บรู๊ววว บรู๊ววว โบร๋วววว์ โบร๋วววว์
เสียงของเจ้าสุนัขทั้งหมู่บ้านต่างพร้อมใจพากันเห่าหอนประสานส่งต่อกันเป็นทอด ๆ ดังระงมไปทั่วทันทีในขณะที่ฉันได้เริ่มก้าวเท้าเหยียบเข้ามาในซอยอันแสนเปลี่ยว ประกอบกับสายลมหวีดหวิวที่ได้เริ่มพัดกระโชกมาเป็นระยะๆ มันทำให้สาวสวยเอวบางร่างน้อยอย่างฉันต้องอกสั่นพรั่นพรึงขึ้นมาในทันใด ภาพบางอย่างที่ชวนให้เกิดอาการขนพองสยองกึ๋ยได้ถูกสร้างขึ้นมาในมโนความคิดของฉันอย่างยับยั้งไม่ได้
นี่พวกแกคงจะคิดว่าพวกแกเป็นนักร้องที่กำลังร้องประสานเสียงกันอยู่ในวงของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งของเมืองไทย หรือไม่ก็เป็นนักร้องโอเปร่าแห่งอุปรากรชื่อกระฉ่อนโลกซินะ .. เอ่อ พวกแกจะคิดอย่างไรก็ช่าง
พวกแกเถอะ แต่ตอนนี้พวกแกหยุดก่อนได้ไหม พลีสสสสส(ได้โปรด)
ก็คุณลองคิดดูซิ สาวสวยที่แสนจะบอบบางและอ่อนไหวอย่างฉันจะรู้สึกอย่างไร ที่จะต้องมาเดินเข้าไปในซอยอันแสนจะเปลี่ยวซะขนาดนี้เพียงลำพังคนเดียว และในเวลาดึกดื่นค่อนคืนเช่นนี้จะหาผู้คนที่จะมาเดินเป็นเพื่อนให้พออุ่นใจบ้างสักคนก็ไม่มี มอเตอร์ไซด์รับจ้างก็คงจะหมดไปตั้งแต่ห้าทุ่มแล้วกระมัง
สมัยนี้ยิ่งมีข่าวโจรผู้ร้ายออกดักจี้ ปล้น ข่มขืนแล้วฆ่ากันอยู่เนืองนิจ ยิ่งสาวๆสวยๆ อย่างฉันด้วยแล้ว..เฮ้ออ
ไม่อยากจะคิด
ฉันเคยบ่นเรื่องนี้ให้เพื่อนๆฟังนะ พวกคุณเธอทั้งหลายบอกว่า อย่างแกนะไม่ต้องกลัวหรอกเจ้าโจรห้าร้อยพวกนั้นนะเพราะแกมีหน้าตาเป็นอาวุธอยู่แล้ว ซึ่งฉันก็พอจะข้าใจนะว่าเพื่อนมันคงจะปลอบไม่ให้ฉันกลัว แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น อันที่จริงแล้วฉันก็ไม่ได้กลัวหรอกน่ะเจ้าพวกโจรห้าร้อยหรือว่าโจรห้าพันนะ เพราะสาวสวยอย่างฉันก็ได้ไปร่ำเรียนวิชาศิลปะป้องกันตัวเอาไว้บ้างแล้ว แต่สิ่งที่ฉันกลัวอยู่ในตอนนี้ก็คือ...ผะ..ผะ. ผีตะหาก
มันเป็นชีวิตและจิตใจของสาวสวยอย่างฉันเลยก็ว่าได้กับความกลัวนี้ บางคนอาจบอกว่าเป็นเรื่องเหลวไหล ผีไม่มีจริงหรอกในโลก แต่สำหรับฉันกลับไม่คิดเช่นนั้นเลย เพราะฉันได้เคยประสพพบเจอกับมันมาหลายครั้งแล้ว บางคนอีกนั่นละบอกว่า การที่เราได้เจออะไรบ่อยๆ จะทำให้เราชินและคุ้นเคยกับสิ่งนั้นไปเอง แต่สำหรับฉันไม่ขอคุ้นเคยกะมันเป็นอันขาด เพราะเจอกันทีไร เป็นต้องแลบลิ้น ปลิ้นตาหลอก ทำให้ฉันต้องวิ่งหนีจนป่าราบทุกที บางครั้งที่ฉันพลาดวิ่งไปสะดุดขอนไม้ล้มลงหนีไม่ทัน ฉันทำอะไรไม่ถูกเลยตอนนั้นมือเท้าไม่มีแรงขึ้นมาเฉยๆ พวกมันก็จะพากันเดินทื่อๆแล้วยื่นมือสองข้างของมันค่อยๆเดินเข้ามา
เดินเข้ามา..จะบีบคอฉันพร้อมกับแสยะยิ้มอันน่าเกลียดน่ากลัวของมัน
