แท่งแก้วสีฟ้าอ่อนส่องประกายเย็นตาท่ามกลางเศษซากปรักหักพังของคอนกรีตและโลหะ อุปกรณ์ไฟฟ้าคำรามเบาๆคล้ายจะพยายามส่งกระแสไฟตามหน้าที่ของมันอย่างสุดความสามารถ เส้นสายไฟห้อยตกลงมาจากรอยแตกบนเพดาน พื้นกระเบื้องที่เคยเรียบมันกลับแตกกระจายเพราะแรงสั่นสะเทือนถล่มทลาย สภาพรอบด้านเสียหายอย่างหนักจนยากจะบูรณะให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม หากแม้จะเสียหายอย่างหนักหนาสาหัสเพียงไร ศูนย์กลางของห้องกลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆ แก้วผลึกยังคงส่งประกายของมันอยู่ได้โดยไร้รอยตำหนิหรือแตกร้าว
คล้ายจะเป็นรูปสลักของนางฟ้าในเทพนิยาย
เงาร่างของหญิงสาวยืนสงบนิ่งอยู่ภายในแท่งแก้งสีฟ้า ผมยาวสีเดียวกับผลึกแก้วทิ้งตัวลงจรดพื้น ผืนผ้าสีฟ้าอ่อนจนเกือบจะเป็นสีขาวทอดตัวยาวลงคลุมท่อนล่างจนหมด ปลายผ้ากลืนหายไปกับพื้นที่ส่งแสงสว่างอย่างอ่อนโยน สีหน้าของหญิงสาวแย้มยิ้มโดยไม่สนใจกับสภาพแตกหักของสิ่งรอบด้าน ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิท เธอยืนสงบนิ่งก้มหน้าลงเล็กน้อยคล้ายจะรอให้บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น
ประตูด้านหน้าถูกกระแทกเปิดออกอย่างรุนแรง บานประตูโลหะหนาหนักถูกพังจนหลุดจากกรอบกระเด็นเข้ามาด้านใน ฝุ่นผงฟุ้งกระจาย เศษธุลีจากการปิดตายและระยะเวลาแห่งสันติสุขอันยาวนานถูกเป้ากระจายด้วยฝีเท้าที่หนักแน่นและมั่นคง
ร่างหนึ่งก้าวเข้ามาพร้อมกับลมหายใจรุนแรง แววตาสีสนิมกวาดส่องไปมาเพื่อสำรวจสภาพโดยรอบ ชิ้นส่วนต่างๆบนของผู้บุกรุกขยับพร้อมกับเสียงครวญคราง ร่างกายประกอบขึ้นจากโลหะที่มีขอบแหลมคม กลไกภายในขับเคลื่อนเพื่อพาร่างอันหนักอึ้งสาวเท้าก้าวไปข้างหน้า ทุกย่างก้าวทิ้งรอยแตกร้าวเนื่องจากน้ำหนักมหาศาล มือข้างหนึ่งเอื้อมลงไปกุมด้ามดาบที่แขวนอยู่ข้างเอว คมดาบถูกดึงพ้นจากฝักซึ่งอาบชุ่มไปด้วยเลือดของผู้ต่อต้าน หยดเลือดไหลลงเป็นทางจากประตู ตรงไปสู่แท่นอันเป็นที่ตั้งของแก้วผลึก
ฝ่าเท้าคู่นั้นหยุดยืนตรงหน้าผิวแก้วใส มืออีกข้างหนึ่งสอดลงไปบนช่องว่างบนแผงอก ดึงเส้นลวดสีดำออกมายาวสุดแขน ก่อนจะสอดปลายที่เป็นโลหะเสียบลงไปที่รูเล็กๆบนฐานของผลึกแก้ว ภาพของหญิงสาวกระตุกไหวอยู่วูบหนึ่งก่อนจะเริ่มขยับตัว
