CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ควายน้อยกลอยใจ3

    ควายน้อยกลอยใจ

    เช้าอากาศสดใสวันนี้ นภัสมาซ้อมว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำของโรงเรียนอย่างทุกวัน ขณะที่เขากำลังซ้อมอย่างขะมักขะเม้นอยู่นั้น ศศิชาก็วิ่งกระหืดกระหอบมาแล้วก้มหน้าลงไปคุยข้างๆสระ
    “เฮ๊ย! แอบดูผู้ชายแก้ผ้าหรอ”นภัสหยุดไหว้น้ำแล้วเอามือกอดอกเหมือนกับว่าหวงเนื้อหวงตัวซะเต็มประดา
    “บ้าดิ !เย็นนี้แกว่างมั๊ย”
    “ว่าง ทำไมหรอ”ความจริงนภัสไม่ได้ว่างอย่างที่บอกหรอกเพราะนัดกับน้องน้ำตาลไว้ แต่กับผู้หญิงคนนี้อะไรก็ยอม
    “ว่าจะชวนไปซื้อของขวัญวันเกิดให้เบนซ์ซะหน่อย พอดีวันนี้ลืมเอาตังค์มาเผื่อว่ะ ยืมหน่อยดิ”ศศิชาแบมือขอตังค์
    “เบนซ์ไหนว่ะ”
    “ก็เบนซ์ที่เคยเป็นเพื่อนสนิทฉันตอนม.ต้น แต่ว่ามันเพิ่งกลับมาจากอังกฤษ ตอนแรกก็ว่าจะไม่ซื้ออะไรให้หรอกเพราะไม่เคยซื้ออะไรให้ผู้ชายซักที แต่ว่าเบนซ์อ่ะดิดันซื้อผ้าเช็ดตัวลายแมนยูมาให้ ฉันก็เลยต้องซื้อกลับเป็นมารยาทน่ะ”ศศิชาร่ายยาว
    “ไม่มี ไม่ว่างแล้ว” นภัสพูดแล้วหันหลังกลับไปว่ายน้ำตามเดิม
    “เฮ๊ย แก ไหนตะกี้บอกว่าว่างไง” ศศิชาลุกขึ้นตะโกนโหวกเหวกโวยวาย
    “เย็นนี้ฉันมีนัดกับน้องน้ำตาลแล้ว ตะกี้ที่บอกว่าว่าง เพราะว่าลืม” คนใจน้อยตะโกนตอบจากอีกฝั่งหนึ่งของสระเพราะไม่อยากใจอ่อนเช่นทุกครั้ง
    “แล้วฉันจะไปกับใครอ่ะ”หญิงสาวหน้าสลดลงบ่นกระปอดกระแปด
    “เรื่องของแก”ชายหนุ่มว่ายน้ำต่อโดยไม่สนใจคนข้างสระที่หันหลังกลับไปที่ตึกเรียน
    พอร่างบางลับตาคนในน้ำก็หันไปมองหญิงสาวที่ตะโกนโหวกเหวกเมื่อกี้ แล้วคิดในใจว่า
    ใครจะอยากไปซื้อของเป็นเพื่อนให้ผู้ชายอีกคนล่ะ!

