พอดีลูกไข่ตุ๋นโทรมาน่ะผัก แม่ก็เลยคุยกันเพลิน เพื่อนลูกคนนี้น่ารักดีนะ ท่าทางแม่เธอคงจะชอบเค้ามาก
ค่ะ ศศิชากลอกตาไปมาและเดินขึ้นไปรับโทรศัพท์บนห้องนอน
โทรมาทำไม จะจีบแม่ฉันรึงัยย่ะ เธอทักทายปลายสายด้วยน้ำเสียงอย่างงี้เสมอ
ป่าวซะหน่อย แค่ถามสารทุกข์สุขดิบกันธรรมดาว่าแต่วันนี้แกเห็นกระเป๋าตังฉันบ้างมั๊ย
ทำไมหรอ ถามทั้งๆที่รู้อยู่แกใจ
ก็มันหายน่ะสิ โธ่เว้ย! มีของสำคัญอยู่ด้วยนะนั่นน่ะ
บัตรชมรมอนุรักษ์ไม่ป่าเดียวกันหรอ มือเล็กพลิกกระเป๋าสีน้ำตาลกลับไปกลับมา
ก็เอออ่ะดิ ถ้าใครเห็นเข้า ฉันขายไม่ออกเลยนะเว้ย
ถึงไม่มีใครเห็นแกก็ขายไม่ออกอยู่แล้วล่ะ ฮ่าๆ
เออช่างเหอะ พรุ่งนี้แกมาช่วยฉันหาแต่เช้าด้วยนะ จะโทรหาคนอื่นต่อ แค่นี้นะ
ประสาท เธอมองกระเป๋าตังตรงหน้าอย่างชั่งใจ ในที่สุดความอยากรู้ก็ชนะมารยาท เธอถือวิสาสะเปิดกระเป๋าตังออก
บัตรนักเรียน บัตรประชาชน บัตรเอทีเอ็ม ปฎิทิน เงิน หะ! ซิป เปิดดูดีกว่า โธ่! คิดว่าจะเจอของสำคัญ ที่แท้ ก็เงินอีกนั่นแหละว้า เฮ๊ย!นั่นรูปอะไรฟ่ะ....อึ้ง....อึ้ง.....อึ้ง จนกระทั่ง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
พ่อเข้าไปนะลูก เธอกระวีกระวาดเก็บรูปใส่กระเป๋าตังค์อย่างลวกๆ
กำลังอยากคุยกับพ่ออยู่พอดี กระเป๋าตังค์ยังอยู่ในมือเธอ
ว่าไงจ๊ะ อ้าว!นั่นเปลี่ยนกระเป๋าตังค์ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ
เออ...ไม่ใช่ของบุ้งหรอค่ะ ของไอ้เก๊กฮวย
ลูกเอากระเป๋าตังของไข่ตุ๋นมาทำไม พ่อถามด้วยความสงสัย
พ่อว่าผู้ชายที่ขโมยรูปนู้ดตอนเด็กๆของผู้หญิงไป เค้าเป็นโรคจิตรึป่าวคะ ศศิชาเลือกที่จะไม่ตอบคำถามพ่อ กลับตั้งคำถามใหม่แทน
ลูกไม่รู้จริงๆหรอ ว่า... พ่อจงใจทิ้งช่วงให้เธอตื่นเต้น นึกอยู่แล้วล่ะว่าซักวันลูกสาวต้องรู้ว่าใครเป็นคนขโมยรูปนั้นไป แต่ไม่คิดว่าเกมส์จะจบเร็วเพียงแค่ 2 อาทิตย์
ว่าอะไรล่ะคะพ่อ เธอกระตุ้นด้วยการดึงเสื้อพ่อเบาๆ
ว่าพ่อก็ไม่รุ้เหมือนกัน ฮ่าๆๆ
โธ่พ่อ! เป็นคำตอบที่ดีมาก บุ้งยอมแพ้ เธอเดินไปหยิบธงขาวจากมือควายรับบาปที่เธอแอบเสียบเอาไว้ แล้วชูใส่พ่อ
ลูกก็ลองคิดดูเองสิ ว่าเป็นเพราะอะไร พูดพลางหยิบธงขาวจากมือลูกกลับไปเสียบไว้ที่มือควายตามเดิม เหมือนพ่อต้องการบอกอะไรเป็นนัยๆ แล้วเดินออกไปจากห้องไม่สนใจหน้าที่มีเครื่องหมายคำถามเป็นร้อยเป็นพันของลูกสาว
