CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ไมเคิล วลาโด: นักสืบยิปซี : โชคของยิปซี (1)

    แปลจาก Gypsy's Luck ของ Edward D. Hoch ค่ะ
    เพิ่งลองโพสท์ครั้งแรก อาจจะจัดหน้าอ่านยากไปนิด
    จะพยายามปรับปรุงนะคะ

    โชคของยิปซี

    สิ่งที่กวนใจคนอย่างร้อยเอก ซีการ์ แห่งเชิงเขาทรานซิลวาเนีย แอลป์ ในโรมาเนียนั้นไม่ใช่ผีดิบดูดเลือดอย่างเมื่อก่อน หากแต่เป็นความชั่วร้ายของผู้คนในศตวรรษที่ยี่สิบซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปอย่างเช่น การลักลอบขนทอง ยาเสพติด หลบหนีข้ามแดน เสียมากกว่า และเพราะร้อยเอก ซีการ์ พูดภาษารอมานีได้คล่องแคล่ว การรับมือกับพวกยิปซีจึงตกเป็นงานหลักของเขา ในแถบนี้นั้นมีทั้งพวกยิปซีที่ยังคงร่อนเร่ไปกับคาราวาน และพวกที่อาศัยอยู่อย่างเงียบสงบในหมู่บ้านเล็กๆเช่น กราวิต้า ซึ่งมีเพียงถนนลูกรัง และม้าที่เล็มหญ้าอยู่ทั่วไป

    เขาขับรถไปยังกราวิต้าในรุ่งเช้าแห่งพฤษภาคมนั้นเพื่อขอคำแนะนำจากชายผู้รู้เรื่องวิถีชีวิตและความเชื่อของยิปซีดีกว่าเขา ในเวลาอื่น หรือสถานที่อื่น ไมเคิล วลาโด อาจเป็นนายกเทศมนตรีหรือกระทั่งตัวแทนจากรัฐบาลกลางได้ด้วยซ้ำ เขาเป็นชายผู้ชาญฉลาด เป็นมิตร และเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ ชาวยิปซีในแถบนี้ต่างหันมาจับอาชีพชาวนา ไถหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวสาวลีใต้เงาเทือกเขาเขาอันห่างไกลกันเกือบหมดแล้ว โรมาเนียไม่ใช่ประเทศอุตสาหกรรมอย่างประเทศคอมมิวนิสต์อื่น และยังต้องพึ่งพาธัญพืชเช่นข้าวสาลีและข้าวโพดเป็นรายได้หลักอยู่

    ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม ไมเคิล วลาโด ก็ยังเป็นผู้มีอำนาจอยู่ดี เมื่อชาวบ้านบอกกับซีการ์ที่ลงจากรถฝุ่นกรังมาตามหาชายยิปซีตาคมว่าเขากำลังตัดสินข้อวิวาทว่าด้วยสินสอดของเจ้าสาวอยู่ ซีการ์ก็แอบเข้าไปฟังการตัดสินในห้องประชุมด้วย

    ชาวยิปซีหลายเผ่า รวมถึงพวกรอมในยุโรปตะวันออกและคาบสมุทรบอลข่ายยังถือธรรมเนียมเรื่องค่าสินสอด ซึ่งหมายความว่าครอบครัวของเจ้าบ่าวต้องมอบทรัพย์สินให้ครอบครัวของเจ้าสาวเพื่อเป็นการชดเชยที่ต้องเสียลูกสาวไปอยู่ ร้อยเอกซีการ์เห็นว่ามันเป็นธรรมเนียมที่แปลกอยู่มาก และตรงข้ามกับเรื่องสินเดิมที่เจ้าสาวต้องติดตัวมาในบางวัฒนธรรมอย่างสิ้นเชิง แต่ขณะที่ธรรมเนียมเรื่องสินเดิมจางหายไปกับกาลเวลา เรื่องสินสอดยังคงมีความสำคัญในหมู่ชาวยิปซีอยู่ ทั้งสองครอบครัวได้นำเรื่องมาให้ไมเคิล วลาโด ตัดสินในศาลหมู่บ้านที่เรียกว่า คริส

    ยิปซีนาม อิโอน เฟเทสติ กำลังเล่าเรื่องของตัวเองอยู่เมื่อซีการ์นั่งลงบนม้านั่งเนื้อแข็ง “ผมขอให้ คริส นี้ตัดสินเข้าข้างผม! ผมได้เสนอสินสอดที่เหมาะสมให้ครอบครัวของ มาเรีย มาลิต้า แล้ว และลูกชายของผมก็ควรจะได้แต่งงานกับเธอ ”

    นัยน์ตาดำขลับของไมเคิล วลาโด ซึ่งนั่งอยู่หลังโต๊ะไม้โอ๊คหนาหนักของผู้พิพากษาเลื่อนไปจับยังชายอีกคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้า “เราได้ยินเรื่องจากปากของ อิโอน เฟเทสติ แล้ว คุณมีอะไรจะพูดไหม อาร์เกส มาลิต้า”

    พ่อเจ้าสาวเป็นชายร่างโปร่งบางแต่เต็มไปด้วยมัดกล้ามซึ่งซีการ์รู้จักเพียงผิวเผิน เสื้อผ้าของเขาไม่ได้หรูหราหรืองดงามอย่างเฟเทสติ และเขาก็พูดสิ่งที่เป็นอยู่ออกมาในทันที “ทุกคนต่างก็รู้ว่าครอบครัวของผมยากจนมาก มาเรียเป็นสมบัติที่มีค่าที่สุดของเรา เธอสามารถทำงานในไร่และช่วยงานในบ้านได้อย่างไม่มีที่ติ การพรากเธอไปจากเราด้วยทองเพียงไม่กี่ชิ้นนั้นเป็นการดูถูกธรรมเนียมของชาวรอมชัดๆ!”

    “ผมไม่ได้—” เฟเทสติขัดขึ้น

    “คุณมีทุกอย่าง!” มาลิต้ายืนกราน “คุณมีทั้งโทรทัศน์ และรถไถ แถมยังเป็นคนเดียวในหมู่บ้านที่มีรถตู้นอนด้วย! พอลูกสาวของผมแต่งกับลูกชายคุณ ทั้งคู่ก็จะไปทำงานในไร่ของคุณ แล้วคุณยังมีหน้ามาให้สินสอดน้อยนิดแค่นี้อีกหรือ!”

    จากคุณ : ทินา - [ 19 ก.ย. 47 21:40:27 A:203.209.114.228 X: ]