CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    วงจรปิด ตอนที่2

    เราออกจากที่พักของผมตอนราวๆห้าทุ่มครึ่งโดยรถยนต์ส่วนตัวของผมเอง อพาร์ตเมนต์ของผมอยู่แถวแยกลำสาลี เนื่องจากดึกมากแล้วจึงใช้เวลาแค่ 20 นาทีก็มาถึงโกดังเก็บรถ--ที่ทำงานของเล็ก  เมื่อมองดูชื่อบริษัทนำเข้ารถยนต์เจ้าของโกดังแล้วก็ไม่แปลกใจเลยที่ระบบรักษาความปลอดภัยจะดีเยี่ยมเหมือนที่เจ้าเล็กบรรยายให้ฟัง ผมเลี้ยวรถไปจอดด้านข้างโกดังซึ่งเป็นที่จอดรถของเจ้าหน้าที่ แล้วเล็กก็พาผมเดินมาที่ประตูหน้า

    "นี่ไงพี่ โถงที่ผมบอก" เล็กหยิบบัตรประจำตัวออกมารูดกับเครื่องสแกนข้างปรตู ผมเห็นมันกดรหัสสี่ - ห้าตัว มีเสียงปี๊บเบาๆแล้วล็อกประตูก็เปิดออก

    เราสองคนเดินเข้าไปภายใน ตอนแรกห้องนั้นมืดสนิท เล็กเดินไปที่มุมห้องข้างประตูทางเข้าแล้วกดสวิตซ์ไฟ ฉับพลันห้องก็สว่างไปทั่ว ผมกวาดตามองไปรอบๆ เป็นห้องโถงขนาดกว้างราวสนามบาสฯสามสนามต่อกัน ไม่มีหน้าต่าง ตรงกลางเป็นทางเดินเพื่อให้รถแล่นได้ แต่สองฟากทางนี่สิ...แม่เจ้าโว้ย... รถเก๋งคันงามจอดเรียงรายเป็นถวยังกะฉากซื้อขายรถในหนังเรื่องทริปเปิ้ลเอ็กซ์ นับรวมราคาแล้วไม่น่าต่ำกว่าสิบล้าน สวรรค์ของคนรักรถโดยแท้

    "ไอ้ทางเดินนี่แหละพี่ที่ผีโผล่" จู่ๆเล็กก็เอ่ยขึ้นมาทำเอาผมสะดุ้ง จริงสิเรามาที่นี่วันนี้ก็เพื่อมาดูผีนี่หว่า จะว่าไปก็ไม่ต่างอะไรกับพวกเดินสายตามบ้านร้างนั่นแหละ ของพวกนั้นยังไม่แน่ว่าจะเจอผีมั้ย แต่ของเราน่ากลัวกว่าด้วยซ้ำเพราะผีที่ว่ามันโผล่มาแล้วถึงสามครั้ง แถมถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด คืนนี้มันยังจะโผล่มาอีกแน่นอน ผมพยายามทำให้เป็นเรื่องปกติโดยการชวนไอ้เล็กคุย

    "เออแล้วเราเข้ามาเนี่ยระบบรักษาความปลอดภัยมันไม่ทำงานเหรอวะ"

    "ผมบอกไอ้ฉ่ายให้ปิดระบบห้องนี้แล้วพี่ ผมจะได้พาพี่มาดูได้ อีกอย่างถ้ารูดการ์ดแล้วก็เข้าได้ตามปกติ เนี่ยพี่ดูนะเดี๋ยวผมจะรูดการ์ดปิดประตูละ" เล็กเอาบัตรประจำตัวรูดที่เครื่องแกสนด้านข้าง มีเสียงตี๊ดดังขึ้นเบาๆ เล็กพยายามเปิดประตูให้ผมดู

    "ปิดสนิทแน่นทนทุกประการ" เล็กบอก

    ขณะนี้รอบๆตัวเราเงียบสงัด เพราะสถานที่นี้ตั้งอยู่นอกเขตเมืองพอสมควร ยิ่งทำให้บรรยากาศวังเวงเข้าไปใหญ่ ผมพยายามเพ่งความสนใจไปที่รถยนต์ที่จอดอยู่

