รักเราฟ้ามิอาจกั้น [ช่วงแรก]
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2905034/W2905034.html
รักเราฟ้ามิอาจกั้น [ช่วงที่ 2]
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2930461/W2930461.html
รักเราฟ้ามิอาจกั้น [ช่วงที่ 3]
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2963900/W2963900.html
ใต้แสงออโรร่า [ รักเราฟ้ามิอาจกั้น ช่วงที่4]
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2979392/W2979392.html
ช่วงที่ 5
เทวดาน้อยแทบไม่เชื่อสายตา ปีศาจตนใดกัน! ที่ลวงจิตหลอกใจให้ชายกักขฬะคนนี้ ถึงกับลงมือฆ่าเด็กหญิงพิการตัวเล็กๆ ไม่มีทางสู้ได้อย่างไร้ความปราณี!
น้ำตาอาบสองแก้ม หากแต่เทียบไม่ได้กับสายน้ำในดวงใจที่รินไหล ส่งพลังไปมากมายเพียงใดก็มิอาจเยี่ยวยารักษา ได้แต่จมหายราวกับราดน้ำลงบนพื้นทราย หมดแล้วสิ้นหนทางแล้วหรือ ที่จะฉุดเธอจากปลายคมเคียวของมัจจุราช มันต้องมีสักทางสิ! ที่ฉันจะทำเพื่อเธอได้ หากแม้นจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม!
ชีวิตงั้นหรือ
อ๊ะใช่แล้ว!!
บอนลิเอลคลายมนต์เปลี่ยนการเรียงสายใยโครงสร้างแม่แบบแห่งชีวิต ถอดห่วงโซ่จำลองรูปลักษณ์ในอดีตชาติออก แล้วนำเส้นสายตัวตนที่แท้จริงมาถักทอให้เป็นดังเดิม จากเด็กหญิงผมเปียตัวน้อยกลับคืนสู่ร่างเทวาอันสูงส่ง พร้อมกับสยายปีกทั้งสี่คืนสู่อิสรภาพ ดวงตาเด็กหญิงในอ้อมแขนปรือลง ด้ายแห่งชีวิตจวนขาดอยู่รอมร่อ เสี้ยวเวลาแห่งความเป็นตาย เขาต้องตัดสินใจในวินาทีนั้นแล้ว!!
ชีวิตฉันจะต่อชีวิตให้เธอ
เทวดาน้อยโน้มใบหน้าลงมา แนมริมฝีปากไปบนเรียวปากอิงกริด ถ่ายทอดพลังแห่งเทพที่มีเข้าสู่ร่างเธอ ไหลทะลักมิหยุดหย่อนเฉกเช่นแก่งน้ำอันเชี่ยวกราก นำพาความรักแผ่ขยายซอกซอนไปทั่วทุกอณู สั้นๆ เพียงชั่วนาทีแต่เหมือนเนินนานนับปี มหาสมุทรมาดแม้นกว้างใหญ่และลึกล้ำเพียงใด แต่สุดท้ายย่อมมีวันเหือดแห้งไม่วันใดก็วันหนึ่ง เมื่อเห็นว่าใบหน้าเด็กหญิงที่ซีดขาวปรากฏขึ้นสีชมพูเปล่งปลั่ง วงหน้าอาบไล้ด้วยความมีชีวิตชีวาแล้ว บอนลิเอลจึงวางใจถอนริมฝีปากออก
อืมม์
เด็กหญิงครางในลำคอ ขนตายาวงอนขยับไหว จังหวะการหายใจกลับมาสม่ำเสมอ พลังเทวดาที่วนเวียนอยู่ในร่างเธอเริ่มหล่อหลอมทำความรู้จักกับสถานที่อยู่ใหม่ แล้วทำการจัดเรียงแก้ไขข้อด้อยให้ใกล้เคียงกับความสมบูรณ์แบบในสายพันธุ์ที่พัฒนาไปไกลสุดในจักรวาล ร่องรอยบาดแผลจากความทารุณตลอดทั้งชีวิตจางหายไป ผิวเนียนใสงดงามมาแทนที่ และ ขาข้างพิการก็ถูกรักษาปรับเปลี่ยนให้ดีเหมือนขาข้างปรกติ
เธอรอดแล้ว!!
