CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ๛๛ กำกรรม ๛๛

    ไม่มีใครรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วทำไมกฤษณะจึงไม่กลับบ้าน
    บ่อยครั้งที่เขามักจะหมกตัวอยู่ที่โต๊ะทำงานจนดึกดื่นทุกวัน
    บ้างก็ลงความเห็นว่าเขาคงขยันและบ้างาน
    บ้างก็ว่าเขาคงมีปัญหาอะไรสักอย่างทางบ้านจนไม่อยากกลับไป
    ก็สุดแล้วแต่พวกนั้นจะเข้าใจ คงมีแต่เขาเท่านั้นที่รู้

    คืนนี้เป็นอีกคืนหนึ่ง ที่เขายังคงนั่งอยู่ในห้องทำงานเพียงลำพัง
    นาฬิกาข้างฝาบอกเวลา 23.45 น. อากาศภายในห้องร้อนอบอ้าวได้ที่
    เพราะฝ่ายอาคารปิดเครื่องปรับอากาศไปตั้งแต่หัวค่ำแล้ว    
    ภายในห้องมืดมิด ซึ่งมันมืดเกินกว่าจะกล่าวได้ว่านี่คือบรรยากาศของการทำงาน
    มีเพียงแสงสีขาวจากจอแอลซีดีขนาด 17 นิ้วส่องผ่านเลนส์เว้าเข้าดวงตาที่เบิกโพลงเป็นประกายวาว
    เสียงเพลงจากไฟล์ เอ็มพี 3 บรรเลงเบา ๆ ขับกล่อมให้ภายในห้องไม่เงียบงัน  
    แป้นคีย์บอร์ด รับปลายนิ้วสัมผัสบ้างเป็นครั้งคราว  มือขวาของเขากำเม้าท์ไว้แน่น
    ปลายนิ้วกระดิกคลิกเลือกไฟล์ภาพนับร้อยบนหน้าจอ
    สลับกับมือซ้ายที่ขยับไปมาตรงส่วนล่างสะดือซึ่งขณะนี้ไม่มีอาภรณ์ใด ๆ
    ห่อหุ้มเจ้ากล่องดวงใจดวงน้อยของเขา กางเกงสแล็คสีดำและกางเกงชั้นในยี่ห้อเจเพรส
    ถกลงมาวางกองปลิ้นข้างในออกข้างนอก อยู่ที่ข้อเท้าที่ไขว้ไว้ใต้โต๊ะทำงาน

    “โห! หลุดมาได้ไงวะ”  ดวงตาของเขาเป็นประกายภายใต้กรอบแว่นหนา เขาจ่อหน้าเข้าใกล้หน้าจอ
    เพ่งมองภาพหญิงสาวที่เปลือยกายโชว์ปทุมถันทั้งสองข้างยืนปั้นหน้าปั้นจิ้มปั้นเจ๋อเหมือนจะน่าเอ็นดู...  
    เธอคือดารายอดขวัญใจของเขา

    “น้องต๊าก! ตัดต่อหรือเปล่าวะเนี่ย”  
    กฤษณะคลิกขยายภาพเพื่อดูร่องรอยความแตกต่างของจำนวนจุดพิกเซลในภาพ  
    เรื่องแค่นี้ไม่เกินความสามารถของกราฟฟิคดีไซด์เนอร์อย่างเขาหรอก “ภาพจริงนี่หว่า”  
    เขาเพ่งพินิจเจ้าเม็ดปทุมถันสีน้ำตาลเข้มที่ขยายเต็มหน้าจอขนาด 1200 เท่า

    เมื่อเจอของดีของเด็ดเข้าให้ ใครจะอดใจไหว แต่...
    มือซ้ายที่กำลังกระตุกไต่สวรรค์กลับเริ่มล้าและเกร็งพอ ๆ กับใบหน้าที่เหยเก
    เขาละมือขวาจากเม้าท์ มาบังคับเจ้าวัตถุแห่งพันธุกรรมแทนมือซ้าย
    และยกมือซ้ายขึ้นปาดเหงื่อเม็ดโป้งบนใบหน้าโดยลืมไปว่าจะมีอะไรติดใบหน้าแทนเหงื่อ

    กฤษณะอุ่นเครื่องโดยใส่เกียร์ว่างแล้วบิด 4-5 ที
    ก่อนจะตบเกียร์ลงและเหยียบคันเร่งมิดทะยานไปสุดทาง
    "โอ้ว! น้องต๊าก...ก...ก"

    หลังมือขวาของเขากระเด้งชนกับแผ่นกระดานใต้โต๊ะในจังหวะสาวขึ้น
    จนแก้วล้มน้ำหกไหลนองหยดจากโต๊ะลงพื้น

    กฤษณะหาได้สนใจ เพราะข้างหน้านั่นคือสวรรค์รำไร
    เขาสูดลมเข้าปากแล้วค่อย ๆ พ่นออกเป็นจังหวะ  
    นัยน์ตายังคงจับจ้องที่จอมอนิเตอร์ไม่กะพริบ  
    ความเมื่อยและความมัน ผสานกันจนในที่สุดก้อนเจลลาตินใสก็ทะลักไหล

    “โอ้ว!” ในที่สุด โลกใหม่ก็ปรากฏแจ่มชัดอย่างง่ายดายด้วยน้ำมือของเขา  
    กฤษณะหลับตาพริ้ม... กระดกสะเอวร่อนไปมาซ้ายขวา

    อนิจจา! เขาหารู้ไม่ว่า ยังมีอีกโลกหนึ่งรออยู่ข้างหน้าซ้อนทับโลกใหม่ของเขาอยู่อีกชั้น

    เจ้าหยดเจลลาตินใสพุ่งไหลใส่หน้าขาที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
    ไหลย้อยหยดลงปนกับเจ้าหยดน้ำบนฝาเครื่องสำรองไฟ ใต้ขาของเขา
    เนื่องจากเจ้าก้อนเจลลาตินใสมีความหนาแน่นต่างจากน้ำ
    มันจึงกึ่งลอยกึ่งกลิ้งไปที่ขอบของเครื่องสำรองไฟฟ้า
    ทันใดนั้นมันก็หยดแหมะลงตรงร่องปลั๊กสีดำช่องอินพุท เกิดเป็นประกายไฟสีแดงจ้า

    “พรื่บ!” ควันสีขาวคละคลุ้งไปทั่วห้องที่มืดสนิท ห้องพลันเงียบกริบไร้เสียงเพลง  
    ผิวหนังดำแดงของกฤษณะแปรสภาพเป็นดำปี๋ด้วยกระแสไฟฟ้าขนาด 220 โวลต์
    ที่ไหลผ่านซ่านไปทั่วร่างโดยสื่อไฟฟ้าชั้นดีที่เรียกว่าเหงื่อ

    “แหง็ก!”
    กฤษณะไม่มีโอกาสลุกหนีจากความตาย เพราะขาของเขาพันธนาการไว้ด้วยกางเกงทั้ง 2 ตัว  
    เขาดิ้นทุรนทุรายและกระตุก 2 ที ก่อนจะแน่นิ่ง

    อนิจจา! แม้จะสิ้นชีวา มือขวาก็ยังคงกำท่อนพันธุกรรมไว้แน่นปานฟางเส้นสุดท้าย
    ที่ไขว่คว้าได้ในโลกนี้

    ...
    (มีต่อ)

    จากคุณ : {``-_-}{-``-}{-_-``} - [ 8 ก.ย. 47 00:46:11 ]