    "รถแม่-งเจ๋งว่ะ คันนี้ก็เกือบล้านแล้วใช่มะ" ผมเดินไปข้างรถเก๋งสีดำคันหนึ่ง แล้วฉับพลันนั้นก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างบนกระจกหน้าต่างด้านคนขับ เป็นเงาของชายร่างใหญ่คนหนึ่งยืนจ้องกลับมาที่ผม ใจผมวูบไปอยู่ที่ตาตุ่ม แต่มันก็เป็นเพียงเงาสะท้อนของผมเองนั่นแหละ ความกลัวมันทำให้ใจคนเราหลอนไปได้จริงๆ เห็นอะไรก็รับรู้เป็นผีไปซะหมด

    "อันนั้นเพิ่งมาเมื่อวาน อ้าวพี่เป้นอะไรไปหน้าซีด...ห...หรือไปเห็นอะไรเข้า"

    "เปล่าๆ รถมันสวยจนกูซีดว่ะ" ผมทำเป็นเรื่องตลกกลบเกลื่อนจะได้ไม่เสียฟอร์ม "ไปเหอะ ไปห้องเอ็งดีกว่า"



    โกดังแห่งนี้ประกอบด้วยสามส่วนหลักคือส่วนโถงหลักที่ผมกับเล็กเข้ามาเมื่อครู่ จะใช้เป้นที่เก็บรถยนต์ประกอบใหม่จากโรงงาน ส่วนที่สองคือส่วนทำงาน หลักๆแล้วจะเป็นที่เก็บพวกอะไหล่และอุปกรณ์ต่างๆสำหรับพนักงานที่คอยดูแลรักษาเครื่องยนต์ ติดกันเป็นออฟฟิซเล็กๆสำหรับจัดการงานด้านเอกสาร และส่วนที่สามคือส่วนของห้องน้ำ ห้องพักพนักงาน และห้องของรปภ. ซึ่งรวมทั้งห้องควบคุมกล้องวงจรปิดด้วย โดยห้องควบคุมกล้องวงจรปิดอยู่เยื้องไปทางด้านหลังออฟฟิซ
    ระหว่างทางที่เดินมานี่มืดและเงียบมาก เพราะเป็นตอนกลางคืนไฟทุกดวงถูกปิดหมด ผมพยายามไม่มองข้างทางตอนเดินมา จากเรื่องราวที่เล็กเล่าให้ผมฟังเมื่อกลางวัน ผมว่าต่อให้มีปืนกล MP5 อยู่ในมือก็เหอะ ผมคงไม่กล้าเดินออกไปถึงโถงกลางแน่นอน ยังไม่รวมขากลับอีกนะ ใครจะไปรู้ว่าขามาไม่เจออะไร ขากลับอาจจะจ๊ะเอ๋ระหว่างทางก็เป็นได้ ...ผมเริ่มหลอนตัวเองอีกแล้ว
    เราเข้าไปในห้องควบคุมกล้องวงจรปิด เล็กแนะนำให้ผมรู้จักกับฉ่าย เพื่อนรปภ.ของเขา ฉ่ายเป็นชายรูปร่างสันทัดท่าทางอ่อนน้อม พอจะกล้อมแกล้มไปได้กับกิตติศัพท์ที่เคยได้ยินว่ากลัวผี

    "สวัสดีครับพี่" ฉ่ายยกมือไหว้ ผมรับไหว้ด้วยท่าทีเป็นกันเอง
    "นี่พี่เอก รุ่นพี่กู จะพาเขามาดู 'เรื่องนั้น' น่ะ" ผมสังเกตเห็นฉ่ายสะดุ้งเฮือกนึง ก่อนที่เขาจะเลื่อนเก้าอี้มาให้ผมนั่ง
    "อ...อ๋อ.. ครับ เอ้อ..อยู่กันเยอะๆจะได้อุ่นใจขึ้นหน่อย แหะๆ"
    "ตามสบายเลยนะพี่เอก งานของผมกะฉ่ายก็มีแค่เนี้ย มานั่งอ่านการ์ตูน" เล็กพูดติดตลก ฉ่ายเดินไปชงกาแฟมาให้ผมแก้วนึง เป็นคนมีสัมมาคารวะพอสมควรเลยหมอนี่ ผมกล่าวขอบใจเขาแล้วก็ผ่อนคลายตัวเองลงบนเก้าอี้