เด็กชายแย้มยิ้มทั้งๆ ที่อ่อนระโหยโรยแรงจนแทบทรงตัวไม่อยู่ แต่ถึงกระนั้นก็ยังประคองอิงกริดในอ้อมแขนไว้แน่น พลังเทวดาเกือบสิ้นสูญ จะสร้างกลับคืนมาใหม่ได้หรือไม่นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่มันคุ้มแล้วที่สามารถช่วยชีวิตเธอไว้ได้
ที่ปรายหางตา บอนริเอลเห็นบรรดาคนเถื่อนต่างกรูกันเข้ามายืนปิดล้อมไว้หมดทุกด้าน แต่เว้นระยะห่างจากเขาและเด็กหญิงไว้ประมาณ 5 เมตร ทุกสายตาจับจ้องมาทำให้เด็กน้อยนึกหวั่นใจ นี่เขาจะต้องฆ่าทุกคนให้หมดก่อนหรือไรถึงจะหลุดรอดไปได้! ในความเงียบงัน ฮาราลด์ก้าวเดินออกมาข้างหน้า ดวงตาเบิกโพลงดูน่ากลัว ทันทีที่เห็นชายคนนี้ ความโกรธเกรี้ยวพุ่งทะลัก เลือดเทพในกายแทบเดือดพล่าน บอนลิเอลกำหมัดแน่นจนข้อนิ้วขาวปูดโปน แม้พลังจะลดทอนลงจนแทบไม่เหลือหลอ แต่จะบี้เจ้ามดปลวก[^_^]ตัวนี้ให้แหลกเละมันไม่ใช่เรื่องยาก!
เพียงแค่ความคิดแล่นผ่านแสงแห่งเทพพลันเปล่งประกาย ทันใดนั้นหัวหน้าคนเถื่อนกลับทรุดเข่าลงแล้วโค้งตัวจนหน้าผากแตะกับพื้นหิมะ ปากพลางสวดอะไรบางอย่างด้วยน้ำเสียงสั่นระรัว แล้วทุกคนที่อยู่ในบริเวณโดยรอบก็รีบปฏิบัติตาม พวกเขากระทำความเคารพให้กับบอนริเอล!
เทวดาน้อยพาอิงกริดบินลัดฟ้า ทะยายฝ่าชั้นบรรยากาศ เมื่อมาอยู่ท่ามกลางฝุ่นละอองดาวที่ฟุ้งกระจาย เขาก็เปิดอุโมงค์มิติเพื่อไปยังกาแล็กซี่ศูนย์กลางจักรวาล ตลอดเวลาที่เดินทางบอนริเอลไม่ปริปากพูดอะไร ได้แต่รวบรวมสมาธิเค้นพลังที่มีนำออกมาใช้ อิงกริดเองก็ตื่นตะลึงกับวิวทิวทัศน์ที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก เมื่อมาถึงสวรรค์เธอก็ได้แต่มองทางนู้นทีทางนี้ทีด้วยความสนอกสนใจ ทั่วทุกแห่งหนสวยงามร่มรื่น ปราสาทแต่ละหลังมโหฬารและวิจิตรตระการตา พื้นดินนุ่มมีเมฆบางๆ ปกคลุม อากาศก็ช่างเย็นสบายไม่หนาวเหน็บเมื่อที่ที่จากมา หากเงี่ยหูฟังดีๆ แล้วจะได้ยินเสียงเพลงไหลเรื่อยระไปกับสายลม
สวยมากๆ เลยค่ะ ที่นี่คือสวรรค์เหรอคะ อิงกริดหันไปพูดกับบอนริเอล ซึ่งตอนนี้เอาแต่นอนแผ่หลาอยู่กับพื้นด้วยความเหน็ดเหนื่อย เขาผงกหัวขึ้นมามอง
ใช่แล้วละ เธอชอบหรือเปล่าล่ะ ต่อไปฉันจะให้เธออยู่ที่นี่