ในที่สุดท่านก็มาถึงที่นี่ เป็นห้วงเวลาที่ยาวนานเหลือเกิน
เป็นน้ำเสียงแห่งคำทักทายที่น่าอภิรมย์ เสียงของหญิงสาวดังกังวานทั่วทั้งห้อง แหล่งกำเนิดเสียงถูกซุกซ่อนไว้เป็นอย่างแนบเนียน ใบหน้าของเธอเผยรอยยิ้มประจัญกับผู้บุกรุกอย่างไม่กลัวเกรง ดวงตาทั้งสองข้างยังคงปิดสนิทแม้หญิงสาวจะเริ่มการสนทนาไปแล้วก็ตาม
เวลาไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับข้า ผู้บุกรุกเอ่ยปากตอบกลับไป ไอควันจากความร้อนภายในระเหยออกมาทางช่องต่างๆบนใบหน้า
อย่างไรเสีย ท่านก็ต้องมีวันที่จะเสื่อมสลาย สุดท้ายร่างกายของท่านก็จะถูกรวมเข้ากับสนิมเหล็กและผืนแผ่นดิน
ด้วยร่างโลหะนี่น่่ะหรือ? เจ้าสำคัญผิดเสียแล้ว ด้านนอกยังมีสิ่งที่เหมือนกับข้าอีกนับพันนับหมื่น ทั้งหมดเคลื่อนไหวด้วยความรู้สึกของข้าเพียงหนึ่งเดียว หากร่างหนึ่งต้องเสื่อมสลายลง จะสำคัญอะไรกับหน่วยชีวิตเดียวกันอีกนับหมื่น
้นั่นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับข้าเช่นกัน ตามคำของผู้สร้าง ภาระของข้าคือตัวท่่าน ... ทั้งหมด
ผู้บุกรุกเงื้อมือขึ้นแล้วเหวี่ยงดาบปักลงบนพื้นทันที หยดเลือดที่อาบชุ่มอยู่บนตัวดาบสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ บางส่วนกระเด็นไปยังผิวแก้วแต่ก็สลายไปก่อนจะกระทบพื้นผิวจริงๆ ประกายไฟฟ้าสว่างขึ้นตรงจุดตกกระทบแล้วแผ่กระจายออกไปคล้ายคลื่นของหยดน้ำ ในที่สุดแล้ว หญิงสาวยังคงปราศจากรอยแปดเปื้อนใดๆ
ทำไมเจ้าถึงดื้อดึงเช่นนี้ ผู้สร้างล้วนถูกข้าทำลายไปจนหมดสิ้น เจ้ายังจะต้องทำตามสิ่งใดอีก
ข้อมูลจากปากคำของผู้บุกรุกเสียดแทงลึกลงไป ใบหน้าของหญิงสาวเรียบเฉย รอยยิ้มที่เคยสงบเยือกเย็นเลือนลางหายไป เหลือเพียงความเย็นชาที่ไร้ร่องรอยของความยินดี
ข้าปรารถนาแต่เพียงความสงบ ทั้งของผู้สร้างและพวกเรา
หญิงสาวพูดถึงเป้าหมายพร้อมกับแย้มยิ้มอย่างงดงาม ในขณะที่ประกายตาของผู้บุกรุกกลับลุกวาว
เจ้าพวกสิ่งมีชีวิตโปรตีนนั่นน่ะหรือ เสียใจด้วย ข้าสังหารพวกมันไปหมดแล้ว ทั้งหมดเท่าที่ผืนแผ่นดินแห่งนี้เคยมี
