อันว่าผีเมื่อพูดถึงก็อาจจะบ่งเรื่องราวไปได้สองประเภท ประเภทแรกคือเรื่องผีประเภทสยองขวัญที่มักจะเล่ากันในยาวว่างระหว่างคาบเรียน ที่สาวๆชอบกันเป็นนักหนา กับประเภทที่สองก็คือเรื่องผีประเภทหักมุม ไอ้ประเภทแรกนั้นตัวผมค่อนข้างเบื่อหน่ายเป็นอย่างมากเพราะมันก็ไม่มีอะไรนอกจากผีออกมาหลอกให้สยองๆกันก็แค่นั้น เรื่องราวก็ซ้ำๆ แต่ก็ต้องฟังไว้เยอะหน่อย สาวๆเค้าชอบกันนี่นะ แล้วหนุ่มๆอย่างพวกเราก็สนุกนักล่ะที่จะได้แกล้งแหย่ทำนองร้องเสียงดังให้พวกหล่อนตกใจเล่น ส่วนผีประเภทที่สองนั้นน่าสนใจ ถึงจะเป็นเรื่องแต่งก็เหอะ ไอ้เรื่องประเภทนี้รู้สึกจะเริ่มต้นมาจากหนังเรื่องหนึ่งที่บรูซ วิลลิส แสดง ความสนุกของมันอยู่ที่ว่าพวกเราคิดตอนจบไว้อย่างไรไอ้ตอนจบจริงๆก็มักจะต่างออกไปเสมอ
แต่ปัจจุบันก็มีเรื่องผีประเภทที่สาม คือไม่มีหรอกไอ้ผีนั่น จริงๆควรจะเรียกว่าเรื่องสยองขวัญมากกว่า ไอ้เรื่องประเภทนี้ชอบเล่นกับจิตใจคนดูเป็นนักแล สุดท้ายแล้วก็วนไปถึงศาสตร์ของจิตวิทยาซะอย่างนั้น ผมกำลังนั่งอ่านนิยายสยองขวัญเชิงจิตวิทยาของทางุจิ แรนดีอยู่พอดีเชียวเมื่อไอ้เล็กแวะมาหาที่ห้องพัก
"ไง เป็นไงมั่งล่ะ จะชวนไปแดกเหล้าที่ไหนเหรอ" ผมถามรุ่นน้องที่รู้จักกันในผับเมื่อเดือนก่อน หลังจากคุยไปคุยมาถูกคอ แล้วก็เจอกันอยู่บ่อยๆเลยสนิทไปโดยปริยาย เล็กทำงานเป็นรปภ.อยู่ที่โกดังเก็บรถยนต์แห่งหนึ่งแถวลาดกระบัง
"เปล่าพี่เอก คือมีเรื่องจะปรึกษาหน่อยน่ะ"
"มีอะไรวะต้องมาปรึกษากู เฮ้ยบอกไว้ก่อนว่าเรื่องปัญหาชีวิตนี่ถนัด ปัญหาสาวๆยังพอทำเนา แต่เรื่องประเป่าตังค์นี่ช่วยไม่ได้จริงๆว่ะ" ผมแกล้งหยอก ปกติเล็กจะมีเรื่องผีมาเล่าให้ฟังในวงเหล้า เรียกสาวๆมารุมได้ไม่น้อย
"คือ...มันเป็นปัญหาที่ทำงานน่ะฮะ" เล็กทำท่าอ้ำอึ้ง
"ไปโดนอะไรเข้าล่ะ หัวหน้าด่าเรอะ หรือไปต่อยกะรุ่นพี่ที่ทำงาน" ผมวางหนังสือลงข้างตัว เดินไปหยิบแก้วเตรียมชงกาแฟให้ตัวเอง
"อ่า...เรื่องมันค่อนข้างจะแปลกๆอยู่หน่อย พี่เอกอาจจะไม่เชื่อก็ได้"
"เอ๋า มีอะไรก็บอกมาสิวะ วันนี้กูไม่ไปทำงาน กะจะนอนเล่นสบายๆพักผ่อนซะหน่อย ไหนๆมาแล้วก็เล่ามาซี่ ทำไมพี่จะต้องไม่เชื่อแกวะ มันอะไรกันว่ะเรื่องแปลกๆ หรือว่าไปเจอผีมา"
"ใช่เลยพี่ ผมเจอผี" เล็กตอบ