เด็กหญิงหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ ชอบสิคะ หนูไม่นึกเลยว่าจะมีวันนี้ ท่านได้ช่วยรักษาขาหนูให้หาย และยังได้พาหนูมาเห็นสถานที่สวยงามแบบนี้อีก หนูขอขอบคุณท่านมากๆ เลยค่ะ
บอนริเอลขมวดคิ้ว ทำไมเธอถึงพูดสุภาพกับฉันนักล่ะ ไม่เอาอ่ะ พูดกับฉันเหมือนเมื่อก่อนก็ได้
อิงกริดมีท่าทีขัดเขิน ก็ท่านเป็นถึงเทพนี่นา ส่วนหนูเป็นเพียงแค่มนุษย์ธรรมดา มันเทียบกันไม่ได้เลย
บอนริเอลฉวยมือเด็กหญิงมากุมไว้ จะเป็นอะไรฉันไม่สนหรอก เราเป็นพี่น้องกัน แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ต่อไปเธอเรียกฉันว่าบอนนะ
ก.. ก็ได้บอน เธอยิ้ม ดีจังเลย ต่อไปนี้ฉันก็จะได้อยู่กับเธออีกครั้ง นานมากๆ เลยนะที่เราต้องจากกัน ไม่น่าเชื่อว่าชาตินี้และชาติก่อนจะมีจริง
ช่าย.. ฉันเองก็เพิ่งจะรู้เมื่อไม่นานมานี้เอง เป็นเรื่องมหัศจรรย์มากที่ฉันหาเธอจนพบ ว่าแต่ชาติใหม่ของเธอนี่ลำบากจังนะ ไอ้คนที่เลี้ยงเธอมาก็เลวร้ายจัง ตอนนั้นฉันน่าจะหักใจฆ่าเขาซะเลย
อิงกริดบีบมือเทวดาน้อยแน่น เธอไว้ชีวิตเขาไว้น่ะดีแล้ว อย่าได้ทำบาปเพื่อฉันเลย อย่างน้อยเขาก็เลี้ยงดูฉันมา ถึงจะเลวแค่ไหนเขาก็คือผู้มีพระคุณต่อฉัน ถ้าไม่มีเขาฉันก็คงจะตายไปนานแล้ว
แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งแปลกนะมนุษย์นี่ ตอนฉันอยู่ในร่างเด็กผู้หญิงอ่อนแอ พวกมันคิดแต่จะกดขี่รังแก แต่พอคืนร่างเดิมปุ๊บพวกมันกลับกราบกรานเห็นฉันเป็นสิ่งสูงส่ง
เด็กหญิงไม่กล่าวอันใด เธอล้มตัวลงนอนกับพื้นเมฆนุ่ม พลางเหม่อมองขึ้นไปบนขอบฟ้านภากว้าง เทวดาน้อยเห็นดังนั้นจึงเอนตัวลงนอนบ้าง เด็กน้อยทั้งสองยังคงกุมมือกันไว้ ราวกับว่าชาตินี้ทั้งชาติ เธอและเขาจะไม่ยอมปล่อยให้แยกจากกันอีกแล้ว
แปลกนะที่เมื่อก่อนเธอฝันอยากจะบินได้เหมือนนก แต่เดี๋ยวนี้เธอบินได้สูงยิ่งกว่านกเสียอีก
บอนริเอลเอียงคอดูใบหน้าด้านข้างของอิงกริด สายตาเธอยังคงทอดไกลไปบนฟ้า
แต่พอเป็นได้อย่างที่ใจนึกฝัน มันก็กลับชินชาจนแทบหาความสนุกตื่นเต้นไม่ได้เลย
เด็กหญิงหันมาสบตา แล้วตอนนี้เธอมีอะไรที่ฝันอยากให้เป็นจริงอีกไหม
เทวดาน้อยลองนึกดู ซักพักก็คลี่ยิ้ม ไม่มีอ่ะ ฉันได้สิ่งที่ปรารถนามาหมดแล้ว!