ศศิชาคิดจนหัวแทบแตกแล้วยังคิดไม่ออกเลย ยิ่งนับความน่าจะเป็นยิ่งแล้วใหญ่ แต่ไอ้คำพูดของพ่อ ประโยคสุดท้ายนี่สิมันดังขึ้นในหูไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยและนั่นยิ่งเพิ่มความสงสัยขึ้นเป็นทวีคูณ ท่าทางเธอคงต้องใช้ตัวช่วยซะแล้ว เธอเลือกที่จะใช้ถามใครก็ได้ แล้วใครที่ว่าก็ต้องเป็น *เค้าคนเดียวเท่านั้น*
เช้าวันนี้ศศิชาโรงเรียนด้วยสีหน้าอิดโรย มองเผินๆแล้วเหมือนหมีแพนด้ายังงัยอย่างนั้น เพราะมีเรื่องที่เธอต้องคิดทั้งคืน ก็จะเรื่องใครล่ะถ้าไม่ใช่ไอ้เก๊ก นั่นงัย เดินมาแล้ว ตายยากจริงๆ
ไอ้พจ ทำไมแกไม่มาช่วยฉันหากระเป๋าแต่เช้า พร้อมกับที่มือใหญ่ดึงเปียเล็กๆเหมือนเคย
ใครบอกแกว่าฉันจะมาแต่เช้า กระเป๋าตังค์ใบสีน้ำตาลถูกยื่นให้คนตรงหน้า ศศิชาเดินเบี่ยงตัวหลบไปที่นั่งตัวเอง ไม่สนใจคนที่ยืนอ้าปากหวอเมื่อได้ของคืน
เฮ้ย!ไอ้พจน์ ทำไมเมื่อคืนแก บอกฉันว่าไม่ได้เอาไป นภัสเดินตามศศิชาไป
ฉันยังไม่ได้บอกแกว่าไม่ได้เอาไปซักคำ ศศิชาลอยหน้าตอบเค้า
เอาเหอะ ว่าแต่แกเปิดกระเป๋าดูรึเปล่า
เปิดแต่ไม่เห็นมีบัตรชมรมอนุรักษ์ไม้ป่าเดียวกันของแกซักใบ เห็นแต่ เออ... อย่าไปสนใจเลย ประโยคหลังเธอจงใจยั่วเค้าให้ร้อนใจ
อาไร แกบอกมาสิ ถ้าเค้ามีคีมจะง้างปากเธอได้คงทำไปนานแล้วหน้าตาหญิงสาวตอนนี้ดูแปลกๆพิลึก
ก็รูปเด็กในกระเป๋าตังค์แกงัยใครเหรอ ศศิชามองนภัสเหมือนครูจับได้ ว่าเด็กทำผิด
รูปฉันสิ แกเห็นเป็นรูปใคร แกรึงัย นภัสแก้ตัวน้ำขุ่นๆ รูปนี้ใครๆดูก็รู้ว่าเป็นศศิชา
ยิ่งเจ้าตัวยิ่งไม่ต้องสงสัย
แกตอนเด็กๆ หน้าเหมือนฉันเป๊ะเลย คนพูดทำเหมือนไม่ใส่ใจหยิบหนังสือวิชาที่จะเรียนมาอ่าน
เด็กอ่อนที่ไหน ก็หน้าตาเหมือนกันหมดนั่นแหละ คนทำความผิดยังไม่วายเถียงและเดินกลับไปนั่งที่ของตัวเองด้านหลังเธอ มองหัวของคนตรงหน้าวันนี้ทุกอย่างเหมือนเดิม เธอใส่ชุดนักเรียนชุดเดิม กระเป๋าใบเดิม ทำผมเปียสองข้างเหมือนเดิม แต่คำพูดและแววตา มันบอกได้ว่าเธอเปลี่ยนไป ตอนนี้เค้าอยากมีญาณวิเศษ เวทมนตร์หรือคาถาอะไรก็ได้ ที่สามารถอ่านได้ว่าหัวสมอง ของเธอกำลังคิดอะไรอยู่และนั่นใช่เรื่องเดียวกับที่เค้ากำลังกังวลอยู่หรือไม่.....
จากคุณ :
mkสุกี้
- [
5 ก.ย. 47 14:38:53
A:203.118.116.37 X:
]