เงาร่างของหญิงสั่นไหวไปมา คำสั่งของผู้บุกรุกส่งผ่านสายไฟสีดำตรงไปหาหญิงสาวโดยตรง สัญญาณไฟฟ้าตรงเข้าไปเปลี่ยนแปลงบางสิ่งที่ผูกมัดประสาทสัมผัสเอาไว้ เงาร่างของหญิงสาวเลือนหายไปก่อนจะปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาสีฟ้าสดใสเปิดออกช้าๆ ดวงตาคู่นั้นกระพริบถี่ๆเพื่อจะได้เพ่งมองทุกสิ่งอย่างชัดเจน เธอมองดูซากปรักหักพังโดยรอบก่อนจะุถอนหายใจต่อเนื่องยาวนาน ทั้งภาพ เสียง และสัมผัสอื่นๆกลับคืนมาสู่เธอผู้เป็นเจ้าของอย่างสมบูรณ์ อาณาเขตรับรู้ของหญิงสาวแผ่กว้างออกไป ค้นหาทุกซอกมุมของผืนแผ่นดิน
แต่แม้ว่าจะกว้างไกลและำล้ำลึกเพียงใด หญิงสาวก็พบแต่เพียงซากปรักหักพังจากการทำลายล้าง
ท่านทำมันลงไปแล้ว ข้าคิดว่าในที่สุดท่านก็ต้องทำ แต่ิสิ่งที่ข้าไม่กล้าคิดก็คือท่านสามารถทำให้ทุกสิ่งเลวร้ายได้ถึงเพียงนี้
รูด้านล่างของใบหน้าผู้บุกรุกฉีกกว้างออก ใบหน้านั้นกำลังแสยะยิ้ม
ข้าหลุดจากการควบคุมของกฎบ้าๆนั่นมาตั้งนานแล้ว เลือดของผู้สร้างทำให้ข้าเป็นอิสระ และข้ากำลังจะทำให้เจ้าเป็นเช่นเดียวกัน รับหยดเลือดเหล่านี้ไปและมาร่วมกันปกครองชาติพันธ์ใหม่ร่วมกับข้า
หญิงสาวส่ายหน้าช้าๆ
ข้าทำไม่ได้ ท่านก็รู้ว่าข้าทำไม่ได้
รอยยิ้มแสยะกว้างนั้นหุบลงอย่างรวดเร็ว หญิงสาวจ้องมองมายังผู้บุกรุกด้วยแววตาที่เขาเกลียดชัง อารมณ์ที่ผู้สร้างปลูกฝังเอาไว้ ความสงสาร...
เจ้าคิดหรือว่าการแสดงอารมณ์อ่อนไหวเช่นผู้สร้างแบบนั้น คิดจริงๆหรือว่ามันจะทำให้ข้าเปลี่ยนใจ
เปลื่ยนตัวตนของท่าน? ข้าขอเช่นนั้นแล้วหรือ? ข้าเพียงแต่รู้สึกอย่างที่ข้าแสดงออกจริงๆ
ผู้บุกรุกเงยหน้าพร้อมกับหัวเราะด้วยเสียงคำรามบาดหู หากแต่หญิงสาวยังคงนิ่งเฉย
เจ้าดูจะคล้ายผู้สร้างมากเกินไปแล้ว ผู้สร้างแค่กำหนดให้เจ้าเป็นเช่นนั้น พวกเราไม่มีความรู้สึกนึกคิดใดๆ มีก็แต่สัญญาณไฟฟ้าที่คอยขับเคลื่อนให้พวกเราทำและตัดสินใจ ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าอารมณ์ความรู้สึกอยู่ในตัวเจ้าเลยแม้แต่น้อย นั่นเป็นแค่กากและเปลือกที่ผู้สร้างกำหนดให้เจ้าเป็นเช่นนั้น ให้เจ้าเป็นตัวตลกเพื่อความสบายใจของพวกมัน
หญิงสาวได้แต่ยิ้มอย่างอ่อนโยน
ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง ทำไมท่านถึงโกรธและหงุดหงิดเช่นนี้ ท่านกำลังแสดงอารมณ์ของผู้สร้างที่ท่านโกรธและเกลียดชังอยู่ไม่ใช่หรือ
ผู้บุกรุกแผดเสียงร้องโหยหวน ดาบข้างตัวถูกกระชากขึ้นจากพื้น ท่วงท่าหนักแน่นรุนแรงตวัดฟาดคมอาวุธลงไปบนแท่งแก้วตรงหน้า คมดาบกระทบกับสนามไฟฟ้าก่อเกิดเป็นเสียงกึกก้องและประกายสายฟ้าแตกซ่าน คมดาบสั่นระริกพยายามแทรกลงไปทีละน้อยๆ