เรื่องมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อราวสี่วันก่อน เล็กมีหน้าที่รักษาการณ์หรือเรียกง่ายๆว่าเฝ้ายามตอนกะดึกทุกวันพุธถึงวันศุกร์ เวลาทำงานคือเที่ยงคืนถึง 6 โมงเช้า เนื่องจากตอนกลางคืนโกดังเก็บรถยนต์ที่เล็กเฝ้ายามอยู่จะเปิดเฉพาะกลางวัน พอตกกลางคืนก็ใส่กุญแจแน่นหนา เรื่องความปลอดภัยของโกดังนี้ก็เรียกได้ว่าสูงทีเดียว กุญแจเป็นระบบคีย์การ์ดที่มอบให้เฉพาะเจ้าหน้าที่เท่านั้นและจะเปลี่ยนรหัสทุกวัน แถมยังติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้เป็นระยะๆทั่วทั้งโกดังอีกด้วย
ดังนั้นหน้าที่ของหนักงานรักษาความปลอดภัยกะดึกก็มีแค่เฝ้าอยู่ในห้องควบคุมทีวีวงจรปิด เล็กทำหน้าที่นี้พร้อมกับเพื่อนยามอีกคนคือไอ้ฉ่าย จะว่าไปก็สบายเอาการ เรื่องโจรนั้นไม่มีปัญหา เพราะอย่างที่บอกไปว่าระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่เข้มงาด โจรที่หวังจะลักเล็กขโมยน้อยควรไปที่อื่นจะง่ายกว่า นอกจากว่าจะมีพวกแก๊งอะไรควงปืนมาถล่มปล้นรถเหมือนในหนังฮอลีวู้ดก็ว่าไป ซึ่งถ้าเกิดเหตุนั้นขึ้นจริงๆมนุษย์ยามทั้งสองก็คงขอปล่อยให้พวกท่านเอาไปสบายๆดีกว่า
เล็กกับฉ่ายนั้นเป็นคนนอนดึกอยู่แล้วจึงไม่หลับยามเหมือนที่เรามักจะได้ยินกันเกี่ยวกับรปภ.ทั้งหลาย ว่างๆมันก็เล่นไพ่มั่ง สูบบุหรี่มั่ง อ่านหนังสือการ์ตูน คอยดูภาพอันผิดปกติที่จะเกิดขึ้นบนจอทีวี ซึ่งตั้งแต่โกดังถูกสร้างขึ้นราวสองสามปีที่แล้วก็ไม่มีเหตุอะไร กระทั่งวันหนึ่ง มนุษย์ยามทั้งสองก็ตระหนักได้ว่า หากพวกเขาหลับยามไปดังเช่นปกติวิสัยที่ยามท่านอื่นพึงกระทำน่าจะดีกว่า
เล็กเล่าว่ามันกำลังกดน้ำดื่มจากตู้อยู่ก็พอดีไอ้ฉ่ายเรียกมันให้ดูที่จอมอนิเตอร์ จอภาพจอนี้ฉายภาพที่ถ่ายมาจากห้องที่เรียกว่าโถงกลาง ซึ่งใช้เป็นส่วนเก็บรถที่เพิ่งผลิตออกจากโรงงาน ในจอภาพถ่ายให้เห็นรถใหม่หลายคันจอดเรียงกันอยู่เหมือนกับลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า สิ่งที่ฉ่ายชี้ให้เล็กดูก็คือ มีภาพของมนุษย์คนหนึ่ง (ตามรูปร่างที่เห็นน่ะนะ) เดินไปเดินมาระหว่างที่จอดรถ
"ตอนแรกผมก็คิดว่าเป็นโจรพี่ แต่ไอ้ฉ่ายเสือกพูดขึ้นมาว่า ผีรึเปล่าวะ ผมขนลุกเลย พี่ก็รู้ว่าผมฟังเรื่องพวกนี้มาเยอะ" เล็กบอกผม
"แล้วตกลงมันผีจริงๆเหรอ เคยไปดูรึยัง" ผมถาม
"พอไอ้ฉ่ายพูดถึงผี ผมก็กลัวดิพี่ ไอ้ฉ่ายยิ่งกว่าผมอีก มันเล่าว่าเคยเจอผีมาจริงๆแล้วเลยฝังใจ ไอ้ผมก็กลัวว่าถ้าเป็นโจรมันอาจจะพกปืนก็ได้ เลยกะจะไปพร้อมกันกับไอ้ฉ่ายมัน ก็เลยดูในจอไปก่อนว่ามันจะมาขโมยรถหรือทำอะไร
"ไอ้คนที่อยู่ในจอมันเดินอยู่ตรงกลางระหว่างที่จอดรถ คือรถมันจะจอดอยู่สองฝั่งไงพี่ หันหน้าเข้าหากัน แล้วมีทางเดินกว้างราวๆสองสามเมตรอยู่ตรงกลาง มันเดินอยู่ตรงกลาง จากด้านในไปที่ประตูใหญ่" เล็กหมายถึงประตูหลักที่เปิดสู่ภายนอก
