ความคิดเห็นที่ 75
หนึ่ง : ความรู้ กิจกรรมในอาศรมฯ พบว่า มี (๑) การนำความรู้ด้านร้อยกรองจากตำรามาอ้างอิง เช่น แต่งโคลงตำรับประมวลมารค, จินดามณีฉบับหอสมุดแห่งชาติ, [I]ทวาทศมาส[/i], หลักภาษาไทย ของ อ.กำชัย ทองหล่อ และผลงานของกวีร่วมสมัยอื่นๆ นอกจากนี้ตัว บทในวรรณคดีไทยจำนวนมากถูกนำมาเป็นตัวอย่างศึกษา เช่น ลิลิตตะเลงพ่าย ลิลิตพระ ลอ นิราศนรินทร์ ขุนช้างขุนแผน นิราศสุพรรณ คำหยาด ฯลฯ
ตำราที่นำมาอ้างอิงเหล่านี้เปรียบเหมือน "กรอบคิด" หรือ "หลัก" ในการเขียน ร้อยกรอง, ส่วน "ตัวบท" ที่นำมาอ้างเป็นข้อมูลสนับสนุนเพื่อให้สมาชิกได้เกิดความเข้าใจ และฝึกฝนได้ง่ายขึ้น. เป็นการหยิบงานที่แสดงความโดดเด่นด้านใดด้านหนึ่งของร้อยกรอง มาแสดง. บางครั้งได้ใช้ตัวบทเหล่านี้เป็นแบบฝึกและวิธีการสร้างโวหารด้วย เช่น ตัวบทว่า "เสียงลือเสียงเล่าอ้าง ฯลฯ" นอกจากได้นำมาเป็นแบบฝึกแล้วยังได้ถูกยกมาอ้างใน เวลาพูดถึงเอกโทและลักษณะโคลงที่เต็มรูปแบบอีกด้วย.
ความคุ้นเคยกับวรรณคดีล้ำค่าเหล่านี้นอกจากช่วยให้สมาชิกศึกษาในแนวทางที่ถูกต้องแล้ว ยังเป็นการช่วยเพิ่มพูนความรู้ด้านวรรณคดีไทยไปด้วย, จนในหลายครั้งได้กลายเป็นประเด็น วิจารณ์ต่อยอดออกไป เช่น "กามโวหาร" ในลิลิตพระลอ, ซึ่งเมื่อตั้งวงกันจริงๆ "กามโวหาร" จากแหล่งอื่นๆ ก็ถูกนำมาเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนด้วย, นับว่าเป็นฉุดกระชากความสนใจและ ประสบการณ์ของแต่ละคนออกมาอย่างได้ผล. นอกจากนี้มีการหยิบประเด็นใดประเด็น หนึ่งมานำเสนอเป็นการเฉพาะเช่น อหังการกวี , อติพจน์, การใช้สร้อยคำ, ลักษณะคำตาย ที่ใช้ในโคลง ฯลฯ
อีกส่วนหนึ่งสมาชิกของอาศรม (๒) ได้แสดงออกถึง "ทักษะ" และ "ประสบการณ์" ที่ เกิดจากการฝึกฝนโดยยึด "หลัก" ร้อยกรองไทยจากตำราเหล่านี้และเกิดเป็น "ความรู้ ความเข้าใจ" , ซึ่งประเมินได้จากพัฒนาการของงานในช่วงแรกที่ฝึกฝน (สามปีที่แล้ว) กับ ปัจจุบันนี้โดยการเปรียบเทียบ.
ที่ดูจะพิเศษออกมา คือ เมื่อมีหลัก, รู้จักใช้คำ, รู้ว่าโคลงแบบใดดีหรือไม่ดี, สมาชิกหลายท่าน ได้ใช้ทักษะและประสบการณ์นั้นนำเสนอความคิดเห็นเชิงวิจารณ์ต่องานของมิตรสหายท่าน อื่นๆ. อันนี้ถือว่า เป็นทักษะการศึกษาอย่างชัดเจน, ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่ยืนยันได้ว่า หลัง จากนำหลักของครูบาอาจารย์มาอ้าง มาศึกษากันแล้ว, ได้เกิดความรู้ใหม่แก่สมาชิกชาวอา ศรมฯ ด้วย. ความรู้ที่เกิดจากประสบการณ์เช่นนี้ถือเป็นผลสำเร็จทางการศึกษา,ซึ่งจะติดตัว ตลอดไปและเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างงานที่ซับซ้อนขึ้นในอนาคต.
ในแง่นี้คงยุติได้ว่าอาศรมฯ ไม่ได้ดำเนินการอย่างเลื่อนลอยแบบเอาแต่สนุกสนาน แต่ได้นำ หลักวิชามาศึกษากันอย่างละเอียด เคร่งครัดต่อขนบ และบังเกิดความเข้าใจอย่างเห็นได้ชัด. ความรู้เช่นนี้คือฐานอันสำคัญในการสร้างงานที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคนต่อไป. (แม้จะไม่ ใช่มืออาชีพก็ตาม).
จากคุณ :
Ar@p
- [
22 ก.ย. 47 18:18:03
]
|
|
|