ปราสาทหลังใหญ่เป็นขุนเขาทะมึนตั้งอยู่เบื้องหน้า เด็กชายหาวหวอดหวังจะได้กินอาหารอร่อยล้ำของมิเรีย แล้วนอนพักยาวๆ บนเตียงนุ่มที่แสนคิดถึงสักหนึ่งวันเต็มๆ แต่ทว่าวันนี้บรรยากาศของมันเงียบเชียบจนเขานึกเอะใจ เมื่อบรรลุมาถึงลานน้ำพุหน้าทางเข้า ก็พบว่ารามิเอลกับมิเรียสองบ่าวคนสนิทของท่านพ่อยืนรออยู่ด้วยท่าทางกระวนกระวาย
นายน้อย! หายไปไหนมาเจ้าคะ มิเรียเป็นห่วงแทบแย่
ทันทีที่พบ เทพธิดาสาวก็โผเข้ามากอดพร้อมกับพรมจูบเขาที่แก้ม พอหนำใจแล้วก็ดันเทวดาน้อยออกมาดูใบหน้า
ดูสิทำไมถึงได้มอมแมมอย่างนี้ล่ะ นายน้อยถูกกักบริเวณอยู่นะคะ หนีออกไปนอกปราสาทตั้งครึ่งวันแบบนี้ไม่ดีเลย! ดีนะที่นายท่านไม่อยู่ ถ้าทราบเรื่องเข้าท่านคงโกรธแย่
ที่จริงแล้วหายไปตั้ง 3 วันต่างหากเล่า! ดีนะที่เวลาที่นี่กับบนโลกไม่เท่ากัน เทวดาน้อยคิดพลางลอบถอนหายใจ
แล้วตอนนี้ท่านพ่อไปไหนล่ะพี่มิเรีย
รามิเอลกับมิเรียทำหน้าเลิ่กลั่กมองกันและกัน เทพธิดาพี่เลี้ยงสะกิดแฟนหนุ่ม
เอ่อ.. คือพอดีท่านมีคดีด่วนที่สภาสูง.. เขาหยุดกระแอมกระไอ คือเกี่ยวกับเพื่อนๆ ของนายน้อยน่ะขอรับ แบบ..
บอนริเอลชักเริ่มหน้าเสีย หรือว่าความจะแตก! เขาเอ่ยถามอย่างนึกพรั่นใจ
ใช่ราเฟลกับโอเรียหรือเปล่า.. มีอะไรเกิดขึ้น
รู้ได้อย่างไรขอรับว่าเป็นสองตนนี้! รามิเอลทำหน้าประหลาดใจ คือพวกเขาถูกจับได้ว่าร่วมมือกันลักลอบขโมยสมบัติอันมีค่าของสวรรค์ไป 2 ชิ้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเอาไปทำอะไรหรือให้ใคร และตอนนี้ทางสภาก็กำลังดำเนินการไต่สวนอยู่ครับ
เทวดาน้อยหน้าซีดเผือด พวกนั้นไม่ผิด!! เขาเองต่างหากที่
พี่รามิเอล!! ผมวานพี่พาผมกับเธอคนนี้เหาะไปสภาสูงหน่อย ด่วนเลยฮะ!!