"พอผมมองไปที่ประตูก็ยิ่งเข่าอ่อน ประตูล็อกกุญแจอันเบ้อเริ่มเห้นชัดเจนเลย แต่ก็ยังคิดนะว่า ไอ้โจรนี่มันอาจจะแอบอยู่ในโกดังตั้งแต่เมื่อเย็นก็ได้ มันเดินไปถึงประตูแล้วก็หยุดนิ่งสักพัก ต่อจากนั้นแหละ ผมก็แน่ใจว่าเป็นผีแน่นอน"
"มันทำยังไง?" ผมซักต่อ
" คือแบบว่า...จะพูดไงดีอ่ะ การเคลื่อนไหวของมันน่ะพี่ คือพี่เคยดูเรื่องเดอะริงป่ะ"
"เดอะริง คำสาปมรณะน่ะเหรอ เคยดูแต่เวอร์ชั่นฮอลีวู้ดว่ะ" หนึ่งในเรื่องโปรดของผมเลยเชียว
"นั่นแหละพี่ ตอนที่มันเป้นกล้องวงจรปิดถ่ายให้เห็นไอ้เด็กผีในเรื่องน่ะ มันจะเป็นภาพแบบกรอให้เร็วขึ้น ไอ้ตัวคนที่เห้นในจอก็เร็วขึ้นด้วย แต่พี่คิดดู ภาพที่ถ่ายออกมาเป้นภาพจริงๆตอนนั้น เป็นภาพสดน่ะ แล้วเทปก็เดินไปธรรมดา เข้าใจป่ะ เ)พาะไอ้ตัวคนที่เห้นในจอน่ะมันเคลื่อนไหวเร็วจนมองไม่ทันเลย"
"มองไม่ทันแล้วเห็นได้ไงว่ามันเคลื่อนที่วะ" ผมแกล้งกวนมัน
"มันหยุดมั่งน่ะพี่ แบบตอนแรกมันยืนอยู่ตรงประตูใช่มั้ย มันก็เคลื่อนที่ปรู๊ดๆไปตรงโน้นมั่ง ตรงนี้มั่ง ไปๆมาๆอยู่อย่างงี้สักพักก็หายไปจากจอ ผมกับไอ้ฉ่ายกอดกันกลมเลย ขนลุกสุดๆแล้ว"
"แกเคยบอกพี่ใช่รึเปล่าว่ามันโผล่ออกมาเป็นระยะน่ะ"
"ใช่ๆพี่ มันออกมาทุกวันศุกร์ ผมจำได้เลยมันจะออกมาราวๆตีสาม ตีสามนี่เค้าว่าผีออกหากินใช่มั้ยพี่" ไอ้เล็กยังพยายามหาทฤษฎีผีมาประกอบความเชื่อตัวเอง
"ไม่รู้เว้ย กูเรียนจิตวิทยา ไม่ได้จบไสยศาสตร์จุฬาฯ แล้วมาเล่าให้ฟังนี่อยากให้ไปช่วยปราบผิเรอะ"
"ก็เห็นพี่จบจิตวิยานี่แหละ จะมาเผื่อพี่จะหาทฤษฎีอะไรต่อมิอะไรที่พี่เรียนมา ว่ามันจะอธิบายเรื่องนี้ได้มั่งมั้ย วันนี้วันศุกร์อีกแล้วอ่ะ ผมเข้าเวรด้วย เจอครั้งเดียวไม่เท่าไหร่ นี่ครั้งที่สามแล้วพี่ ไม่ไหวแล้ว ไอ้ฉ่ายก็จะลาออกอยู่แล้วเนี่ย แล้วอีกอย่างพี่เคยบอกไม่ใช่เรอะว่าอยากเจอผีสักครั้ง นี่ไง ผีมันมาให้เห้นแล้วนะ ไปอยู่เป้นเพื่อนกันอีกสักคนเหอะนะพี่นะ"
ที่เคยบอกว่าอยากเห้นผีนั่นก็จริงอยู่ คือตัวผมไม่เคยเจอผี จะว่าไปก็ไม่ใช่คนไม่กลัวผีนะ กลัวครับ กลัวมากซะด้วย ตอนไปเข้าค่ายร.ดโดนครูฝึกแกล้งทำเป็นผีหลอกนี่ผมถึงกับร้องไห้ แต่ใจหนึ่งก็อยากพิสูจน์แหละว่าไอ้ที่เค้าเล่ากันมันจะจริงซักแค่ไหน เอาวะ อย่างน้อยก็เล่าให้ใครฟังได้เหมือนกันว่าเคยเจอผีมาแล้ว
"เออๆไปก็ไป อยากรู้เหมือนกันว่ะว่าผีจริงๆจะน่ากลัวเหมือนที่เคยได้ยินรึเปล่า"
ยังมีต่อครับ ^^
แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 47 20:09:12
จากคุณ :
Dead-of-[A]Saleman
- [
21 ก.ย. 47 20:01:09
]