จนฉันต้องหลับตาปี๋อย่างลุ้นระทึกกับวินาทีแห่งความเป็นและความตายนั้น
แต่แล้ว.. ในที่สุดเสียงนาฬิกาปลุกก็ช่วยชีวิตฉันไว้ได้ทุกครั้ง
เจ้าหมาบ้าพวกนี้นี่ เกิดมาไม่เคยเห่าไม่เคยหอนกันหรือไงนะ หอนกันอยู่ได้ ยังกะเห็นผีอย่างนั้นละ ฉันบ่นด้วยความหงุดหงิดหัวเสียเต็มทีในขณะที่กำลังเดินแกมวิ่ง หันซ้ายทีขวาที และหลังบ้างในบางครั้ง คอยกวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความหวาดระแวง ..บรรยากาศมันช่างเข้ากับเสียงของเจ้าพวกนั้นซะจริงๆ ต้นไม้ใบกล้วยข้างทางที่พลิ้วไหวไปตามแรงลม ดูคล้ายดังการเคลื่อนไหวของสิ่งเล้นลับอีกมิติที่มักแฝงตัวอยู่ในความมืดช่วยเสริมให้บรรยากาศนั้นน่าสะพรึงกลัวมากยิ่งขึ้น
ก็ใช่นะซิ ที่เจ้าสี่ขาพวกนั้นหอนนะก็เพราะว่ามันเห็นผี สะ..สะ..เสียงใครนะ..คงไม่ใช่
ฉันรีบหันขวับไปทางต้นเสียงทันที ทันใดนั้น! ลมได้พัดกระโชกมาปะทะร่างอันบอบบางของฉันอย่างแรง มันทำให้ฉันเย็นยะเยือกไปถึงขั้วหัวใจกระจายไปตามเส้นเลือดฝอยไหลย้อยไปเส้นเลือดใหญ่ไม่เว้นแม้กระทั่งเส้นเลือดขอด แล้ววิ่งผ่านไปตามไขสันหลัง
พลันสายตาของฉันก็ได้เห็น
คุณพระช่วย!!!
ฉันตลึงงันกับภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า
ว๊าววว ผู้ชายอะไรหล่อเป็นบ้า ฉันคิดในใจ
ภายใต้แสงสว่างอ่อนๆเหมือนแสงนีออนรุ่นประหยัดไฟของดวงจันทร์นั้น แต่มันก็ทำให้ฉันมองเห็นได้เด่นชัด ใกล้กอกล้วยข้างทาง.. นี่ท่าไม่เห็นว่าเป็นผู้ชายก่อนละก็ฉันคงคิดว่าเป็นนางตานีเจ้าของกล้วยกอนั้นแหงๆ
คงได้วิ่งป่าราบกันบ้างละคราวนี้
ชายร่างสูงผิวขาว คิ้วดกดำในตาคมเข้มและแฝงไว้ซึ่งอำนาจบางอย่าง จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเรียวบางได้รูป ในชุดสูตรสีดำ สวมทับด้วยเสื้อคลุมยาวสีดำสนิทอีกชั้นหนึ่ง ร้อนขนาดนี้ใส่เข้าไปได้อย่างไร บ้าหรือเปล่า
อ่า..ถึงจะบ้าแต่ก็หล่อ หัวใจสาวรุ่นแรก
เอ้ย..แรกรุ่นอย่างฉันเริ่มหวั่นไหวและเต้น ดังตุ๊บๆตั้บๆ ไม่เป็นจังหวะ ฉันรีบเกาะกุมไว้มั่นในทันใดก่อนที่มันจะกระโดดออกมาข้างนอก
ด้วยความดีใจที่ฉันได้เจอคนหล่อ..เอ้ย
เจอคนที่จะมาเดินเป็นเพื่อน จึงรีบสาวเท้าเข้าไปทักทายทันทีเพื่อหวังจะตีสนิทและชวนคุยระหว่างเดินเข้าไปในซอยเปลี่ยวด้วยกัน แต่แล้วฉันก็ต้องชะงักเล็กน้อย เพราะด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย เย็นชา จนดูเคร่งขรึมของเขา
แต่ก็ยังหล่ออยู่ดี อ่ะน่ะ
สวัสดีค่ะ คุณอยู่ในซอยนี้เหมือนกันหรือค่ะ ฉันไม่เคยเห็นหน้าคุณมาก่อนเลย ฉันส่งเสียงที่คิดว่าหวานที่สุด ทักทายออกไป
เปล่า
เรามาทำงาน เสียงตอบที่ฟังดูทุ้ม กลับสีหน้าที่ยังคงความขรึม