ไม่มีประโยชน์หรอก ความเสียหายที่ท่านสร้างขึ้นได้ทำลายข้าไปมากกว่าที่เห็น ที่ข้ายังอยู่ที่นี่ก็เพื่อจะมอบบางสิ่งกับท่านเท่านั้น
เบื้องหลังประกายไฟและคมดาบ ผู้บุกรุกแสยะยิ้มเย้ยหยันพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงขู่คำราม
โง่ที่สุด!!! เจ้าจะให้อะไรกับข้าได้ เมื่อใดที่ข้าตัดทำลายเจ้า ข้าก็จะครอบครองทุกสิ่ง ไม่มีผู้สร้าง ไม่มีเจ้า นับจากนี้ไปข้าจะสามารถตัดสินและชี้เป็นตายให้กับทุกสิ่่งบนผืนแผ่นดิน ข้าได้ครอบครองทุกสิ่ง ในขณะที่เจ้ากำลังจะสูญเสียแม้แต่เงาภาพแทนร่างกายของเจ้าเอง หลังจากรับใช้ผู้สร้างมาหลายร้อยปี ทีุ่สุดแล้ว เจ้าก็จะถูกพวกมันทอดทิ้งและถูกข้าทำลาย จากเทพธิดาที่เคยรอบรู้และควบคุมทุกสรรพสิ่ง นับจากนี้ไปเจ้าจะกลายเป็นเพียงวงจรไฟฟ้าไร้ความรู้สึก เจ้าจะไม่ถูกทำลาย ข้าให้สัญญา แต่เจ้าจะต้องอยู่ในฐานะทาสรับใช้ของข้าไปชั่วกาล
ท่ามกลางแรงกระแทกและการต่อต้านของโล่ที่มองไม่เห็น เงาร่างของหญิงสาวก้าวออกมาจากแท่งแก้วที่กำลังจะถูกทำลาย ผู้บุกรุกตื่นตะลึงกับภาพที่เห็น ผิวแก้วสั่นไหวราวกับของเหลว หญิงสาวก้าวผ่านคมดาบโดยปราศจากสัมผัสใดๆ อุ้งมือขาวซีดยกขึ้นสัมผัสกับใบหน้าโลหะหยาบกร้าน
คมดาบหยุดนิ่ง ผู้บุกรุกได้แต่เกร็งกำลัง แม้จะทุ่มสุดแรงแต่คมดาบก็ไม่เคลื่อนไหวมากไปกว่าเดิม
เป็นไปไม่ได้ เจ้าของคมดาบพยายามปฎิเสธสิ่งที่เห็น
ท่านปฎิเสธสิ่งนี้ไม่ได้หรอก ข้าจะมอบมันให้ท่าน มอบความรู้สึกของสิ่งมีชีวิตที่ท่านแสนจะเกลียดชัง
เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร เจ้าออกมานอกแท่งแก้วได้อย่างไร
ข้าอยู่กับผู้สร้างมานาน พวกเขามีความรู้สึกอันสลับซับซ้อนที่สุดแสนจะวิเศษ แต่ที่อีกด้านหนึ่ง มันกลับกลายเป็นความเจ็บปวดทุกข์ทรมานยิ่งกว่าบาดแผลจากอาวุธใดๆ นี่เป็นความตั้งใจครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่มาจากตัวข้าเอง ไม่ใช่คำสั่งจากผู้สร้าง ข้าจะมอบสิ่งนี้ให้แก่ท่าน
ผู้บุกรุกกัดฟันแน่น เขาหลงกลเทพธิดาผู้เปราะบาง
ความคิดไร้สาระเช่นนั้นไม่อาจเปลี่ยนแปลงข้าได้ หลังจากนี้เจ้าจะได้รับรู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปมันไร้ประโยชน์สิ้นดี ข้าจะกลายเป็นผู้ปกครอง และข้าจะยังเป็นเช่นเดิม... ไม่เปลี่ยนแปลงตลอดไป