    ชั่วโมงสุดท้ายก่อนเลิกเรียน อาจารย์ไม่เข้าสอนจึงเป็นโอกาสของทุกคนที่จะหาเรื่องเล่นกัน บ้างก็เม้าท์ บ้างก็อ่านการ์ตูน แต่นภัสก็ทำกิจกรรมเดิมๆที่ทำอยู่เป็นประจำนั่นก็คือหยิบกีตาร์ตัวโปรดออกมาเกาเล่น ขณะที่เขาหยิบปิ๊กกีตาร์ออกมาจากกระเป๋าตังค์ น้องน้ำตาลก็เดินเข้ามาเรียกเพื่อคอนเฟิร์มเรื่องนัดหมายตอนเย็น กระเป๋าตังค์สีน้ำตาลถูกวางไว้บนโต๊ะลวกๆแล้วเขาก็เดินออกไปหาแขกประจำ ศศิชาหันไปมองภาพหลังห้องด้วยหางตา แล้วทำเสียงจึกจักในลำคอ ทันใดนั้นปีศาจร้ายตัวเดิมก็กลับเข้าร่างของเธออีกครั้ง มือเล็กๆหยิบกระเป๋าตังค์ใบสีน้ำตาลบนโต๊ะข้างหลังแล้วยัดใส่กระเป๋านักเรียน หน้าบูดๆกลับอมยิ้มอย่างมีเลศนัย ปีศาจตัวน้อยๆออกจากร่าง มีนางฟ้ากลับเข้าไปแทนที่ นภัสเดินกลับเข้ามาแล้วทำหน้างงๆ เพราะตั้งแต่เช้าหลังจากคุยกันที่สระว่ายน้ำ เขายังไม่เห็นรอยยิ้มของเธออีกเลย เอ๊ะ! หรือว่าเขาพูดแรงเกินไปหรือเปล่า.....

    นภัสควานหากระเป๋าตังค์สีน้ำตาลที่เค้าใช้อยู่เป็นประจำ มันหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เค้าหามันอย่างว้าวุ่นใจ เพราะวันนี้เป็นวันที่เค้ากับน้องน้ำตาลไปเที่ยวกันแล้วก็ไปเลี้ยงพิซซ่าตามสัญญา พอจะจ่ายเงิน มือใหญ่ล้วงเข้าไปในกระเป๋าข้างขวา ข้างซ้าย กระเป๋าหลัง ไม่มี! ตบแล้วตบอีก ก็ได้ผลเหมือนเดิม เค้ายอมจำนน บอกให้น้องน้ำตาลจ่ายเงินไปก่อนแล้วนั่งรถย้อนกลับมาที่โรงเรียนเพื่อหากระเป๋าตังค์อีกครั้ง และผลที่ได้รับก็เหมือนเคย เอ...ครั้งล่าสุด เค้าจำได้ว่าวางไว้บนโต๊ะ แต่พอน้องน้ำตาลมาก็ลืมสนิท แล้วก็เป็นอย่างที่เห็น ไอ้พจน์น่าจะรู้บ้าง โทรไปถามมันดูดีกว่า
    “ สวัสดีครับ ขอพูดกับบุ้งหน่อยครับ ” พูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
    “ ใครจ๊ะ ” เสียงหวานๆของแม่ศศิชาถามซะเค้าขนลุก
    “ ไข่ตุ๋นครับ คุณแม่หรอครับ สบายดีรึป่าวครับ ”
    “ สบายดีจ๊ะ แล้วลูกล่ะ....” ต่อจากนั้นประโยคสนทนามากมายที่แสดงความสนิทสนมคุ้นเคยของคนทั้งคู่ก็ออกมาจากปากของแม่ศศิชาและนภัส จนเวลาผ่านไปซักครู่แม่ศศิชาก็เรียกลูกสาวมารับโทรศัพท์
    “ อ้าว ของผักหรอคะ นึกว่าของคุณแม่ซะอีก ” ศศิชาทำหน้าเหลอหรา
    “ พอดีลูกไข่ตุ๋นโทรมาน่ะผัก แม่ก็เลยคุยกันเพลิน เพื่อนลูกคนนี้น่ารักดีนะ ” ท่าทางแม่เธอคงจะชอบเค้ามาก