เธอ.. เอ๊ะ!! นั่นมันเด็กมนุษย์นี่ ทำไมถึงมาอยู่บนสวรรค์ได้!! เขาอุทาน ไม่แปลกใจที่รามิเอลจะตื่นตระหนกถึงขนาดนั้น เพราะเท่าที่บอนริเอลเรียนมา จำได้ว่าตั้งแต่สวรรค์ถูกก่อตั้ง ไม่ปรากฏเลยในทางประวัติศาสตร์ว่าได้เคยมีมนุษย์เข้ามาถึง ณ ที่แห่งนี้ ราเฟลเพ่งสำรวจเด็กหญิงเขม่ง จนเธอเริ่มหวั่นเกรงและพาตัวไปหลบอยู่ข้างหลังเทวดาน้อย
ไม่มีเวลาแล้วฮะถ้าไม่รีบไปละก็! เดี๋ยวผมจะอธิบายระหว่างทางก็แล้วกัน ไปกันเถอะฮะ!!
แม้จะเต็มปรี่ไปด้วยความสงสัยแต่รามิเอลก็เก็บมันเอาไว้ แล้วใช้พลังพาทั้งคู่เหาะไปยังสภาสูงอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางที่ได้ฟังเรื่องราวจากปากของนายน้อย หน้าเขาก็ยิ่งซีดเผือดลงทุกทีๆ สัมผัสรางๆ ได้ถึงความหายนะที่ส่อแววตั้งเค้ามืดครึ้มมาแต่ไกล เมื่อมาถึงสภาสูง รามิเอลพาเด็กทั้งสองผ่านทหารรักษาการณ์และเดินอย่างรวดเร็วไปตามโถงทางเดินหินอ่อนอันรโหฐาน เสียงจากฝีเท้าของทั้งสามดังก้องสะท้อนไปทั่วราวกับเดินอยู่ในถ้ำก็มิปาน พอมาจนสุดทางก็พบกับประตูบานสูงขวางอยู่เบื้องหน้า เทพคนสนิทของกาบริเอลบอกให้เด็กทั้งสองคอยอยู่ตรงนี้ แล้วเขาก็แง้มประตูดันตัวหายเข้าไปข้างใน
บอนริเอลได้แต่ยืนรอด้วยใจที่เต้นโครมคราม กลืนน้ำลายลงคอบ่อยๆ เหมือนกับพยายามดันไม่ให้หัวใจต้องกระเด้งกระดอนออกมานอกปาก ฝ่ามือข้างที่กุมมืออิงกริดชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ ส่วนอีกข้างนั้นกลับเย็นเฉียบและสั่นนิดๆ ใบหน้าหันเข้าหาแต่ประตู ไม่อยากให้เด็กหญิงเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความตื่นกลัวของเขา และเพื่อไม่ให้เธอเพิ่มความกังวลไปมากกว่านี้ ที่ด้านหลังประตูจะมีอะไรรออยู่นะ ยิ่งคิดข้างในท้องก็ยิ่งโหวงเหวง
และแล้วประตูที่ปิดกั้นความกลัวก็เปิดออก เผยให้เห็นห้องทรงกลมขนาดยักษ์ เพดานโค้งสูงลิบลิ่ว ภายในรายล้อมไปด้วยเหล่าเทวดานับร้อยๆ ตน ซึ่งนั่งเรียงแถวไปบนม้านั่งยาวทอดโค้งไปตามลักษณะห้อง เสียงกระซิบกระซาบดังไปทั่ว สายตาทุกคู่ที่จับจ้องมายังพวกเขา ทำเอาบอนริเอลรู้สึกถึงความอึดอัดที่ผุดขึ้นกลางใจ เขาผ่อนหายใจยาวๆ แล้วบีบกระชับมืออิงกริดแน่น แล้วเดินขาสั่นนำเด็กหญิงไปตามทางซึ่งแยกเหล่าเทวดาออกเป็นสองฟาก
จากคุณ :
ณัฐกร
- [
16 ก.ย. 47 15:54:26
]