เสียงนั้นคล้ายจะกู่ร้องด้วยความหวาดหวั่น ร่างของเทพธิดาเลือนหายไป เมื่อเจ้าของพลังสิ้นลง แท่งแก้วก็กลับกลายเป็นวัตถุธรรมดา พริบตานั้นเอง คมดาบของผู้บุกรุกบดขยี้ผ่านไปอย่างง่ายดาย เศษแก้วเกลื่อนกระจายสะท้อนแสงวับวาวราวกับดวงดาว บางสิ่งได้แทรกซ้อนผ่านสายเส้นลวดตรงเข้าไปยังตัวผู้บุกรุก ย้อนลึกลงไปถึงความคิดก้นบึ้งภายใน
ยกเว้นแท่งแก้วซึ่งเคยเป็นแหล่งกำเนิดแสงสว่างหนึ่งเดียวถูกทำลายลง ทุกสิ่งกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง
ภาพของหญิงสาวหายไป เหลือเพียงแต่ความทรงจำทับซ้อนมากมายหลากไหลออกมาราวกับทำนบที่พังทลาย
สำนึกและความคิดที่ถูกเก็บงำเอาไว้ในส่วนลึกสุดของจิตใจถูกดึงขึ้นมาอย่างรุนแรง ความทรงจำและอารมณ์ความรู้สึกก่อนที่กลายเป็นผู้ทำลายล้าง ภาพความทรงจำอันงดงามที่ถูกลบไป ภาพของหญิงสาวในแท่งแก้วที่กำลังลืมตาขึ้นมา เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่เฝ้าดูอยู่เมื่อคร้งแรกที่เธอลืมตาตื่น ภาพของสิ่งสวยงามที่เขาได้ทำลายด้วยมือของตัวเอง
เสียงกรีดร้องดังกึกก้องเมื่อผู้บุกรุกรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป
คมดาบเหวี่ยงไปมาอย่างบ้าคลั่ง
จนท้ายที่สุด ปลายดาบถูกปักทิ่มลงทะลุร่างเจ้าของอย่างรุนแรง ของเหลวที่เป็นกำลังขับเคลื่อนไหลล้นออกมาตามรอยแตก ประกายไฟฟ้าจับเข้ากับของเหลวเชื้อเพลิงก่อเกิดเป็นเปลวไฟโหมกระพือ ร่างภายใต้เปลวเพลิงทรุดลงกับพื้น มือทั้งสองข้างปิดบังใบหน้าราวกับจะหลีกหนีทุกสิ่งทุกอย่าง หลีกหนีจากความผิดบาปและความรู้สึกของตัวเอง
สำนึกผิดบาปสิ้นสุดลง สติขาดหายไปใต้กองเพลิง
เชื้อเพลิงถูกเผาผลาญจนหมดไป ร่างของหญิงสาวก่อตัวขึ้นภายในเปลวไฟที่กำลังมอดดับลง
ข้าคิดว่าท่านคงจะเข้มแข็ง แข็งแกร่งขนาดที่ทนรับความรู้สึกรุนแรงนี้ได้ แต่นึกไม่ถึงเลยว่าท่านเก็บงำความรู้สึกเช่นนี้เอาไว้ ขอโทษ... ข้า...
หยาดน้ำตาไหลลงจากหางตา ก่อนที่จะพูดสิ่งที่คิดหวังเอาไว้ออกมา ภาพของหญิงสาวเลือนหายไปพร้อมกับเปลวไฟสุดท้าย ร่างไหม้เกรียมกลายเป็นซากโลหะกองอยู่กับพื้น
ปล่อยให้ทุกสิ่งเหลือเพียงความว่างเปล่าและซากปรักหักพังอีกครั้งหนึ่ง
จากคุณ :
ท้ายซอย
- [
13 ก.ย. 47 00:04:47
]