ทำงาน!..ในเวลาที่เกินสองยามเช่นนี้นะคุณ ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
ใช่ สีหน้ายังคงเป็นเช่นเดิม .. อ่า
นี่สงสัยเจ้าต่อมความรู้สึกของเขาคงจะเสียกระมัง
งานอะไรค่ะ..เอ่อ..ในเวลาแบบนี้ ฉันยังคงถามต่อด้วยความสงสัย
เรามารับดวงวิญญาณดวงหนึ่ง
ฉันยืนลืมตา อ้าปากค้าง
มะ มะ มารับดวงวิญญาณ .. งั้นคุณก็ปะ ปะ เป็น
ฉันพยายามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติที่สุด
ใช่แล้ว
เราคือยมทูต เจ้าของสีหน้าเรียบเฉยตอบ
ภายในกายของฉันปั่นป่วนเหมือนโดนจู่โจมด้วยทอนาโดลูกยักษ์ อากาศที่คิดว่าร้อนเมื่อสักครู่กลับกลายเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบดั่งได้ไปยืนอยู่บนน้ำแข็งขั้วโลกเหนือขึ้นมาทันที รู้สึกถึงความผิดปกติและไม่ไว้ใจต่อสภาพแวดล้อมรอบๆ มากขึ้นเป็นทวีคูณ และสิ่งที่ตั้งใจไว้เมื่อครู่ได้อันตรธานหายไปโดยสิ้น แต่ก็ยังคงพยายามรักษาฟอร์มสาวสวยเอาไว้ โดยการกลั้นใจพูดออกมาว่า..
แล้วคุณเจอหรือยังละเจ้าดวงวิญญาณที่ว่านะ
เอ่อ..งั้นคุณรีบไปตามหาดวงวิญญาณของคุณเถอะนะ..เพราะฉันก็รีบเหมือนกัน..ฉันไปละ ฉันพูดพรางปาดเหงื่อที่มันผุดขึ้นมาบนใบหน้าสวยใสของฉันตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้เหมือนกัน พร้อมกับรีบหันหลังเตรียมสวมวิญญาณนักวิ่งลมกรดทันที
จะรีบไปไหนละ
เราเจอแล้ว
เจ้าขาบ้ามันทรยศ มันไม่ยอมทำตามที่ฉันสั่ง
เจอแล้วก็เรื่องของคุณ ไม่เกี่ยวกับฉันซักหน่อย
บอกแล้วไงฉันจะรีบไป ไปซิป้าดดโธ่ เจ้าขาบ้า
เกี่ยวซิ
ก็เจ้านั่นไงที่เราตามหาอยู่.. ฉันชะงักในทันที ลืมเสียสนิทว่าฉันกำลังคุยอยู่กับใคร
จะบ้าหรอ
ฉันเป็นคนนะแล้วก็สวยซะด้วย..ฉันยังไม่ตาย ฉันไม่ใช่วิญญาณที่คุณกำลังตามหาอยู่..คุณต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ ฉันหันไปแว้ดใส่ยมทูตสุดหล่อนั่นทันที
ใช่ซิ..ทำไมจะไม่ใช่
เจ้าลองนึกดูดีๆซิ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าเมื่อสามวันก่อน
สามวัน!.. ฉันทวนคำ
ใช่
สามวัน เสียงทุ้มขรึมตอกย้ำ
เจ้าลองนึกดูซิว่า เหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นกับเจ้านั้น เจ้าจำอะไรได้บ้าง
ฉันรู้สึกมึนงง และสับสน กับสิ่งที่ยมทูตสุดหล่อ นั่นพูดเป็นอย่างมาก เกิดอะไรขึ้น อะไรเกิดขึ้นกับฉัน ฉันเป็นอะไร ฉันพยายามลำดับเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา
แล้วภาพเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นก็ได้ถูกฉายออกมา ..มันชัดเจนซะยิ่งกว่าตีตั๋วเข้าไปนั่งดูหนังในเครือ อีจีวี ซะอีก
อ่า
ใช่แล้ว
ฉันจำได้แล้ว
.
จากคุณ :
สีชมพู
- [
10 ก.ย. 47 12:38:45
A:202.5.83.163 X:
]