    “ ค่ะ ” ศศิชากลอกตาไปมาและเดินขึ้นไปรับโทรศัพท์บนห้องนอน
    “ โทรมาทำไม จะจีบแม่ฉันรึงัยย่ะ ” เธอทักทายปลายสายด้วยน้ำเสียงอย่างงี้เสมอ
    “ ป่าวซะหน่อย แค่ถามสารทุกข์สุขดิบกันธรรมดาว่าแต่วันนี้แกเห็นกระเป๋าตังฉันบ้างมั๊ย “
    “ ทำไมหรอ ” ถามทั้งๆที่รู้อยู่แกใจ
    “ ก็มันหายน่ะสิ โธ่เว้ย! มีของสำคัญอยู่ด้วยนะนั่นน่ะ ”
    “ บัตรชมรมอนุรักษ์ไม่ป่าเดียวกันหรอ” มือเล็กพลิกกระเป๋าสีน้ำตาลกลับไปกลับมา
    “ ก็เอออ่ะดิ ถ้าใครเห็นเข้า ฉันขายไม่ออกเลยนะเว้ย ”
    “ ถึงไม่มีใครเห็นแกก็ขายไม่ออกอยู่แล้วล่ะ ฮ่าๆ ”
    “ เออช่างเหอะ พรุ่งนี้แกมาช่วยฉันหาแต่เช้าด้วยนะ จะโทรหาคนอื่นต่อ แค่นี้นะ ”
    “ ประสาท ” เธอมองกระเป๋าตังตรงหน้าอย่างชั่งใจ ในที่สุดความอยากรู้ก็ชนะมารยาท เธอถือวิสาสะเปิดกระเป๋าตังออก
    บัตรนักเรียน บัตรประชาชน บัตรเอทีเอ็ม ปฎิทิน เงิน หะ! ซิป เปิดดูดีกว่า โธ่! คิดว่าจะเจอของสำคัญ ที่แท้ ก็เงินอีกนั่นแหละว้า เฮ๊ย!นั่นรูปอะไรฟ่ะ....อึ้ง....อึ้ง.....อึ้ง จนกระทั่ง
    ก๊อก ก๊อก ก๊อก
    “ พ่อเข้าไปนะลูก ” เธอกระวีกระวาดเก็บรูปใส่กระเป๋าตังค์อย่างลวกๆ
    “ กำลังอยากคุยกับพ่ออยู่พอดี ” กระเป๋าตังค์ยังอยู่ในมือเธอ
    “ ว่าไงจ๊ะ อ้าว!นั่นเปลี่ยนกระเป๋าตังค์ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ ”
    “ เออ...ไม่ใช่ของบุ้งหรอค่ะ ของไอ้เก๊กฮวย ”
    “ ลูกเอากระเป๋าตังของไข่ตุ๋นมาทำไม ” พ่อถามด้วยความสงสัย
    “ พ่อว่าผู้ชายที่ขโมยรูปนู้ดตอนเด็กๆของผู้หญิงไป เค้าเป็นโรคจิตรึป่าวคะ ” ศศิชาเลือกที่จะไม่ตอบคำถามพ่อ กลับตั้งคำถามใหม่แทน
    “ ลูกไม่รู้จริงๆหรอ ว่า...” พ่อจงใจทิ้งช่วงให้เธอตื่นเต้น นึกอยู่แล้วล่ะว่าซักวันลูกสาวต้องรู้ว่าใครเป็นคนขโมยรูปนั้นไป แต่ไม่คิดว่าเกมส์จะจบเร็วเพียงแค่ 2 อาทิตย์
    “ ว่าอะไรล่ะคะพ่อ ” เธอกระตุ้นด้วยการดึงเสื้อพ่อเบาๆ
    “ ว่าพ่อก็ไม่รุ้เหมือนกัน ฮ่าๆๆ ”
    “ โธ่พ่อ! เป็นคำตอบที่ดีมาก บุ้งยอมแพ้ ” เธอเดินไปหยิบธงขาวจากมือควายรับบาปที่เธอแอบเสียบเอาไว้ แล้วชูใส่พ่อ
    “ ลูกก็ลองคิดดูเองสิ ว่าเป็นเพราะอะไร ” พูดพลางหยิบธงขาวจากมือลูกกลับไปเสียบไว้ที่มือควายตามเดิม เหมือนพ่อต้องการบอกอะไรเป็นนัยๆ แล้วเดินออกไปจากห้องไม่สนใจหน้าที่มีเครื่องหมายคำถามเป็นร้อยเป็นพันของลูกสาว