    เล็กหยิบหนังสือการ์ตูนมานั่งอ่าน ฉ่ายเปิดวิทยุฟังเพลงเพื่อชีวิต ส่วนผมเมื่อกาแฟหมดแก้วก็ไม่รู้จะทำอะไร มองนู่นมองนี่ไปเรื่อย
    ห้องนี้เป็นห้องเล็กๆ ขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าห้องน้ำตามโรงแรมหรูๆเท่าไรนัก ด้านหนึ่งเป็นเคาเตอร์วางพวกของกินเล็กๆน้อยๆรวมถึงกระติกน้ำร้อน มีกาแฟกับเครื่องดื่มผงเอาไว้สำหรับพนักงานรักษาความปลอดภัย ส่วนผนังอีกด้านวางหิ้งเล็กๆ มีนิตยสารวางอยู่ประปราย  แต่ที่เป็นหัวใจหลักของห้องนี้ก็คือผนังด้านตรงข้ามประตูทางเข้า เป็นแผงมอนิเตอร์ของทีวีวงจรปิดเกือบสิบจอ ด้านล่างเป็นผผงควบคุมการทำงานของไอ้เจ้าเครื่องนี่ ดูๆไปก็ไม่ต่างกับที่เห็นในภาพยนต์สักเท่าไหร่

    "ไอ้แผงพวกนี้ใช้ยากมั้ยวะเล็ก? เห้นมีปุ่มอะไรไม่รู้เต็มไปหมด" ผมเอ่ยถาม

    "อ๋อไม่มีอะไรหรอกพี่ มันเยอะเพราะมันมีหลายจอน่ะ" เล็กตอบ "คือทีวีวงจรปิดที่นี่มีอยู่ 8 เครื่องพี่  แล้วไอ้ที่ดูๆทั้งหมดมันจะถูกอัดเก็บไว้ ใช้เทปธรรมดานี่แหละ ปุ่มพวกนี้ก็เอาไว้อัด กรอ เหมือนเครื่องเล่นเทปทั่วไป"

    "แล้วไอ้คันโยกนี่ล่ะ ยังกะจอยเล่นเกม" ผมสนใจคันโยกอันเล็กๆบนแผง

    "ไอ้นี่เอาไว้เลื่อนกล้องฮะพี่ ไอ้คันโยกนี่จะติดอยู่แค่สองจุดเท่านั้น คือตรงทางเดินกับหน้าออฟฟิซ ในนั้นมีตู้เซฟใบย่อมๆอยู่ด้วยไงฮะ" เล็กขยับคันโยกไปทางซ้ายทีขวาที ภาพในจอก็เลื่อนตามกล้องที่หมุนไป ผมมองดูภาพทางเดินโล่งๆแล้วไม่รู้อุปาทานไปเองรึเปล่าว่าเห็นเหมือนประตูห้องๆหนึ่งที่สุดทางเดินเพิ่งจะปิดลง....ผมรีบถอนสายตาจากจอภาพทันที

    "แล้วนี่ถ้าจะไปห้องน้ำห้องท่าจะไปยังไงล่ะ" ผมถามเล็ก

    "ห้องน้ำอยู่ข้างๆนี่เองพี่ ไม่ต้องกลัว ถ้าปวดเมื่อไหร่บอกนะ จะได้ไปเป็นเพื่อน"

    "ไปกันหมดสามคนเลยนี่แหละฮะ อะแหะๆๆ" ฉ่ายเสริม เป็นประโยคที่ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง

    จากคุณ : Dead-of-[A]Saleman - [ 23 ก.ย. 47 02:21:18 ]