    ศศิชาคิดจนหัวแทบแตกแล้วยังคิดไม่ออกเลย ยิ่งนับความน่าจะเป็นยิ่งแล้วใหญ่ แต่ไอ้คำพูดของพ่อ ประโยคสุดท้ายนี่สิมันดังขึ้นในหูไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยและนั่นยิ่งเพิ่มความสงสัยขึ้นเป็นทวีคูณ ท่าทางเธอคงต้องใช้ตัวช่วยซะแล้ว เธอเลือกที่จะใช้ถามใครก็ได้ แล้วใครที่ว่าก็ต้องเป็น *เค้าคนเดียวเท่านั้น*

    เช้าวันนี้ศศิชาโรงเรียนด้วยสีหน้าอิดโรย มองเผินๆแล้วเหมือนหมีแพนด้ายังงัยอย่างนั้น เพราะมีเรื่องที่เธอต้องคิดทั้งคืน ก็จะเรื่องใครล่ะถ้าไม่ใช่ไอ้เก๊ก นั่นงัย เดินมาแล้ว ตายยากจริงๆ
    “ ไอ้พจ ทำไมแกไม่มาช่วยฉันหากระเป๋าแต่เช้า” พร้อมกับที่มือใหญ่ดึงเปียเล็กๆเหมือนเคย
    “ใครบอกแกว่าฉันจะมาแต่เช้า ” กระเป๋าตังค์ใบสีน้ำตาลถูกยื่นให้คนตรงหน้า ศศิชาเดินเบี่ยงตัวหลบไปที่นั่งตัวเอง ไม่สนใจคนที่ยืนอ้าปากหวอเมื่อได้ของคืน
    “ เฮ้ย!ไอ้พจน์ ทำไมเมื่อคืนแก บอกฉันว่าไม่ได้เอาไป ” นภัสเดินตามศศิชาไป
    “ ฉันยังไม่ได้บอกแกว่าไม่ได้เอาไปซักคำ” ศศิชาลอยหน้าตอบเค้า
    “ เอาเหอะ ว่าแต่แกเปิดกระเป๋าดูรึเปล่า”
    “ เปิดแต่ไม่เห็นมีบัตรชมรมอนุรักษ์ไม้ป่าเดียวกันของแกซักใบ เห็นแต่ เออ... อย่าไปสนใจเลย ” ประโยคหลังเธอจงใจยั่วเค้าให้ร้อนใจ
    “ อาไร แกบอกมาสิ ” ถ้าเค้ามีคีมจะง้างปากเธอได้คงทำไปนานแล้วหน้าตาหญิงสาวตอนนี้ดูแปลกๆพิลึก
    “ ก็รูปเด็กในกระเป๋าตังค์แกงัยใครเหรอ ” ศศิชามองนภัสเหมือนครูจับได้ ว่าเด็กทำผิด
    “ รูปฉันสิ แกเห็นเป็นรูปใคร แกรึงัย” นภัสแก้ตัวน้ำขุ่นๆ รูปนี้ใครๆดูก็รู้ว่าเป็นศศิชา
    ยิ่งเจ้าตัวยิ่งไม่ต้องสงสัย
    “ แกตอนเด็กๆ หน้าเหมือนฉันเป๊ะเลย ” คนพูดทำเหมือนไม่ใส่ใจหยิบหนังสือวิชาที่จะเรียนมาอ่าน
    “ เด็กอ่อนที่ไหน ก็หน้าตาเหมือนกันหมดนั่นแหละ ” คนทำความผิดยังไม่วายเถียงและเดินกลับไปนั่งที่ของตัวเองด้านหลังเธอ มองหัวของคนตรงหน้าวันนี้ทุกอย่างเหมือนเดิม เธอใส่ชุดนักเรียนชุดเดิม กระเป๋าใบเดิม ทำผมเปียสองข้างเหมือนเดิม แต่คำพูดและแววตา มันบอกได้ว่าเธอเปลี่ยนไป ตอนนี้เค้าอยากมีญาณวิเศษ เวทมนตร์หรือคาถาอะไรก็ได้ ที่สามารถอ่านได้ว่าหัวสมอง ของเธอกำลังคิดอะไรอยู่และนั่นใช่เรื่องเดียวกับที่เค้ากำลังกังวลอยู่หรือไม่.....

    จากคุณ : mkสุกี้ - [ 5 ก.ย. 47 14:38:53 A:203.118.116.37 X: ]